ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เราต่างรู้จักใครสักคนที่ทุกคนต้องเหลียวหลังหันไปมองเวลาที่เขาเดินเข้ามาในห้อง คนเหล่านี้มักมีเสน่ห์ที่จับใจผู้อื่น และโชคดีที่คุณเองก็สามารถฝึกฝนให้ตัวเองเป็นคนมีเสน่ห์มากขึ้นได้เช่นกัน! เริ่มจาก การสร้างความมั่นใจในตัวเอง และเรียนรู้วิธีที่จะทำให้คนอื่นรู้สึกว่าตัวเขาเป็นคนพิเศษ จากนั้นก็พัฒนาทักษะการสื่อสารทั้งการสื่อสารด้วยวาจาและท่าทาง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ใช้ภาษาท่าทางเชิงบวก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การสบตาดึงความสนใจของผู้อื่นและทำให้เขาเห็นว่าคุณสนใจเขา มองเข้าไปในดวงตาของผู้อื่นทันทีที่คุณเดินเข้าไปในห้อง และสบตาค้างไว้ขณะที่คุณพูดกับเขา [1]

    ถ้าคุณไม่สามารถสบตาคนอื่นได้ ให้ฝึกฝนกับคนที่คุณรักและสบายใจก่อน จากนั้นค่อยๆ สบตาคนที่คุณไม่ได้สนิทด้วยให้มากขึ้นทีละนิด

  2. วิธีนี้ทำให้อีกฝ่ายเห็นว่าคุณสนใจในสิ่งที่เขาพูด มันจะทำให้คุณสนใจเขาเพียงคนเดียวและทำให้เขาเห็นว่า คุณอยู่กับเขาในช่วงเวลาปัจจุบัน [2]
    • หมั่นเตือนตัวเองให้โน้มตัวไปหา ไม่ว่าจะยืนหรือนั่งก็ตาม
    • อย่าเอนหลังพิงพนัก เพราะมันจะทำให้ดูเหมือนว่าคุณไม่ได้สนใจเขา
  3. การเอามือกอดอกจะทำให้คนอื่นไม่เข้าหาคุณ แต่การเอาแขนไว้ข้างลำตัวจะทำให้คนอื่นเห็นว่าคุณเปิดเผย นอกจากนี้คุณจะใช้กิริยาท่าทางแบบเปิดอื่นๆ ด้วยก็ได้ [3]

    คนมีเสน่ห์มักจะเปิดเผย เพราะฉะนั้น การเอามือกอดอกจึงทำให้คนอื่นไม่เข้าหาคุณ

  4. ยิ้ม เยอะๆ ขณะพูดคุยกับคนอื่น. เพราะรอยยิ้มจะดึงผู้คนเข้าหาคุณ รอยยิ้มทำให้ใบหน้าของคุณสว่างสดใสและทำให้คุณดูเป็นคนคิดบวกมากขึ้น ฝึกยิ้มบ่อยๆ เพื่อที่คุณจะได้ยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติเวลาพูดคุยกับคนอื่น [4]
    • แต่อย่ายิ้มเวลาที่คุยกันเรื่องที่ชวนหดหู่หรือเศร้า เช่น การเจ็บไข้ได้ป่วยหรือความตาย เพราะคนมองว่ามันไม่เหมาะสม
  5. แสดงกิริยาท่าทางเยอะๆ เพื่อดึงความสนใจของผู้อื่นและแสดงสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อ. วิธีนี้จะทำให้คุณดูเป็นคนร่าเริง ซึ่งจะทำให้คนอื่นอยากเข้าหาคุณ ขณะพูดให้ทำไม้ทำมือไปด้วยเพื่อให้คนอื่นเข้าใจสิ่งที่คุณพูดมากยิ่งขึ้น [5]
    • มองดูตัวเองในกระจกหรืออัดวิดีโอตัวเองไว้เพื่อช่วยฝึกการแสดงท่าทางต่างๆ
  6. ยืนตัวตรงให้หัวไหล่ไปด้านหลัง เชิดคางขึ้น ตามองตรงไปข้างหน้า และอย่างอไหล่เวลาเดินหรือยืน [6]
    • ส่องกระจกเพื่อตรวจสอบบุคลิกภาพ นอกจากนี้คุณก็อาจจะอัดวิดีโอตัวเองเดินรอบห้องเพื่อดูว่าคุณสามารถรักษาท่าทางการเดินได้ดีแค่ไหน
  7. คุณสมควรได้รับพื้นที่เช่นเดียวกับคนอื่นๆ การหดตัวเล็กนิดเดียวจะทำให้คนอื่นมองไม่ค่อยเห็นคุณ ซึ่งจะดึงเสน่ห์ของคุณออกมาได้ยาก ปล่อยตัวตามสบายและใช้พื้นที่เท่าที่คุณต้องการ [7]
    • การทำงานอดิเรกที่ส่งเสริมให้คุณเป็นเจ้าของพื้นที่ของตัวเองก็เป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน เช่น การฝึกศิลปะป้องกันตัวก็สามารถช่วยให้คุณจับจองพื้นที่ของตัวเองได้เช่นกัน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

สร้างความมั่นใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ให้ความสำคัญกับสิ่งที่คุณชอบเกี่ยวกับตัวเอง. ถ้าคนอื่นเห็นว่าคุณชอบตัวเอง คนอื่นก็จะชอบคุณด้วยเหมือนกัน การชื่นชมตัวเองอาจเป็นเรื่องยาก แต่การรู้จุดแข็ง พรสวรรค์ และสิ่งที่ทำให้คุณพิเศษสามารถช่วยคุณได้ การดึงบุคลิกลักษณะที่ดีออกมาจะทำให้คุณไม่เกิดความไม่แน่ใจในตัวเอง [8]
    • เขียนรายการคุณสมบัติที่ดี พรสวรรค์ และความสำเร็จของคุณ และคุณก็อาจจะถามคนที่คุณรักด้วยก็ได้ว่า พวกเขาชอบอะไรในตัวคุณ
    • ทำให้ลักษณะในตัวเองที่คุณชอบโดดเด่นขึ้น เช่น คุณอาจจะเขียนอายไลเนอร์แบบแคตอายเพื่อดึงความสนใจมาที่ดวงตาคู่สวย หรือใส่เสื้อผ้าที่ได้อวดขาเรียวเล็ก
  2. มี ชุดความคิดเชิงบวก . พลังบวกจะดึงดูดผู้คนเข้าหาคุณและทำให้พวกเขาอยากอยู่ใกล้คุณด้วย แสดงพลังบวกด้วยการแบ่งปันการมองโลก ในแง่ดี มองหาสิ่งที่ดีที่สุดในสถานการณ์ และให้กำลังใจ มองว่าปัญหาหรืออุปสรรคคือโอกาส ไม่ใช่ความยากลำบาก [9] เคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณเป็นคนมองโลกในแง่ดีขึ้นได้แก่ : [10]
    • ต่อสู้กับความคิดลบด้วยการพูดเชิงบวกกับตัวเอง เวลาที่คุณรู้สึกถึงสิ่งที่เป็นลบ เช่น “ฉันคงทำไม่ได้” ให้ต่อสู้กับความคิดนั้นด้วยคำพูดเชิงบวก คุณอาจจะบอกตัวเองว่า “นี่เป็นโอกาสที่ฉันจะได้เรียนรู้และเติบโต”
    • อยู่ท่ามกลางคนคิดบวกเพื่อรักษาการมองโลกในแง่ดีไว้ให้ได้
    • ปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นด้วยการหัวเราะ ดูหนังตลก เล่นมุก หรือเล่าเรื่องตลกให้คนอื่นฟัง การได้หัวเราะทุกวันจะช่วยให้คุณรู้สึกถึงพลังบวกมากขึ้น
    • เขียนรายการขอบคุณเพื่อให้คุณจดจำสิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณ
    • พยายามปรับปรุงชีวิตส่วนที่คุณไม่ชอบ เวลาที่คุณรู้สึกแย่กับตัวเอง เตือนตัวเองว่าคุณกำลังมาถึงจุดไหน!
  3. เสื้อผ้าเป็นสิ่งที่บอกคนอื่นว่า คุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับตัวเองและคนอื่นควรคิดกับคุณอย่างไร นอกจากนี้เสื้อผ้ายังบอกได้ด้วยว่าคุณรู้สึกอย่างไรในตอนนั้น เลือกเสื้อผ้าที่ทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเองที่สุดและสื่อความเป็นตัวตนในแบบที่คุณอยากให้คนอื่นเห็น [11]
    • เลือกเสื้อผ้าที่พอดีตัว และเลือกสีหรือลวดลายที่คุณคิดว่าดูดี
    • อย่าเลือกเสื้อผ้าที่คุณคิดว่าคนอื่นจะมองว่ามันทันสมัย ถ้าคุณไม่ได้ชอบมันจริงๆ คุณจะรู้สึกอึดอัด และคนอื่นจะดูออก
  4. คิดถึงความสำเร็จเพื่อกระตุ้นความมั่นใจชั่วคราว. เวลาที่คุณคิดถึงความสำเร็จ สมองจะหลั่งสารที่เรียกว่าออกซิโทซินที่ทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเอง ถ้าตอนนี้คุณรู้สึกไม่มั่นใจ สารกระตุ้นออกซิโทซินสามารถช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจมากขึ้นได้สักระยะ ก่อนจะต้องพบปะผู้คน ให้คิดถึงความสำเร็จที่ผ่านมา [12]

    เช่น คุณอาจจะ เก็บภาพความสำเร็จสามอันดับแรกไว้ในอัลบั้มภาพในโทรศัพท์มือถือ จากนั้นก็เปิดดูก่อนไปงานปาร์ตี้หรือก่อนเข้าประชุมใหญ่ๆ

  5. เข้าคลาสการแสดงสดเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ. การแสดงสดช่วยให้คุณสามารถแสดงออกต่อหน้าผู้อื่นได้อย่างสบายใจ และยังทำให้คุณตอบสนองอย่างรวดเร็วอีกด้วย การเข้าคลาสหรือการเข้าร่วมกลุ่มการแสดงสดในละแวกบ้านยังช่วยให้คุณสามารถพูดคุยกับคนอื่นได้อย่างมั่นใจในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย แถมยังสนุกอีกด้วยนะ!
    • คุณสามารถค้นหาคลาสการแสดงสดได้ในอินเทอร์เน็ต และสามารถค้นหากลุ่มการแสดงสดได้ในเว็บไซต์อย่าง meetup.com หรือกลุ่มใน Facebook
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ทำให้คนอื่นรู้สึกพิเศษ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อยู่ให้ห่างจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขณะพูดคุยกับผู้อื่น. การใช้อุปกรณ์ต่างๆ ขณะคนอื่นกำลังคุยกับคุณจะทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญ ปิดเสียงโทรศัพท์และเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าถือ นอกจากนี้ก็อย่าเล่นสมาร์ตวอตช์หรืออุปกรณ์อื่นๆ และสนใจคนรอบข้างอย่างเต็มที่ [13]

    กำหนดเวลาเช็กโทรศัพท์มือถือ เช่น คุณอาจจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำเป็นระยะเพื่อเช็กโทรศัพท์มือถือ

  2. สนใจสิ่งที่คนอื่นกำลังพูด ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะตอบกลับ พยักหน้าขณะที่เขาพูด และแสดงคำพูดยืนยัน เช่น “อาฮะ” “น่าสนใจนะ” หรือ “โอ้โห” เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณกำลังฟังอยู่ [14]
    • ถามคำถามปลายเปิดเพื่อให้บทสนทนาดำเนินต่อไปได้เรื่อยๆ และสนใจฟังคำตอบของเขาจริงๆ
    • ทวนคำพูดของเขาเพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณกำลังฟังอยู่จริงๆ
  3. การบอกคนอื่นว่าคุณชอบหรือประทับใจอะไรในตัวเขาจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดี [15] การกล่าวชมอย่างเจาะจงจะทำให้คำชมของคุณมีความหมายยิ่งขึ้น เช่น พูดว่า “พรีเซนต์วันนี้คุณพูดได้ดีมากเลย” ไม่ใช่ “พรีเซนต์ดีนะ” [16]
    • การกล่าวชมรูปร่างหน้าตาคนอื่นก็ทำให้เขารู้สึกดีกับตัวเองได้เช่นกันและอาจทำให้เขาชอบคุณมากขึ้น อย่างไรก็ตามมันไม่ได้เหมาะกับทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ทำงาน
    • การกล่าวชมการทำงาน ความสำเร็จ และพรสวรรค์ของคนอื่นช่วยเสริมสร้างกำลังใจและผลักดันผู้อื่นไปพร้อมๆ กัน
  4. เวลาที่พบปะคนอื่นๆ ให้เรียกชื่อเขาซ้ำกลับไปเพื่อช่วยให้คุณจำชื่อเขาได้ และระหว่างคุยกันก็ให้พูดชื่อเขาทุกครั้งที่ทำได้ การแสดงให้เห็นว่าคุณจำเขาได้จะทำให้เขารู้สึกพิเศษและเป็นการแสดงให้เห็นว่า คุณสนใจที่จะรู้จักว่าเขาเป็นใคร [17]

    การพูดชื่อเขาบ่อยๆ ระหว่างที่คุยกัน เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้คุณจำชื่อเขาได้อย่างแม่นยำ

  5. พิจารณาว่าพวกเขามีพื้นฐานมาอย่างไร และพยายามมองสิ่งต่างๆ จากมุมมองของเขา ลองคิดว่าตัวเองเป็นเขาเพื่อให้คุณเข้าใจว่าเขารู้สึกอย่างไร แสดงให้พวกเขารู้ว่าคุณห่วงใยความรู้สึกของเขาด้วยการแสดงการรับรู้ความรู้สึกของพวกเขาทางวาจา และรับฟังว่าเขากำลังเผชิญกับอะไร [18]
    • ถามว่าเขารู้สึกอย่างไร และตั้งใจฟังจริงๆ
    • อย่าตัดสินคนอื่นที่เขาตอบสนองต่อสถานการณ์ไม่เหมือนกับคุณ เพราะแต่ละคนก็เจอประสบการณ์ที่ต่างกัน และสิ่งนั้นก็หล่อหลอมให้เขาเป็นเขา
    • เล่าให้คนอื่นฟังถึงช่วงเวลาที่คุณเองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน
  6. เล่าเรื่องราวการต่อสู้และวิธีที่คุณข้ามผ่านมันมา. ใช้เรื่องราวในชีวิตของคุณสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่น วิธีนี้จะทำให้คุณดูเป็นคนที่ประสบความสำเร็จและน่าประทับใจ แต่ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นว่า คุณฝ่าฝันอะไรมามากมายกว่าจะมาถึงจุดนี้ [19]
    • ระวังอย่าบ่นปัญหาหรืออธิบายทุกประเด็นในชีวิตของคุณ เล่าเฉพาะเรื่องราวการเอาชนะความยากลำบากเท่านั้น [20]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

สื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เป็นเรื่องปกติที่คุณจะรู้สึกลำบากใจเวลาที่ต้องชวนคุย แต่คนที่มีเสน่ห์จะสามารถคุยกับใครก็ได้ หาประเด็นพูดคุยที่คุณสามารถเอาไว้ชวนคนอื่นคุยได้สักสองสามประเด็น ส่องกระจกหรือใช้กล้องวิดีโออัดเทปตัวเองชวนคุยประเด็นเหล่านี้เพื่อที่คุณจะได้พัฒนาการสื่อสารของตัวเองให้ดีขึ้น [21]

    เช่น คุณอาจจะฝึกชวนคนอื่นคุยในประเด็น เกี่ยวกับดินฟ้าอากาศ จังหวัดของคุณ ทีมกีฬาท้องถิ่น เพลงโปรด วันหยุด หรือฤดูกาล

  2. คุณอาจจะเล่ามุกตลก เชื่อมโยงเรื่องราวตลกๆ หรือจิกกัดตัวเอง วิธีนี้จะช่วยให้คนรู้สึกสบายใจและชอบอยู่กับคุณ [22]
    • อย่าเอาแต่พูดตลกอย่างเดียว แต่ให้หยอดมุกตลกนิดหน่อยตลอดการสนทนาหรือกล่าวสุนทรพจน์
    • เช่น คุณอาจจะเปิดการนำเสนอผลงานด้วยมุกตลกหรือเล่าเรื่องตลกที่งานปาร์ตี้
  3. การเล่าเรื่องจะดึงดูดคนเข้าหาคุณและทำให้คุณดูเป็นคนน่ารักยิ่งขึ้น เวลาที่คุณเล่าเรื่องตัวเอง ให้เล่าผ่านเรื่องราว เล่าประวัติส่วนตัว ใช้น้ำเสียงตื่นเต้น ท่าทางที่มีชีวิตชีวา และการแสดงสีหน้าที่ชวนติดตามเพื่อให้คนฟังรู้สึกสนุกสนาน [23]
    • การเรียนการแสดงสามารถช่วยให้คุณพัฒนาความสามารถในการเล่าเรื่องได้ นักแสดงและคนที่มีเสน่ห์ใช้เทคนิคเดียวกันในการจับใจผู้ฟังและเร้าอารมณ์ คุณสามารถฝึกการใช้เสียงสูงต่ำ น้ำเสียง กิริยาท่าทาง และการแสดงสีหน้าเพื่อให้เรื่องราวของคุณน่าสนใจขึ้นได้
  4. คนมักจะเบือนหน้าหนีความไม่แน่ใจ เพราะฉะนั้นคุณต้องมีจุดยืน เชื่อในสิ่งที่คุณเลือกและสิ่งที่คุณพูด บอกคนอื่นว่าคุณมีคำตอบแม้ว่าคุณจะไม่ได้มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม และคุณสามารถกลับมาประเมินอีกครั้งและเลือกเส้นทางใหม่ได้เสมอถ้าคุณรู้ว่าคุณผิด [24]
    • แม้ว่าคุณจะไม่แน่ใจ แต่ถ้าคุณแสดงออกว่าคุณมั่นใจในสิ่งที่คุณเลือก คนอื่นจะมองว่าคุณมีเสน่ห์ ตัดสินใจให้ดีที่สุดจากข้อมูลที่คุณมีในตอนนี้ ถ้าคุณตัดสินใจได้ในภายหลังว่าคุณผิด คุณก็สามารถเลือกทำสิ่งใหม่ได้เสมอ
    • เช่น คุณควรพูดว่า “ฉันเชื่อมั่นในแผนการนี้” แทนที่จะพูดว่า “แผนนี้อาจจะใช้ได้” คำพูดแรกแสดงให้เห็นว่าคุณมั่นใจกับความคิดนี้ ส่วนคำพูดที่สองแสดงให้เห็นว่า คุณไม่ได้แน่ใจขนาดนั้นว่าแผนการจะใช้ได้
  5. คนมักจะเข้าหาคนที่ดูมีความหลงใหล อย่าพูดไปเรื่อยเปื่อย แต่ให้เล่าสิ่งที่คุณเชื่อจริงๆ เท่านั้น ตื่นเต้นกับสิ่งที่คุณพูดและทำ และแบ่งปันความตื่นเต้นให้คนอื่นรับรู้ด้วย [25]
    • ออกแบบชีวิตจากความหลงใหล วิธีนี้จะทำให้คนอื่นมองว่าคุณเป็นคนมีเสน่ห์ ถ้าคุณไม่รู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งนั้น ก็ให้พักเรื่องนั้นไว้ก่อน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เลิกทำตัวเป็นไม้ประดับเวลาพบปะผู้คน และเริ่มเข้าไปคุยกับคนอื่น
  • เข้าร่วมกลุ่ม The First Thai Toastmasters Club เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารและความเป็นผู้นำกับคนที่มีความสนใจเหมือนกัน
  • คุณไม่ต้องมั่นใจจริงๆ เพื่อให้ตัวเองดูมั่นใจก็ได้ ยึดคติที่ว่า “แกล้งทำจนกว่าจะทำได้” เพื่อช่วยสร้างความมั่นใจในตัวเอง!
  • สร้างนิสัยตรงไปตรงมาแต่อ่อนโยน เพราะคนจะไม่อยากเข้าหาคุณถ้าคุณกลัวที่จะแสดงความคิดและความรู้สึกที่แท้จริงออกมา
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าพยายามเค้นเสน่ห์ออกมา เพราะการเป็นคนมีเสน่ห์ต้องอาศัยการฝึกฝน ถ้าคุณฝืนให้ตัวเองเป็นคนมีเสน่ห์เร็วเกินไป การกระทำของคุณจะดูประหลาดและไม่น่าไว้ใจ
โฆษณา
  1. https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/stress-management/in-depth/positive-thinking/art-20043950?pg=2
  2. https://www.inc.com/jeff-haden/want-your-clothes-to-help-you-feel-confident-and-empowered-just-answer-this-1-qu.html
  3. https://www.theguardian.com/lifeandstyle/2016/dec/17/can-you-learn-how-to-be-charismatic-charisma-shy-business
  4. https://www.entrepreneur.com/article/293343
  5. https://www.forbes.com/sites/deniserestauri/2012/05/03/5-qualities-of-charismatic-people-how-many-do-you-have/#2d96c36b2ea9
  6. https://www.entrepreneur.com/article/247075
  7. https://www.psychologytoday.com/us/articles/200403/the-art-the-compliment
  8. https://www.forbes.com/sites/deniserestauri/2012/05/03/5-qualities-of-charismatic-people-how-many-do-you-have/#2d96c36b2ea9
  9. https://www.inc.com/kevin-daum/5-things-really-charismatic-people-do.html
  10. https://www.entrepreneur.com/article/247075
  11. https://www.forbes.com/sites/deniserestauri/2012/05/03/5-qualities-of-charismatic-people-how-many-do-you-have/#2d96c36b2ea9
  12. https://www.theguardian.com/lifeandstyle/2016/dec/17/can-you-learn-how-to-be-charismatic-charisma-shy-business
  13. https://www.forbes.com/sites/deniserestauri/2012/05/03/5-qualities-of-charismatic-people-how-many-do-you-have/#2d96c36b2ea9
  14. https://www.forbes.com/sites/deniserestauri/2012/05/03/5-qualities-of-charismatic-people-how-many-do-you-have/#2d96c36b2ea9
  15. https://www.forbes.com/sites/deniserestauri/2012/05/03/5-qualities-of-charismatic-people-how-many-do-you-have/#2d96c36b2ea9
  16. https://www.inc.com/kevin-daum/5-things-really-charismatic-people-do.html

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 54,579 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา