อาการสติแตก (หรือ ช่วงเวลาที่มีความเจ็บป่วยทางจิต) คือสภาวะอาการทางจิตที่มีความรุนแรงชั่วคราวเมื่อต้องรับมือกับความเครียดและทำให้มีการทำงานปกติลดถอยลง อาการสติแตกสามารถก่ออาการที่เหมือนกับโรควิตกกังวลและโรคซึมเศร้า [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เราจำเป็นต้องตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนว่าคำว่าอาการสติแตกนั้นไม่ใช่ศัพท์ทางการแพทย์หรือทางจิตวิทยา และไม่ได้บ่งชี้ถึงความผิดปกติใดๆ โดยเฉพาะ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง การจัดการความเครียดและการแลตนเองเป็นสองกุญแจสำคัญในการคลายความเครียดและป้องกันการเกิดปฏิกิริยารุนแรงต่อความเครียดนั้น
ขั้นตอน
-
จดจำสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมในชีวิตของคุณ. พยายามแยกแยะสิ่งที่สามารถควบคุมได้กับที่เหนือการควบคุมออกมา การรู้สึกราวกับว่าคุณไม่สามารถบงการชีวิตได้นั้นเป็นความเครียด ฉะนั้นพยายามเรียนรู้ว่าอะไรที่คุณไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงมันได้ และหันมาเน้นในสิ่งที่คุณเปลี่ยนได้แทน การทำเช่นนี้จะทำให้คุณรู้สึกควบคุมทุกอย่างได้ และจะรับมือกับความเครียดได้ง่ายขึ้น [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ลองตั้งคำถามกับตัวเองสักสองสามข้อ: สถานการณ์นี้มันหลีกเลี่ยงได้ไหม มีด้านไหนของสถานการณ์นี้ที่ฉันสามารถควบคุมได้บ้าง แล้วมีด้านไหนที่ฉันจำต้องยอมรับมันเพราะไม่สามารถควบคุมมันได้ แผนที่ฉันจะเข้าไปควบคุมสถานการณ์ด้านที่ฉันจะทำได้มีวิธีไหนบ้าง
- พยายามมองภาพรวมแล้วถามตนเองว่าเรื่องนี้มันจะยังสำคัญอีกไหมเมื่อผ่านไปสักปีหรือห้าปี แล้วเรื่องนี้มันจะมีผลต่อเรื่องอื่นๆ ในชีวิตไหม การควบคุมสถานการณ์ของเรื่องนี้นั้นมันสำคัญแค่ไหน
-
ให้ความสนใจกับอารมณ์ ความกังวลใจ และปฏิกิริยาของคุณแล้วแชร์มันกับคนอื่นๆ. จับตาดูว่าคุณมีปฏิกิริยาอย่างไรและคุณแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาแบบใด อารมณ์ความรู้สึกของคุณนั้นต้องการช่องทางการระบายออกมาอย่างปลอดภัย เราทุกคนล้วนมีช่วงเวลาที่อารมณ์พลุ่งพล่านทั้งนั้น โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอเรื่องเครียด แต่มันจำเป็นที่ต้องตระหนักได้ว่าการเพิกเฉยอารมณ์เหล่านี้ต่างหากจะยิ่งเพิ่มความเครียดไปใหญ่
- ลองเขียนบันทึกว่าความเครียดนั้นส่งผลกับอารมณ์ของคุณอย่างไรบ้าง การเขียนบันทึกมีประโยชน์หลายด้านรวมไปถึงการทำให้อยากมีสภาพจิตที่ดี พัฒนาความนับถือตนเอง และลดความเครียด [4] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ University of Rochester Medical Center ไปที่แหล่งข้อมูล เขียนในสิ่งที่คุณได้แสดงอารมณ์ออกมาตลอดทั้งวันและใช้บันทึกนี้เป็นเสมือนการระบายความเครียดทางอารมณ์ด้วย
- พูดคุยกับใครที่คุณเชื่อใจที่จะรับฟังและพร้อมให้กำลังใจ การได้รับแรงสนับสนุนทางสังคมถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะมันช่วยทำให้คุณรู้สึกว่าเป็นที่รักซึ่งช่วยคลายเครียดได้ [5] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Institute of Stress ไปที่แหล่งข้อมูล
-
มีความยืดหยุ่นกับสิ่งที่คาดหวังมากขึ้น. การยึดติดอยู่กับความสมบูรณ์แบบอาจทำให้สติแตกได้ คุณโหดกับตัวเองหรือผลักดันตัวเองเกินกว่าที่จะจัดการไหวหรือเปล่า คนบางคนนั้นเข้มงวดกับตนเองเพราะเขารู้สึกว่าทุกอย่างของตนต้องสมบูรณ์แบบไปหมด
- พยายามฝึกการมีเมตตาต่อตนเองและยอมให้ตัวเองรู้สึกพอหรือได้ทำทุกอย่างพอแล้วในหนึ่งวัน ถึงแม้คุณอาจไม่ได้ทำหมดทุกอย่างตามแผนเรื่องที่ต้องทำ [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จดจำไว้ว่าไม่ว่าคุณจะทำอะไรหรือทำอย่างไร มันยังมีทางทำให้ดีขึ้นได้เสมอ
-
เรียนรู้ที่จะบอกว่า ‘ไม่’. ด้วยความใส่ใจมากจนเกินไปทำให้เรามีแนวโน้มที่จะหลีกเลี่ยงการทำให้ผู้อื่นไม่พอใจโดยการไม่ยอมบอกว่า "ไม่" ซึ่งอาจผลักดันเราให้เข้าใกล้อาการสติแตกได้ การพูดว่า ‘ได้’ โดยไม่ตระหนักถึงข้อจำกัดของตนเองหรือปราศจากการกำหนดขอบเขตสามารถก่อหายนะในชีวิตได้ มันยังสามารถทำลายผลิตผลของเราโดยการทำให้เรายากจะเพ่งสมาธิในกิจกรรม การงาน หรือความรับผิดชอบเบื้องต้นได้ การเรียนรู้ที่จะพูดว่า "ไม่" เป็นบันไดขั้นแรกสู่การป้องกันเรื่องร้ายจากตนเอง การทำงานและสติสัมปชัญญะของคุณ
- จำไว้ว่าการพูดว่าไม่ ไม่ได้หมายถึงการเห็นแก่ตัว มันแค่หมายความว่าคุณใส่ใจในสภาวะของตนเองเพียงพอในการรักษาให้มันอยู่ในสภาพแข็งแรง การพูดว่าไม่ยังหมายถึงคุณใส่ใจในผู้อื่นและต้องการความมั่นใจว่าคุณจะมีพลังกับสภาพจิตที่ดีพอสำหรับทำภาระอื่นๆ [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ตอบไปง่ายๆ ตรงๆ คุณไม่จำเป็นต้องหาข้ออ้างมาแก้ตัว บอกไปง่ายๆ แค่ “ไม่ล่ะ – ขอโทษด้วยนะ แต่ฉันมีเรื่องต้องทำมากทั้งสัปดาห์เลย คงต้องเอาไว้คราวหน้าละกัน” ก็ใช้ได้แล้ว [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ทำในสิ่งที่คุณชอบ. ทำงานอดิเรกที่เคยชอบหรือหาที่ถูกใจใหม่ งานอดิเรกเป็นได้ทั้งการวาดภาพ การทำสวน อาสาสมัคร ดนตรี เต้นรำ งานอดิเรกจะทำให้คุณหายเครียดจากชีวิตประจำวัน และเบนความสนใจของคุณออกจากกิจกรรมหรืองานที่ก่อความเครียด แม้จะแค่ช่วงสั้นๆ ก็ตาม ช่วงเวลาสั้นๆ นี่แหละที่จะเกื้อหนุนแรงใจให้คุณ
- การทำงานอดิเรกหรือมีกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจช่วยลดความเครียดได้โดยให้คุณได้พักจากความเครียดในชีวิตประจำวัน เป็นหนทางสู่การผ่อนคลาย และทำหน้าที่เป็นตัวกันชนหรือเครื่องมือปกป้องจากผลกระทบของความเครียด [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
หัวเราะให้บ่อยเท่าที่จะทำได้. ดูรายการหรือหนังตลกเรื่องที่ชอบ ไปดูคอนเสิร์ต การหัวเราะจะยิ่งดีขึ้นไปใหญ่เมื่อได้อยู่ท่ามกลางคนที่เรารัก
- การหัวเราะมีคุณสมบัติผ่อนคลายความเครียดได้อย่างมาก เพราะมันจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินส์เข้าสู่สมอง สารตัวนี้ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและผลของมันจะอยู่ได้นานถึง 45 นาทีหลังจากการหัวเราะแค่ครั้งเดียว! [10] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HelpGuide ไปที่แหล่งข้อมูล
- การหัวเราะจะทำให้ระบบภูมิต้านทานแข็งแกร่งขึ้น และยังลดความรู้สึกเจ็บปวด ทั้งสองสิ่งนี้ล้วนสำคัญต่อการคลายเครียด [11] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HelpGuide ไปที่แหล่งข้อมูล
- การหัวเราะแสดงให้เห็นว่าช่วยทำให้อารมณ์ดีและลดความกังวล [12] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HelpGuide ไปที่แหล่งข้อมูล
-
คิดถึงสิ่งที่คุณรู้สึกสำนึกขอบคุณ. ให้แน่ใจว่าคุณได้นับสิ่งดีๆ ที่คุณมี ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่แสนวิเศษ เพื่อนฝูงที่คอยให้การสนับสนุน งานที่คุณรัก ความแตกต่างที่คุณได้ทำให้ชีวิตผู้อื่น เป็นต้น จากการวิจัยพบว่าความรู้สึกขอบคุณนั้นจะช่วยเพิ่มความนับถือตนเอง ลดความเครียดโดยการเพิ่มความยืดหยุ่นของจิตใจ และช่วยให้เกิดความสุข [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เตือนตนเองอยู่เสมอว่าคุณสำนึกขอบคุณอะไรบ้างจะคลายเครียดและป้องกันการก่อตัวเพิ่มของมันได้อีกด้วย
- พยายามเขียนบันทึกขอบคุณเพื่อเตือนตัวเองถึงสิ่งที่คุณสำนึกขอบคุณในทุกๆ วัน
-
ฝึกทำสมาธิ. การฝึกจิตเช่น การทำสมาธิ สามารถคลายความเครียดออกไปจากตัว มันยังช่วยเพิ่มพูนความมั่นใจในตนเองและความรู้สึกว่าตนเองมีค่า [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง การทำสมาธินั้นทำให้สมองได้พักจากการต้องประมวลความคิดมาทั้งวัน ซึ่งจะลดความเครียด พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และช่วยคุณปรับโฟกัสใหม่ได้ [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ลองเข้าร่วมคลาสกลุ่มที่สอนพื้นฐานการทำสมาธิ หรือหาข้อมูลฟรีออนไลน์เช่น บันทึกเสียงคำสอนการนั่งสมาธิแบบมีอาจารย์นำสอน นอกจากนี้ยังมีแอพทำสมาธิที่แนะนำการทำสมาธิตามคำสอนโดยมีหัวข้อจำเพาะและระยะเวลาที่จะทำให้เลือก
-
มองหาความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญทางสุขภาพจิต. หาโอกาสนัดนักจิตวิทยา นักจิตเวช หรือนักบำบัด มืออาชีพเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนมาเพื่อช่วยคนที่รู้สึกว่าใกล้จะสติแตกอยู่แล้ว พวกเขาจะช่วยให้คุณรู้สึกดีก่อนจะหลุดไปกับอารมณ์ [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- การบำบัดรูปแบบหนึ่งที่เรียกว่าความคิดและพฤติกรรมบำบัด (cognitive behavioral therapy) สามารถนำมาใช้เพื่อช่วยหยุดรูปแบบการคิดในแง่ลบและช่วยให้คุณรู้สึกควบคุมสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น [17] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Health Service (UK) ไปที่แหล่งข้อมูล
- ในบางกรณี การใช้ยาอาจช่วยได้ ให้ปรึกษานักจิตเวชว่าการใช้ยาคลายประสาทหรือยาแก้โรคซึมเศร้าเหมาะที่จะใช้กับคุณหรือไม่
โฆษณา
-
ออกกำลังกายเพื่อช่วยร่างกายสร้างสารเอ็นดอร์ฟินส์คลายเครียด. เวลาที่ใครใกล้จะสติแตก จำนวนเซลล์ในสมองส่วนที่เรียกว่าฮิปโปแคมปัส (hippocampus) จะลดจำนวนน้อยลงไปเรื่อยๆ แต่เมื่อร่างกายได้ออกกำลังกาย จำนวนเซลล์ในฮิปโปแคมปัสจะเพิ่มขึ้น ยิ่งกว่านั้น ระดับของเอ็นดอร์ฟินส์ (ฮอร์โมนที่ทำให้อารมณ์ดี) ก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน [18] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Harvard Medical School ไปที่แหล่งข้อมูล
- การออกกำลังกายสร้างเอ็นดอร์ฟินส์และจำกัดการหลั่งฮอร์โมนเครียดเช่นคอร์ติซอลกับอะดรีนาลินซึ่งมักมีส่วนกับอาการสติแตก
- เวลาที่คุณทำกิจกรรมทางร่างกาย ความมุ่งคิดมักจะเบี่ยงออกจากงานหรือสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดความเครียดในตัว ซึ่งจะทำให้จิตใจมีเวลาได้ฟื้นตัวจากความเครียด
-
นอนหลับให้เพียงพอในแต่ละคืน. เวลาที่คุณอยู่ในสภาพเครียดมากๆ คุณอาจประสบปัญหาด้านการนอน เช่นนอนไม่หลับ การนอนไม่เต็มอิ่มจะยิ่งทำให้อาการเครียดหนักขึ้นและอาจทำให้สติแตกได้ [19] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Heart, Lung, and Blood Institute ไปที่แหล่งข้อมูล
- พยายามนอนยาวให้ได้อย่างน้อย 7 ชั่วโมงทุกคืน เวลาการนอนนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละคน คุณจึงอาจต้องนอนมากหรือน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับระดับการทำกิจกรรม อายุ และปัจจัยอื่นๆ
-
เข้าตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ขาดสารอาหารชนิดใด. บางคราวความเครียดนั้นอาจกำเริบจากสภาวะทางการแพทย์ เช่น การขาดวิตามิน การขาดวิตามินพื้นฐานเช่น วิตามินดี, บี 6, และบี12 การได้รับสารอาหารเหล่านี้ไม่เพียงพอสมารถทำให้เครียดขึ้นและนำไปสู่การเกิดสติแตก [20] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [21] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล [22] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- หากคุณไม่ได้นัดพบแพทย์มาสักระยะแล้ว ให้ทำการนัดตรวจร่างกายประจำปีเพื่อความแน่ใจว่าคุณมีสุขภาพดีและได้รับสารอาหารตามที่ต้องการเพื่อคงความแข็งแรงนั้นครบถ้วน
-
ทานกรดอะมิโนเพื่อช่วยให้สุขภาพจิตแข็งแรง. กรดอะมิโนมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอาการที่เกิดจากความเครียดและความซึมเศร้า ดังนั้นจึงป้องกันการพัฒนาไปสู่การเกิดสติแตกได้ กรดอะมิโนมีส่วนสร้างสารสื่อประสาทในสมอง มันจึงจำเป็นต่อสุขภาพจิต โครงสร้างพื้นฐานของโปรตีนประกอบขึ้นจากกรดอะมิโน [23] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าอยากได้รับประโยชน์จากกรดอะมิโน ให้ทำตามแผนควบคุมอาหารที่เน้นโปรตีน เช่น นม ผลิตภัณฑ์จากนม ไข่ เนื้อสัตว์ปีก เนื้อวัว ถั่วลันเตา ถั่วฝัก ถั่วเมล็ด และธัญพืช
- โดพามีน (Dopamine) เป็นสารประกอบที่เกิดจากกรดอะมิโนที่ชื่อไทโรซีน (tyrosine) ส่วนเซราโทนิน (serotonin) เป็นสารประกอบที่เกิดจากทริปโทฟาน (tryptophan) การมีสารสื่อประสาทไม่เพียงพอในสมองทำให้เกิดอารมณ์ร้ายและอารมณ์เหวี่ยงไปมา มันจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นถ้าหากสารสื่อประสาทนั้นคือโดพามีนกับเซราโทนิน
-
เฝ้าระวังปริมาณการบริโภคน้ำตาลกับอาหารแปรรูป. การบริโภคน้ำตาลมากจะทำให้เกิดการอักเสบในร่างกายซึ่งกระทบต่อการทำงานเป็นปกติของสมอง อาหารแปรรูปเช่น ลูกอม คุกกี้ น้ำอัดลม และอื่นๆ มักจะมีน้ำตาลผสมอยู่มากที่สุด ให้หลีกห่างจากอาหารประเภทนี้เท่าที่จะทำได้เพื่อลดการอักเสบ [24] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- การบริโภคน้ำตาลกับคาร์โบไฮเดรตเข้าสู่ร่างกายมากสามารถทำให้เกิดการหลั่งอินซูลินออกมามากเกินไป ซึ่งจะไปกระตุ้นให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (hypoglycemia) ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำนี้จะส่งผลให้สมองหลั่งกลูตาเมทในสมองในระดับที่น่าตกใจและอาจทำให้เกิดอาการที่เป็นตัวบ่งชี้ว่าสติแตกเช่น กระสับกระส่าย ซึมเศร้า ตื่นตระหนก ได้
-
เลือกคาร์บเชิงซ้อนแทนที่คาร์บเชิงเดี่ยว. คาร์โบไฮเดรตทั้งสองรูปแบบล้วนเพิ่มระดับของเซราโทนิน (ฮอร์โมนที่ช่วยให้สมองสงบลงและอารมณ์ดีขึ้น) แต่กับคาร์บเชิงซ้อน (ขนมปังโฮลเกรน ซีเรียล) นั้น กระบวนการจะค่อยเป็นค่อยไปและต่อเนื่องเพราะพวกมันจะถูกย่อยช้าๆ ส่วนคาร์บเชิงเดี่ยว (ลูกอม น้ำอัดลม) นั้นมีน้ำตาลสูงและย่อยง่าย ส่งผลให้มีเซราโทนินสูงในระยะแรกและดิ่งหายตามมา [25] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- หลีกเลี่ยงหรือจำกัดอาหารเช่น อาหารแปรรูปและอาหารที่อุดมไปด้วยน้ำตาลกับกลูเตน พวกมันเป็นอันตรายต่อร่างกายที่เครียดอยู่แล้ว และอาจเร่งสู่การสติแตกได้
-
เพิ่มปริมาณของกรดโฟลิก. การขาดกรดโฟลิกอาจมีส่วนต่อการตอบสนองความเครียด แต่พึงรับทราบก่อนว่ามีแต่แพทย์เท่านั้นที่จะวินิจฉัยการขาดกรดโฟลิกได้ และการทานอาหารเสริมใดๆ ควรอยู่ในการแนะนำของแพทย์ การขาดกรดโฟลิกอาจนำไปสู่ปัญหาทางประสาทวิทยา เช่น โรคซึมเศร้า การมีปริมาณกรดโฟลิกในร่างกายเพียงพอยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของยากล่อมประสาท [26] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากต้องการได้รับกรดโฟลิกจากอาหารเพิ่มขึ้น ให้ทานผักโขมกับผลไม้ตระกูลซิตรัส เช่น ส้ม
-
ทานอาหารที่มีวิตามินบีมากขึ้น. อาหารที่มีวิตามินบีจะช่วยเป็นเกราะกำลังคุณจากอาการซึมเศร้าและสติแตก วิตามินบีรวมและโดยเฉพาะวิตามิน บี1, บี2 และบี6 แสดงผลว่าทำให้อามณ์ดีขึ้น อาหารที่อุดมด้วยวิตามินบีได้แก่: [27] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ผักใบเขียวเข้ม
- เนื้อแดง
- โฮลเกรน จมูกข้าว
- ถั่วลันเตา
- ถั่วเปลือกแข็ง เช่น พีแคนกับอัลมอนด์
- นม โยเกิร์ต ชีส
- เนื้อไก่ เนื้อปลา ไข่
- ถั่ว ถั่วลิสง
- อาหารทะเล
- กล้วย
- มันฝรั่ง
-
ทานซิงค์เพิ่มขึ้นเพื่อหายจากเครียด. มีงานวิจัยมากมายที่แสดงให้เห็นว่าระดับของซิงค์หรือสังกะสีนั้นจะต่ำในคนที่แสดงอาการเครียด ซึมเศร้า หรือคนที่ใกล้สติแตก การได้รับซิงค์อย่างเพียงพอไม่ว่าจะทางอาหารหรืออาหารเสริมเป็นเม็ด ล้วนเพิ่มประสิทธิภาพของยาที่ใช้เพื่อรักษาอาการซึมเศร้าหรือปัญหาทางจิตอื่นๆ อาหารที่อุดมด้วยซิงค์ได้แก่: [28] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
- อาหารทะเล
- ถั่วเปลือกแข็ง
- จมูกข้าว
- เมล็ดฟักทอง
- ผักโขม
- เห็ด
- ถั่วเป็นฝัก
- เนื้อ
-
ทานอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก ไอโอดีน กับโครเมียม. ไอโอดีน เหล็กกับโครเมียมนั้นมีบทบาทสำคัญในการป้องกันอาการสติแตก การขาดแร่ธาตุจำเป็นเหล่านี้ส่งผลให้เกิดเหนื่อยล้า ซึมเศร้า และอารมณ์เหวี่ยงไปมา [29] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล [30] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล [31] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก: เนื้อแดง ผักใบเขียวเข้ม ไข่แดง ผลไม้แห้ง (ลูกเกด พรุน) เนื้อเป็ดไก่ ถั่วเป็นฝัก ถั่ว แอนติโชค
- อาหารที่อุดมไอโอดีน: นมวัว โยเกิร์ต สตรอเบอร์รี่ สาหร่ายทะเล ไข่ นมถั่วเหลือง ปลาน้ำเค็ม และชีส
- อาหารที่อุดมโครเมียม: โฮลเกรน เนื้อวัว ข้าวกล้อง อาหารทะเล บร็อคโคลี เห็ด ถั่วเป็นฝัก ผลิตภัณฑ์จากนม ไข่ ชีส น้ำนม เนื้อเป็ดไก่ ข้าวโพด มันฝรั่ง ปลา มะเขือเทศ ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต สมุนไพร
โฆษณา
-
ฝึกการหายใจลึกๆ. ฝึกการผ่อนคลายแบบหายใจลึก การหายใจลึกช่วยขยายกะบังลมและกระตุ้นอาการตอบสนองของร่างกายที่สงบลง ส่วนหนึ่งของการตอบสนองดังว่าก็คือระดับความดันโลหิตกับระดับคอร์ติซอลจะลดลง [32] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Harvard Medical School ไปที่แหล่งข้อมูล
- ฝึกหายใจลึกโดยการสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด เมื่อทำเช่นนั้น ท้องคุณจะขยายออก จากนั้นค่อยๆ หายใจออก [33] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Harvard Medical School ไปที่แหล่งข้อมูล
- คุณยังสามารถฝึกหายใจลึกได้ในระหว่างทำสมาธิหรือเล่นโยคะ
-
พยายามอยู่ในปัจจุบันขณะโดยการฝึกการมีสติ. การฝึกมีสติรู้ตัวเป็นเทคนิคของการอยู่กับปัจจุบันขณะและเบี่ยงเบนความสนใจไปจากความเศร้าเสียใจในอดีตกับความหวั่นกลัวในอนาคต การมีสติสามารถประยุกต์เข้ากับทุกด้านของชีวิตประจำวัน คุณสามารถฝึกการมีสติได้ในระหว่างออกกำลังกาย ทานอาหาร ทำงาน สนทนา หรืออ่านหนังสือ การวิจัยเรื่องการมีสตินั้นได้แสดงให้เห็นว่าการฝึกเช่นนี้ลดความเครียดลงได้โดยลดการครุ่นคิดลง [34] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Psychological Association ไปที่แหล่งข้อมูล การมีสติยังช่วยพัฒนาความจำ การมีสมาธิ และความพึงพอใจในความสัมพันธ์ [35] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Psychological Association ไปที่แหล่งข้อมูล
- การฝึกการมีสตินั้น ให้เพ่งไปที่อายตนะของตนและปล่อยให้ความกังวลหรือความคิดในภาระต่างๆ ล่องลอยออกไปจากประสาทการรับรู้ อย่าดึงดันติดในความคิดใด พยายามสังเกตมันและปล่อยมันผ่านไป
-
ลองให้โอกาสโยคะ. การฝึกโยคะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสารเคมีในร่างกายและกระตุ้นร่างกายให้เกิดปฏิกิริยาผ่อนคลายตามธรรมชาติได้ [36] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล โยคะกระตุ้นภาวะการผ่อนคลายเชิงชีวเคมีในร่างกายซึ่งหมายถึงการมีออกซิเจนอย่างมากมายในร่างกาย และระดับการเต้นของหัวใจกับระดับความดันโลหิตก็อยู่ในระดับปกติ [37] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง นอกเหนือจากประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว โยคะยังช่วยในการกำจัดพิษออกจากร่างกายด้วย [38] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เทคนิคการฝึกหายใจแบบโยคะนั้นยังส่งผลอย่างชัดเจนต่อทั้งการมีสุขภาพกายกับสุขภาพจิตดี พวกมันช่วยล้างระบบเพื่อฟื้นฟูความสมดุลในความคิดและอารมณ์ของเรา [39] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- ลองเข้าคลาสโยคะสำหรับผู้เริ่มต้นตามสถานสอนโยคะใกล้บ้าน หรือหาซื้อดีวีดีเพื่อฝึกโยคะเองที่บ้าน
-
ใช้สุคนธบำบัดมาช่วยคลายเครียด. น้ำมันสกัดหอมระเหยมีประโยชน์ในการปรับอารมณ์ซึ่งช่วยลดความเครียดได้ [40] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง สำหรับเพื่อผ่อนคลายแล้ว ให้สูดกลิ่นของลาเวนเดอร์ วาเลอเรียน ซิตรัส เจอเรเนียม กานพลู การบูร และพอปลาร์ เพื่อบรรเทาอาการนอนไม่หลับที่เชื่อมโยงกับอาการสติแตก
- น้ำมันหอมระเหยเปปเปอร์มินต์สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะที่เกิดจากความเครียด และมันยังช่วยอาการคลื่นเหียนอาเจียนที่เชื่อมโยงกับความเครียดด้วย [41] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ผสมน้ำมันเปปเปอร์มินต์สักสองสามหยดกับน้ำมันตัวนำเช่น น้ำมันอัลมอนด์ แล้วถูเข้าที่ขมับกับหน้าผาก สูดหายใจลึกๆ ในขณะถูน้ำมันจะช่วยให้คุณผ่อนคลาย
- จากการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้ น้ำมันหอมระเหยอย่างน้ำมันลาเวนเดอร์และน้ำมันเลม่อนได้แสดงให้เห็นว่าสามารถทำให้อารมณ์ดีขึ้น [42] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
โฆษณา
คำเตือน
- หากคุณคิดว่ากำลังใกล้สติแตก ให้คุยกับคนที่สามารถช่วยเหลือคุณได้ เช่น พ่อแม่ คุณครู ผู้ให้คำปรึกษา หรือแพทย์
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.mylifestages.org/asktheexpert/QuestionAnswer.page?questionid=1596
- ↑ https://www.mylifestages.org/asktheexpert/QuestionAnswer.page?questionid=1596
- ↑ http://psychcentral.com/lib/4-tips-to-change-the-way-you-deal-with-stress/
- ↑ https://www.urmc.rochester.edu/encyclopedia/content.aspx?ContentTypeID=1&ContentID=4552
- ↑ http://www.stress.org/emotional-and-social-support/
- ↑ http://psychcentral.com/lib/therapists-spill-the-moment-i-realized-i-am-enough/
- ↑ http://psychcentral.com/lib/learning-to-say-no/
- ↑ http://psychcentral.com/lib/learning-to-say-no/
- ↑ http://www.indiana.edu/~illumin/KeemaWalden.pdf
- ↑ http://www.helpguide.org/articles/emotional-health/laughter-is-the-best-medicine.htm
- ↑ http://www.helpguide.org/articles/emotional-health/laughter-is-the-best-medicine.htm
- ↑ http://www.helpguide.org/articles/emotional-health/laughter-is-the-best-medicine.htm
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/what-mentally-strong-people-dont-do/201504/7-scientifically-proven-benefits-gratitude
- ↑ http://transformationalchange.pbworks.com/f/School-based%20Meditation%20Practices%20for%20Adolescents.pdf
- ↑ http://www.scientificamerican.com/article/mental-downtime/
- ↑ http://psychcentral.com/blog/archives/2009/10/19/what-is-a-nervous-breakdown/
- ↑ http://www.nhs.uk/conditions/Cognitive-behavioural-therapy/Pages/How-does-it-work.aspx
- ↑ http://www.health.harvard.edu/press_releases/benefits-of-exercisereduces-stress-anxiety-and-helps-fight-depression
- ↑ http://www.nhlbi.nih.gov/files/docs/public/sleep/healthy_sleep.pdf
- ↑ http://bodyecology.com/articles/vitamin-d-deficiency-are-stress-and-high-cortisol-depleting-you
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/depression/expert-answers/vitamin-b12-and-depression/faq-20058077
- ↑ http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/depression/expert-answers/vitamin-b12-and-depression/faq-20058077
- ↑ http://www.cnn.com/2013/11/26/health/upwave-food-mood/
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-living/nutrition-and-healthy-eating/expert-blog/food-and-mood/bgp-20056183
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-living/nutrition-and-healthy-eating/expert-blog/food-and-mood/bgp-20056183
- ↑ http://www.prevention.com/mind-body/natural-remedies/multivitamins-enhance-mood-reduce-stress
- ↑ http://www.prevention.com/mind-body/natural-remedies/multivitamins-enhance-mood-reduce-stress
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/21056285
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/18543064
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/11106971
- ↑ https://ods.od.nih.gov/factsheets/Chromium-HealthProfessional/
- ↑ http://www.health.harvard.edu/mind-and-mood/relaxation-techniques-breath-control-helps-quell-errant-stress-response
- ↑ http://www.health.harvard.edu/mind-and-mood/relaxation-techniques-breath-control-helps-quell-errant-stress-response
- ↑ http://www.apa.org/monitor/2012/07-08/ce-corner.aspx
- ↑ http://www.apa.org/monitor/2012/07-08/ce-corner.aspx
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/22502620
- ↑ https://www.yogaalliance.org/LearnAboutYoga/AboutYoga/Benefitsofyoga
- ↑ http://life.gaiam.com/article/yoga-detox
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/stress-management/in-depth/yoga/art-20044733
- ↑ http://www.bashaar.org.il/files/%D7%91%D7%99%D7%95%D7%97%D7%A7%D7%A8%20-%20%D7%94%D7%A0%D7%9E%D7%9C%D7%94%202.pdf
- ↑ https://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/natural/705.html
- ↑ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2278291/
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 11,382 ครั้ง
โฆษณา