ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

องค์ประกอบร่างกายของคุณถูกกำหนดโดยอาหารการกินและการออกกำลังกาย หากคุณรู้สึกว่าแขนของคุณมีไขมันสะสมมากเกินไปหรือต้องการให้แขนกระชับมากยิ่งขึ้น คุณสามารถบรรลุเป้าหมายได้ง่ายๆ ด้วยการบริหารร่างกายอย่างเหมาะสม จำไว้ว่าการบริหารเฉพาะส่วนหรือการกระชับ/ลดน้ำหนักที่ส่วนใดส่วนหนึ่งโดยเฉพาะนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้จริง คุณจึงควรให้ความสำคัญกับการลดน้ำหนักซึ่งจะช่วยลดปริมาณไขมันสะสมในร่างกายและนำไปสู่แขนที่เรียวเล็กและกระชับยิ่งขึ้น เพียงออกกำลังกายแบบผสมผสานโดยเน้นทั้งเวทเทรนนิ่งและคาร์ดิโอควบคู่ไปกับการเลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ คุณก็จะมีรูปร่างที่ดูกระชับและแขนที่เรียวเล็กได้อย่างแน่นอน [1]

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

สร้างกล้ามเนื้อแขน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. กล้ามเนื้อไบเซ็ปส์เป็นกล้ามเนื้อสองหัวที่อยู่บริเวณด้านหน้าของต้นแขนและเชื่อมต่อระหว่างหัวไหล่และข้อต่อบริเวณข้อศอก ทำหน้าที่งอปลายแขนขึ้นหรือเข้าหาลำตัว [2] การบริหารกล้ามเนื้อไบเซ็ปส์จะช่วยให้ต้นแขนด้านหน้าของคุณดูกระชับมากยิ่งขึ้น โดยคุณสามารถบริหารได้ง่ายๆ ด้วยท่าต่อไปนี้
    • Bicep curl: ยืนตัวตรงโดยถือดัมเบลล์ไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ดึงข้อศอกชิดลำตัวและหันฝ่ามือไปทางด้านหน้า เกร็งต้นแขนให้อยู่กับที่แล้วออกแรงยกดัมเบลล์เข้าหาลำตัวในขณะที่เกร็งกล้ามเนื้อไบเซ็ปส์ไว้ ดึงดัมเบลล์ให้ขึ้นมาจนถึงระดับไหล่แล้วค่อยๆ ลดแขนทั้งสองข้างลงมาขนาบข้างลำตัว
    • Hammer curl: ยืนตัวตรงโดยถือดัมเบลล์ไว้ด้วยมือทั้งสองข้างและหันฝ่ามือเข้าหาลำตัว ออกแรงยกดัมเบลล์ขึ้นมาจนถึงระดับไหล่แล้วค่อยๆ ลดแขนทั้งสองข้างลงมาขนาบข้างลำตัว
  2. กล้ามเนื้อไทรเซ็ปส์เป็นกล้ามเนื้อสามหัวที่อยู่บริเวณด้านหลังของต้นแขนและเชื่อมต่อระหว่างหัวไหล่ด้านหลัง [3] ทำหน้าที่เหยียดปลายแขนขึ้นเหนือศีรษะหรือไปทางด้านหลัง การบริหารกล้ามเนื้อไทรเซ็ปส์จะช่วยป้องกันไม่ให้ต้นแขนของคุณดูหย่อนยาน โดยคุณสามารถบริหารได้ง่ายๆ ด้วยท่าต่อไปนี้
    • Tricep push up: ท่าบริหารนี้มีวิธีการที่คล้ายคลึงกับท่า Push up แบบปกติแต่แตกต่างกันที่ตำแหน่งของข้อศอก เริ่มจากนอนคว่ำตัวลงในท่า Plank โดยดันแขนทั้งสองข้างขึ้นเหยียดตรง จากนั้นลดลำตัวลงจนหน้าอกเกือบแตะกับพื้นโดยให้แขนและข้อศอกทั้งสองข้างแนบข้างลำตัวแล้วออกแรงดันลำตัวกลับขึ้นไปในตำแหน่งเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว พยายามเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องและหลังตลอดการบริหารท่านี้
    • Push up: นอนคว่ำตัวลงในท่า Plank โดยดันแขนทั้งสองข้างขึ้นเหยียดตรง จากนั้นลดลำตัวลงจนหน้าอกเกือบแตะกับพื้นโดยกางข้อศอกออกไปทางด้านข้างแล้วออกแรงดันลำตัวขึ้นกลับไปในตำแหน่งเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว พยายามเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องและหลังตลอดการบริหารท่านี้
    • Tricep dip: หันหลังเข้าหาม้านั่งหรือเก้าอี้ที่แข็งแรงและมั่นคงแล้ววางมือทั้งสองข้างไว้บนขอบม้านั่งหรือเก้าอี้โดยให้นิ้วมือหันออกมา เหยียดแขนตรงและล็อกแขนไว้ให้อยู่กับที่แล้วย่อตัวลงมาช้าๆ จนต้นแขนขนานกับพื้นโดยให้ข้อศอกทั้งสองข้างแนบข้างลำตัว จากนั้นใช้กล้ามเนื้อไทรเซ็ปส์ออกแรงดันตัวกลับขึ้นไปในตำแหน่งเริ่มต้น
    • Tricep extension: นอนราบลงไปบนม้านั่งหรือพื้น ถือดัมเบลล์ไว้ด้วยมือทั้งสองข้างและเหยียดแขนตรงขึ้นไปเหนือศีรษะให้ตั้งฉากกับพื้น หันฝ่ามือมาทางหัวไหล่และดึงข้อศอกชิดลำตัวแล้วค่อยๆ ลดดัมเบลล์ลงจนใกล้ใบหู จากนั้นออกแรงยกดัมเบลล์ขึ้นมาจนแขนเหยียดตรงดังเดิม
  3. กล้ามเนื้อเดลทอยด์เป็นกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณด้านบนของหัวไหล่และกึ่งกลางของกระดูกต้นแขน ทำหน้าที่กางแขนออกไปทางด้านข้าง ด้านหน้า และด้านหลัง [4] การบริหารกล้ามเนื้อเดลทอยด์จะช่วยให้ต้นแขนของคุณกระชับดูสวยงามมากยิ่งขึ้น โดยคุณสามารถบริหารได้ง่ายๆ ด้วยท่าต่อไปนี้
    • Lateral raise: ถือดัมเบลล์ไว้ด้วยมือทั้งข้างโดยหันฝ่ามือเข้าหาลำตัว ออกแรงยกดัมเบลล์ขึ้นมาทางด้านข้างของลำตัวโดยงอข้อศอกเล็กน้อยจนกระทั่งแขนทั้งสองข้างขนานกับพื้น จากนั้นค่อยๆ ลดดัมเบลล์กลับลงมาข้างลำตัว
    • Front row: ถือดัมเบลล์ไว้ด้วยมือทั้งข้างโดยหันฝ่ามือเข้าหาลำตัว ออกแรงยกดัมเบลล์ขึ้นมาจนถึงระดับคางโดยกางข้อศอกออกไปทางด้านนอก พยายามให้ดัมเบลล์แนบใกล้ลำตัวมากที่สุดในขณะยกดัมเบลล์ขึ้น จากนั้นค่อยๆ ลดดัมเบลล์ลงมากลับสู่ตำแหน่งเริ่มต้น
    • Push up
  4. การออกกำลังกายด้วยท่า Push up และ Plank เป็นประจำมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงและความสมบูรณ์ให้กับบริเวณด้านข้างหน้าอกใกล้กับรักแร้ การบริหารกล้ามเนื้อแขนครบทุกส่วนจะช่วยเพิ่มความอึดในการออกกำลังกายและทำให้แขนของคุณดูกระชับมากขึ้น [5] โดยคุณสามารถบริหารได้ง่ายๆ ด้วยท่าต่อไปนี้
    • Chest press: นอนหงายราบบนพื้นโดยถือดัมเบลล์ไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ยกแขนขึ้นเหยียดตรงให้กว้างเท่าช่วงหัวไหล่และล็อกให้อยู่กับที่ ค่อยๆ ลดดัมเบลล์ลงมาชิดหน้าอกโดยหันฝ่ามือไปทางด้านหน้าและกางข้อศอกออกไปทางด้านนอก จากนั้นออกแรงยกดัมเบลล์ขึ้นจนแขนเหยียดตรงดังเดิม
    • Chest fly: นอนหงายราบบนพื้นโดยถือดัมเบลล์ไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง เหยียดแขนออกไปทางด้านข้างจนเกือบสุด (งอข้อศอกเล็กน้อย) โดยหันฝ่ามือขึ้นด้านบน ออกแรงยกดัมเบลล์ขึ้นจนสุดแขนให้ดัมเบลล์อยู่ตรงหน้าคุณ จากนั้นค่อยๆ ลดดัมเบลล์กลับลงมาข้างลำตัว
    • Push up
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

วางแผนการออกกำลังกาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เนื่องจากเป้าหมายของคุณคือการลดปริมาณไขมันโดยไม่ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อแขนให้ดูบึกบึนเกินไป คุณจึงควรเริ่มต้นการฝึกกล้ามเนื้อด้วยน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา โดยเลือกใช้น้ำหนักที่คุณสามารถทำได้อย่างน้อย 15-20 ครั้งต่อเซ็ตโดยไม่มีอาการหอบเหนื่อยหรือรู้สึกเมื่อยล้ากล้ามเนื้อมากเกินไป [6] การฝึกกล้ามเนื้อเช่นนี้เป็นการเพิ่มความอดทนของร่างกาย จึงช่วยให้คุณมีสัดส่วนรูปร่างที่ดูกระชับโดยที่กล้ามเนื้อดูไม่ใหญ่โตจนเกินไป [7]
  2. เนื่องจากเป้าหมายของคุณคือการมีรูปร่างที่สมส่วนและไม่ผอมจนเกินไป คุณจึงควรหลีกเลี่ยงการฝึกกล้ามเนื้อที่เกินขีดจำกัดของตัวเอง ดังนั้นหากคุณเล่นหนักเกินไปจนต้องพักนานเกิน 1 นาทีต่อเซ็ต ให้คุณลดน้ำหนักที่ใช้ลง
  3. สำหรับการฝึกความทนทานโดยเฉพาะ คุณอาจบริหารกล้ามเนื้อด้วยท่า Bicep curl 2 เซ็ต เซ็ตละ 20 ครั้งแล้วต่อด้วยท่า Tricep dip 2 เซ็ต เซ็ตละ 20 ครั้ง แต่หากคุณไม่กังวลหากกล้ามเนื้อใหญ่ขึ้นเล็กน้อย คุณสามารถเลือกใช้น้ำหนักที่มากขึ้นโดยลดจำนวนครั้งลงเป็น 15 ครั้ง 2 เซ็ตหรือ 12 ครั้ง 3 เซ็ต [8]
  4. เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรบริหารกล้ามเนื้อแต่ละส่วน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ [9] ตัวอย่างเช่น คุณอาจบริหารกล้ามเนื้อไบเซ็ปส์และไทรเซ็ปส์ในวันจันทร์ กล้ามเนื้อไทรเซ็ปส์และเดลทอยด์ในวันพุธ และกล้ามเนื้อเดลทอยด์และไบเซ็ปส์ในวันศุกร์
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ออกกำลังกายด้วยวิธีอื่นๆ ควบคู่กัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เข้าร่วมคลาสเวทเทรนนิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นหรือฝึกกับเทรนเนอร์ส่วนตัว. สิ่งสำคัญของการออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อคือการใช้ท่าทางอย่างถูกต้อง ดังนั้นหากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับท่าทางการฝึกที่ถูกต้องหรือวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมที่จะช่วยเสริมสร้างและเพิ่มความกระชับของกล้ามเนื้อ คุณควรศึกษาและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนเริ่มต้นฝึกกล้ามเนื้อ
    • ฟิตเนสหลายแห่งจัดเตรียมคลาสออกกำลังกายให้กับสมาชิกโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งคุณสามารถลองเข้าร่วมคลาสเวทเทรนนิ่งเบื้องต้นที่เป็นคลาสที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและมีผู้เชี่ยวชาญด้านฟิตเนสที่พร้อมให้คำแนะนำเมื่อคุณต้องการ
    • ฟิตเนสบางแห่งยังมีบริการเทรนเนอร์ส่วนตัวสำหรับสมาชิกอีกด้วย โดยคุณอาจได้รับชั่วโมงการฝึกกับเทรนเนอร์ส่วนตัว 2-3 ครั้งแรกโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเมื่อสมัครสมาชิกครั้งแรก อย่างไรก็ตาม มีเทรนเนอร์ส่วนตัวบางส่วนที่รับงานอิสระและให้บริการฝึกสอนแบบส่วนตัวได้ที่ฟิตเนสใกล้บ้าน บ้านของคุณ หรือสถานที่อื่นๆ
  2. ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโออย่างเพียงพอควบคู่กันในแต่ละสัปดาห์. การบริหารเฉพาะจุดหรือการลดน้ำหนักที่ส่วนใดส่วนหนึ่งโดยเฉพาะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้จริง แต่การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอควบคู่กับการออกกำลังกายในรูปแบบอื่นๆ อย่างสม่ำเสมอนั้นจะช่วยให้คุณสามารถลดน้ำหนัก ลดปริมาณไขมันในร่างกาย และลดสัดส่วนของแขนให้ดูเรียวเล็กลงได้อย่างแน่นอน
  3. พิจารณาการออกกำลังกายแบบบอดี้เวทที่สามารถช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเผาผลาญไขมันได้ในเวลาเดียวกัน. การออกกำลังกายแบบเคลื่อนที่โดยใช้ทุกส่วนของร่างกายสลับกับการหยุดพักเป็นช่วงๆ สามารถช่วยลดสัดส่วนของแขน เอว สะโพก ขา และส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ [13] รวมถึงยังมีส่วนช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่ซึ่งจะทำให้ปริมาณไขมันในร่างกายลดลงและแขนของคุณดูเรียวเล็กลง [14] ลองออกกำลังกายด้วยวิธีต่างๆ ตามด้านล่างนี้โดยใช้เวลาช่วงละ 1-2 นาทีสลับกับการหยุดพัก 15-30 วินาที
    • กระโดดเชือก: การออกกำลังกายแบบมีแรงกระแทกสูงอย่างการกระโดดเชือกที่ให้คุณได้ออกแรงกระโดดและใช้แขนหมุนเชือกไปพร้อมๆ กันเป็นวิธีการออกกำลังกายที่ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้อย่างดีเยี่ยม เริ่มจากกระโดดเชือกให้ได้นาน 20 วินาทีแล้วจึงเพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ เป็น 1 นาทีหรือมากกว่านั้นและสลับกับหยุดพักระหว่างช่วง ทำซ้ำ 2-3 เซ็ต
    • ทำท่าเบอร์พี (Burpee): ยืนตัวตรงและยกแขนขึ้นค้างไว้ ย่อตัวลงโดยวางมือทั้งสองข้างให้ห่างจากเท้าเล็กน้อยแล้วกระโดดเหยียดขาไปด้านหลังให้อยู่ในท่า Plank จากนั้นกระโดดกลับมาด้านหน้าให้อยู่ในท่า Squat แล้วยืนขึ้นโดยชูแขนขึ้นเหนือศีรษะ ทำไปเรื่อยๆ จนครบ 30 วินาทีสลับกับหยุดพักระหว่างช่วง ทำซ้ำ 3 เซ็ต เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น คุณยังสามารถทำท่า Push up เพิ่มเติมในระหว่างที่อยู่ในท่า Plank
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

เลือกทานอาหาร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณต้องการลดน้ำหนักโดยมีเป้าหมายเพื่อกระชับกล้ามเนื้อแขนและทำให้แขนของคุณดูเรียวเล็กลง พยายามควบคุมแคลอรี่และปริมาณอาหารเพื่อช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ
    • สิ่งสำคัญของการลดน้ำหนักคือการทานอาหารในปริมาณที่น้อยลงและการคำนวณปริมาณคอลอรี่ทั้งหมดที่ได้รับต่อวัน
    • สำหรับการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย น้ำหนักตัวของคุณควรลดลงไม่เกิน 1 กิโลกรัมต่อ 1 เดือน พยายามลดการทานหรือเผาผลาญประมาณ 500 แคลอรี่ต่อวันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ [15]
    • หากต้องการจำกัดปริมาณการทานอาหาร คุณอาจลองเปลี่ยนไปใช้จาน ชาม หรือช้อนส้อมที่มีขนาดเล็กลง รวมถึงหาซื้อถ้วยตวงหรือตาชั่งอาหารเพื่อช่วยให้คุณเตรียมอาหารได้ในปริมาณที่ถูกต้องแม่นยำ
  2. การลดน้ำหนักให้ดีต่อสุขภาพนั้นขึ้นอยู่กับการเลือกทานอาหารที่สมดุล [16] การทานให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละมื้ออาหารของคุณเป็นประจำทุกวันเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างสมดุลในการทานอาหารของคุณและทำให้คุณมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
  3. ของว่างระหว่างมื้อก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการทานเพื่อสุขภาพได้หากรู้จักเลือกทานให้เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณตั้งเป้าหมายอยากลดน้ำหนักให้สำเร็จ
    • ของว่างระหว่างมื้อควรมีปริมาณแคลอรี่ประมาณ 100-150 หากเป้าหมายหลักของคุณคือการลดน้ำหนัก [21]
    • พยายามทานของว่างเมื่อจำเป็นเท่านั้น เช่น ก่อนการออกกำลังกายหรือเมื่อรู้สึกหิวและมื้ออาหารครั้งต่อไปไม่ได้เริ่มต้นภายใน 3 ชั่วโมง
    • ตัวอย่างของของว่างที่ดีต่อสุขภาพ ได้แก่ ถั่ว ¼ ถ้วย แครกเกอร์ธัญพืชเต็มเมล็ด 1 ออนซ์และเนยถั่ว หรือคอตเทจชีส ½ ถ้วยและผลไม้
  4. น้ำเป็นส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งของการทานเพื่อสุขภาพ การลดน้ำหนัก และการออกกำลังกาย เนื่องจากภาวะขาดน้ำอาจส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นและขัดขวางความสามารถในการออกกำลังกายได้ [22]
    • ความต้องการน้ำของร่างกายของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป แต่โดยทั่วไปแล้วมักแนะนำให้ดื่มน้ำ 64 ออนซ์หรือ 8 แก้วต่อวัน และตามหลักการแล้วคุณไม่ควรรู้สึกกระหายน้ำในระหว่างวันและปัสสาวะของคุณควรมีสีออกใสในช่วงเวลาบ่ายหรือเย็น [23]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนเริ่มต้นโปรแกรมการออกกำลังกายใหม่ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณออกกำลังกายได้อย่างปลอดภัยและดีต่อสุขภาพของคุณ
  • หากคุณมีอาการเจ็บหรือรู้สึกไม่สบายตัวในขณะที่ออกกำลังกาย ให้คุณหยุดออกกำลังกายทันทีและปรึกษาแพทย์ของคุณ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,465 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา