ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การคลื่นไส้อาเจียนอาจเป็นเรื่องที่จำเป็นต่อร่างกายที่จะฟื้นตัวเอง เช่นเมื่อร่างกายพยายามจะขับสารที่เป็นพิษ เช่นอาหารเป็นพิษ โชคไม่ดีที่การอาเจียนยังสามารถถูกกระตุ้นได้จากอาการปวดไมเกรน การติดเชื้อไวรัส การตั้งครรภ์ การเมารถเมาเรือ หรือจากการใช้ยา เวลาคลื่นไส้จะอาเจียนทีไรก็ไม่สบายตัวและทำให้ร่างกายขาดน้ำ คุณจึงอาจอยากหาหนทางรักษาอาการคลื่นไส้อาเจียนนี้ โชคดีที่บางทีคุณอาจหยุดอาการที่ทำให้คุณอยากอาเจียนได้ อย่างไรก็ตามถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็ควรจะไปหาหมอดีกว่า

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

รักษาอาการคลื่นไส้ด้วยการผ่อนคลาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เอาผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นบิดหมาดๆ มาประคบที่หน้าผากหรือต้นคอ. ห้ามใช้ถุงน้ำแข็งหรือเจลแพคเด็ดขาด โดยเฉพาะตอนที่หัวคุณปวดตุบๆ และร้อนหน้าไปหมด ถ้าใช้ผ้าขนหนูจะช่วยรักษาอาการคลื่นไส้อาเจียนได้
  2. ออกไปเดินเล่นใกล้ๆ ในสวนหรือที่ข้างทาง แต่อย่าไกลเกินไป พยายามหายใจเข้า-ออกลึกๆ แต่ปล่อยตามธรรมชาติ ไม่ต้องไปกะเกณฑ์อะไร อากาศบริสุทธิ์นี่แหละที่ช่วยให้ปอดและร่างกายของคุณผ่อนคลาย
  3. เอาหมอนรองเท้าไว้ก็ได้
  4. อาจจะเพราะช่วยดึงความสนใจไปจากอาการคลื่นไส้ หรืออาจจะเพราะสาเหตุอื่นๆ แต่การสัมผัสแตะต้องสิ่งต่างๆ รอบตัวนั้นก็ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้จริงๆ หรือจะหยิกตัวเองพอให้เจ็บนิดๆ ก็ช่วยได้เหมือนกัน
    • ลองหยิกตัวเองที่แขน
    • เอากำปั้นทุบเบาๆ ที่ต้นขา
    • ดึงผมพอให้รู้สึกเจ็บ
    • ขบริมฝีปากล่าง
    • เอาเล็บจิกปลายแขน
  5. Acupressure ก็คือการกดจุดสำคัญของร่างกายเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดนั่นเอง จุดที่ผู้เชี่ยวชาญนิยมกดเวลาคุณเกิดอาการคลื่นไส้คล้ายจะอาเจียน ก็คือที่ข้อมือนั่นเอง
    • หงายมือขึ้นรองข้อมือ จากนั้นใช้นิ้วโป้งกดนวดตรงกลางข้อมือเบาๆ ลองกดจุดค้างไว้เพื่อบรรเทาอาการคลื่นไส้
    • เอาข้อมือสองข้างประกบกัน แล้วกดเข้าหากัน ก็ช่วยกระตุ้นจุดดังกล่าวได้ดีเหมือนวิธีข้างบน
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

รักษาอาการคลื่นไส้ด้วยอาหาร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แครกเกอร์แห้งชิ้นเล็กๆ ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้ เพราะอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง อย่างพวกแครกเกอร์หรือขนมปังปิ้ง จะช่วยดูดซึมกรดในกระเพาะได้ [1] ถ้ากินแครกเกอร์แล้วช่วยได้ แปลว่าบางทีคุณอาจแค่หิวจัด ไม่ได้ผิดปกติตรงไหนแต่อย่างใด
  2. ถ้าคุณเริ่มกินอาหารได้ ให้เริ่มจากคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยง่ายอย่างพวกเจลาติน แล้วค่อยขยับขยายไปกินโปรตีนอย่างซุปไก่กับเส้นบะหมี่นิ่มๆ ส่วนพวกไขมันน่ะรอก่อน เพราะไขมันนั้นย่อยยากที่สุด จนอาจระคายเคืองกระเพาะกว่าเดิม
  3. อมลูกอมหรือเคี้ยวหมากฝรั่งรสมิ้นท์เพื่อกระตุ้นลำไส้ให้ทำงานแบบถูกวิธี. รสสดชื่นของมิ้นท์ช่วยล้างต่อมรับรสของคุณให้หายจากอาการคลื่นไส้ได้ หรือจะอมลูกอมรสขิงก็ให้ผลไม่ต่างกัน
  4. ขิงสามารถทำให้อาการคลื่นไส้อยากอาเจียนหายไปได้ในบางครั้ง คุณสามารถลองขิงชิ้นเล็กๆ หมากฝรั่งรสขิง หรือน้ำขิงก็ได้ เลือกอย่างที่เหมาะกับคุณที่สุด [2]
  5. หลีกเลี่ยงอาหารรสเปรี้ยวรสจัด อาหารมัน และอาหารย่อยยากพวกกากใย. [3] อาหารพวกนี้ทำให้กระเพาะทำงานหนัก จนอาจไปกระตุ้นให้อยากอาเจียนมากกว่าเดิม พวกอาหารเปรี้ยวจัด เผ็ดจัด และอาหารมัน แค่ฟังชื่อก็แสบไส้แล้ว ส่วนอาหารกากใยก็พวกผักต่างๆ เนื้อสัตว์ และธัญพืชหยาบๆ เป็นต้น
    • ถ้านอกจากอาเจียนแล้วยังท้องเสียร่วมด้วย ให้งดอาหารจากผลิตภัณฑ์นมไปก่อน เพราะจะส่งผลแบบเดียวกัน คือย่อยยากจนกระเพาะต้องทำงานหนัก
    • อาหารร้อนจัดหรือเย็นจัดก็ไม่ได้เหมือนกัน เพราะกระเพาะต้องมานั่งปรับอุณหภูมิก่อนย่อย ไม่ว่าจากเย็นไปร้อน หรือร้อนไปเย็นก็ตาม
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

รักษาอาการคลื่นไส้ด้วยเครื่องดื่ม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าช่วงนี้คุณอาเจียนบ่อยๆ ให้ดื่มน้ำเปล่าไปก่อนแต่ ไม่ต้องมาก ถ้าดื่มมากเกินไปกระเพาะอาจปรับตัวไม่ทันจนคุณเริ่มอาเจียนใหม่อีกครั้ง [4]
    • หรือจะอมๆ ดูดๆ ก้อนน้ำแข็งก็ได้ เพราะน้ำเย็นๆ ที่ละลายลงคอจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าจะดื่มน้ำมากเกินไป
  2. พอดื่มน้ำแล้ว ให้ขยับขยายมากินอาหารเหลวใส และอะไรที่มีอิเล็กโทรไลต์หรือเกลือแร่. นอกจากน้ำเปล่าก็มีอาหารเหลวใสนี่แหละที่ช่วยทดแทนวิตามินสำคัญๆ ที่ร่างกายสูญเสียไปตอนคุณอาเจียนได้
    • ถ้าเป็นไปได้ ให้พยายามดื่มเครื่องดื่มที่มีโพแทสเซียมกับโซเดียมสูง นี่แหละแหล่งอิเล็กโทรไลต์หลักของร่างกาย [5] ที่มักเสียไปตอนคุณอาเจียน
    • อาหารและเครื่องดื่ม "เหลวใส" ที่แนะนำก็เช่น
      • ชารสอ่อนๆ
      • ซุปใสชนิดก้อน
      • น้ำแอปเปิ้ล
      • เครื่องดื่มเกลือแร่
  3. ไซรัปตามน้ำอัดลม (ที่ทิ้งไว้จนหายซ่า) ก็ช่วยให้หายคลื่นไส้อาเจียนได้ พอๆ กับไซรัปในยาแบบ Emetrol ถ้าเป็นเด็ก ให้กิน 1 - 2 ช้อนชา ส่วนผู้ใหญ่ให้เพิ่มเป็น 1 - 2 ช้อนโต๊ะแทน
    • ถึงจะยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารองรับว่าทำไมไซรัปในน้ำอัดลมอย่างโค้กหรือสไปรท์ถึงช่วยได้ แต่หลายคนก็ใช้ตามๆ กันมานานเวลาคลื่นไส้คล้ายจะอาเจียน สมัยก่อนถึงขั้นเป็นยาแก้ท้องเสียที่คนนิยมใช้ด้วยซ้ำไป
    • ไซรัปอย่าง Emetrol นั้นให้เด็กกินได้ไม่มีปัญหา แต่สำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ถึงจะนิยมใช้กัน แต่ผู้ผลิตแนะนำว่าน่าจะลองปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีกว่า
  4. อย่าดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อัดลม หรือเป็นกรดสูง. [6] เช่นพวกน้ำอัดลม (ที่ยังซ่าอยู่) และกาแฟ รวมถึงพวกน้ำผลไม้อย่างน้ำส้ม น้ำเกรปฟรุ้ต หรือน้ำมะนาวเป็นต้น
  5. คนนิยมใช้ขิงบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนมาเป็นเวลายาวนาน ถึงกับมีงานวิจัยชี้ว่าได้ผลกว่าการรักษาด้วยยา dramamine ด้วยซ้ำ [7] จะใช้น้ำขิงพร้อมชงแบบซองหรือจะต้มเองก็ได้แล้วผสมกับน้ำผึ้งกลายเป็นชาสมุนไพร (Tisane) ไป
    • ถ้าคุณไม่ชอบชาร้อนแต่อยากจะรักษาด้วยน้ำขิง ให้ลองดื่ม ginger ale แทน แต่ต้องเปิดขวดหรือกระป๋องทิ้งไว้ให้หายซ่าก่อน เพราะฟองซ่าๆ นั้นอาจระคายเคืองกระเพาะได้ จนทำให้อาเจียน [8]
    • อีกวิธีที่ใช้ขิงรักษาได้โดยไม่ต้องดื่ม ก็คืออมลูกอมรสขิงแทน ลองอมทีละน้อยๆ ทุก 45 นาที
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

รักษาอาการคลื่นไส้ด้วยยา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. รักษาด้วยยา Dramamine ถ้าคุณอาเจียนตามมาจากอาการคลื่นไส้. Dramamine หรือ "dimenhydrinate" นั้นนิยมใช้รักษาอาการคลื่นไส้ ปวดท้อง และอาเจียน ไม่ควรใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ถ้าคุณรู้ตัวว่าต้องทำกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ให้ใช้ Dramamine 30 - 60 นาทีก่อนทำกิจกรรมนั้น [9]
  2. ถ้านอกจากอาการคลื่นไส้อาเจียนแล้วมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย ให้ใช้ acetaminophen. ไม่เหมือนยา NSAID (non-steroidal anti-inflammatory drugs หรือ ยาต้านการอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์) อย่างแอสไพรินหรือไอบูโพรเฟน acetaminophen จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดโดยไม่ทำให้คุณคลื่นไส้ไปมากกว่าเดิม
  3. พลาสเตอร์ยา Scopolamine ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน โดยใช้ติดที่ผิวหนังหลังหูโดยตรง [10] แต่ก็ต้องระวัง เพราะพลาสเตอร์ยา scopolamine นั้นเต็มไปด้วยผลข้างเคียง เพราะฉะนั้นถ้าคลื่นไส้ไม่มาก พอทนได้ ก็อย่าใช้จะดีกว่า
  4. ถ้าอาเจียนติดต่อกันถึง 2 วันในกรณีของผู้ใหญ่ หรือ 1 วันถ้าเป็นเด็ก ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน. [11] เพราะอาจเกิดอันตรายจากการขาดน้ำได้ จนต้องให้น้ำเกลือทดแทน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าดื่มน้ำตอนกำลังนอน เพราะเดี๋ยวมันจะไหลย้อนขึ้นมาได้ง่ายๆ
  • หายใจถูกวิธีก็ช่วยได้ ให้หายใจเข้าลึกๆ ทางจมูก แล้วหายใจออกยาวๆ ทางปากแทน
  • จิบน้ำหรืออาหารที่เหลวใส เพราะย่อยง่ายกว่า ที่สำคัญคืองดอาหารเผ็ด อาหารฟาสต์ฟู้ด และอะไรที่เหนียวเคี้ยวยาก
  • อย่าดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มอื่นๆ มากเกินไป ไม่งั้นอาจคลื่นไส้มากกว่าเดิม
  • ไปแปรงฟันจะได้รู้สึกสดชื่น ขจัดรสชาติขมๆ ในปากไปซะ!
  • กินขนมปังหรือแครกเกอร์ แต่ให้กินน้อยๆ พอบรรเทาอาการ อย่ากินมากจนท้องไส้แย่ไปกันใหญ่
  • หาสาเหตุที่ทำให้คุณคลื่นไส้ให้เจอ ถ้าเคยเป็นแบบนี้มาก่อนคุณก็จะยิ่งรู้เร็วและรับมือได้ทัน
  • รีบใช้ยาก่อนอาการหนัก ยาจะได้ออกฤทธิ์ทัน
  • ไปเดินเล่นแล้วอย่าลืมหายใจเข้า-ออกลึกๆ อากาศบริสุทธิ์นี่แหละช่วยได้มากเลย
  • หาอะไรมาเบี่ยงเบนความสนใจ อย่างการเล่นเกมส์ในมือถือ หรือดูทีวี
  • กินอาหารช้าๆ จิบๆ น้ำเอา อย่าเพิ่งดื่มเยอะ
  • หมั่นจิบน้ำเปล่าหรือ ginger ale ทีละน้อย ก็ช่วยได้เหมือนกัน
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าคุณเป็นคนกินเร็ว กระเพาะอาจจะย่อยอาหารไม่ทัน จนทำให้ย้อนกลับขึ้นมาเป็นอาเจียนได้
  • ห้ามทำให้ตัวเองอาเจียนเพราะอยากลดน้ำหนักเด็ดขาด โรคบูลิเมียนั้นถือเป็นความผิดปกติที่ก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้ ถ้ารู้ตัวให้รีบพบแพทย์ด่วน
  • ถ้าหยุดอาเจียนไม่ได้ แล้วอาเจียนเป็นประจำ ก็ให้พบแพทย์ด่วนเช่นกัน
  • อย่าเข้านอนทันทีหลังกินอาหารเสร็จ
  • ถ้าคุณเป็นเบาหวานอย่ารีบบรรเทาอาการคลื่นไส้ด้วยการกินไซรัป ปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีกว่า
  • ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยใช้ยารักษาถ้าการคลื่นไส้เกิดจากอาหารเป็นพิษ แต่คุณสามารถซื้อยาที่มีขายทั่วไปอย่าง Emetrol ที่ช่วยลดอาการคลื่นไส้ ไม่งั้นก็ไปหาหมอว่าควรใช้ยาอะไรดี
  • คุณสามารถใช้ยา Promethazine ในการแก้อาการเมารถเมาเรือ อีกตัวเลือกคือ Meclizine ให้ทานปริมาณ 25-50 มก. ก่อนเดินทางและจากนั้นทุก 24 ชั่วโมงตามความจำเป็นที่ต้องเดินทาง แต่ห้ามให้ยาแก่เด็ก
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ทัศนคติในทางบวก
  • ลูกอมรสมิ้นท์ แครกเกอร์แห้งๆ หรือขนมปังปิ้ง
  • Ginger ale หรืออาหารเหลวใส
  • ชา น้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มเกลือแร่
  • ภาชนะรองอาเจียน
  • ผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆ หรือทิชชู่เปียก
  • สิ่งช่วยเบี่ยงเบนความสนใจ อย่างทีวี หนังสือ หรือเกมส์

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 44,071 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา