ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
กลิ่นควันถือเป็นเรื่องที่รับมือยากและน่ารำคาญอีกเรื่องหนึ่งในชีวิตประจำวัน แต่โชคยังดีที่เมื่อกลิ่นไม่พึงประสงค์ติดกับสิ่งของ รถ หรือบ้านของคุณ ยังมีเทคนิคที่จะกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์เหล่านั้น และนี่คือสิ่งที่คุณควรรู้
ขั้นตอน
-
นำหนังสือไว้ในที่อากาศถ่ายเท. กางหนังสือบนราวจับหรือราวตากผ้าเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง จะช่วยลดกลิ่นลงได้
- ขอให้มั่นใจว่าวางหนังสือไว้ในจุดที่ไม่โดนแสงแดด เนื่องจากแสงแดดอาจทำให้หนังสือสีซีดได้
-
ใส่หนังสือลงในถุงเครื่องหอม. [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ใส่หนังสือที่มีกลิ่นลงในถุงซิบล็อค ที่บรรจุเครื่องหอมข้างในเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งวัน กลิ่นควันที่ติดหนังสือจะถูกแทนที่ด้วยกลิ่นหอมของเครื่องหอม
- คุณอาจต้องเปลี่ยนเครื่องหอมในถุงหลังจากผ่านวันแรก และใส่เครื่องหอมชุดใหม่ลงไปในถุงและปิดถุงไว้อีกสองถึงสามวัน
- นำเครื่องหอมไปทิ้งเมื่อทำสำเร็จแล้ว
-
ใส่กระดาษหอม (Dryer sheet) 4-5 แผ่นระหว่างหน้ากระดาษ และปิดปากถุงไว้.
- ทั้งกระดาษหอม และกระดาษปกติก็มีส่วนช่วยให้การดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
-
ใช้เปลือกไม้ซีดาร์ หรือถ่าน. ใส่หนังสือหรือกระดาษลงในถุงซิปล็อคพร้อมกับเปลือกไม้ซีดาร์ หรือถ่านกัมมันต์ ประมาณพอเหมาะ ควรใช้ถ่านกัมมันต์ ไม่ควรใช้ถ่านอัดแท่ง ทั้งสองอย่างนี้จะช่วยดูดซับและลดกลิ่นควันลงได้ในเวลาสองถึงสามวัน
- เปลือกไม้ซีดาร์และถ่านกัมมันต์ สามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายสัตว์เลี้ยง และร้านขายของชำทั่วไป
- เปลือกไม้ซีดาร์อาจทิ้งกลิ่นเฉพาะตัวของมันเมื่อเสร็จกระบวนการ แต่กลิ่นเฉพาะตัวของมันนั้นสามารถกลบกลิ่นของควันได้
- ถ่านกัมมันต์สามารถดูดซับกลิ่นได้โดยไม่ทิ้งกลิ่นของถ่านเอาไว้ ควรใส่ถุงตาข่ายไว้เพื่อป้องกันถ่านเลอะหนังสือ ถ่านไม่จำเป็นต้องโดนหนังสือเพื่อดูดซับกลิ่น
-
ลองใช้เบคกิ้งโซดาดูสิ. ใส่หนังสือลงในถุงพลาสติกหรือกล่องและโรยเบคกิ้งโซดาลงไป หลังจากนั้นสองถึงสามวันให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเอาผงเบคกิ้งโซดาออก
- การใช้เบคกิ้งโซดาถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เนื่องจากเบคกิ้งโซดาไม่ทิ้งกลิ่นเฉพาะตัวเอาไว้เลย
โฆษณา
-
กำจัดกลิ่นควันด้วยเบคกิ้งโซดาและกระดาษหอม. ใส่เสื้อผ้าที่มีกลิ่นควันในถุงพลาสติก หลังจากนั้นใส่กระดาษหอม 2 แผ่นพร้อมกับเบคกิ้งโซดา 30 มิลลิลิตร ลงในถุงสำหรับเสื้อผ้าสามถึงห้าชิ้น
- ปิดถุงให้สนิทและเขย่าเพื่อให้เบคกิ้งโซดาและกระดาษหอมกระจายอย่างทั่วถึง
- ปล่อยทิ้งไว้หนึ่งคืน เมื่อคุนนำเสื้อผ้าออกจากถุง ให้สะบัดเอาเบคกิ้งโซดาออกจากเสื้อผ้า
- นำเสื้อผ้าไปซักให้สะอาดหลังจากการกำจัดกลิ่น
- วิธีการกำจัดกลิ่นนี้ มีส่วนช่วยมากเนื่องจากกลิ่นต่างๆ ที่ติดมาจะถูกดูดซับออกไปก่อนที่จะถึงกระบวนการซักโดยเครื่องซักผ้า
-
อีกวิธีหนึ่งคือการแช่ผ้าในน้ำส้มสายชู เบคกิ้งโซดา และน้ำเปล่า. ใส่เสื้อผ้าที่มีกลิ่นควันลงในถังซักผ้า ใส่น้ำในปริมาณพอเหมาะให้ท่วมเสื้อผ้า ใส่เบคกิ้งโซดา 250 มิลลิลิตร และ น้ำส้มสายชู 250 มิลลิลิตรลงไป
- แช่ผ้าไว้เป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งชั้วโมง
- ใส่ผงซักฟอกลงไปพอประมาณและทำการซักด้วยโปรแกรมปกติของเครื่องซักผ้า
- วิธีนี้มีประโยชน์มาก เนื่องจากเบคกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูมีส่วนช่วยอย่างมากในการลดกลิ่นไม่พึงประสงค์
-
ล้างถังเครื่องซักผ้าเมื่อเริ่มมีกลิ่น. หากคุณพบว่าถังซักผ้าของคุณเริ่มมีกลิ่นหลังจากการซักเสื้อผ้าที่มีกลิ่นควันไปหลายครั้ง คุณควรหาซื้อผงทำความสะอาดถังซักผ้าของคุณเพื่อแก้ไขปัญหา
- ใส่ผงทำความสะอาดถังซักผ้าตามจำนวนที่ระบุในแถบแนะนำการใช้
- ใช้โปรแกรมที่เพิ่มความร้อนให้ถังซักโดยอย่าใส่เสื้อผ้าลงในนั้น
-
ฉีดสเปรย์ดับกลิ่นลงบนเสื้อผ้าเพื่อการแก้ปัญหาที่รวดเร็ว. หากคุณมีความจำเป็นที่จะต้องกำจัดกลิ่นจากเสื้อผ้าของคุณชั่วคราวก่อนที่คุณจะซัก ลองใช้สเปรย์ฉีดดับกลิ่นลงบนเสื้อผ้าของคุณ
- ขอให้มั่นใจว่าคุณเลือกซื้อสเปรย์ที่ช่วยดับกลิ่นบนเสื้อผ้า ไม่ใช่สเปรย์ที่เพียงแค่เพิ่มกลิ่นหอมลงไปเพื่อดับกลิ่นเหม็น
โฆษณา
-
เปิดกระจกรถ. สิ่งที่ง่ายที่สุดที่คุณสามารถทำได้คือให้อากาศในรถได้ถ่ายเท ลดกระจกรถลงและเปิดค้างไว้ 1-2 ชั่วโมง เป็นเวลา 1-2 วัน
- หากเป็นไปได้ ควรเปิดประตูรถค้างไว้แทนที่จะเปิดแค่กระจกรถ วิธีนี้จะช่วยให้อากาศถ่ายเทดีที่สุด
- ลองใช้เครื่องดูดอากาศดูดอากาศออกจากรถของคุณ วิธีนี้จะช่วยให้อากาศถ่ายเทเร็วขึ้นและหากเป็นไปได้ควรเลือกทำให้วันที่มีลมแรง
- ห้ามเปิดพัดลมหากรถอยู่ในสถานที่ปิด เช่น ในโรงรถ เนื่องจากอาจทำให้เกิดสารคาร์บอนมอนอคไซด์ได้
-
ล้างรถ. ใช้น้ำยาเช็ดรถ เช็ดเบาและพื้นรถ ควรล้างภายในของรถตั้งแต่หลังคาจนถึงพื้นรถ
- ควรนำพรมรองพื้นออกและแยกล้างต่างหาก หากไม่สามารถกำจัดกลิ่นออกจากพรมได้ให้หาผืนใหม่มาเปลี่ยน
-
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาพิเศษ. [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ร้านขายอุปกรณ์รถยนต์บางร้านจะขายสารเคมีที่สามารถลบกลิ่นที่ฝังแน่นในตัวรถเช่น กลิ่นควันได้
- ปฏิบัติตามคำแนะนำการใช้อย่างเคร่งครัด
- ปล่อยให้อากาศถ่ายเทเป็นเวลา 1-2 วัน หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารแคมี เนื่องจากสารเคมีอาจตกค้างหลังการใช้
- ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเศษที่ตกค้างจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้
-
ลองใช้น้ำส้มสายชู ถ่าน ผงกาแฟ หรือเบคกิ้งโซดา. ถึงแม้ว่าสารเหล่านี้จะช่วยแค่กลบกลิ่นไม่ใช่กำจัดกลิ่น แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยใช้วิธีพวกนี้
- นำถ้วยน้ำส้มสายชู ผงกาแฟหรือ ถ่าน ใส่ทิ้งไว้ในรถค้างคืนไว้เป็นเวลา 1-2 วัน
- โรยผงเบคกิ้งโซดาลงภายในตัวรถ และทิ้งค้างคืนไว้ หลังจากนั้นใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออกในตอนเช้า
โฆษณา
-
เปิดหน้าต่าง. เปิดหน้าต่างทุกบานที่สามารถเปิดได้ เพื่อที่จะทำให้อากาสถ่ายเทให้ได้มากที่สุด กลิ่นไม่พึงประสงค์ก็จะถ่ายเทออกไปและกลิ่นสดชื่นภายนอกก็จะเข้ามาแทน
- ควรทำในวันที่มีลมพัดอ่อนๆ หรือสามารถใช้พัดลมเพดานหรือพัดลมอื่นๆ ในบ้านช่วยให้อากาศถ่ายเทได้
-
นำเฟอร์นิเจอร์ออกไปผึ่งแดด. นำเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถยกได้ออกไปผึ่งแดดเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง จะช่วยลดกลิ่นลงได้
- อากาศภายนอกสามารถช่วยลดกลิ่นควันได้
- แสงยูวีก็สามารถช่วยลดกลิ่นควันได้เช่นกัน
-
เปิดเครื่องฟอกอากาศภายในบ้าน. เครื่องฟอกอากาศจะดูดซับกลิ่นควันไปไว้ในไส้กรอกอย่างหมดจด ซึ่งมีตัวเลือกตามท้องตลาดมากมายในเลือกซื้อ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เครื่องฟอกอากาศ จะสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งดักจับกลิ่นและเก็บไว้ในแผงกรอง
- ตัวดักจับกลิ่นนั้นจะสร้างสนามไฟฟ้าที่ดักจับกลิ่น แต่ในขณะเดียวกันก็อาจทำให้เกิดฝุ่นละอองที่อาจจะรวมตัวกันและตกลงพื้น ให้กวาดหรือใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดภายหลัง
- HEPA Filter (Mechanical High Efficiency Particulate Air) จะช่วยดักจับอนุภาคไว้ในแผนกรองถ่าน เมื่อนำแผ่นกรองไปทำความสะอาดหรือเปลี่ยนแผ่นใหม่ จะทำให้กลิ่นหายไปอย่างถาวร
-
ทำความสะอาดส่วนต่างๆ ในบ้าน. การกำจัดกลิ่นจากอากาศและเฟอร์นิเจอร์ในบ้านอาจไม่เพียงพอ นี่คือสิ่งที่จำเป็นจะต้องทำความสะอาดเพื่อให้กลิ่นไม่พึงประสงค์หายไปตลอดกาล [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เช็ดกำแพงและผนังบ้าน ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ ไกลคอล(glycol) หรือ แอมโมเนีย(ammonia) เมื่อเช็ดทำความสะอาดเสร็จควรเปิดให้ห้องมีอากาศถ่ายเทสะดวกและยังไม่ควรให้เด็กหรือสัตวเลี้ยงเข้ามาภายในห้อง
- ทำความสะอาดพื้น พื้นทั่วไปสามารถใช้น้ำยาถูพื้นทำความสะอาดได้ปกติ แต่หากเป็นพรมจะต้องซักให้สะอาด ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพรมจึงมีความสำคัญเช่นกัน
- ล้างทำความสะอาดผ้าม่าน แช่ผ้าม่านลงในน้ำสบู่ผสมกับน้ำส้มสายชูประมาณ 500 มิลลิลิตร หรือมากกว่านั้นเพื่อความสะอาดยิ่งขึ้น หลังจากนั้นนำผ้าม่านลงเครื่องซักผ้าหรือส่งซักแห้งหากไม่สามารถซักแบบธรรมดาได้
- เช็ดหน้าต่างและกระจกภายในบ้าน ฉีดน้ำส้มสายชูลงบนพื้นผิวกระจกและเช็ดออกด้วยผ้านุ่ม
- เปลี่ยนหลอดไฟ กลิ่นควันมักจะก่อตัวบนพื้นผิวของหลอดไฟทั้งด้านในและด้านนอก เมื่อเปิดไฟจนเกิดความร้อนจะทำให้เกิดกลิ่นขึ้น
-
วางน้ำสมสายชูไว้ทั่วบริเวณบ้าน. เทน้ำส้มสายชูลงในถ้วยตื้นๆ ใบเล็กๆ และวางไว้ในจุดที่มักจะมีควันเกิดขึ้น ปล่อยให้น้ำสมสายชูระเหย
- วิธีนี้จะได้ผลดีที่สุดเมื่อปิดประตูแหละหน้าต่างทั้งหมด เพื่อไม่ให้อากาศถ่ายเท สารระเหยน้ำส้มสายชูจะได้ทำงานการเต็มที่
- คุณสามารถนำผ้าชุบน้ำส้มสายชูและเช็ดทำความสะอาดกำแพงได้เช่นกัน
-
ใช้เบคกิ้งโซดา. โรยผงเบคกิ้งโซดาลงบนเฟอร์นิเจอร์ พรม และ ผ้าหรือเบาะต่างๆ ทิ้งค้างคืนไว้ และใช้เครื่องดูดฝุ่นออกในวันถัดมา
- คุณสามารถใช้เบคกิ้งโซดาวางไว้ตามจุดต่างๆ แทนน้ำส้มสายชูได้เช่นกัน
-
ลองใช้ถ่านกัมมันต์. นำถ่านกัมมันต์ในชามวางไว้ในห้องที่มีควันเกิดขึ้นเพื่อดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์
- ข้อควรรู้ ถ่านกัมมันต์เป็นส่วนประกอบสำคัญของ HEPA filter อีกด้วย
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- ราวตากผ้า
- ถุงซิปล็อคหรือถุงพลาสติก
- เครื่องหอม
- เปลือกไม้ซีดาร์
- เบคกิ้งโซดา
- ถ่านกัมมันต์
- กระดาษหอม
- น้ำส้มสายชู
- ชาม
- เครื่องซักผ้า
- ผงทำความสะอาดถังซัก
- สเปรย์ดับกลิ่น
- ผงซักฟอก
- แชมพูทำความสะอาดรถยนต์
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดกลิ่นชนิดพิเศษ
- ผงกาแฟ
- พัดลม
- เครื่องฟอกอากาศ
- ผ้านุ่ม
- แชมพูทำความสะอาดพรม
- น้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของไกลคอล(glycol) หรือ แอมโมเนี่ย(ammonia)
- หลอดไฟ
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.loveromancepassion.com/books-reek-of-smoke-stench-try-these-tips-to-get-rid-of-odor/
- ↑ http://www.cheapautoinsurance.org/top-ways-to-get-rid-of-cigarette-smoke-smell-in-your-car/
- ↑ http://gizmodo.com/5978424/how-to-live-with-a-smoker-without-smelling-like-one
- ↑ http://momsownwords.com/22683/tips-and-tricks-for-getting-rid-of-that-nasty-cigarette-smell/
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 11,565 ครั้ง
โฆษณา