ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
การเรียนรู้การเล่นกีตาร์ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ง่ายและสนุกมาก ใครจะไปรู้ว่าถ้าคุณมีพรสวรรค์และฝึกหนักมากพอ คุณอาจจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญการเล่นเครื่องดนตรีหกสายคนต่อไปก็ได้! บทความนี้จะบอกคุณว่าจะเริ่มต้นได้อย่างไรบ้าง!
ขั้นตอน
-
เตรียมกีตาร์ให้เหมาะสม. การตั้งสายกีตาร์ของคุณอย่างถูกต้องเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญในการมีประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดี คุณอาจให้กูรูด้านกีตาร์ที่ร้านดนตรี นักดนตรีมืออาชีพ หรือเจ้าของร้านซ่อมกีตาร์ใกล้บ้านคุณช่วยตั้งสายให้ การตั้งสายกีตาร์ของคุณอย่างเหมาะสมนั้นมีประโยชน์หลักๆ อยู่สองสามประการ:
- มีเสียงสูงต่ำที่พอดี ขั้นตอนนี้อาจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด สายกีตาร์ของคุณควรปรับจูนอย่างถูกต้องทำให้เวลาเล่นตามทำนอง (และเมื่อคุณเล่นโน้ตที่ถูกต้อง) เสียงที่ออกมาจะตรงและถูกต้องตามคีย์ ถ้ากีตาร์ของคุณมีเสียงสูงต่ำไม่ถูกต้อง สายล่างๆ อาจมีเสียงตามคีย์ปกติ แต่อาจจะโดดออกมาจากทำนองอย่างเห็นได้ชัดเวลาที่เล่นโน้ตที่มีเสียงสูง สิ่งนี้จะทำให้เกิดการหมดกำลังใจและทำให้เรียนยากขึ้นกว่าเดิมมาก
- ความง่ายในการเล่น ถ้าสายกีตาร์ถูกตั้งสูงไปจะทำให้แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเล่นเพราะจะต้องใช้แรงกดของนิ้วเป็นอย่างมากในการกดสายให้ลงมาสัมผัสกับเฟรต นอกจากจะทำให้เกิดปัญหาของเสียงสูงต่ำแล้วยังเจ็บนิ้วและจะทำให้คุณฝึกช้าลงอีกด้วย แม้ในไม่ช้าผิวหนังที่นิ้วของคุณจะเริ่มด้านและจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดแต่มันก็ยังจะทำให้การเล่นด้วยความเร็วหรือการเปลี่ยนคอร์ดเป็นเรื่องที่ยาก
-
ฟังและเล่นตาม. แทบทุกเพลงที่คุณชอบนั้นจะมีรูปแบบทำนองเพลงหรือการเปลี่ยนโน้ตที่คุณจะจำได้อยู่แล้ว อย่าจำกัดตัวเองอยู่แค่การโซโลกีตาร์ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นวิธีที่ดีในการเรียนเสมอ แต่ให้ฟังนักร้อง ฟังไลน์เบส ลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ ของมือกีตาร์ด้วย อะไรก็ตามที่ติดหูคุณมักจะได้ผล ยิ่งง่ายๆ ก็ยิ่งดีสำหรับตอนที่คุณกำลังเรียนรู้อยู่
- ตัวอย่างเช่นทำนองเพลง Locked Out of Heaven โดย Bruno Mars ที่ค่อนข้างง่ายและมีท่อนฮุคที่มีเนื้อร้องไม่มากให้คุณได้ลองเลียนเสียงโดยการเล่นกีตาร์ดู
- Call Me Maybe โดย Carly Rae Jepsen มีทำนองที่ติดหู แต่ก็ยังมีรูปแบบของดนตรีแบคอัพที่โดดเด่นและท้าทายให้คุณลองฝึกเล่นได้ดี
- Gangnam Style โดย Psy มีไลน์เสียงสังเคราะที่ซ้ำๆ กันตั้งแต่ต้นเพลง และเล่นอย่างต่อเนื่องทั้งเพลง แม้คุณอาจเล่นตามทำนองเสียงไม่ได้ทั้งหมด คุณก็เล่นทำนองพื้นฐานและสนุกกับมันได้!
- กุญแจสำคัญตรงจุดนี้คือการจะเป็นตำนานกีตาร์ไม่ได้มาจากการฝึกเล่นโซโล แต่เป็นการฝึกฟังและสามารถเล่นสิ่งที่คุณได้ยินได้
- ถ้าคุณมีปัญหาในการแกะทำนองบางส่วน ให้ลองดูวิดีโอบนยูทูปประกอบไปด้วย ส่วนมากแล้วจะมีคลิปที่วงนั้นๆ เล่นพาร์ทนั้นอยู่
-
ฝึกทั้งสิ่งที่ยากและง่าย ให้ “ใจ” ตัวเองได้มีเวลาพักหลังจากฝึกสิ่งที่ยากๆ โดยการเล่นอะไรที่ง่ายๆ แทน หรือสิ่งที่คุณรู้สึกดีและมั่นใจเวลาเล่น วิธีนี้จะทำให้นิ้วของคุณเคลื่อนไหวอยู่เสมอ ทำให้คุณพัฒนาอย่างต่อเนื่องและช่วยคุณให้พ้นจากความรู้สึกล้มเหลว- ให้แน่ใจว่าคุณมีสิ่งที่ยากในการฝึกอยู่เสมอ เพราะนี่เป็นวิธีที่คุณจะเติบโตในฐานะนักกีตาร์
- ฝึกเล่นในสิ่งที่คุณพบว่ายากให้บ่อยกว่าสิ่งที่คุณทำสำเร็จได้ง่ายๆ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณพบว่าคุณเล่นโซโลโน้ตเร็วๆ ได้เก่งนั่นก็เป็นเรื่องที่ดี ให้ฝึกทักษะนั้นไว้ แต่ถ้าคุณพบว่าการเล่นคอร์ดมันยาก ก็ให้แน่ใจว่าคุณได้ฝึกการเล่นคอร์ด “อย่างน้อย” ให้มากเท่ากับที่คุณฝึกเล่นโซโลโน้ต
-
หลีกเลี่ยงการใช้ชุดเหยียบ stomp boxes หรือเอฟเฟคกีตาร์เวลาฝึก. จริงอยู่ว่าเจ้ากล่องนี้สามารถช่วยในเรื่องของเสียงและคงทำนองไว้ได้อย่างต่อเนื่อง แต่มันก็ทำให้เกิดความผิดพลาดทางเทคนิคได้เช่นกัน
- ทำนองเสียงกีตาร์ที่เพียวๆ และชัดเจนจะแสดงข้อบกพร่องในการเล่นของคุณ เก็บเสียงเอฟเฟคไว้ตอนที่คุณเล่นแจมกับเพื่อนๆ หรือเล่นแบบผ่อนคลายตามลำพัง
-
ศึกษาเรื่องดนตรี. ในขณะที่คุณกำลังพัฒนาไปสู่การเป็นนักกีตาร์ คุณจะเรียนรู้ “ทางลัด” ที่ทฤษฎีดนตรีจะให้คุณได้
- ตัวอย่างเช่น แทนที่จะต้องไล่นิ้วหาคอร์ดที่ถูกต้องสำหรับเพลงๆ หนึ่ง ความรู้ทางด้านทฤษฎีดนตรีจะทำให้คุณรู้ว่าคอร์ดที่ควรจะเป็นในคีย์นั้นๆ คืออะไรบ้าง
- ความรู้นี้จะทำให้คุณแลกเปลี่ยนทางดนตรีกับผู้เล่นคนอื่นๆ ได้ โดยเฉพาะถ้าคุณเริ่มรวมวงจะเป็นประโยชน์มาก เช่น นักคีย์บอร์ดอาจจะไม่สามารถอ่านตำแหน่งนิ้วของคุณเวลาที่คุณพูดว่า “เล่นคอร์ดนี้สิ” ได้ เพราะคีย์บอร์ดและกีตาร์มีวิธีการเล่นโน้ตที่ไม่เหมือนกันทั้งหมด แต่ถ้าคุณพูดว่า “เล่นคอร์ด A7 แล้วต่อด้วย B7 และกลับไป E” เขาน่าจะเข้าใจคุณได้ดีกว่า
โฆษณา
-
หาครูสอนกีตาร์ดีๆ สักคน. การที่จะเป็นครูสอนกีตาร์ที่ดีได้อาจแตกต่างกันไปสำหรับแต่ละคน บางคนเรียนรู้โดยการดู บางคนฟัง คุณอาจอยากจะหาใครสักคนที่เชี่ยวชาญในประเภทดนตรีที่คุณชอบ หรือใครที่จะรู้ว่าจะทำอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดไม่ว่าผู้เรียนจะชอบดนตรีประเภทไหนมากกว่า ค้นหารูปแบบที่ดีที่สุดในการเรียนรู้สำหรับตัวคุณเอง
- สไตล์ดนตรีที่คุณชอบเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ตัวอย่างเช่น นักกีตาร์ที่ชอบเพลงบลูส์เป็นพิเศษอาจลงเรียนการเล่นกีตาร์ในสไตล์ฟลาเมงโก้ แม้เนื้อหาและสไตล์ของฟลาเมงโก้และบลูส์จะไม่เหมือนกันไปทุกอย่างแต่เทคนิคสำหรับกีตาร์สไตล์ฟลาเมงโก้ก็เกี่ยวข้องและสามารถนำมาใช้กับการเล่นของนักกีตาร์ที่เล่นในสไตล์บลูส์ที่ซับซ้อนมากกว่าได้
-
ฝึกอ่านโน้ต. ไม่ว่าคุณจะชอบสไตล์การสอนแบบไหนมากกว่ากัน ทำให้แน่ใจว่าได้รวมการอ่านโน้ตเอาไว้แล้วในนั้น เพราะกีตาร์มีสายทั้งหมดหกสาย และมีโน้ตหลายตัวที่สามารถเล่นบนสายที่แตกต่างกันได้ การเล่นกีตาร์โดยการอ่านโน้ตไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น การฝึกทักษะในเรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก
-
ทำให้การฝึกสนุกเข้าไว้. การเรียนบทเรียนใดๆ ก็ตามมักจะนำมาซึ่งความน่าเบื่อหน่ายอยู่แล้ว เช่น การฝึกซ้ำๆ เพิ่มความยาก จากนั้นฝึกซ้ำๆ อีก รวมไปถึงแบบฝึกหัดที่เป็นเรื่องของการเลื่อนนิ้วของคุณให้ถูกต้องมากกว่าการที่ทำให้มัน “ฟังดู” น่าสนใจ ซึ่งอาจทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้าถ้าคุณไม่ทำให้มันสนุกอยู่เสมอ!
- ฝึกบทเรียนที่ถูกจัดเตรียมไว้แล้วเพื่อคุณ และหลังจากนั้นเมื่อคุณฝึกเสร็จแล้ว ปิดหนังสือและเล่นอะไรก็ได้ และแบบไหนก็ได้ตามใจคุณ
- เวลาฝึกเล่นสเกลหรือรูปแบบใดๆ แล้วคุณคิดว่าจิตใจของคุณรู้สึกด้านชาจากความเบื่อแล้วล่ะก็ ให้เพิ่มลูกเล่นในการเล่นสเกลหรือรูปแบบต่างๆ เช็คดูให้แน่ใจว่าคุณได้เล่นโน้ตที่ “ถูกต้อง” เพื่อที่จะเรียนรู้เทคนิคที่ได้มา แต่ลองสิ่งใหม่ๆ เช่นใช้การโยกแทนเฟรตสำหรับโน้ตที่อยู่ใกล้ๆ เพิ่มความแรงที่หลากหลายในการสั่น เปิดเครื่อง distortion เสียงสะท้อนและ เอฟเฟคกีตาร์ delays รวมไปถึงการเล่นเพลงเดิมแบบย้อนหลัง ไอเดียในเรื่องนี้คือการทำอะไรสักอย่างเพื่อทำลายความจำเจและทำให้การฝึกน่าสนใจอยู่เสมอ
-
ฝึกฝน. ไม่ว่าคุณจะฝึกเล่นเองหรือเรียนตามบทเรียน วิธีเดียวที่คุณจะเก่งมากขึ้นคือโดยการฝึก หรือที่เรียกว่า “woodshedding” หรือการฝึกฝนทางดนตรีให้บ่อยและนานที่สุดเท่าที่คุณสามารถทำได้
- การฝึกเล่นกีตาร์นั้นต้องใช้หลายๆ อย่าง: การสร้างความแข็งแกร่งและอดทนให้กับนิ้วมือของคุณ การเรียนรู้ว่าตัวโน้ตอยู่ตรงไหนบ้างบนกีตาร์ การสร้าง “ความจำในการใช้กล้ามเนื้อ” แต่ละส่วน การเล่นให้เสียงออกมาชัดเจนและการเล่นด้วยความรู้สึก ทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาในการพัฒนาทักษะ และบางอย่างอาจพัฒนาได้เร็วกว่าเรื่องอื่นๆ แค่พยายามฝึกต่อไปแล้วคุณจะเคยชินกับมันมากขึ้นเรื่อยๆ
- นักกีตาร์ทุกคนที่คุณเคยได้ยินชื่อหรือฟังเพลงจากวิทยุหรือที่คุณชื่นชมล้วนเริ่มจากที่ๆ คุณอยู่ในตอนนี้ทั้งนั้น พวกเขายังมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือ: พวกเขาไม่เคยหยุดเล่นและหยุดฝึก!
โฆษณา
เคล็ดลับ
- การมีแอมป์หรือเครื่องเสียงที่ดีจะสร้างความแตกต่างในเสียงที่คุณจะสนุกไปกับมัน แอมป์แบบหลอดที่มีกำลังวัตต์ต่ำก็เป็นตัวเลือกที่ดีตัวหนึ่ง
- ทำให้แน่ใจว่ากีตาร์ของคุณนั้นเหมาะกับคุณ กีตาร์บางประเภทเช่น กีตาร์สไตล์ Les Paul ก็หนักมาก ส่วนกีตาร์แบบอื่นๆเช่น กีตาร์สไตล์ Strat มีน้ำหนักเบากว่ามาก
- Stomp boxes มีไว้ใช้สร้างเทคนิค แต่ก็สามารถให้สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการฝึกโดยใช้หูฟังได้อีกด้วย ถ้ามันเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้วแต่คุณอยากจะเล่น คุณก็จะไม่ปลุกคนทั้งบ้านด้วยวิธีนี้!
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- กีตาร์ไฟฟ้า
- ปิ๊กกีตาร์
- แอมป์และสายเคเบิ้ล
- หูฟัง (มีหรือไม่มีก็ได้)
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 66,518 ครั้ง
โฆษณา
