ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

กลากบนหนังศีรษะเกิดจากการติดเชื้อรา แม้โรคนี้จะเรียกว่า “Ringworm” ในภาษาอังกฤษ แต่ความจริงสิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่หนอน แต่เป็นเชื้อราที่คุณอาจได้รับมาจากการสัมผัสพื้นผิว บุคคล หรือสัตว์ที่ติดเชื้อ โรคนี้จะทำให้เกิดอาการคัน ผมหายไปเป็นหย่อมๆ และสามารถติดต่อได้ง่าย แต่ถ้านำวิธีการรักษาต่อไปนี้ไปใช้ คุณจะกำจัดกลากตัวร้ายออกไปได้อย่างแน่นอน [1]

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

การรักษาโรคกลากบนหนังศีรษะ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบไปให้แพทย์ช่วยวินิจฉัยยืนยันอาการ [2]
    • มีอาการหนังศีรษะล้านหรือผมขาดใกล้ๆ บริเวณรากผมเป็นหย่อมๆ ถ้าคุณมีผมสีดำ ผมที่ขาดออกอาจดูเหมือนตอดำๆ บนหนังศีรษะของคุณ และจุดเหล่านี้อาจค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นตามกาลเวลา
    • บริเวณที่ติดเชื้ออาจเป็นสีแดงหรือเทาและตกสะเก็ด รวมถึงอาจรู้สึกเจ็บโดยเฉพาะเมื่อนำมือไปจับ
    • ผมของคุณอาจหลุดร่วงได้ง่าย
    • สำหรับบางคน หนังศีรษะอาจเกิดอาการอักเสบ มีหนองไหลซึมออกมา และกลายเป็นแผ่นสะเก็ดสีเหลืองๆ [3] ผู้ที่มีอาการเช่นนี้อาจมีไข้หรือต่อมน้ำเหลืองบวมร่วมด้วยเช่นกัน [4]
  2. สิ่งสำคัญคือคุณต้องรู้ก่อนว่า แชมพูขจัดเชื้อราเพียงอย่างเดียวไม่สามารถรักษาอาการของคุณให้หายขาดได้ เพราะคุณยังคงต้องได้รับยาต้านเชื้อราจากแพทย์ อย่างไรก็ตาม แชมพูขจัดเชื้อราสามารถลดการแพร่กระจายของเชื้อรา และช่วยให้คุณหายเร็วขึ้นได้ แชมพูนี้อาจหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปหรืออาจต้องให้แพทย์สั่งเท่านั้น ขึ้นอยู่กับประเภทและความแรงของแชมพู [5]
    • แชมพูที่ใช้กันทั่วไปมักมีส่วนผสมของซิลิเนียมซัลไฟด์หรือคีโตโคนาโซล
    • ใช้แชมพู 2 ครั้งต่อสัปดาห์ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกของการรักษา เว้นแต่แพทย์แนะนำเป็นอย่างอื่น หรือทำตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์ของผู้ผลิต
    • ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้แชมพูเหล่านี้กับเด็ก หรือใช้กับตัวคุณเองในขณะที่ตั้งครรภ์
    • ไม่ควรโกนผมออกจนหมด เพราะเชื้อรามีอยู่บนหนังศีรษะของคุณด้วยเช่นกัน การโกนผมจึงไม่อาจรักษาการติดเชื้อให้หายขาดได้ นอกจากนี้ การโกนยังอาจทำให้คุณรู้สึกอายเข้าไปใหญ่ถ้าทำให้เห็นรอยด่างบนศีรษะชัดขึ้น
  3. คุณสามารถรับยาเหล่านี้ได้โดยใช้ใบสั่งยาจากแพทย์ ไม่ควรใช้ยาประเภทนี้กับเด็กหรือในขณะตั้งครรภ์โดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะตัวยาเหล่านี้อาจช่วยฆ่าเชื้อราได้ แต่ก็มีผลข้างเคียงที่ควรนำมาพิจารณาประกอบด้วยเช่นกัน [6] [7]
    • เทอร์บินาฟิน (ยี่ห้อ Lamisil) — สำหรับยาตัวนี้ โดยทั่วไปจะทานวันละ 1 เม็ด เป็นเวลาประมาณ 4 สัปดาห์และมักได้ผล ผลข้างเคียงจะอยู่แค่ในระยะสั้น แต่อาจจะมีทั้งอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง ผื่นคัน หรือประสาทสัมผัสรับรสเปลี่ยนไป ควรพบแพทย์หากเกิดผลข้างเคียงเหล่านี้ และในกรณีที่มีโรคตับหรือโรคลูปัส คุณอาจไม่สามารถใช้ยาตัวนี้ได้
    • กรีซิโอฟลาวิน (ยี่ห้อ Grifulvin V, Gris-Peg) — ยาชนิดนี้เป็นสเปรย์สำหรับใช้ทุกวันเป็นเวลา 10 สัปดาห์ขึ้นไป แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดศีรษะ และปวดท้อง นอกจากนี้ ทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายต้องระวังไว้ด้วยว่ายาตัวนี้อาจทำให้เด็กในครรภ์พิการแต่กำเนิดถ้าคุณแม่ทานในช่วงที่ตั้งครรภ์ ถ้าคุณแม่ทานไม่นานก่อนที่จะตั้งครรภ์ หรือถ้าคุณพ่อทานภายในช่วง 6 เดือนก่อนได้เป็นคุณพ่อ กรีซิโอฟลาวินยังอาจลดประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดที่มีโพรเจสโตเจนเพียงอย่างเดียวหรือมีทั้ง 2 ฮอร์โมน ผู้ที่ใช้ยานี้จึงควรใช้วิธีการปิดกั้นอื่นเพื่อคุมกำเนิด เช่น ใช้ถุงยางอนามัย ผู้หญิงที่กำลังให้นมบุตรหรือผู้ที่มีโรคตับหรือลูปัสไม่ควรใช้ยาตัวนี้เช่นเดียวกัน รวมถึงห้ามขับรถและตระหนักไว้เสมอว่าคุณจะเมาได้ง่ายขึ้นเมื่อทานยานี้
    • ไอทราโคนาโซล — ยาตัวนี้จะทานในรูปแบบเม็ดประมาณ 1-2 สัปดาห์ ยาอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดศีรษะ และปวดท้อง เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคตับไม่ควรใช้ยาตัวนี้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

วิธีป้องกันการแพร่กระจายและหลีกเลี่ยงการติดเชื้อซ้ำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ให้สัตวแพทย์ตรวจสัตว์เลี้ยงและสัตว์ในฟาร์มของคุณ. ถ้าขนของสัตว์หายไปเป็นหย่อมๆ อาจเป็นไปได้ว่าสัตว์เหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณติดเชื้อรา โดยอาจติดมาในขณะที่เลี้ยง ดูแล หรือทำความสะอาด คุณจึงต้องล้างมือทุกครั้งหลังทำสิ่งเหล่านี้ สัตว์ที่มักเป็นพาหะนำโรคจากสัตว์สู่คน ได้แก่ [8]
    • สุนัข
    • แมว
    • ม้า
    • วัว
    • แพะ
    • หมู
  2. เพราะเชื้อราสามารถแพร่กระจายจากผิวหนังสู่ผิวหนังได้ ผู้ที่มีโอกาสติดเชื้อมากเป็นพิเศษ ได้แก่ [9] [10]
    • ผู้ที่มีเชื้อกรากในบริเวณอื่นของร่างกาย เช่น โรคน้ำกัดเท้าหรือกลากบริเวณขาหนีบ ถ้าคุณเกาบริเวณที่ติดเชื้อจากนั้นจึงเกาศีรษะต่อ คุณอาจแพร่เชื้อราไปสู่หนังศีรษะของคุณได้
    • ช่างทำผม ช่างตัดผม หรือช่างออกแบบทรงผม เพราะพวกเขาต้องสัมผัสกับผมของคนจำนวนมาก
    • พยาบาลในโรงเรียนและผู้ดูแลเด็กที่ต้องสัมผัสกับเด็กจำนวนมาก
    • ผู้ที่สมาชิกในครอบครัวหรือผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ด้วยติดเชื้อ
  3. สิ่งของที่อาจเป็นพาหะของเชื้อราควรได้รับการฆ่าเชื้อหรือเปลี่ยนใหม่ สิ่งของที่สามารถเป็นตัวการแพร่กระจายเชื้อราได้ง่าย ได้แก่ [11] [12] [13]
    • ที่แปรงผม หวี หรืออุปกรณ์ตกแต่งทรงผม จึงควรแช่ลงในน้ำยาที่ผสมขึ้นจากน้ำยาฟอกขาว 1 ส่วนต่อน้ำ 3 ส่วน เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
    • ผ้าขนหนู ผ้าปูที่นอน เสื่อออกกำลังกายหรือเล่นมวยปล้ำ รวมถึงเสื้อผ้า จึงควรใส่สารฆ่าเชื้อหรือสารฟอกขาวลงไปในน้ำยาซักผ้าเมื่อนำผ้าไปซัก
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 24,563 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา