ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ชอบดื่มชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ชอบดื่มชาเขียวนั้น จะลดน้ำหนักได้ไวกว่าคนที่ไม่ได้ดื่ม งั้นก็ได้เวลาโยนกระเป๋าใส่ชุดกีฬาทิ้งแล้วหันมาหิ้วกระติกชาแทนแล้วล่ะสิ! นี่คือวิธีรวบรัดถึงการลดน้ำหนักด้วยน้ำชา

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

ภาพรวมว่าเหตุใดชาถึงช่วยลดน้ำหนักได้

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลือกชาโดยยึดเอาประสิทธิภาพของมันและความชอบของคุณ. เป็นการดีที่สุดถ้าจะเลือกชาที่คุณชอบดื่ม แต่คุณควรทราบไว้ก่อนว่าชาบางชนิดมีประสิทธิภาพในการช่วยลดน้ำหนักได้ดีกว่าชนิดอื่น [1]
    มีประสิทธิภาพสูงสุด: ชาเขียว, ชาขาว, หรือชาอู่หลง
    มีประสิทธิภาพปานกลาง: ชาดำ
    มีประสิทธิภาพต่ำ: ชาปลอดคาเฟอีนและชาสมุนไพร
    ดื่มมากแล้วเป็นอันตราย: ชาหวานทั้งหลาย, ชาลดความอ้วน
  2. หาทางที่จะสร้างพฤติกรรมการดื่มชาเพื่อสุขภาพจะทำได้ง่ายที่สุดถ้าคุณทำให้ “เวลาพักดื่มชา” กลายเป็นสิ่งที่ต้องทำประจำ ดื่มชาหนึ่งแก้วในตอนเช้าและอีกแก้วในตอนบ่าย จากนั้นดื่มชาไร้คาเฟอีนหรือชาสมุนไพรก่อนเข้านอน เพราะมันยังมีประสิทธิผลโดยไม่มีคาเฟอีนเจือปน
    • ดื่มชาแทนกาแฟในตอนเช้า
    • ต้มชาไว้ล่วงหน้าและนำไปแช่เย็นเพื่อจะทำเป็นชาเย็นในวันที่อากาศร้อน [2]
  3. ครีมกับน้ำตาลจะทำลายคุณประโยชน์ของการลดน้ำหนักที่คุณจะได้จากการดื่มชาไปจนหมด คุณจำต้องดื่มชาโดยไม่เติมอะไรอีกให้เคยชิน
  4. ชาเป็นวิธีที่ดีในการช่วยควบคุมระบบเผาผลาญอาหาร แต่ถ้าจะให้ได้ผลที่ดีที่สุด ให้เริ่มใช้ชาเมื่อใดก็ตามที่คุณเกิดความรู้สึกอยากอะไรหวานๆ หรืออะไรที่ไม่ดีต่อสุขภาพ แค่ชาอุ่นๆ สักแก้วก็เพียงพอให้อยู่ท้องและสะกดสิ่งล่อใจไว้ได้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

เลือกชาและอุปกรณ์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แม้การศึกษามากมายจะเน้นไปที่ชาเขียว แต่มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องหาชาที่คุณชอบดื่ม (จะชาเขียวหรือชาตัวอื่นก็ได้) ชาเขียวบางตัวมีรสชาติเข้มข้นมากเสียจนอาจไม่ถูกลิ้นคุณ บางตัวก็รสชาติกำลังดีจนถูกปากแม้ผู้เริ่มหัดดื่มชาเขียว
    ชาเขียวและชาขาว:
    ใบชาที่ผ่านกระบวนการแปรรูปเพียงเล็กน้อยคือแค่นึ่ง มีให้เลือกหลายชนิดและรสชาติ
    ชาดำ:
    ใบชาเหล่านี้จะผ่านกรรมวิธีแปรรูปค่อนข้างมากคือทั้งบ่มและอบ ซึ่งจะเปลี่ยนสารเคมีที่มีประโยชน์ (สารธีอะฟลาวินส์ - theaflavins และสารธีอะรูบิจินส์ - thearubigins) ให้อยู่ในรูปเชิงซ้อน ซึ่งแม้สารนั้นจะยังคงอยู่ แต่ก็ให้ผลน้อยลง [3]
    อู่หลง:
    ชาที่ผ่านการบ่มและนึ่งมาอย่างพิเศษซึ่งช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกายได้ดีกว่าชาเขียวเสียด้วยซ้ำ
    ชาปลอดคาเฟอีน:
    คือชาที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด แต่ถูกสกัดเอาคาเฟอีนบางส่วนออกไป คาเฟอีนมีประโยชน์ต่อการลดน้ำหนักบ้างก็จริง แต่ชาแบบนี้ก็ยังพอมีสารอื่นที่มีประโยชน์อยู่เช่นกัน
    ชาสมุนไพร:
    การบ่มชาจากพืชใดๆ ที่ไม่ใช่ต้นชาดั้งเดิม ส่วนใหญ่จะได้ผลน้อยกว่า แต่ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับดื่มแทนที่เครื่องดื่มแคลอรี่สูงอื่นๆ
  2. ชาลดความอ้วนถึงจะมีรสชาติไม่ต่างไปจากชาดำและชาสมุนไพรหลายๆ ตัว แต่ชาลดความอ้วนอาจ
    ใช้ด้วยความระมัดระวังเพิ่มขึ้นหากชานั้นมีส่วนผสมของมะขามแขก (senna), ว่านหางจระเข้ (aloe), ไม้กฤษณา(agarwood), รากต้นรูบาร์บ (rhubarb), บัคธอร์น (buckthorn), หรือน้ำมันละหุ่ง (castor oil)
    มีส่วนผสมของยาระบาย คุณจึงควรดื่มชาเหล่านี้ ในปริมาณแต่พอดี ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวเตือนการดื่มชาลดความอ้วนมากเกินไปเพราะคุณอาจเกิดอาเจียน, คลื่นไส้, ท้องเสียต่อเนื่อง, ปวดเกร็งท้อง และอาจถึงขั้นเป็นลมและขาดน้ำได้
    • แนวคิดของชา "ลดความอ้วน" นั้นดูเหมือนเป็นการโฆษณาอย่างผิดๆ เพราะชาจากธรรมชาติแบบไม่เติมหวานแบบไหนๆ ก็ช่วยในการลดน้ำหนักทั้งนั้น ชาบางตัวอาจมีคุณสมบัติเป็นยาระบายอ่อนๆ หรือเป็นตัวบล็อกไขมัน มันจึงถูกทำการตลาดไปในรูปแบบนั้น อย่างไรก็ดี ยาระบายนั้นทำหน้าที่แค่ระบายของเสียในลำไส้ (คุณบริโภคแคลอรี่เข้าไปแล้ว) คุณอาจสูญเสียน้ำหนักของน้ำในตัวไปเล็กน้อยในตอนแรก แต่พอคุณดื่มน้ำอะไรลงไป มันก็กลับมาเหมือนเดิม
    • แก้วเดียวก็พอแล้ว พูดจริงนะ ถ้าดื่มเยอะกว่านั้นแล้วคุณจะเสียใจ
  3. ในตลาดมีชามากมายหลายชนิดจนยากที่จะรู้ได้ว่าต้องเริ่มที่ตัวไหน ทางที่ดีจึงควรอ่านฉลากของส่วนประกอบตรงด้านหลังกล่อง ถ้าหากมันเติมน้ำตาลหรือสารให้ความหวาน ก็เอาไปเก็บไว้บนชั้นเหมือนเดิม [4]
    • แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าให้คุณหลีกเลี่ยงชาเขียวที่มีรสชาติ แน่นอน บางยี่ห้ออาจเติมน้ำตาล แต่ก็มีหลายยี่ห้อที่ไม่ทำเช่นนั้น และถ้าคุณยึดว่าต้องใช้ส่วนประกอบตามธรรมชาติทั้งหมดแล้วนั้น ก็จะยิ่งดีกับตัวคุณและรอบเอวของคุณ
  4. อุปสรรคอย่างหนึ่งที่บางคนอาจต้องพบคือการชงชา ถึงมันจะไม่ใช่กระบวนการที่ยุ่งยากซับซ้อนอะไร แต่ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด คุณอาจชงชาในเตาอบไมโครเวฟ (รินน้ำใส่ถ้วยแก้วเซรามิคและอุ่นสองนาทีจนมันเดือด จากนั้นก็แช่ถุงชา) แต่ยังมีกระบวนการที่ง่ายกว่านั้นอีก:
    • หาซื้อกาต้มน้ำชาไฟฟ้า กาต้มน้ำชาไฟฟ้านั้นมีวางขายตามร้านขายอุปกรณ์เครื่องครัวทั่วไป มีความแตกต่างในเรื่องราคาและใช้งานได้ง่ายสุดๆ ที่คุณต้องทำก็แค่เติมน้ำให้เต็มแล้วกดปุ่มรอมันเดือด คุณสามารถชงชาเป็นแก้ว หรือจะหย่อนถุงชาหลายๆ ถุงลงไปแช่ในกาหลังจากที่น้ำเดือดก็ได้ อีกทีก็เอาไปใส่ในกระติกน้ำร้อน เติมน้ำและใส่ชาเขียวลงไป จะพกติดตัวหรือนำไปวางบนโต๊ะก็ทำให้คุณมีชาสำหรับดื่มทุกเมื่อที่ต้องการ
    • หาซื้อเครื่องทำชาเย็น ระหว่างหน้าร้อน การดื่มชาร้อนคงฟังดูไม่ชวนเรียกความสดชื่นสักเท่าไหร่ ทว่าคุณยังสามารถบริโภคชาได้เท่าเดิมโดยใช้เครื่องทำชาเย็นมาเป็นตัวช่วย ก็เหมือนกาต้มน้ำชาไฟฟ้า แค่เติมน้ำเติมน้ำแข็ง (ตามคำแนะนำของผู้ผลิตแต่ละราย) และถุงชา กดเปิดเครื่องและได้ชาเย็นพร้อมดื่มในอีกไม่กี่นาทีต่อมา
    • ชงชาเย็นในคืนก่อนหน้าเพื่อมีชาพร้อมดื่มเสร็จสรรพในระหว่างวัน ถ้าคุณไม่มีเวลาจะชงชาเย็นในวันนั้น ทำมันให้เสร็จในตอนกลางคืนแล้วเอาใส่เหยือกไปแช่ในตู้เย็น แทนที่จะดื่มน้ำอัดลม ลองคิดเอาชาเย็นใส่ในกระติกน้ำร้อนพกติดตัวตลอดทั้งวันดีกว่า
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ฝึกให้เป็นกิจวัตรประจำวัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เพื่อที่จะได้รับประโยชน์ของชา คุณต้องเริ่มดื่มมันทุกวัน
    อย่าเติมครีม, นม, หรือน้ำตาลลงไปในชาถ้ากำลังพยายามจะลดน้ำหนัก
    ดื่มชาธรรมดาให้บ่อยเท่าที่ทำได้ ฟังดูทั้งไม่ง่ายทั้งไม่อร่อยทั้งไม่สะดวก เห็นทีคงยากจะทำตามได้ งั้นคุณจะปรับตัวให้ดื่มมันได้บ่อยขึ้นอย่างไร?
    • การมี "อุปกรณ์ดื่มชา" เป็นวิธีเริ่มต้นที่ง่ายที่สุด หากคุณใช้เวลา 8 ชั่วโมงในออฟฟิศ เป็นความคิดที่ดีถ้าจะเก็บอุปกรณ์ดื่มชาไว้ที่นั่นด้วย ทั้งแก้วโปรด (หรือเป็นกระติก) และเตาไมโครเวฟหรือกาต้มน้ำชา
    • ถามคนอังกฤษสักคนดูก็ได้ ชานั้นเป็นเครื่องดื่มสำหรับสังสรรค์ หากการต้มชาทั้งหม้อดูไร้ค่าสำหรับคุณ ให้หาคนอื่นมาร่วมดื่มด้วยกัน ในที่ทำงานก็ชงชาสักหม้อเผื่อคนอื่น หาสมาชิกในครอบครัวหรือรูมเมตมาดื่มชาก่อนนอนสักแก้วให้เป็นกิจวัตร เมื่อมันกลายเป็นกิจกรรมเข้าสังคม คุณก็จะอยากมีส่วนร่วมมากขึ้น
  2. เริ่มต้นของวันด้วยชาสักแก้วแทนที่จะเป็นกาแฟอย่างเดิม คนดื่มชานั้นจะได้แคลอรี่น้อยกว่า โดยเฉพาะเวลาที่สั่งตามร้านกาแฟ ซึ่งบางร้านชงกาแฟมาชนิดมีแคลอรี่แฝงมาสูงปรี๊ด ในขณะที่คุณเห็นชายังไงคุณก็ได้มาเท่านั้น
    • อย่างที่เอ่ยไว้ในตอนต้น เป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องดื่มชาโดยตรง การเติมนมจะทำให้ความสามารถในการดักจับไขมันของชา (สารฟลาโวนอยด์) มีสภาพเป็นกลาง ยิ่งไปกว่านั้น การวิจัยชี้ว่า นมพร่องมันเนยนั้นมันแย่สุดๆ! [5] ฟังดูบ้าบอดี ว่าไหม?
      • บทวิจัยนี้ใช้นม วัว ถ้าคุณอยากลองนมถั่วเหลืองหรือนมชนิดอื่น ก็ลองทำดู แต่จำไว้ว่าอาจได้ผลอย่างเดียวกันหรือไม่ก็เป็นได้
  3. สั่งชาเย็น (แบบไม่เติมหวาน) แทนที่จะสั่งน้ำอัดลมในมื้อเที่ยงและมื้อค่ำ. น้ำอัดลมไม่ว่าจะแบบปกติหรือแบบไดเอทต่างก็เป็นที่ทราบกันดีว่ามันเป็นขั้วตรงข้ามของการลดน้ำหนักเลย โซเดียมในน้ำอัดลมแบบไดเอทนั้นทำให้ร่างกายต้องกักเก็บน้ำไว้ ฉะนั้นพิจารณาตัวเลือกที่ฉลาดกว่า นั่นคือชาเย็นแบบปราศจากน้ำตาล ชาเย็นนั้นเหมาะสมอย่างยิ่งเนื่องจากถ้าคุณกำลังมองหาคาเฟอีนสักเล็กน้อยมาปลุกร่างกายในตอนบ่าย ชาเย็น (หรือชาร้อน) จะให้ผลไม่ต่างกันโดยไม่ต้องมีน้ำตาลในน้ำอัดลมหรือโซเดียมในน้ำอัดลมแบบไดเอทบวกพ่วงเข้ามา
    • "พลัง" ส่วนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังการดื่มชาเพื่อลดน้ำหนักก็คือคุณจะไม่คิดอยากดื่มอะไรแทน ชานั้นมีแคลอรี่ต่ำ (ถ้าคุณดื่มถูกวิธี) และไม่ทำให้คุณโหยหาเครื่องดื่มที่มากด้วยแคลอรี่ มันเป็นแนวคิดแบบเดียวกับการลดน้ำหนักด้วยการดื่มน้ำ
  4. ดื่มชาอุ่นๆ สักแก้วเพื่อลดความโหยของหวานในยามบ่าย. ถึงแม้น้ำอัดลมในตู้แช่หยอดเหรียญจะร่ำร้องเรียกหาชื่อคุณ ให้คุณไปดื่มชาสักแก้วแทน ถ้าคุณเลือกดื่มชา คุณสมบัติของสารสกัดชาเขียว (EGCG) ที่พบในชาเขียวนั้นมีผลต่อการลดระดับน้ำตาลกลูโคส ซึ่งเป็นตัวก่อให้เกิดอาการโหยของหวานและยังอาจช่วยควบคุมอาการหิวอีกด้วย
    • ยิ่งไปกว่านั้น พิธีกรรมของการชงชา (ซึ่งตรงกันข้ามกับการหยอดเหรียญลงในตู้แช่) จะช่วยให้คุณได้พักจากงานที่ทำเป็นประจำ ให้คุณได้มีเวลาคิดในสิ่งดีๆ เหมือนอย่างที่ได้เลือกนำสิ่งดีๆ เข้าสู่ร่างกายแทนที่จะเอาแคลอรี่สูงลิ่วจากน้ำอัดลมลงไปแทน หาเวลาสักนิดสนทนากับคนที่อยู่ในร้านน้ำชาด้วยกัน มันเป็นวิธีที่ได้ทั้งผ่อนคลายทั้งเข้าสังคมภายในช่วงเวลาแค่ห้านาทีเท่านั้นเอง!
  5. การดื่มชาเย็นสักแก้วก่อนมื้อค่ำจะไปหลอกท้องให้คุณรู้สึกหิวน้อยลงเมื่อได้เวลาอาหาร (แน่ละ การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพก็ยังมีความสำคัญ) ชาเย็นก็มีความสำคัญเช่นกัน ชาเย็นนั้นทำให้ร่างกายจำเป็นต้องเพิ่มความร้อนนำมาใช้เผาผลาญ มันต้องพึ่งพาแคลอรี่ในการทำเช่นนั้น ซึ่งก็หมายถึงน้ำหนักที่ลดลงอีก
  6. ดื่มชาสมุนไพร ( แบบปลอดคาเฟอีน ) สักแก้วก่อนนอน. ไม่ว่าคุณจะตั้งเป้าลดน้ำหนักไว้ที่กี่กิโล การดื่มชาสมุนไพรก่อนนอนจะช่วยให้ร่างกายและสมองได้ผ่อนคลาย เนื่องจากการนอนหลับสนิทมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก จึงควรจัดแจงให้ร่างกายได้หลับเต็มอิ่มด้วยน้ำชา
    • อย่างไรก็ตาม อย่าดื่มชาใกล้เวลานอนมากเกินไป ไม่งั้นคุณอาจต้องลุกตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำกลางดึกและรบกวนการนอนไป โดยเฉพาะถ้าคุณกำลังตั้งครรภ์หรือมีปัญหาเรื่องกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
  7. ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าชาแต่ละชนิดต้องดื่มในเวลาที่ต่างกันเพื่อให้ได้ประสิทธิผลในการลดน้ำหนักสูงสุด ดังนั้นแม้การดื่มชา “อะไรก็ได้” ก็ดีแล้ว แต่ลองพิจารณาเลือกดื่มชาต่างชนิดกันตลอดทั้งวันเพื่อดูว่าอย่างไหนได้ผลกับคุณ
    • ชาขาวอาจไปบล็อกการดูดซึมไขมัน ฉะนั้นให้ดื่มก่อนมื้อเที่ยง
    • ชาบิลเบอร์รี่สามารถสร้างสมดุลให้กับระดับน้ำตาลในเลือด จึงมีประโยชน์ที่สุดในตอนมื้อค่ำ
    • ชาผู่เอ๋อ, ชาเขียว, และชาอู่หลงสามารถกระตุ้นระบบเผาผลาญอาหาร จึงควรดื่มในตอนเช้า (และตลอดทั้งวัน!) [6]
  8. ทุกวันนี้เวลาในชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่หมดไปกับการเดินทางสักรูปแบบหนึ่ง ทำให้มันดูมีความสุนทรีย์ขึ้นโดยการเปลี่ยนมันเป็นโอกาสที่จะนั่งลงจิบชาดูสิ! พกกระติกติดตัวไปทุกเวลาเพื่อความสะดวกสุดๆ เตรียมชาไว้ก่อนล่วงหน้าสำหรับการจิบไปตลอดทั้งวัน
    • ว่ากันตรงๆ แกนหลักของบทความนี้คือ การดื่ม, ดื่ม, และก็ดื่ม ไม่เพียงแต่คุณจะไม่มีโอกาสได้หาอะไรอย่างอื่นใส่ท้องแล้ว แต่คุณยังไม่รู้สึกอยากอีกต่างหาก ยิ่งดื่มมาก ก็ยิ่งรู้สึกอิ่ม
  9. ชาแต่ละตัวล้วนมีคาเฟอีนกันทั้งนั้น แน่นอนว่ามันมีไม่เท่ากาแฟหรอก แต่ถ้าคุณเล่นดื่มแบบ 24 ชั่วโมงทั้ง 7 วัน มันก็เยอะนา! แม้ลำพังตัวคาเฟอีนจะไม่ได้ทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ แต่ชาก็มีคาเฟอีนอยู่ราว 50 มก, ต่อแก้ว ถ้าเลี่ยงได้ ก็อย่าดื่มให้เกิน 300 มก, ก็แล้วกัน [7]
    • ถ้าตัวคุณมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อคาเฟอีนไวกว่าคนอื่น ให้ดื่มแต่ชาสมุนไพรที่ไม่มีคาเฟอีนเท่านั้นพอ แม้ในคนส่วนใหญ่จะไม่มีปัญหาอะไร แต่คนที่ไวต่อฤทธิ์คาเฟอีนนั้น หากดื่มคาเฟอีนในระดับสูง ก็อาจเกิดอาการนอนไม่หลับ, กระสับกระส่าย, และมีอาการต่อเนื่องได้นานหลายชั่วโมงเลยทีเดียว [7]
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

ใช้ชารักษาแรงบันดาลใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สร้างสมดุลพฤติกรรมการดื่มชาของคุณด้วยอาหารเพื่อสุขภาพ. ขอพูดกันตามความจริงหน่อยเหอะ: ถ้าคุณไม่เห็นผลจากแผนการลดน้ำหนักไวๆ คุณก็ไม่คิดจะทำต่อกันใช่ไหม แม้การดื่มชาจะเป็นความคิดที่ดี แต่คุณจะเห็นผลของมันไวขึ้นถ้ารับประทานอาหารเพื่อสุขภาพควบคู่ไปด้วยรวมกันสองอย่างนี้แล้วรับรองว่าคุณจะหาข้อแก้ตัวไม่ได้อีก!
    • คุณรู้ไหมว่าชาเหมาะจะทานคู่กับอะไรบ้าง? ธัญพืชไม่ขัดสี, ผลไม้, ผัก, และผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำทั้งหลายไง เนื่องจากไหนๆ คุณก็ชงชาดื่มเองอยู่แล้ว ทำไมไม่ลองทำอาหารเองเสียด้วยล่ะ? คุณจะได้ตัดพวกอาหารแปรรูปออกไปเลยและการได้ทำเองก็จะทำให้ได้รู้ว่าคุณเอาอะไรใส่เข้าร่างตัวเองบ้าง
  2. ต่อมรับรสของคุณอาจเบื่อที่จะดื่มชาอยู่เพียงชนิดเดียว คุณเองก็คงไม่อยากกินอะไรซ้ำๆ กันทุกมื้อใช่ไหมล่ะ? เพื่อที่จะได้ดื่มชาจนเป็นนิสัย ก็หาทางผสมมันหรือลองชาชนิดอื่นๆ ที่ให้รสชาติและความรู้สึกต่างกันออกไป การออกไปหาซื้อชามาติดบ้านหรือโต๊ะทำงานก็เป็นเรื่องน่าสนุกไม่หยอกโดยการเลือกชาตามแต่อารมณ์ที่คุณรู้สึกอยู่ในขณะนั้น
    • เติมน้ำผึ้งหรือแท่งอมยิ้มคู่กับชาได้ แต่เตือนตัวเองก่อนว่าการทำเช่นนี้นั้นมันขัดกับจุดประสงค์ที่จะลดน้ำหนัก แต่น้ำผึ้งและน้ำตาลสักเล็กน้อยก็พอทำให้ชามีรสดีขึ้น บางทีถ้าทำเฉพาะในวาระพิเศษ ก็ไม่ถือว่าเสียหายอะไร
    • ลองเติมครีมปราศจากไขมันหรือบีบมะนาวสักซีกเพื่อได้ชาที่สดชื่นขึ้น มะนาวเลมอนสักซีกช่วยเพิ่มรสชาติชา อีกทั้งการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าคนที่ดื่มชาดำกับเปลือกเลมอนสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งผิวหนังได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ [8]
  3. ไม่มีอะไรมาเป็นข้อจำกัดการลองชารสชาติใหม่ๆ มันมีชาหลายยี่ห้อจากหลายแหล่งจนคุณคงไม่มีทางลองดื่มมันได้ครบ การเรียนรู้พันธุ์ชากับรสชาติและสไตล์ที่หลากหลายนับว่าเป็นความสนุกอย่างหนึ่งของคนรักชาเลยล่ะ
    • นี่คือตัวอย่างชาที่น่าสนใจให้ลองพิจารณาดู ทั้งหมดนี้ล้วนมีคนอ้างว่าใช้ลดน้ำหนักได้: [9]
      • ชาโป๊ยกั๊ก: บำรุงระบบย่อยอาหารและสามารถบรรเทาอาการปวดท้องได้
      • ชาเปปเปอร์มินต์: ควบคุมความอยากอาหารและช่วยเร่งการย่อยอาหาร
      • ชากุหลาบ: ป้องกันอาการท้องผูกและอุดมไปด้วยวิตามิน
      • ชาผู่เอ๋อ: ทำให้เซลล์ไขมันหดตัวลง (ดังนั้นจึงควรดื่มในตอนเช้า) [6]
      • ชาจากต้นชิควีด: ลดอาการบวมน้ำและมีคุณสมบัติเป็นยาขับปัสสาวะอ่อนๆ (ดื่มเพียงแก้วเดียวเท่านั้น)
    • เพื่อที่จะยึดอยู่กับเป้าหมายลดน้ำหนัก ให้เลือกชาที่คุณชงเองแทนที่จะซื้อชาชงสำเร็จรูป พวกชาหรือกาแฟอย่างหลังนี้บางทีใช้น้ำตาลมหาศาล ซึ่งไม่ดีต่อการลดน้ำหนักเลย
  4. การลดน้ำหนักก็คือการเอาชนะความต้องการของจิตใจคุณที่โหยหาอาหารหรือรู้สึกอดอยาก การมีสัมมาสติสามารถช่วยเตือนสติในเรื่องพฤติกรรมการกินและช่วยให้คุณยังคงสงบนิ่งและควบคุมการเลือกรับประทานอาหารไว้ได้ แม้กระทั่งถึงคุณจะไม่รู้สึกอยากดื่มชา ก็ขอให้พกมันติดตัวเพื่อลดความอยากอาหารลง
    • ศึกษาบทความเกี่ยวกับพิธีการชงชาและดื่มชาดู ผู้คนดื่มชากันมานานนับพันปีก็ต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่างสิน่า!
    • ทำสมาธิระหว่างดื่มชา ชากับการทำสมาธิเนี่ยนะ? คุณเคยหลุดคำว่า "ฉันชักจะรู้สึกผ่อนคลายสบายเกินไปแล้วหรือเปล่าเนี่ย?" บ้างไหม อืม คุณกำลังจะได้พูดประโยคนี้แล้วละ
  5. จากการศึกษาโดยอับดุล ดัลลูจากคณะสรีรวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยไฟรบูร์กในประเทศสวิตเซอร์แลนด์พบว่า สารสกัด EGCG ที่พบในชาเขียว รวมไปถึงคาเฟอีน สามารถเพิ่มกระบวนการสร้างความร้อนในร่างกาย (thermogenesis) ได้ถึง 84 เปอร์เซ็นต์ กระบวนการสร้างความร้อนในร่างกายคือการเพิ่มความร้อนในร่างกายที่เกิดขึ้นอันเป็นผลมาจากการย่อย, การดูดซึม, และการเผาผลาญอาหาร ชาเขียวยังเพิ่มระดับของนอร์เอพิเนฟริน (norepinephrine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทให้ร่างกายได้เผาผลาญไขมันสำหรับปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อตกอยู่ในอันตราย อย่าลืมว่าความรู้นั้นคืออำนาจ! และมันก็สร้างแรงกระตุ้นด้วย! [10]
    • แม้ไม่ใช่นักวิจัยทุกคนจะเห็นพ้องว่าการดื่มชาเขียว (หรือชาอื่นๆ) จะเป็น “กุญแจวิเศษ” สำหรับการลดน้ำหนัก แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนักทุกคนล้วนยอมรับว่าการดื่มน้ำหรือดื่มชาเข้าสู่ร่างกายมากๆ ย่อมดีกว่าการดื่มน้ำอัดลมซัดของหวานเป็นแน่ และมันยังช่วยกระบวนการย่อยอาหารได้ดีขึ้นและบางทีอาจทำให้คุณละความสนใจอยากกินขนมขบเคี้ยวที่คงไม่ดีต่อสุขภาพเท่าไหร่ เอาเป็นว่าจะมหัศจรรย์หรือไม่มหัศจรรย์ก็ไม่รู้ รู้แค่นี่คือความคิดที่ดีก็พอ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • การดื่มชาเขียว 3-5 แก้วต่อวันสามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้ราว 50-100 แคลอรี่
  • เฝ้าระวังเรื่องอาหารด้วยเพื่อผลที่เร็วขึ้น
  • ชาหลายตัวมีคุณประโยชน์หลากหลาย รวมไปถึงการป้องกันหัวใจ, ป้องกันฟันผุ, ยกระดับจิตใจ, ปกป้องคุณจากโรคภัยนานา ฯลฯ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องอ่านคำแนะนำในชาที่คุณเลือก เพราะประโยชน์ที่แตกต่างกันไป
  • การดื่มชาร้อน/อุ่นจะไม่ช่วยลดการย่อยอาหารให้ช้าลงเหมือนที่ชาเย็นทำได้
  • ยึดอยู่กับการลดน้ำหนักโดยดื่มชาเปล่าๆ หรือไม่ก็เติมนมปราศจากไขมันและน้ำตาลเทียม
  • นักวิจัยจากศูนย์แพทย์แห่งมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์แนะนำว่า การดื่มชาเขียวสองถึงสามแก้วต่อวันมีผลทำให้สุขภาพดีขึ้นและลดน้ำหนักลงได้ [11]
  • คุณสามารถลดน้ำหนักได้ราว 1 กิโลกรัมในหนึ่งสัปดาห์โดยการดื่มชาเขียวสามครั้งต่อวัน
โฆษณา

คำเตือน

  • การดื่มชามากจนเกินไปจะมีผลต่อการดูดซึมธาตุเหล็กของร่างกาย
  • คาเฟอีนสามารถทำให้นอนไม่หลับ อย่าดื่มหรือรับประทานคาเฟอีนภายในสามชั่วโมงก่อนเข้านอน
  • การดื่มชามากเกินไปอาจทำให้ฟันมีคราบ เตรียมตัวใช้ยาสีฟันแบบฟอกฟันขาวได้เลยหากยังอยากยิ้มอวดฟันขาวอยู่
  • ถ้าคุณเป็นคนนอนหลับยากอยู่แล้ว ให้หลีกเลี่ยงคาเฟอีนหลังสี่โมงเย็นเป็นต้นไป รวมไปถึงให้ดื่มชาเพียงวันละแก้วก็พอ
  • ชาจะยังคงความสดใหม่เพียงแค่ช่วงระยะสั้นๆ หลีกเลี่ยงการดื่มชาเก่าค้างและหมุนเวียนชามาชงดื่มเพื่อให้แน่ใจว่าได้ดื่มชาเก่าก่อนชาที่เพิ่งซื้อมาใหม่ การซื้อชาเก็บให้น้อยลงก็เป็นอีกทางที่ทำให้มั่นใจว่าจะไม่เจอชาเก่าเก็บ
  • หากคุณกลายเป็นคนที่ใส่ใจอยากรู้เรื่องชา พื้นที่ในการเก็บชาจะกลายเป็นเรื่องสำคัญ หาพื้นที่ในครัวหรือชั้นวางและเก็บเท่าที่มีพื้นที่ก็พอ
  • จากการที่มีแผนการควบคุมอาหารและออกกำลังกายใหม่ๆ ออกมาอยู่เรื่อยๆ จึงควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ก่อน คนแต่ละคนต่างมีความต้องการต่างกันไป คุณจึงต้องรับผิดชอบในการหาแนวทางเฮพาะสำหรับตัวคุณ
  • ชาสมุนไพรบางตัวอาจมีอันตรายต่อคนบางคน ต้องให้มั่นใจว่าคุณรับรู้ว่ามีอะไรเป็นส่วนผสมในชาตัวนั้นบ้าง หลีกเลี่ยงชาที่มีส่วนผสมของคอมเฟรย์ (comfrey) ซึ่งมีสารไพโรลิซิดีน อัลคาลอยด์ อันอาจเป็นอันตรายต่อตับ การบริโภคดอกคอมเฟรย์เป็นเรื่องต้องห้ามในหลายๆ ประเทศ
  • การดื่มชามากกว่าสามแก้วต่อวันอาจก่อให้เกิดปัญหาด้านฟันและการนอนได้
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ชาหลากหลายชนิด
  • อุปกรณ์ดื่มชา
  1. Susanna Lyle, Eat Smart, Stay Well , p. 271, (2009), ISBN 978-1-86953-733-3
  2. http://www.umm.edu/altmed/articles/green-tea-000255.htm
  3. http://www.webmd.com/diet/news/20000322/drinking-green-tea-may-help-you-lose-weight – research source
  4. Susanna Lyle, Eat Smart, Stay Well , (2009), ISBN 978-1-86953-733-3 – research source
  5. http://nutrihealth.in/food/curb-cravings-with-green-tea-helps-the-body-burn-fat/ – research source
  6. http://www.guardiannutrition.in/weight-management-fat-burners-c-24_59.html - products

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 124,230 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา