ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณเคยถูกแฟนนอกใจหรือเปล่า การที่จะมีความสัมพันธ์ที่มีความสุข ทั้งสองฝ่ายจะต้องมีความเชื่อใจต่อกัน [1] ความเชื่อใจที่พัฒนาระหว่างคนสองคนนั้นต้องสามารถพึ่งพากันและมีความต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานประมาณหนึ่ง [2] หากความเชื่อใจที่ว่าถูกทำลายลง ทั้งสองฝ่ายจะต้องล้วนอยากจะแก้ไขมันทั้งคู่ และจำต้องร่วมมือกันสร้างมันขึ้นมาใหม่ ถ้าคุณทั้งคู่ต่างปรารถนาจะถนอมความสัมพันธ์หลังการนอกใจ มันมีทางเป็นไปได้ที่คุณจะกลับมามีความสัมพันธ์ที่แนบแน่น เติมเต็มมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

รับรู้ถึงการนอกใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การจะกลับมาคืนดี คุณจะต้องมีแรงจูงใจให้กลับมาคืนดีก่อน ถามตัวเองว่าต้องการจะถนอมความสัมพันธ์นี้จริงๆ ไหม หรือว่าอยากจะจบกันไป ข้างล่างนี้เป็นบางคำถามที่จะเป็นแนวทางให้คุณขบคิด:
    • นี่เป็นครั้งแรกที่แฟนทำลายความเชื่อใจของคุณหรือไม่
    • ความสัมพันธ์ครั้งนี้มันสำคัญควรค่าแก่การพยายามหรือเปล่า
    • ฉันยังอยากจะคบกับเขาทั้งๆ ที่มีบางอย่างเปลี่ยนไปและมันอาจไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า
  2. คุณอาจต้องพิจารณาถึงคนอื่นๆ ในชีวิตว่าถ้าเขาเกิดรู้เรื่องการนอกใจครั้งนี้: ลูกๆ ญาติสนิท เพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนๆ คุณจำต้องตัดสินใจว่าความคิดเห็นของคนเหล่านี้มีผลต่อความสัมพันธ์ของคุณอย่างไร ต้องรู้ด้วยว่าบางทีการเดินหน้าต่อก็อาจจะยากขึ้นถ้าดูว่าเหตุนอกใจนี้ถูกเปิดเผยขึ้นมาในลักษณะใด [3]
    • นี่จะช่วยคุณตัดสินใจว่าจะเดินหน้าอย่างไรดี หรือมีมุมด้านใดในความสัมพันธ์ที่สำคัญต่อคุณในอนาคต [4]
    • หากคุณมีลูก มันอาจเป็นเรื่องใหญ่โตสำหรับพวกเขาที่รู้ว่าพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งแอบนอกใจ ลองคิดดูว่าคุณค่าจริยธรรมด้านใดที่คุณต้องการจะสอนลูกๆ
    • คุณสามารถบอกใครต่อใครว่าชีวิตส่วนตัวของคุณไม่ใช่กงการอะไรของพวกเขา หรือมันเป็นส่วนตัวจริงๆ
    • มันอาจรู้สึกเหมือนกับว่าคนอื่นเขารู้เรื่องนี้กันหมดเว้นแต่คุณ กระนั้นนี่ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นประเด็นใหญ่
  3. บอกแฟนไปตรงๆ เลยว่าอะไรที่ทำให้คุณเสียใจ และคุณต้องการให้เขา/เธอทำอย่างไรถ้าอยากจะฟื้นความเชื่อใจให้กลับคืนมา แฟนของคุณต้องรู้ว่าคุณอยากจะเชื่อใจอีกฝ่ายอีกครั้งเพราะอะไร และเหตุใดเขาจึงควรทำตัวให้น่าไว้วางใจ
    • บอกแฟนไปว่าความรู้สึกของคุณนั้นมีความชอบธรรมและสำคัญยิ่ง แม้ว่าอีกฝ่ายไม่คิดว่าคุณควรจะรู้สึกเศร้าหรือเจ็บปวด
    • เป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาเป็นคำพูดแทนที่จะเป็นท่าทาง คุณอาจใช้การกอด น้ำตา การจูบ หรือปฏิกิริยาที่สงบอย่างอื่นก็ได้ แต่ห้ามใช้การต่อย ตบตี หรือความรุนแรงอื่นๆ
    • นี่ไม่ใช่โอกาสที่จะทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย หากคุณรู้สึกถึงแรงปรารถนาอยากจะทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวด ให้บอกออกมาแต่อย่าคิดจะทำมันขึ้นมาจริงๆ
  4. ให้แฟนคุณบอกสิ่งที่เขาขาดไปในความสัมพันธ์ และหากเขาคิดว่ามันคุ้มค่าที่จะแก้ไขหรือไม่ ถ้าเขาไม่ต้องการจะสานสัมพันธ์ต่อ คุณควรพูดเรื่องแยกทางกัน
    • จำไว้ในใจว่าการสนทนานี้เป็นเรื่องของการแสดงความรู้สึกทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ข้อเท็จจริงหรือการทะเลาะถกเถียงกัน
    • ฟังว่าแฟนต้องการอะไรในความสัมพันธ์นี้ คุณสามารถให้ตามที่เขา/เธอต้องการได้ไหม มีทางเป็นไปได้ว่าการนอกใจนั้นเป็นผลมาจากใครฝ่ายหนึ่งรู้สึกถูกเมินเฉย ทว่าไม่สะดวกใจที่จะเอ่ยปากบอกออกมา
    • ความรู้สึกของแฟนคุณก็มีความชอบธรรมและมีความสำคัญ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ “เห็นด้วย” กับสิ่งที่เขารู้สึก ถ้าความรู้สึกของอีกฝ่ายไม่มีความชอบธรรมหรือสำคัญสำหรับคุณแล้ว คุณก็ควรตกลงจะยุติความสัมพันธ์ดีกว่า
  5. แต่ละฝ่ายต้องแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่เคยทำไว้ในอดีต ไม่ว่าจะทางด้านดีหรือเลว คุณไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ถ้าไม่มีใครอ้างตัวรับเป็นภาระหน้าที่ว่าต้องแก้ไขมัน ความรับผิดชอบเป็นกุญแจในการสามารถที่จะพัฒนาสิ่งที่คุณทำให้เคลื่อนไปข้างหน้า
    • รู้ว่าคุณอาจเจอผลกระทบบางอย่างทั้งที่ไม่ได้เจตนาจะทำให้เกิดขึ้น หรือรู้ล่วงหน้าถึงผลกระทบนี้
    • มีคำกล่าวที่จะ “สองคนถึงจะเต้นแทงโก้ได้” ถ้ามันดูเหมือนว่าแฟนคุณทำผิดในบางเรื่องจริงๆ ให้มองหาปัจจัยหรือเหตุผลอื่นๆ ที่อยู่เลยแฟนคุณออกไปอีก ยากนักที่จะตำหนิติโทษใครคนหนึ่งว่าเป็นต้นเหตุอยู่เพียงฝ่ายเดียว
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

ตัดสินใจเดินหน้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มันต้องใช้อะไรบ้างถึงทำให้คุณกับแฟนมีความสุขและเชื่อใจในกันและกัน แต่ละฝ่ายต้องใช้ขั้นตอนและการทำอะไรจึงจะไปถึงจุดนั้น การตอบคำถามเหล่านี้จะช่วยคุณตัดสินใจว่าคุณทั้งสองฝ่ายจะเดินหน้าไปทางไหน เขียน 5 สิ่งสำคัญที่คุณคิดว่าควรเกิดขึ้นเพื่อจะได้มีความสัมพันธ์ที่มั่นคง
  2. ถ้าความทุกข์เศร้าของความสัมพันธ์ดูไม่มีทางเลี่ยงได้ กระนั้นคุณต้องการจะแก้ไขมัน ไม่ใช่มีแต่คุณคนเดียวที่เป็นเช่นนี้ โดยเฉพาะหากปัจจัยภายนอกเป็นตัวทำให้การนอกใจซับซ้อนขึ้น การไปพบผู้ให้คำแนะนำว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์ได้อย่างไรอาจช่วยได้ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ได้แก่ ที่ปรึกษาปัญหาครอบครัว นักจิตบำบัด นักจิตวิทยาครอบครัว นักบำบัดทางเพศ หรือผู้นำชุมชนอย่างบาทหลวง
    • ตัวอย่างของประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ก็เช่น การนอกใจซ้ำซาก การติดเซ็กส์ มีความคลั่งไคล้ในเรื่องเพศบางด้าน มีการทารุณกรรมทางเพศ ปัญหาภายในครอบครัว
    • ตัวอย่างของประเด็นอื่นๆ ที่อาจกระทบความสัมพันธ์ ได้แก่ การใช้สารเสพติด ปัญหาด้านการเงิน ปัญหาทางข้อกฎหมาย ปัญหาสุขภาพ
  3. บอกแฟนคุณว่าเขาหรือเธอจะต้องไม่ไปพบมือที่สามและจะต้องปัดการติดต่อทุกทางกับคนๆ นั้น มันอาจไม่จำเป็นต้องปิดกั้นทุกทางถึงขั้นนั้น แต่ในบางกรณี บางคู่อาจพบว่าจำเป็นต้องทำถึงขั้นนี้ มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของคุณและอะไรที่คุณพบว่าช่วยได้
  4. ตกลงกันว่าคุณทั้งคู่คาดหวังอะไรจากตนเองกับอีกฝ่ายในการเดินหน้า ลองพิจารณาให้เริ่มจากจุดเริ่มต้นพื้นฐานของความสัมพันธ์และคุยกันในทุกมุมมอง เพื่อที่ไม่เหลือส่วนไหนไว้คาใจ ในอีกด้านหนึ่ง ลองคิดว่าอะไรที่ทำให้คุณโมโหที่สุด แล้วเริ่มแก้ไขในประเด็นนั้นก่อน
    • ตัวอย่างของขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมคือ อนุญาติให้คุณเข้าถึงโทรศัพท์ของเขา หรือโทรเช็คในตอนกลางคืนได้
    • คุณแต่ละฝ่ายอาจมีขั้นตอนที่แตกต่างกันแต่ยังมุ่งตรงไปเป้าหมายเดียวกัน หรือคุณอาจช่วยเหลือกันไปทีละขั้นตอนและทำร่วมกันก็ได้
    • การเขียนมันลงเป็นลายลักษณ์อักษรอาจช่วยได้ แบบเดียวกับกฎประจำห้องเรียน และเซ็นชื่อกำกับตรงด้านล่างเหมือนการทำสัญญา
  5. แฟนคุณสามารถทำตัวให้น่าเชื่อถือยิ่งขึ้นโดยการเปิดเผยว่าเขาใช้เวลาทำอะไรบ้าง ทำตัวโปร่งใสและยินดีเปิดเผยข้อมูลก่อนที่จะถูกถาม [5] แฟนคุณควรสัญญาว่าจะทำตัวให้ดีขึ้น แต่เข้าใจดีว่าการให้สัญญาหรือการขอโทษเพียงอย่างเดียวนั้นจะสร้างความเชื่อใจขึ้นมาใหม่ได้เพียงในระยะสั้นเท่านั้น [6]
    • ตกลงในวิธีการที่จะสร้างความเชื่อใจสำหรับการกระทำในอนาคต เช่น ถ้าแฟนไม่ได้ให้คุณตรวจโทรศัพท์ในคืนหนึ่ง คุณมีข้อตกลงเป็นพันธสัญญาว่าจะต้องรับมือแก้ไขกันอย่างไร
    • แผนฉุกเฉินประเภทเหล่านี้จะช่วยให้ขั้นตอนที่เป็น “รูปธรรม” นั้นมีความยืดหยุ่น คุณสามารถแสดงให้เห็นว่าได้ลองพยายามแล้วแม้บางครั้งจะแหกกฎหรือทำตามขั้นตอนที่ว่าไม่ได้
    • ถึงที่สุดแล้ว คุณกับแฟนควรสื่อสารพูดคุยและเชื่อใจในแต่ละฝ่าย หาทางเปิดใจหากคุณคิดว่าฝ่ายหนึ่งไม่ทำตัวน่าเชื่อถือพอ
    • การสัญญาว่าจะปรับปรุงตัวนั้นใช้ได้ผลเพียงในระยะสั้น แต่จะต้องรักษาสัญญาในระยะยาวเพื่อทำให้คำสัญญานั้นมีค่า
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

การพัฒนาไปถึงจุดของการให้อภัย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การนอกใจนั้นมักจะเชื่อมโยงกับความห่างเหินทางอารมณ์ระหว่างคุณกับแฟน และวิธีหนึ่งที่จะหลีกเลี่ยงการอยากนอกใจนี้ตั้งแต่แรกคือการหาทางทำให้ยังใกล้ชิดกันทางความรู้สึกเหมือนเดิม [7] . เป็นไปได้ไหมที่แต่ก่อนคุณกับแฟนไม่ค่อยได้แชร์ความรู้สึกร่วมกัน
    • ในอนาคต การเรียนรู้ที่จะแบ่งปันความรู้สึกให้ได้ผลอาจเปิดโอกาสให้คุณได้ร่วมแบ่งปันความปรารถนาที่จะนอกใจก่อนที่จะไปนอกใจจริงๆ
    • ลองคิดถึงการเปิดอกคุยกับแฟนในอนาคตถึงประสบการณ์และมุมมองทัศนคติที่คุณมีต่อการใช้ชีวิตร่วมกัน [8]
    • เพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้คนอื่นรู้สึกถูกคุกคามหรือเจ็บปวด ให้เริ่มประโยคด้วยการพูดว่า “ฉันรู้สึกว่า...” นั่นจะแสดงความชัดเจนถึงสิ่งที่คุณรู้สึก และไม่ได้มาทะเลาะถกเถียงหรือตัดสินบางอย่างในฐานะข้อเท็จจริง
  2. อนุญาติให้ตัวเองได้เดินหน้าต่อ จำไว้ว่าคุณอาจรู้สึกเศร้าหรือโกรธอยู่ แต่ใช่ว่าคุณจะรู้สึกแบบนี้ไปตลอดกาล อย่ากักเก็บอารมณ์โกรธไว้ข้างใน แต่ให้ระบุมันออกมา พยายามปล่อยวางความเจ็บปวดในขณะที่ใจก็จดจำบทเรียนที่คุณได้เรียนรู้ [9]
    • ถ้าคุณโกรธแฟน แต่แฟนกลับไม่รู้ว่าเพราะอะไร คุณก็ควรบอกเขา
    • อดกลั้นความรู้สึกอยากจะโยนเรื่องการนอกใจตอกหน้าเขาระหว่างการพูดคุยกัน มันจะทำร้ายความเชื่อใจระหว่างกันและรั้งไม่ให้คุณทั้งคู่เดินหน้าข้ามเหตุนอกใจนี้ไปได้
  3. การจะให้ความสัมพันธ์เดินหน้าต่อ คุณจะต้องมีความเชื่อใจระหว่างกัน อย่ามองหาร่องรอยหรือหลักฐานที่แสดงว่าเขาจะนอกใจอีก การสามารถให้อภัยแฟนและเดินหน้าข้ามอุปสรรคนี้จะทำให้ความสัมพันธ์มั่นคงขึ้นในระยะยาว [10]
    • เชื่อใจแฟนว่าจะมีความตั้งใจทำในส่วนของเขาไม่ว่ากฎหรือขอบเขตหรือความพยายามที่คุณตกลงกันจะทำให้เกิดขึ้นนั้นจะเป็นเช่นใด ถ้าคุณตกลงเช่นนั้น ให้เชื่อใจว่าเขาจะทำอย่างที่ว่า
    • มันอาจดูน่าหวาดเสียวที่จะเชื่อใจใครว่าจะสามารถทำในสิ่งที่เขาทำไม่ได้จากที่ผ่านมา แต่มันไม่มีทางเลือกอื่นที่จะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่เชื่อใจต่อกันอีกครั้ง
    • เชื่อใจตนเอง ถ้าคุณรู้สึกไม่สะดวกใจ หาให้ได้ว่าเพราะอะไร ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถเชื่อใจคนอื่นได้ ให้หาทางระบุออกมาแทนที่จะทำเป็นเมินในสิ่งที่ตนรู้สึก
  4. ส่วนหนึ่งของการให้อภัยคือการมองคนสำคัญคนนั้นเป็นตัวบุคคลขึ้นมาอีกครั้ง และมองในเชิงบวก แทนที่จะคิดถึงเขาว่าเป็นแค่ใครสักคนที่ทำร้ายจิตใจคุณ [11] คุณต้องมองแฟนว่ามีความอ่อนไหวและมีสิทธิรู้สึกเจ็บปวดได้เช่นกัน แทนที่จะคิดถึงเขาในแง่ร้ายฝ่ายเดียว [12]
    • ลองทำการสลับบทบาทหรือลองสวมบทบาทเป็นเขาเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจเห็นใจอีกฝ่าย [13]
    • ลองคิดว่ามันจะเป็นอย่างไร “ถ้าหากได้ลองเป็นเขา” หรือพยายามพูดคุยกันโดยสลับบทบาทดู
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

รักษาความสัมพันธ์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การนอกใจไม่ได้หมายถึงว่าคุณไร้ค่า หรือว่าการนอกใจนั้นเป็นความผิดของคุณล้วนๆ เท่านั้น มันเป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายอาจนอกใจคุณเพราะเขาไม่รู้จะบอกสิ่งที่ต้องการออกมาอย่างไร ขอร้องแฟนให้บอกออกมาว่าวิธีไหนถึงจะทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น จงเปิดใจรับฟังข้อเสนอแนะเรื่องการพัฒนาและเพิ่มความแข็งแกร่งให้ความสัมพันธ์เหล่านั้น
    • เริ่มประโยคด้วยคำว่า “ฉันรู้สึกว่า...” เพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเหมือนถูกคุกคามหรือเจ็บปวด มันยังสร้างความชัดเจนว่าคุณแค่รู้สึกอย่างไร และไม่ได้จะมาถกเถียงหรือเห็นว่ามันเป็นข้อเท็จจริง
    • “สะท้อน” สิ่งที่อีกฝ่ายพูด การเป็นกระจกเงาสะท้อนคือเมื่อคุณพูดซ้ำในสิ่งที่คุณได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย เพื่อตรวจสอบมุมมองและสร้างความมั่นใจว่าคุณทั้งคู่กำลังพูดในประเด็นเดียวกัน
  2. รายล้อมตัวเองด้วยผู้คนที่รักคุณและจะช่วยให้คุณรู้สึกดีกับตัวเอง การได้รับแรงสนับสนุนจากสังคมในการรักษาความสัมพันธ์จะช่วยให้เดินหน้าต่อได้ง่ายขึ้น [14]
    • อย่ากังวลที่จะบอกคนอื่นๆ ว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวของคุณนั้น “ไม่ใช่กงการอะไรของพวกเขา” คนที่แคร์คุณจริงๆ จะเคารพในขอบเขตความเป็นส่วนตัวของคุณ
    • หาแรงใจจากคนที่แฟนคุณเชื่อใจและเคารพ บางครั้ง คนที่คุณมองหาแรงสนับสนุนอาจเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาในสายตาของแฟน
  3. ถ้าคุณเคยลองแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์ด้วยตัวเองแล้วมันไม่ได้ผล ผู้เชี่ยวชาญน่าจะเคยเห็นคู่แบบคุณมาก่อนแล้ว โดยเฉพาะถ้าปัจจัยภายนอกเป็นตัวทำให้การนอกใจเกิดขึ้น การไปขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์อย่างไรอาจมีประโยชน์ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ได้แก่ ที่ปรึกษาปัญหาครอบครัว นักจิตบำบัด นักจิตวิทยาครอบครัว นักบำบัดทางเพศ หรือผู้นำชุมชนอย่างบาทหลวง
    • ตัวอย่างของประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ก็เช่น การนอกใจซ้ำซาก การติดเซ็กส์ มีความคลั่งไคล้ในเรื่องเพศบางด้าน มีการทารุณกรรมทางเพศ ปัญหาภายในครอบครัว
    • ตัวอย่างของประเด็นอื่นๆ ที่อาจกระทบความสัมพันธ์ ได้แก่ การใช้สารเสพติด ปัญหาด้านการเงิน ปัญหาทางข้อกฎหมาย ปัญหาสุขภาพ
  4. เน้นไปที่การแสดงให้คู่ของคุณรู้ว่าคุณยังรักเขา และยอมรับในการแสดงออกทางความรักของเขาด้วยเช่นกัน แสดงน้ำใจต่อกัน และยกย่องในการกระทำที่เปี่ยมด้วยน้ำใจต่อกัน [15] หากแฟนคุณพยายามจะแสดงความรักใคร่ คุณควรเน้นไปที่การตอบรับความรักนั้นว่ามาจากใจจริง
    • ทำอาหารด้วยกัน ออกไปทำกิจกรรมภายนอกด้วยกัน แลกเปลี่ยนรสสัมผัส และกล่าวชมอีกฝ่าย
    • แสดงความมีน้ำใจไมตรีที่แสดงให้เห็นว่าคุณรับรู้และยังแคร์ในอีกฝ่ายอยู่ เช่น พาเธอไปร้านอาหารที่คุณรู้ว่าเป็นร้านโปรดของเธอหรือไปหาครอบครัวเธอด้วยกันในวันหยุด
  5. มันอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือกระทั่งเป็นปีที่จะทำใจจากการถูกนอกใจได้ และความสัมพันธ์อาจไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมอีก จงยอมรับในจุดที่ชีวิตคุณเป็นอยู่ในปัจจุบันและมันอาจใช้เวลานานกว่าจะไปถึงในจุดที่คุณอยากให้มันเป็น แฟนคุณอาจก้าวไปคนละจังหวะกับคุณ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการพูดคุยทำความเข้าใจระหว่างกันถึงได้สำคัญมากๆ
    • อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคู่ของคนอื่น
    • ใช้การวัดแค่ระดับเล็กๆ วันนี้รู้สึกดีไหม คุณไปดินเนอร์ได้ทั้งมื้อโดยไม่แวบคิดถึงการนอกใจหรือเปล่า
    • มันไม่มีหรอกไอ้วิธีลัดในการสร้างความสัมพันธ์ จงใช้เวลาและความพยายามมากเท่าที่คุณจะทำได้เพื่อกอบกู้ความสัมพันธ์ให้ไปถึงจุดที่คุณทั้งคู่อยากให้เป็น
    โฆษณา


เคล็ดลับ

  • คุณจำต้องรักตัวเอง ก่อนที่คุณจะรักใครคนอื่นได้
  • คุณควรค่าที่จะมีความสุข
  • คุณไม่อาจบังคับให้ใครรักคุณ ดังนั้นให้เวลากับพื้นที่และความรักแก่เขาหรือเธอแต่ไม่ควรลืมที่จะรักตัวเองเช่นกัน
  • ตัวชี้วัดความสำเร็จในการบำบัดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือถ้าผู้ป่วยกับนักบำบัดมีความเห็นพ้องต้องกันในการที่จะทำให้มันดีขึ้น
โฆษณา

คำเตือน

  • ให้แน่ใจว่าเธอต้องการจะทิ้งมือที่สามนั้น
  • หากเขาแสดงสัญญาณว่ากำลังจะนอกใจอีกครั้ง ให้พูดเรื่องนี้ต่อหน้า ถกกันว่าจะรักษาความสัมพันธ์ให้คงอยู่ต่อไปหรือไม่


โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เริ่มความสัมพันธ์แบบ Friends with Benefits
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายไม่อยากคุยกับคุณแล้ว
ทำให้แฟนเก่ากลับมารักคุณอีกครั้ง
รู้ว่าแฟนสาวของคุณแอบไปนอนกับคนอื่นหรือเปล่า
พิชิตหัวใจแฟนเก่ากลับมา หลังจากการเลิกรา
เลิกชอบเพื่อนรัก
ทำให้ใครบางคนรู้สึกผิด
ทำให้แฟนเก่าคิดถึงคุณ
ฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาดีเหมือนเดิม
ดูว่าเพื่อนอิจฉาคุณหรือไม่
จบความสัมพันธ์
ปลอบโยนแฟนสาวของคุณเมื่อเธอรู้สึกแย่
จิตวิทยาการรับมือเพื่อเอาชนะคนหลงตัวเอง
เรียกความเชื่อใจจากเขาหรือเธอกลับมา
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Simpson, J. A. (2007). Psychological foundations of trust. Current directions in psychological science, 16(5), 264-268.
  2. Simpson, J. A. (2007). Psychological foundations of trust. Current directions in psychological science, 16(5), 264-268.
  3. Afifi, W. A., Falato, W. L., & Weiner, J. L. (2001). Identity concerns following a severe relational transgression: The role of discovery method for the relational outcomes of infidelity. Journal of Social and Personal Relationships, 18(2), 291-308.
  4. Afifi, W. A., Falato, W. L., & Weiner, J. L. (2001). Identity concerns following a severe relational transgression: The role of discovery method for the relational outcomes of infidelity. Journal of Social and Personal Relationships, 18(2), 291-308.
  5. Bird, M. H., Butler, M. H., & Fife, S. T. (2007). The process of couple healing following infidelity: A qualitative study. Journal of Couple & Relationship Therapy, 6(4), 1-25.
  6. Schweitzer, M. E., Hershey, J. C., & Bradlow, E. T. (2006). Promises and lies: Restoring violated trust. Organizational behavior and human decision processes, 101(1), 1-19.
  7. https://www.psychologytoday.com/blog/suffer-the-children/201309/after-the-infidelity-can-counseling-help
  8. Nelson, J. A., Li, C. S., Eckstein, D. G., Ane, P., & Mullener, W. (2008). Antidotes for Infidelity and Prescriptions for Long Lasting Relationships: Four Couples' Activities. The Family Journal, 16(4), 375-378.
  9. Bird, M. H., Butler, M. H., & Fife, S. T. (2007). The process of couple healing following infidelity: A qualitative study. Journal of Couple & Relationship Therapy, 6(4), 1-25.
  1. Afifi, W. A., Falato, W. L., & Weiner, J. L. (2001). Identity concerns following a severe relational transgression: The role of discovery method for the relational outcomes of infidelity. Journal of Social and Personal Relationships, 18(2), 291-308.
  2. Bird, M. H., Butler, M. H., & Fife, S. T. (2007). The process of couple healing following infidelity: A qualitative study. Journal of Couple & Relationship Therapy, 6(4), 1-25.
  3. Bird, M. H., Butler, M. H., & Fife, S. T. (2007). The process of couple healing following infidelity: A qualitative study. Journal of Couple & Relationship Therapy, 6(4), 1-25.
  4. Bird, M. H., Butler, M. H., & Fife, S. T. (2007). The process of couple healing following infidelity: A qualitative study. Journal of Couple & Relationship Therapy, 6(4), 1-25.
  5. Abrahamson, I., Hussain, R., Khan, A., & Schofield, M. J. (2011). What Helps Couples Rebuild Their Relationship After Infidelity?. Journal of Family Issues, 0192513X11424257.
  6. Abrahamson, I., Hussain, R., Khan, A., & Schofield, M. J. (2011). What Helps Couples Rebuild Their Relationship After Infidelity?. Journal of Family Issues, 0192513X11424257.

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,625 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา