ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณคาดหวังใช่ไหมว่า จะสามารถเดินทางท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ห่างไกล และได้เห็นโลกโดยไม่ต้องถูกความหวาดกลัวเข้าจู่โจม หากคุณเป็นโรคเอวิโอโฟเบีย (aviophobia) หรือโรคกลัวการเดินทางด้วยเครื่องบิน มีหลายวิธีที่คุณจะสามารถป้องกันไม่ให้โรคนี้ส่งผลกระทบในแง่ลบต่อชีวิตคุณ การรู้ข้อมูล การใช้เทคนิคเพื่อช่วยให้ผ่อนคลาย และการวางแผนการท่องเที่ยว ล้วนเป็นวิธีที่คุณจะสามารถก้าวข้ามความกลัวในเรื่องนี้ได้ และรู้สึกว่ามีอิสระที่จะออกสำรวจโลก ข้อเท็จจริงประการหนึ่งซึ่งอาจช่วยให้คุณเดินหน้าต่อไปได้ก็คือ คุณมีโอกาสเพียงประมาณ 1 ใน 11 ล้านที่จะตายเพราะเครื่องบินตก นั่นคือมีโอกาสอย่างมากเพียง 0.00001% ที่จะเกิดบางสิ่งที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ในเที่ยวบินของคุณ [1]

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 5:

ติดอาวุธให้กับตัวคุณเองด้วยความรู้เรื่องเครื่องบิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ความรู้เรื่องสถิติอาจไม่ช่วยให้คุณปลอดภัยได้อย่างสมบูรณ์ หลังจากเครื่องบินของคุณทะยานขึ้นจากรันเวย์ แต่เมื่อคุณตระหนักว่าการบินด้วยเครื่องบินนั้นปลอดภัยอย่างแท้จริง คุณสามารถปล่อยให้ตัวเองรู้สึกอุ่นใจมากขึ้นในระหว่างเที่ยวบิน รวมทั้งระหว่างเดินทางไปยังสนามบิน ความจริงในเรื่องนี้ก็คือ การบินนั้นปลอดภัย "จริงๆ" และจนถึงปัจจุบัน การเดินทางโดยเครื่องบินยังคงเป็นวิธีเดินทางซึ่งปลอดภัยที่สุด
    • ตอนที่คุณกำลังบินอยู่ในประเทศพัฒนาแล้ว โอกาสที่คุณจะตายจากเครื่องบินตกอยู่ที่ 1 ใน 30 ล้าน [2]
  2. จงเปรียบเทียบความปลอดภัยของการเดินทางโดยเครื่องบินกับอันตรายอื่นๆ. มีกลุ่มประสบการณ์อื่นในชีวิตที่คุณไม่น่าจะต้องคิดซ้ำสองในเรื่องนี้ เพราะพบว่าวิธีอื่นๆ นั้นอันตรายมากกว่าการบิน การพูดถึงอันตรายเหล่านี้ไม่ได้มีเจตนาจะทำให้คุณกังวล แต่เพื่อแสดงให้คุณเห็นว่าความวิตกของคุณ เรื่องการเดินทางโดยเครื่องบินนั้นไม่มีมูลความจริงเพียงใด! จงเรียนรู้สถิติเหล่านี้ จดบันทึกไว้ และย้ำกับตัวคุณเองเวลาเริ่มวิตกว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเที่ยวบินเที่ยวต่อไปของคุณ
    • โอกาสที่คุณจะตายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์คือ 1 ใน 5,000 นั่นหมายความว่า ช่วงอันตรายที่สุดในเที่ยวบินของคุณ คือช่วงขับรถยนต์มาที่สนามบิน เมื่อคุณได้ขับรถมาถึงสนามบินแล้ว จงตบหลังแสดงความยินดีกับตัวเอง เพราะคุณเพิ่งจะผ่านช่วงอันตรายที่สุดของการเดินทางโดยเครื่องบินมาได้
    • คุณมีโอกาสตายจากอาหารเป็นพิษสูงกว่าจากการเดินทางโดยเครื่องบิน เพราะอยู่ที่ 1 ใน 3 ล้าน
    • คุณมีโอกาสมากกว่าเช่นกันที่จะตายเพราะถูกงูกัด ถูกฟ้าผ่า ถูกน้ำร้อนลวก หรือตกเตียง หากคุณถนัดซ้าย มีความเสี่ยงที่คุณจะตายเพราะใช้อุปกรณ์สำหรับคนถนัดขวา มากกว่าจะตายเพราะเครื่องบินตก
    • คุณมีโอกาสมากกว่าที่จะตกลงมาตายในระหว่างกำลังเดินไปขึ้นเครื่องบิน
  3. จงคาดการณ์ล่วงหน้าเรื่องความเคลื่อนไหวและความรู้สึกวิงเวียนในระหว่างบิน. ส่วนใหญ่ที่คนกลัวเป็นเพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถัดจากนั้น ทำไมเครื่องบินบินเร็วเสียเหลือเกิน ทำไมหูของฉันถึงได้รู้สึกแปลกๆ ทำไมปีกเครื่องบินถึงดูตลก ทำไมเราถึงถูกขอให้คาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ สัญชาติญาณแรกของคุณเมื่ออยู่ในสถานการณ์ไม่ปกติ คือคาดเดาถึงสิ่งเลวร้ายที่สุด จงเรียนรู้ทุกสิ่งที่คุณทำได้เรื่องการบิน และการทำงานของเครื่องบิน เพื่อลดการคาดเดานี้ลง ยิ่งคุณรู้มากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งจะมีความไม่แน่นอนซึ่งทำให้คุณวิตกลดน้อยลง ข้างล่างนี้คือบางสิ่งที่คุณสมควรรู้
    • เครื่องบินจำเป็นต้องใช้ความเร็วถึงระดับหนึ่งจึงจะบินขึ้นได้ นั่นคือเหตุผลที่คุณรู้สึกว่าเครื่องบินกำลังวิ่งเร็วเกินไป หลังจากเครื่องบินทะยานขึ้นจากพื้นดินแล้ว คุณจะไม่สังเกตเรื่องความเร็วของเครื่องบินมากนัก
    • หูของคุณอื้ออึงเมื่อเครื่องบินขยับขึ้นหรือลงเพราะการเปลี่ยนแปลงแรงกดอากาศ
    • เป็นที่รู้กันว่าบางส่วนของปีกเครื่องบินจะขยับในระหว่างเที่ยวบิน นั่นเป็นเรื่องปกติอย่างยิ่ง
  4. จงรู้ว่าสมควรจะคาดหวังอย่างไรเมื่อประสบกับสภาพอากาศแปรปรวน. สภาพอากาศแปรปรวนเกิดขึ้น เมื่อเครื่องบินข้ามจากบริเวณความกดอากาศต่ำ ไปยังบริเวณความกดอากาศสูง ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกได้ถึง ”แรงกระแทก” ในระหว่างการบิน สภาพอากาศแปรปรวนก็แค่เหมือนกับการขับรถบนถนนที่ขรุขระ
    • ในโอกาสที่หาได้ยากซึ่งสภาพอากาศแปรปรวนทำให้มีผู้บาดเจ็บ มักเป็นเพราะผู้โดยสารไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยขณะอยู่ในที่นั่ง หรือบาดเจ็บเพราะกระเป๋าในช่องเหนือศีรษะร่วงหล่นลงมา ขอให้คิดว่าคุณไม่เคยได้ยินข่าวว่ามีนักบินแม้สักคนเดียวบาดเจ็บจากสภาพอากาศแปรปรวน นั่นเป็นเพราะพวกนักบินจะคาดเข็มขัดนิรภัยขณะอยู่ในที่นั่งเสมอ
  5. จงเรียนรู้ให้มากขึ้นเรื่องการทำงานของเครื่องบินสักลำหนึ่ง. คุณสามารถเรียนรู้เรื่องการทำงานภายในของเครื่องบินได้ด้วย เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นเรื่องกระบวนการที่ทำให้คุณกลัวเสียเหลือเกิน ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า 73 % ของผู้ที่กลัวการเดินทางโดยเครื่องบิน กลัวว่าเครื่องยนต์อาจขัดข้องในระหว่างบิน ดังนั้น ยิ่งรู้มากขึ้นเท่าไรว่าเครื่องบินทำงานอย่างไร คุณจะยิ่งรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเท่านั้นตลอดการเดินทาง แทนที่จะคอยถามตัวเองว่า “ทำไมเครื่องบินกำลังทำสิ่งนั้น” “มันเป็นปกติไหมนะ” ข้างล่างนี้คือบางสิ่งที่คุณจำเป็นต้องเรียนรู้ [3]
    • มีการทำงานของพลังงานสี่ประเภทเพื่อให้เครื่องบินบินได้ : แรงโน้มถ่วง แรงต้าน แรงยก และแรงขับ พลังงานเหล่านี้ถูกกำหนดไว้เพื่อให้คุณรู้สึกว่าการบินเป็นเรื่องธรรมชาติ และง่ายดายราวกับการเดิน ดังที่นักบินคนหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า”เครื่องบินทั้งหลายคือความสุขที่สุดในอากาศ” คุณสามารถหาอ่านบทความทางวิทยาศาสตร์เรื่องพลังงานเหล่านี้ หากต้องการจะพัฒนาระดับความรู้ให้สูงขึ้น
    • เครื่องบินไอพ่นมีหลักการทำงานที่ง่ายกว่ามาก เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์ที่คุณจะพบในรถยนต์ ในเตาอบ หรือแม้แต่ในเครื่องตัดหญ้า ในกรณีร้ายแรงที่สุดซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นนั้น หากเกิดบางสิ่งผิดพลาดกับหนึ่งในเครื่องยนต์ของเครื่องบิน เครื่องบินจะยังทำงานต่อไปได้ด้วยเครื่องยนต์ที่ยังเหลืออยู่
  6. จงพักผ่อนให้สบายเพราะประตูเครื่องบินจะไม่เปิดออกในระหว่างการบิน. คุณจะสามารถขจัดความกลัวใดๆ ที่ว่าประตูเครื่องบินจะ สามารถเปิดออกได้ในระหว่างเที่ยวบิน เพราะเมื่อคุณขึ้นถึงระดับความสูง 30,000 ฟุต (9,144 เมตร) จะมีแรงกดประมาณ 20,000 ปอนด์ทำให้ประตูปิดอยู่ ดังนั้น การที่ประตูจะเปิดออกจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก [4]
  7. จงรู้ว่าเครื่องบินต่างๆ ได้รับการบำรุงรักษาเป็นประจำ. เครื่องบินต่างๆ จะผ่านกระบวนการซ่อมแซมและบำรุงรักษาเป็นจำนวนมาก สำหรับทุกๆ ชั่วโมงที่เครื่องบินลำหนึ่งบินในอากาศ มันจะผ่านการซ่อมบำรุง 11 ชั่วโมง สิ่งนี้หมายความว่า หากเที่ยวบินของคุณใช้เวลา 3 ชั่วโมง เครื่องบินจะต้องผ่านการบำรุงรักษา 33 ชั่วโมง เพื่อทำให้แน่ใจว่าทุกสิ่งกำลังทำงานอย่างราบรื่น!
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 5:

จัดการกับความกังวลใจต่างๆ ของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. [5] หากคุณสนใจเรื่องจัดการกับความกังวลใจโดยทั่วไปของคุณ จะช่วยได้มากเรื่องจัดการกับความกังวลใจเรื่องการบิน [6] ประการแรกคือจงจดจำอาการกังวลใจของคุณ จดจำว่าคุณจะเริ่มกังวลใจอย่างไร มีเหงื่อออกที่มือหรือไม่ นิ้วมือรู้สึกเจ็บๆ คันๆ หรือไม่ การจดจำอาการต่างๆ ที่คุณรู้สึกในตอนเริ่มแรก จะทำให้สามารถจัดการได้แต่เนิ่นๆ มากขึ้น เพื่อควบคุมความกังวลใจของคุณ
  2. คนจำนวนมากผู้ซึ่งกลัวการเดินทางโดยเครื่องบินนั้น กลัวเพราะรู้สึกว่าตนไม่อาจควบคุมได้ คนที่กลัวเรื่องนี้อาจรู้สึกว่าตนจะไม่มีวันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เพราะควบคุมได้เมื่อตนเป็นคนขับ นี่คือเหตุผลที่ว่าพวกเขาสามารถยอมรับความเสี่ยงจากการขับรถ ได้มากกว่าความเสี่ยงจากการบิน เพราะตอนขึ้นเครื่องบินนั้น คนอื่นเป็นผู้ขับเครื่องบิน ดังนั้น การขาดการควบคุมมักเป็นหนึ่งในสิ่งที่น่ากลัวที่สุดของการเดินทางโดยเครื่องบิน
    • คนจำนวนมากมีประสบการณ์เรื่องกังวลใจ เพราะรับรู้ได้ถึงการควบคุม (หรือการขาดการควบคุม) เหนือสถานการณ์หนึ่งที่เต็มไปด้วยความกดดัน
  3. จงทดลองออกกำลังกายอย่างผ่อนคลายเพื่อบรรเทาความกังวลใจ. บรรจุการออกกำลังกายเพื่อลดความกังวลใจไว้ในชีวิตประจำวัน เวลาคุณออกกำลังกายในตอนที่ไม่กังวลใจ คุณจะมีเครื่องมือต่างๆ ซึ่งพร้อมจะช่วยคุณในยามที่กังวลใจ หลังจากนั้น คุณจะรู้สึกว่ามีความสามารถเพิ่มมากขึ้นที่จะควบคุม และทำให้ตัวเองสงบมากขึ้น จงพยายามใช้โยคะหรือการนั่งสมาธิ เพื่อลดความกังวลใจในชีวิตให้น้อยลง [7] , [8]
    • เป็นเรื่องสำคัญที่จะจดจำว่า ความกลัวและความกังวลใจของคุณ อาจใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะหาย และกลับมาควบคุมได้โดยสมบูรณ์
  4. เริ่มด้วยการสังเกตว่ากล้ามเนื้อกลุ่มใดที่ตึง หรือแข็งเกร็ง บ่าคือตัวอย่างที่ดีตัวอย่างหนึ่ง มีบ่อยครั้งในเวลาเครียด หรือกังวลใจ ที่เราจะยกไหล่ขึ้นมาทางลำคอ และทำให้กล้ามเนื้อพวกนั้นแข็งเกร็ง [9]
    • จงหายใจเข้าลึกๆ และปล่อยหัวไหล่ลง คุณจะรู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อผ่อนคลาย ถัดจากนั้น ให้พยายามทำเช่นเดียวกันกับกล้ามเนื้อกลุ่มอื่นๆ ของคุณ เช่น ใบหน้า หรือขา
  5. จงคิดถึงสถานที่ซึ่งทำให้คุณมีความสุขหรืออุ่นใจ จินตนาการว่าคุณอยู่ในสถานที่นั้น คุณมองเห็นอะไร คุณได้กลิ่นอะไร และรู้สึกอย่างไร จงเพ่งความสนใจไปที่แต่ละรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ซึ่งคุณเลือก [10]
    • มีเทปช่วยชี้นำจินตนาการมากมายที่คุณสามารถหาซื้อ หรือแม้กระทั่งดาวน์โหลดมาเพื่อช่วยในการฝึกของคุณ
  6. วางมือข้างหนึ่งบนหน้าท้อง หายใจเข้าทางจมูกลึกๆ สูดอากาศทั้งหมดที่คุณสามารถทำได้ คุณสมควรรู้สึกได้ว่าท้องพองขึ้น ไม่ใช่หน้าอก หลังจากนั้น ให้หายใจออกทางปาก ขณะนับหนึ่งถึงสิบช้าๆ ให้แขม่วท้องเพื่อไล่อากาศทั้งหมดออกไป [11]
    • ออกกำลังกายแบบนี้ 4-5 ครั้งเพื่อช่วยให้คุณผ่อนคลาย
    • จำใส่ใจว่าการฝึกหายใจอาจไม่ช่วยบรรเทาความกลัวของคุณได้มากพอ ผลวิจัยหลายรายการเมื่อเร็วๆ นี้ไม่พบว่ามีผลประโยชน์ที่สามารถวัดปริมาณได้ในเรื่องนี้ [12] [13]
  7. จงคิดถึงสิ่งอื่นที่กำลังทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้น หรืออย่างน้อย ก็เป็นบางสิ่งที่จะเบนความคิดของคุณไปจากความกลัว เช่น คุณจะทำอะไรเป็นอาหารมื้อค่ำ หากคุณสามารถจะไปที่ไหนก็ได้ คุณจะไปที่ไหน และจะทำอะไรที่นั่น [14]
  8. จงเข้าชั้นเรียน.ไม่มีชั้นเรียนเพื่อแก้ปัญหานี้ในไทย แต่ในอเมริกามีชั้นเรียนต่างๆ ที่สามารถช่วยให้คุณก้าวข้ามความกลัวการเดินทางโดยเครื่องบิน คุณอาจจำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อเข้าเรียนในหนึ่งในชั้นเรียนเหล่านี้ แต่มีชั้นเรียนอยู่จริงๆซึ่งแบ่งเป็นสองประเภท คือ ประเภทที่คุณต้องเข้าเรียนในชั้น กับประเภทที่คุณเรียนด้วยตัวเองจากวิดีโอ เอกสาร และการให้คำปรึกษาแบบกลุ่ม ชั้นเรียนประเภทที่คุณต้องเข้าเรียนจะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับการบิน โดยจะพาคุณไปสัมผัสกับสนามบินแห่งหนึ่ง และให้คุณเดินทางในเที่ยวบินหนึ่งพร้อมกับหัวหน้าชั้น อย่างไรก็ตาม การลดความอ่อนไหวจากการบินของคุณในครั้งนี้จะไม่มีผลตลอดไป นอกเสียจากว่าคุณจะรักษามันเอาไว้ โดยเดินทางด้วยเครื่องบินบ่อยๆ
    • คุณสามารถมองหาชั้นเรียนเพื่อบำบัดความกลัวในเรื่องนี้แถวๆ บ้านของคุณ [15]
    • ชั้นเรียนประเภทที่คุณต้องเรียนด้วยตัวเอง จะปล่อยให้คุณควบคุมกระบวนการเอง และเนื่องจากคุณเก็บอุปกรณ์การเรียนเอาไว้ จึงสามารถทำให้ได้ผลมากยิ่งขึ้นโดยอ่านทบทวนเป็นช่วงๆ
    • บางชั้นเรียนให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์เป็นรายสัปดาห์โดยไม่ได้คิดค่าบริการเพิ่ม
    • บางชั้นเรียนจะให้คุณใช้เครื่องฝึกบินจำลอง ซึ่งเลียนแบบประสบการณ์ในการบิน โดยคุณไม่ได้บินขึ้นจากพื้นดินจริงๆ
  9. จงเผชิญหน้าโดยตรงกับความกลัวของคุณโดยเรียนขับเครื่องบิน มีเรื่องเล่ามากมายจนนับไม่ถ้วน เกี่ยวกับผู้คนที่กลัวบางสิ่งมาตลอดชีวิต เพียงเพื่อที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งนั้นโดยตรงในวันหนึ่ง หลังจากนั้น พวกเขาก็พบว่าสิ่งที่กลัวไม่ได้มีอะไรที่น่ากลัวเลย วิธีหนึ่งที่จะเอาชนะโรคกลัวก็คือ นำตัวคุณเองเข้าไปอยู่ในสิ่งที่คุณ รู้ ว่าเป็นสถานการณ์ที่ปลอดภัย ในกรณีนี้ คุณจะอยู่กับมืออาชีพผู้ผ่านการฝึกมาแล้ว
    • ภายใต้การชี้นำของครูสอนทักษะ คุณอาจจะพบว่าการบินไม่ได้น่ากลัวเลย แม้ว่าจะเป็นวิธีที่สุดโต่งวิธีหนึ่ง แต่ก็อาจเป็นวิธีของคุณที่จะบรรเทาความกังวลใจลงได้
  10. จงหลีกเลี่ยงการอ่านเรื่องเครื่องบินตกมากจนเกินไป. หากคุณต้องการจะสงบอกสงบใจในเรื่องนี้ อย่าหมกมุ่นกับรายงานข่าวเรื่องเครื่องบินตกมากจนเกินไป เรื่องเหล่านี้จะไม่ช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น แต่จะยิ่งเพิ่มความกังวลให้กับคุณ เรื่องการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น หากคุณกำลังมีปัญหาต้องต่อสู้กับความกังวลเรื่องการบินอยู่แล้ว จงหลีกเลี่ยงสิ่งยั่วยุที่จะทำให้คุณหมกมุ่นอยู่กับความกลัว
    • หลีกเลี่ยงเช่นเดียวกันที่จะชมภาพยนตร์เรื่อง ฝ่าวิกฤตเที่ยวบินระทึก หรือเรื่องอื่นๆ ที่ เกี่ยวกับเครื่องบินตก หรือเที่ยวบินน่ากลัวต่างๆ
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 5:

จองเที่ยวบินของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แม้คุณจะมีการควบคุมอย่างจำกัด เมื่อเข้าไปนั่งในที่นั่งบนเครื่องบินแล้ว แต่ก็มีบางสิ่งที่คุณสามารถทำล่วงหน้าได้ เพื่อบรรเทาความกังวลของคุณให้น้อยลง [16] จงเลือกเที่ยวบินที่บินตรงไปยังจุดหมายปลายทาง เหตุผลง่ายมากกล่าวคือ ยิ่งคุณใช้เวลาในอากาศน้อยลงมากยิ่งขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งดี
  2. ผู้โดยสารผู้นั่งที่ตรงนี้มีแนวโน้มจะมีเที่ยวบินที่บินได้อย่างนุ่มนวลที่สุด บริเวณโดยรอบปีกมั่นคงกว่า และอ่อนไหวน้อยกว่าต่อความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเป็นพิเศษ
  3. จงเลือกที่นั่งริมทางเดิน หรือที่นั่งแถวทางออก. เลือกที่นั่งซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกติดกับน้อยลง จงเลือกที่นั่งริมทางเดิน หรือแม้แต่ที่นั่งอวดรวยตรงแถวทางออก
  4. จงเลือกเที่ยวบินที่ใหญ่กว่าเพราะใช้เครื่องบินลำใหญ่กว่า หากมีหนทางที่คุณจะหลีกเลี่ยงเครื่องบินเล็ก หรือเครื่องบินที่ลำเล็กกว่า. เวลามองหาเที่ยวบิน คุณจะพบข้อมูลเรื่องเครื่องบินที่จะใช้ หากคุณสามารถเลือกเครื่องบินใหญ่กว่าได้ จงเลือกเพราะยิ่งเครื่องบินลำใหญ่ เที่ยวบินของคุณจะยิ่งบินได้นุ่มนวลมากขึ้นเท่านั้น
  5. หากคุณกลัวที่จะต้องบินช่วงกลางคืน จงเลือกเที่ยวบินช่วงกลางวัน ในบางครั้ง คุณอาจจะรู้สึกดีขึ้นเพราะสามารถมองออกนอกหน้าต่าง และเห็นทุกอย่างรอบตัวคุณ คุณอาจจะรู้สึกกังวลมากขึ้นในความมืด เพราะจะรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่รู้จัก
  6. คุณอาจถึงกับตรวจสอบจากเว็บไซต์ที่มีชื่อว่า Turbulence Forecast เกี่ยวกับส่วนต่างๆ ของประเทศซึ่งมีสภาพอากาศแปรปรวนน้อยกว่า หากคุณมีแผนต้องต่อเครื่องบิน ให้ตรวจดูด้วยว่าสามารถเลือกเส้นทางที่น่าจะทำให้คุณมีปัญหาลดน้อยลงหรือไม่
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 5:

เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเที่ยวบิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. บางคนถึงกับแนะนำให้คุณไปสนามบินในช่วงที่ไม่ได้มีแผนการจะขึ้นบินด้วย เพียงเพื่อที่จะอ้อยอิ่งอยู่ในอาคารผู้โดยสาร และทำความคุ้นเคยกับวิถีของสิ่งต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นที่นั่น ทำแบบนี้อาจฟังดูสุดโต่ง แต่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณค่อยๆ คุ้นเคยกับการเดินทางโดยเครื่องบินที่ใกล้จะมาถึง
  2. เดินทางไปถึงสนามบินแต่เนิ่นๆ เพื่อจะได้มีเวลาคุ้นชินกับอาคารผู้โดยสาร การผ่านระบบรักษาความปลอดภัย และหาประตูขึ้นเครื่องบินของคุณ หากคุณไปสาย หรือเพียงแค่มีเวลาไม่มากพอที่จะเตรียมใจสำหรับสิ่งที่รอคอยอยู่ มีแนวโน้มจะทำให้คุณกังวลใจมากขึ้นเมื่อถึงเวลาไปยังที่นั่งของคุณ จงทำความคุ้นเคยกับอาคารผู้โดยสาร กับผู้คนที่กำลังเดินทางเข้าออกสนามบิน รวมทั้งกับบรรยากาศโดยทั่วไปที่สนามบิน ยิ่งคุณคุ้นเคยกับสนามบินมากยิ่งขึ้นเมื่อไร คุณจะยิ่งรู้สึกดีขึ้นเมื่อถึงเวลาขึ้นเครื่องบิน
  3. จงทำความรู้จักกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและนักบิน. เมื่อขึ้นเครื่องบิน ให้เอ่ยทักทายพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หรือแม้แต่นักบิน จงมองดูพวกเขาแต่งกายในชุดเครื่องแบบ และกำลังทำงานของพวกเขา นักบินผ่านการฝึกมาเป็นพิเศษ เช่นเดียวกับแพทย์ และพวกเขาเป็นบุคคลที่คุณสมควรให้ความเคารพและไว้วางใจ หากคุณฝึกตัวเองให้มีศรัทธาในคนเหล่านี้ เข้าใจว่าพวกเขาคิดถึงผลประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ และมีความสามารถพอ เมื่อเป็นเช่นนั้น คุณจะรู้สึกดีขึ้นกับการเดินทางของคุณ [17]
    • เหล่านักบินของคุณมีประสบการณ์หลายร้อยชั่วโมงในอากาศ พวกเขาจะจำเป็นต้องมีชั่วโมงบิน 1,500 ชั่วโมงเพื่อจะสมัครเข้าทำงานกับสายการบินใหญ่ๆ สักแห่งหนึ่ง [18]
  4. มีคนจำนวนมากที่เริ่มสั่งไวน์ หรือเครื่องดื่มคอกเทล บลัดดี้ แมรี่ปริมาณมากสุดที่เคยกินมาชั่วชีวิต ในทันทีที่พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเริ่มเสิร์ฟเป็นครั้งแรก แต่นี่ไม่ใช่หนทางแก้ปัญหาในระยะยาว เพื่อบรรเทาความกังวลใจเรื่องการบินของคุณ อันที่จริง แอลกอฮอล์อาจทำให้คุณกังวลใจมากยิ่งขึ้น เพราะทำให้คุณมีความสามารถในการควบคุมลดน้อยลง และอาจมีปัญหาเป็นพิเศษหากคุณเกิดวิตกเรื่องต้องอพยพลงจากเครื่องบิน
    • การดื่มให้เมาเกินกว่าที่คุณจะวิตกกังวล อาจเพียงช่วยให้คุณรู้สึกแย่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากสร่างเมาแล้ว
    • หากคุณจำเป็นจริงๆ ที่จะควบคุมประสาทให้สงบ ให้ลองดื่มไวน์หรือเบียร์เพียงหนึ่งแก้ว
  5. เบี่ยงเบนความสนใจของคุณด้วยของว่างที่ต้องใช้เวลากินสักพักหนึ่ง หรือด้วยของว่างที่คุณโปรดปราน
  6. จงทำให้ตัวเองหมกมุ่นอยู่กับนิตยสารซุบซิบคนดังไร้สาระทั้งหลาย. คุณอาจจะตื่นเต้นเรื่องการบิน เกินกว่าจะทำการบ้านวิชาเคมีได้ แต่จะยังมีพลังสมองมากพอที่จะอ่านเรื่องอื้อฉาวล่าสุดในฮอลลีวูด
  7. บางคนแนะนำให้คุณไปขึ้นเครื่องบินหลังจากตื่นนอนมาตั้งแต่เช้า ทำให้มีโอกาสมากขึ้นที่คุณจะสามารถหลับลงได้บ้างในระหว่างเที่ยวบิน จะมีวิธีฆ่าเวลาแบบไหนที่จะดีไปกว่าการนอนหลับอีกละ
    โฆษณา
ส่วน 5
ส่วน 5 ของ 5:

ขณะอยู่กลางอากาศ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หายใจช้าๆ ผ่านจมูกของคุณ หลังจากนั้น ให้หายใจออกอย่างแผ่วเบา นับจนถึงสิบจนคุณปล่อยอากาศออกจากปอดจนหมด ทำซ้ำหลายครั้งมากเท่าที่จำเป็น [19]
  2. หากคุณกำลังรู้สึกกระวนกระวายใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างบินขึ้นหรือลงจอด ให้ใช้มือบีบที่วางแขนอย่างแรงสุดที่จะทำได้ ขณะเดียวกัน ก็ให้แขม่วกล้ามเนื้อหน้าท้อง และคงอยู่แบบนั้นนาน 10 วินาที
  3. ให้ดีดยางเมื่อคุณกังวลใจ ความเจ็บตงิดๆ นี้จะช่วยดึงคุณกลับสู่ความเป็นจริง
  4. หากคุณพบหลายวิธีที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของตัวคุณให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ คุณจะได้เปรียบเมื่อถึงเวลาเดินทางด้วยเครื่องบิน นำเอานิตยสารไปด้วย หรือดาวน์โหลดตอนต่างๆ ของรายการโชว์ทางโทรทัศน์ที่คุณตั้งใจจะคอยติดตามดูให้ทัน และดูผ่านคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณอาจลองพยายามเล่มเกมในคอมพิวเตอร์ของคุณ และยังสามารถทำงานจากสำนักงาน หรือนำเอาการบ้านจากโรงเรียนไปทำด้วย
    • จงค้นหาไม่ว่าอะไรก็ตามที่ใช้ได้สำหรับคุณ มองดูช่วงเวลาที่คุณใช้เดินทางด้วยเครื่องบิน ในฐานะที่เป็นเวลาซึ่งต้องทำบางสิ่งที่คุณได้ต้องการจะทำ หรือจำเป็นต้องทำ แทนที่จะเป็นเพียงหลายชั่วโมงของความกังวลใจที่ไม่อาจจะบรรเทาเบาบางลง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เมื่อคุณกำหนดยุทธศาสตร์ว่าจะขจัดความกลัวในวันที่จะต้องเดินทางโดยเครื่องบิน จงบินบ่อยครั้งเท่าที่จะทำได้ การฝึกให้เป็นนิสัยเรื่องเดินทางโดยเครื่องบิน จะทำให้รู้สึกว่าการบินน่ากลัวน้อยลง ดูโดดเดี่ยวน้อยลง และเหมือนกันเป็นส่วนหนึ่งของวันของคุณตามปกติ เมื่อคุณขึ้นเครื่องบินบ่อยจนเป็นนิสัยแล้ว คุณจะเริ่มรู้สึกสบายใจมากขึ้นเมื่อต้องเดินทางโดยเครื่องบิน [20] เวลาคุณมีทางเลือกระหว่างเดินทางโดยเครื่องบินกับขับรถ ให้เลือกเครื่องบิน เพื่อแก้ปัญหาเรื่องความกลัวของคุณให้มากยิ่งขึ้น จงจำไว้ว่าการเดินทางด้วยเครื่องบินปลอดภัยกว่าขับรถมาก!
  • จงยอมรับว่าคุณไม่ใช่ผู้ควบคุมในบางสถานการณ์ เช่น ตอนบิน ความเสี่ยงคือส่วนหนึ่งของชีวิต คุณไม่มีวันรู้ว่าอะไรกำลังรอคอยอยู่ในอนาคตอันใกล้ ความกลัวคือทุกสิ่งเกี่ยวกับการคาดการณ์ล่วงหน้า ความวิตก และความต้องการจะควบคุมอนาคต เมื่อคุณเริ่มอุ่นใจมากขึ้นเรื่องความคิดที่ว่าอะไรจะเกิด ก็จะเกิด การเดินทางโดยเครื่องบินก็จะไม่เป็นภัยคุกคามต่อความสงบในใจของคุณมากเท่าเดิม
  • เวลาขึ้นบิน ให้นำสิ่งต่างๆที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปด้วย แต่ก็ต้องให้สมองของคุณคิดอย่างรอบคอบด้วย วิธีที่ดีวิธีหนึ่งซึ่งมีผู้ค้นพบก็คือ คิดว่าหากคุณสามารถไปที่ไหนก็ได้ จะไปที่ไหน และจะทำอะไร แม้หากจะไม่ได้ผลสำหรับคุณ ก็ให้พยายามคิดเรื่องสถานที่ๆ คุณกำลังบินไป และสิ่งที่คุณจะทำที่นั่น
  • พยายามเบนความสนใจของคุณจากความกลัว ด้วยการดูหนัง หรืองีบหลับ
  • พกพายาเม็ดกับแถบข้อมือบรรเทาอาการคลื่นไส้และเจ็บป่วยระหว่างเดินทาง เผื่อไว้ในกรณีที่คุณรู้สึกป่วยหรือคลื่นไส้
  • จงจำไว้ว่า นักบินรู้ดีว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ จงไว้วางใจในพวกลูกเรือ! พวกเขาเคยบินมาก่อนนับล้านๆ เที่ยวบิน! ขอให้คุณโชคดี!
  • พยายามไม่มองออกนอกหน้าต่างในช่วงบินขึ้น หรือลงจอด แทนที่จะทำเช่นนั้น ให้พยายามคิดถึงบางสิ่งที่ช่วยเบนความสนใจแทน เช่น คุณมีแผนจะทำอย่างไรหลังจากลงจอด แต่ก็อย่าใจลอยมากเกินไป เพราะคุณยังสมควรตื่นตัวอยู่ในกรณีฉุกเฉิน
โฆษณา

คำเตือน

  • หากคุณคิดว่าว่ามีระดับความกังวลใจที่เป็นอันตราย ให้พบนักบำบัดเพื่อหารือเรื่องการรักษา คุณยังสามารถไปหาแพทย์ เพื่อขอยาคลายเครียดได้ด้วย แพทย์อาจเขียนใบสั่งยาสำหรับใช้ในการเดินทางของคุณให้ มียาที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาเพื่อให้สงบหรือช่วยให้นอนหลับ แต่คุณยังสมควรปรึกษาแพทย์ของคุณเกี่ยวกับปริมาณยา และปฏิกิริยาตอบโต้เวลากินร่วมกับยาขนานอื่นๆ อีกด้วย
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. http://theweek.com/article/index/246552/the-odds-are-11-million-to-1-that-youll-die-in-a-plane-crash
  2. http://web.mit.edu/airlines/industry_outreach/board_meeting_presentation_files/meeting-oct-2006/14-Barnett%20Aviation%20Safety%20in%20Developing%20Countries.pdf
  3. http://flyfright.com/overcomingfear/
  4. http://flyfright.com/overcomingfear/
  5. http://psychcentral.com/lib/5-steps-to-reduce-worrying-and-anxiety/0006636
  6. Tartakovsky, M. (2011). 5 Steps to Reduce Worrying and Anxiety. Psych Central. Retrieved on March 19, 2015, from http://psychcentral.com/lib/5-steps-to-reduce-worrying-and-anxiety/0006636
  7. Roth, W. T. (2010). Diversity of effective treatments of panic attacks: what do they have in common?. Depression And Anxiety, 27(1), 5-11. doi:10.1002/da.20601
  8. Gaudlitz, K., Plag, J., Dimeo, F., & Ströhle, A. (2015). Aerobic exercise training facilitates the effectiveness of cognitive behavioral therapy in panic disorder. Depression And Anxiety, 32(3), 221-228. doi:10.1002/da.22337
  9. Francesco, P., Mauro, M. G., Gianluca, C., & Enrico, M. (2010). The efficacy of relaxation training in treating anxiety. International Journal of Behavioral Consultation and Therapy, 5(3-4), 264.
  1. Kim, B. H., Newton, R. A., Sachs, M. L., Giacobbi, P. R., & Glutting, J. J. (2011). The effect of guided relaxation and exercise imagery on self-reported leisure-time exercise behaviors in older adults. Journal of aging and physical activity, 19(2), 137-146.
  2. Francesco, P., Mauro, M. G., Gianluca, C., & Enrico, M. (2010). The efficacy of relaxation training in treating anxiety. International Journal of Behavioral Consultation and Therapy, 5(3-4), 264.
  3. Schmidt, N., Woolaway-Bickel, K., Trakowski, J. et al. (2000). Dismantling cognitive-behavioural treatment for panic disorder: Questioning the utility of breathing retraining. Journal of Consulting and Clinical Psychology, 68(3), 417-424
  4. Barlow, D., (20014) Anxiety and its Disroders: The Nature and Treatment of Anxiety and Panic, New York: Guilford.
  5. Kim, B. H., Newton, R. A., Sachs, M. L., Giacobbi, P. R., & Glutting, J. J. (2011). The effect of guided relaxation and exercise imagery on self-reported leisure-time exercise behaviors in older adults. Journal of aging and physical activity, 19(2), 137-146.
  6. http://www.adaa.org/living-with-anxiety/ask-and-learn/ask-expert/how-can-i-overcome-my-fear-of-flying
  7. http://www.news.com.au/travel/travel-advice/how-to-overcome-a-fear-of-flying/story-fn6yjmoc-1226596357072
  8. http://www.news.com.au/travel/travel-advice/how-to-overcome-a-fear-of-flying/story-fn6yjmoc-1226596357072
  9. http://flyfright.com/overcomingfear/
  10. http://lifehacker.com/how-i-beat-my-fear-of-flying-1052703615
  11. http://lifehacker.com/how-i-beat-my-fear-of-flying-1052703615

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 17,702 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา