ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แบตเตอรี่รถยนต์เป็นแบตเตอรี่ชนิดชาร์จไฟซึ่งทำหน้าที่จ่ายกำลังไฟให้กับรถของคุณ เดิมทีเราเรียกแบตเตอรี่ชนิดนี้ว่า SLI ซึ่งย่อมาจาก “Start / สตาร์ท”, “Lighting / ติดไฟ” และ “Ignition / จุดระเบิด” โดยหน้าที่หลักของอุปกรณ์ชนิดนี้คือการสตาร์ทเครื่องยนต์นั่นเอง เมื่อเครื่องยนต์ทำงาน ไดชาร์ทจะจ่ายกำลังไฟให้กับรถ โดยทั่วไป การสตาร์ทรถจะทำให้ประจุไฟฟ้าลดลงไม่ถึงร้อยละ 3 ของความจุแบตเตอรี่ แบตเตอรี่ชนิด SLI ได้รับออกแบบมาให้ปล่อยกระแสไฟฟ้าสูงเพียงชั่วครู่ (วัดค่าได้เป็นแอมแปร์) จากนั้นแบตเตอรี่จะได้รับการชาร์จอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี แบตเตอรี่รถไม่ได้รับออกแบบมาให้จ่ายประจุสูงต่อเนื่อง นอกจากนี้ การใช้แบตเตอรี่จนหมดประจุยังอาจทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานน้อยลง

  1. Watermark wikiHow to ถอดขั้วแบตเตอรี่รถยนต์
    ปฏิบัติตามข้อควรระวังที่จำเป็นก่อนลงมือถอดขั้วแบตเตอรี่. นอกจากแบตเตอรี่จะมีกระแสไฟฟ้าที่อาจทำให้เกิดการช็อตได้แล้ว ภายในแบตเตอรี่ยังมีสารกัดกร่อนที่อาจทำให้เกิดก๊าซติดไฟ คุณจึงควรปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้ทุกครั้งก่อนที่จะถอดขั้วแบตเตอรี่เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง
    • ดับเครื่องยนต์
    • สวมแว่นตาและถุงมือป้องกันเพื่อปกป้องดวงตาและมือของคุณ
  2. โดยทั่วไป ขั้วลบของแบตเตอรี่จะมีฝาครอบสีดำ และอาจมีสัญลักษณ์ลบใกล้กับขั้วต่อบนตัวแบตเตอรี่ ในขณะที่ขั้วบวกมักจะมีฝาปิดสีแดงหรือมีสัญลักษณ์บวกใกล้ๆ กับขั้วต่อบนตัวแบตเตอรี่
  3. Watermark wikiHow to ถอดขั้วแบตเตอรี่รถยนต์
    พิจารณาว่าคุณต้องใช้ลูกบ็อกซ์ขนาดเท่าไรในการขันน็อตขั้วลบ. โดยให้จำไว้ว่า เราต้องขันขั้วลบก่อนขั้วบวกทุกครั้งที่ถอดแบตเตอรี่
    • หยิบลูกบ็อกซ์ออกมาจากชุดอุปกรณ์ และถือลูกบ็อกซ์เข้าไปใกล้ๆ น็อตของขั้วบวก (ระวังอย่าให้สัมผัสกัน) เพื่อกะขนาดด้วยสายตาว่าคุณต้องใช้ลูกบ็อกซ์ขนาดเท่าไรในการคลายน็อต
    • ใส่ลูกบ็อกซ์ขนาดที่เหมาะสมเข้ากับประแจ คุณอาจต้องต่อแขนประแจเพื่อให้ยื่นเข้าไปถึงตัวน็อตได้
    • ใส่ประแจเข้ากับหัวน็อตของขั้วลบและหมุนทวนเข็มนาฬิกา (ให้จำไว้ว่า “ขันหมุนซ้าย คลายหมุนขวา”) หมุนเพียง 2-3 ครั้งก็คลายออกได้แล้วล่ะ
    • หลังจากขันน็อตออกเรียบร้อย ให้ดึงขั้วลบออกมาจากแบตเตอรี่ และวางไว้ด้านข้างเพื่อป้องกันไม่ให้น็อตสัมผัสกับแบตเตอรี่ในระหว่างที่เรากำลังทำงาน
    • ถ้ามีสายไฟยึดอยู่กับขั้วแบตเตอรี่ คุณอาจต้องใช้เครื่องมือพิเศษสำหรับถอดสายแบตเตอรี่เพื่อถอดขั้วลบออก ลองสอบถามจากร้านจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์หรือช่างซ่อมรถใกล้บ้านคุณ
  4. หลังจากถอดออกจากขั้วต่อเรียบร้อยแล้ว ต้องระวังอย่าให้ขั้วบวกสัมผัสกับชิ้นส่วนโลหะของรถ เพราะในขั้วต่อยังมีกระแสไฟฟ้าหลงเหลืออยู่ จึงอาจรบกวนหรือทำให้วงจรไฟฟ้าในรถเสียหายถ้าปล่อยให้สัมผัสกับพื้นผิวที่เป็นโลหะ
  5. Watermark wikiHow to ถอดขั้วแบตเตอรี่รถยนต์
    หลังจากถอดสายแบตเตอรี่เป็นที่เรียบร้อย คุณก็สามารถลงมือซ่อมแซมชิ้นส่วนไฟฟ้าภายในรถได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล แต่ในกรณีที่แค่อยากถอดแบตเตอรี่เพื่อเปลี่ยนแบตใหม่ คุณก็สามารถดำเนินการได้ง่ายๆ ในไม่กี่ขั้นตอน
    • หลังจากถอดขั้วแบตเตอรี่ ให้คลายสกรูที่ยึดแบตเตอรี่ไว้กับถาดรอง
    • ยกแบตเตอรี่ขึ้นตรงๆ แต่แบตเตอรี่รถยนต์อาจมีน้ำหนักเกือบ 20 กิโลกรัมเลยทีเดียว คุณจึงอาจต้องหาผู้ช่วยสักหน่อยถ้าจำเป็น
    • ใช้แปรงสีฟันเก่าๆ ขัดถาดรองและสายแบตเตอรี่ด้วยน้ำผสมเบกกิ้งโซดาเจือจาง และทิ้งให้แห้งก่อนที่จะใส่แบตเตอรี่ลูกใหม่ลงไป
    • ใส่แบตเตอรี่ลูกใหม่ลงในถาดรองและขันแคลมป์ยึดให้แน่น
    • ต่อสายแบตเตอรี่เข้ากับขั้วบวกก่อน จากนั้นจึงตามด้วยขั้วลบ และอย่าลืมขันน็อตให้แน่นทั้ง 2 ด้าน
    • ปิดฝากระโปรงรถและสตาร์ทเครื่องยนต์
    • กำจัดแบตเตอรี่ลูกเก่าด้วยวิธีการที่เหมาะสม โดยส่วนใหญ่ ร้านจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์ที่คุณซื้อแบตเตอรี่ลูกใหม่จะรับหน้าที่จัดการแบตเตอรี่ชุดเก่าให้แก่คุณ แต่ถ้าไม่ล่ะก็ คุณอาจจะนำแบตเตอรี่ไปยังศูนย์รีไซเคิลหรืออู่ซ่อมรถ โดยร้านส่วนใหญ่จะรับซื้อแบตเตอรี่เก่าในราคาที่ไม่มากนัก
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • แบตเตอรี่รถตามมาตรฐานสามารถสร้างกระแสไฟฟ้าได้หลายร้อยแอมป์ ซึ่งเป็นปริมาณเท่าๆ กับที่ใช้ในการเชื่อมอาร์คเลยทีเดียว เพราะฉะนั้น อย่าเผลอทดสอบประจุแบตเตอรี่โดยใช้อุปกรณ์โลหะสัมผัสกับขั้วบวกหรือขั้วลบของแบตเตอรี่เป็นอันขาด เพราะในแบตเตอรี่มีกระแสไฟฟ้าสูงมาก จึงอาจทำให้อุปกรณ์เสียหายและเป็นอันตรายต่อตัวคุณเอง
  • ใช้เคเบิลไทร์รัดสายแบตเตอรี่ไว้ให้ห่างจากแบตเตอรี่ เพื่อป้องกันไม่ให้สายแบตต่อกลับเข้ากับขั้วแบตเตอรี่ เพราะอาจทำให้เกิดประกายไฟหรืออาจเป็นเหตุให้เสียชีวิตเนื่องจากกระแสไฟฟ้าช็อตได้
  • อย่าลืมถอดเครื่องประดับ โดยเฉพาะแหวนและสร้อยคอออกให้หมดทุกครั้ง
  • ควรดำเนินการในที่โล่งแจ้งซึ่งก๊าซไม่สามารถก่อตัวได้
  • สวมแว่นตานิรภัยและถุงมือป้องกันไฟฟ้าทุกครั้ง
  • แบตเตอรี่ของรถไฮบริดสามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้มากกว่า 300 โวลต์ ซึ่งเป็นระดับที่อันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ ทุกครั้งที่จำเป็นต้องทำงานที่เกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนไฟฟ้าในรถยนต์ไฮบริด คุณจึงควรปิดการทำงานของแบตเตอรี่แรงดันสูงที่อยู่ด้านหลังรถเสียก่อน โดยสายไฟของแบตเตอรี่มักจะมีสีส้มกำกับ อย่าลืมใช้เครื่องมือและถุงมือฉนวนกันไฟฟ้าทุกครั้งที่ดำเนินการเพื่อลดโอกาสการเกิดกระแสไฟฟ้าช็อต และปฏิบัติตามขั้นตอนการปลดขั้วแบตเตอรี่รถไฮบริดที่ผู้ผลิตแนะนำอย่างเคร่งครัด เพราะอาจมีขั้นตอนที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติม
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ประแจบ็อกซ์
  • แขนต่อประแจบ็อกซ์
  • แว่นตาครอบป้องกัน
  • ถุงมือฉนวนป้องกันไฟฟ้า
  • แปรงสีฟันเก่าๆ
  • กระทะใบเล็กๆ
  • เบกกิ้งโซดา
  • น้ำเปล่า
  • เคเบิลไทร์

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 79,994 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา