ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คนส่วนใหญ่เคยประสบกับการถูกเกลียดในช่วงหนึ่งของชีวิต ถ้าหากคุณเคยทำไม่ดีกับใคร คุณควร ขอโทษ และพยายามสมานความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม ถ้าหากใครบางคนเกลียดคุณด้วยเหตุผลอื่นซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา เช่น ตัวตนของคุณหรือสไตล์การแต่งตัว คุณก็ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง แทนที่จะทำเช่นนั้น คุณต้องพยายามปกป้องตัวเองทั้งกายและใจจากคนที่เกลียดคุณ จำไว้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ทุกคนพอใจและพยายามอย่าทำให้ความรู้สึกไม่ยุติธรรมทำให้คุณรู้สึกแย่

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

การรับมือกับคนที่เกลียดคุณทางอ้อม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าหากเป็นไปได้ก็อย่ายุ่งกับคนที่เกลียดคุณ คนที่ชอบกลั่นแกล้งมักจะรู้สึกพอใจกับการเย้าแหย่เพื่อดูปฏิกิริยาตอบโต้ บ่อยครั้งที่คนที่เกลียดคุณพยายามทำให้ตัวเองพอใจด้วยการทำให้คุณรู้สึกไม่ดี สิ่งนี้จะกลายเป็นวงจรซึ่งคนที่เกลียดคุณด่าทอคุณ คุณมีปฏิกิริยาตอบโต้และคนที่เกลียดคุณตอบรับปฏิกิริยาตอบโต้นั้น [1]
    • คนที่ชอบกลั่นแกล้งเป็นคนที่เกลียดคุณชนิดพิเศษ สำหรับคนที่ชอบกลั่นแกล้งนั้น การกระทำของพวกเขาซ้ำไปซ้ำมาและมีความไม่สมดุลของพลังเข้ามาเกี่ยวข้อง [2] ถึงแม้คนที่ชอบกลั่นแกล้งทุกคนคือคนที่เกลียดคุณแต่คนที่เกลียดคุณไม่ได้ชอบกลั่นแกล้งคุณทุกคน เช่น น้องชายคนเล็กของคุณสามารถล้อเลียนโดยไม่กลั่นแกล้งคุณเพราะคุณอายุมากกว่าและแข็งแรงกว่าเขา เช่นเดียวกัน ถ้าหากเพื่อนร่วมห้องของคุณพูดสิ่งที่ไม่ดีกับคุณก็ไม่ได้แปลว่าเธอกลั่นแกล้งคุณ โดยทั่วไป การวางตัวนิ่งเฉยคือวิธีที่ดีกว่าในการรับมือกับคนที่ชอบกลั่นแกล้งคุณในขณะที่การเผชิญหน้าอาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรับมือกับคนที่เกลียดคุณ
    • ถ้าหากคนที่เกลียดคุณทำให้คุณรำคาญในห้องเรียน คุณต้องทำเหมือนว่าคุณไม่ได้ยินเขา ถ้าหากคนที่เกลียดคุณแกล้งหรือพยายามเรียกร้องความสนใจของคุณก็อย่าตอบโต้ด้วยวิธีแบบนั้น
    • จำไว้ว่าการเมินเฉยต่อความเกลียดชังไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดในทุกสถานการณ์ ถ้าหากคนที่เกลียดคุณเริ่มทำร้ายคุณทั้งทางกายและใจ คุณต้องแจ้งผู้มีอำนาจ เช่น คุณครูหรือหัวหน้างานที่เกี่ยวข้อง
  2. สร้างความมั่นใจในตนเอง . ความมั่นใจในตัวเองคืออาวุธที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันคนที่เกลียดคุณ หัวเราะไปกับคำด่า โต้ตอบด้วยคำพูดที่ฉลาดและคิดบวก ถ้าหากคุณมีความมั่นใจในตัวเอง คนที่เกลียดคุณจะรู้สึกโมโหและไม่ยุ่งกับคุณ [3]
    • เช่น ถ้าใครบางคนตำหนิงานศิลปะของคุณ คุณต้องวางตัวให้สูงกว่านั้น ลองพูดว่า “ฉันขอโทษที่เธอรู้สึกแบบนั้นแต่งานศิลปะเป็นเรื่องส่วนบุคคล ฉันแค่พยายามปรับปรุง เพราะฉะนั้นฉันชื่นชมคำตำหนิที่เธอมี"
    • ถ้าหากใครบางคนเรียกคุณว่า “ประหลาด” คุณสามารถพูดว่า “นิดนึงแต่ฉันชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้ ประหลาดแล้วยังไง?"
    • เมื่อคุณเดินอยู่ข้างคนที่เกลียดคุณ อย่ามองพื้นหรือเอนตัวไปอีกด้าน ท่าทางแบบนั้นบ่งบอกให้คนที่เกลียดคุณรู้ว่าคุณกลัวและคุณกำลังให้สิ่งที่คนที่เกลียดคุณต้องการ แทนที่จะทำเช่นนั้น คุณต้องเดินตัวตรงอย่างมั่นใจ
  3. สิ่งนี้ไม่ได้แปลว่าคุณต้องหลบซ่อนตัวเองจากคนอื่นแต่คุณไม่ควรปล่อยให้คนที่กลั่นแกล้งคนเป็นเจ้าชีวิตของคุณ พยายามพาตัวเองไปยังสถานการณ์ที่ไม่ต้องพบเจอกับคนที่เกลียดคุณ
    • เมื่อคุณยังเด็ก คุณจะได้รับความเกลียดมากมายจากผู้คนที่ไม่เข้าใจความสนใจและความหลงใหลของคุณ แทนที่จะใช้เวลาอยู่กับคนพวกนี้ คุณต้องมองหาวิธีในการทำสิ่งที่คุณชอบนอกกรอบลบๆ ของพวกเขา
    • ถ้าหากคุณกำลังรับมือกับคนที่เกลียดคุณอย่างร้ายแรงในชั้นเรียนของคุณ คุณสามารถขอย้ายไปยังห้องอื่น ถ้าหากคุณกำลังรับมือกับคนที่เกลียดคุณในชมรมหรือกลุ่มต่างๆ ลองหากลุ่มใหม่ที่ไม่เป็นลบมากนัก
    • ถ้าหากคุณรู้ว่าคนที่นิสัยไม่ดีมักจะอยู่ในที่เดิมๆ ทุกวัน อย่าไปสถานที่นั้น หาทางอื่นหรือขอให้เพื่อนของคุณไปยังสถานที่นั้นกับคุณ
    • การหลีกเลี่ยงคนที่เกลียดคุณคือวิธีที่ดีในการกระตุ้นความมั่นใจในตัวเอง สิ่งนี้คือโอกาสของคุณในการทำสิ่งที่คุณสนใจโดยไม่มีความคิดลบๆ มารบกวน
  4. ถ้าหากคนที่เกลียดคุณพูดว่าคุณไม่สามารถทำบางอย่างได้ วิธีที่ดีที่สุดในการทำให้พวกเขาปิดปากคือการแสดงให้พวกเขาเห็น ทำสิ่งที่พวกเขาพูดว่าคุณไม่สามารถทำได้และทำให้ดี ใช้ความเกลียดเป็นพลังขับเคลื่อน
    • เช่น ถ้าหากคนที่เกลียดคุณพูดว่าคุณไม่มีทางเล่นกีฬาเก่ง คุณสามารถพิสูจน์ว่าพวกเขาคิดผิดด้วยการพยายามอย่างหนัก เข้าร่วมทีมกีฬาที่คุณต้องการถ้าหากคุณไม่ได้ร่วมทีมอยู่แล้วและหมั่นฝึกซ้อม
    • ถ้าหากคนที่เกลียดคุณคิดว่าคุณขี้กลัวเกินไปที่จะพูดกับคนที่คุณชอบ ใช้สิ่งนั้นเป็นแรงกระตุ้นให้คุณชวนคนที่คุณชอบไปออกเดท
    • รับรู้ว่าการพิสูจน์ให้คนที่เกลียดคุณเห็นว่าพวกเขาคิดผิดอาจจะไม่ทำให้พวกเขาหยุดเสมอไป ในบางกรณี ความสำเร็จของคุณอาจทำให้คนที่เกลียดคุณยิ่งรู้สึกอิจฉา สิ่งนี้ไม่ใช่เหตุผลในการพยายามทำสิ่งใดให้สำเร็จแต่อย่าทำบางอย่างเพียงเพราะต้องการแสดงให้พวกเขาเห็น คุณต้องใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

การเผชิญหน้ากับคนที่เกลียดคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณทนไม่ไหวอีกต่อไปก็ไม่ต้องทน การหลีกเลี่ยงคนที่เกลียดคุณไม่ได้แก้ปัญหาเสมอไป หาเวลาเพื่อพูดคุยอย่างจริงใจกับคนเหล่านั้นและพยายามอธิบายความรู้สึกของคุณ พูดกับคนที่เกลียดคุณแต่ละคนอย่างเป็นผู้ใหญ่และมีสติเทียบเท่ากันไม่ว่าอีกคนจะหยาบคายกว่ากันมากแค่ไหน สิ่งนี้สำคัญอย่างยิ่งสำหรับคนที่เกลียดคุณเฉยๆ ซึ่งไม่ได้ด่าทอคุณโดยตรง
    • พยายามบอกคนที่เกลียดคุณว่า: "ฉันได้รับพลังงานด้านลบจากเธอเมื่อไม่นานมานี้และฉันจะขอบคุณถ้าเธอเก็บสิ่งเหล่านั้นไว้กับตัวเอง มันไร้สาระและฉันไม่อยากจะรับมือกับมันอีกต่อไป"
    • พยายามเข้าใจว่าทำไมคนที่เกลียดคุณจึงวางตัวแบบนั้น ถามเขาว่า: "ฉันไปทำอะไรให้เธอหรือเปล่า? ดูเหมือนเธอจะพูดถึงฉันในแง่ลบและฉันไม่เข้าใจว่าทำไม"
  2. คนที่เกลียดคุณรู้สึกพึงพอใจถ้าคุณอารมณ์เสีย หากคุณโต้ตอบอย่างรวดเร็วและใช้อารมณ์ คุณอาจจะไม่สามารถสร้างประเด็นที่ชัดเจนได้ หากคุณโมโห คุณจะให้เหตุผลเพิ่มขึ้นกับพวกเขาเพื่อล้อเลียนคุณ อย่าปล่อยให้คำพูดของคุณครุกรุ่นไปด้วยความโกรธและความโมโห ให้เวลาตัวเองเพื่อใจเย็นลงก่อนที่จะตอบโต้
  3. แก้ไขข้อโต้แย้งด้วยคำพูดที่กลั่นกรองและความเป็นผู้ใหญ่ที่มั่นใจ ถ้าหากความเกลียดชังปะทุขึ้น คุณต้องเป็นเหมือนน้ำเพื่อดับไฟ ใจเย็นและมีสติ การต่อสู้กับไฟด้วยไฟไม่ได้ผล
    • ถึงแม้ว่าคุณไม่ควรเป็นฝ่ายเริ่มทะเลาะแต่อย่าปล่อยให้คนที่เกลียดคุณทำร้ายคุณ เรียนรู้ที่จะปกป้องและป้องกันตัวเอง เปลี่ยนแรงถูกกระทำเข้าหาผู้ต่อสู้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

การรับมือกับนักเลงคีย์บอร์ด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คนที่เกลียดคุณที่คุณเจอในโลกออนไลน์บางครั้งร้ายแรงกว่าพวกที่คุณเจอในชีวิตจริง อย่างไรก็ตาม จำไว้ว่าแรงจูงใจของพวกเขาคือสิ่งเดียวกัน พวกเขามองหาปฏิกิริยาโต้ตอบจากคุณ โชคดีที่มีหลายวิธีในการสยบนักเลงคีย์บอร์ด
    • บล็อกพวกนักเลงคีย์บอร์ด [4] ช่องทางออนไลน์ส่วนใหญ่อนุญาตให้คุณบล็อกการสื่อสารจากผู้ใช้บางคน ใช้ตัวเลือกนี้เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่เกลียดคุณติดต่อคุณ ในกระดานความคิดเห็นส่วนใหญ่ ตัวเลือกนี้จะช่วยซ่อนโพสต์ของเขาจากสาธารณะเพื่อไม่ให้เขาทำให้คุณอารมณ์เสีย
    • ตรวจสอบกฎเกณฑ์ของเกมหรือเว็บไซต์ เกมในเว็บไซต์ส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้โจมตีด้วย ข่มขู่หรือใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพ คุณสามารถรายงานผู้ควบคุมเว็บไซต์แทนที่จะตอบโต้การโจมตีเหล่านั้น
  2. อย่าใช้ชื่อจริงของคุณนอกเหนือจาก Facebook และเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการทำงาน สิ่งนี้สำคัญอย่างยิ่งถ้าหากคุณมีชื่อที่ไม่เหมือนใครที่สามารถสะกดรอยตามได้ง่ายผ่านทางโปรแกรมเสิชหา ลองใช้ชื่อเล่นที่แตกต่างกันออกไปเพื่อไม่ให้พวกก่อกวนติดตามคุณไปยังเว็บไซต์ต่างๆ
    • จำไว้เสมอว่าทุกอย่างที่คุณใส่ลงอินเตอร์เน็ตสามารถเข้าถึงได้ตลอดไป ถึงแม้ว่าคุณคิดว่ากระดานความคิดเห็นนี้เป็นส่วนตัวหรือคุณลบบางอย่างออกไปแล้วแต่คนที่เกลียดคุณสามารถดาวน์โหลดหรือแคปหน้าจอเพื่อไว้ใช้ภายหลัง ไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะโพสต์
    • โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากคุณเป็นเด็ก คุณต้องระวังเกี่ยวกับข้อมูลที่คุณใส่ออนไลน์ อย่าโพสต์สิ่งที่ทำให้คนสามารถสะกดรอยตามมายังที่อยู่บ้านหรือกิจวัตรประจำวันได้
  3. ถ้าหากคนที่เกลียดคุณเปลี่ยนจากการนินทาเป็นการข่มขู่โดยตรง การเมินเฉยอย่างเดียวอาจจะไม่พอ ถ้าหากสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ คุณต้องบอกใครบางคนที่คุณไว้ใจ ถ้าหากคุณเป็นเด็กก็ควรบอกพ่อแม่หรือผู้ปกครอง
    • อย่าลบอะไรออก ถึงแม้ว่าคุณจะต้องการให้คำพูดที่เจ็บปวดเหล่านี้หายไปแต่คุณต้องเก็บมันไว้ บันทึกอีเมล ข้อความและบทสนทนาเอาไว้ทั้งหมด การคุกคามในโลกออนไลน์ผิดกฎหมาย ถ้าเรื่องราวใหญ่โตขึ้นจนผู้มีอำนาจต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง คุณจะต้องมีหลักฐานว่าเกิดอะไรขึ้น [5]
  4. หากคุณมีธุรกิจส่วนตัว คุณอาจจะได้รับรีวิวออนไลน์ที่เป็นลบ การไม่เปิดเผยตัวตนในโลกออนไลน์ทำให้นักเลงคีย์บอร์ดพูดจาเกินเลยกว่าสิ่งที่พวกเขาจะพูดต่อหน้าคุณ อย่าปล่อยให้คำพูดของพวกเขาทำลายความมั่นใจของคุณแต่พิจารณาคำพูดเหล่านี้อย่างระมัดระวัง เพียงเพราะมีคนพูดบางอย่างในแง่ลบไม่ได้แปลว่าคำพูดนั้นผิด คุณควรพิจารณาประเภทของ “คนที่เกลียดคุณ” แบบนี้ว่าเป็นนักวิจารณ์หัวรุนแรงแทน เช่นเดียวกับถ้าหากคุณเป็นนักเขียนหรือศิลปินและคุณโพสต์งานของคุณออนไลน์ ความคิดเห็นที่ไม่ดีหรอกนี้แตกต่างจากการคุกคามและคุณต้องรับมือแตกต่างกันไป
    • พยายามเข้าหาคำวิจารณ์ด้วยความคิดเห็นเฉพาะตัว คุณต้องเห็นใจ มีตรรกะและสุภาพ เสนอทางแก้ไข พยายามอย่าตอบโต้ด้วยความโกรธโดยใช้คำพูดที่ไม่สุภาพ [6]
    • ลองปล่อยผ่านไป มันยากที่ต้องทำให้ทุกคนพอใจและสานต่ออย่างมีความหมายกับใครบางคนบนโลกออนไลน์ สิ่งนี้เป็นความจริงเมื่อใครบางคนมีพฤติกรรมชอบตำหนิให้เสียหาย มันคือธรรมชาติของการมีตัวตนในโลกออนไลน์ บางคนเกลียดคุณเพราะสิ่งที่คนอื่นชอบ [7]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

การอยู่บนโลกแห่งความจริง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คนที่เกลียดคุณเหล่านี้อาจจะน่ารำคาญในตอนนี้และพวกเขาอาจจะทำให้ชีวิตของคุณหดหู่แต่นึกถึงว่าสิ่งเหล่านี้สำคัญกับคุณมากเท่าไหร่ เป็นไปได้สูงว่าคุณจะคิดแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงก่อนที่คุณจะรู้ตัวเสียอีก ชีวิตคือการเปลี่ยนแปลงโดยธรรมชาติของมัน อย่าปล่อยให้คนที่เกลียดคุณเหล่านี้ควบคุมชีวิตของคุณในเมื่อพวกเขาเป็นเพียงแค่ด้านเล็กๆ ที่ไม่พึงประสงค์ของชีวิตเท่านั้น [8]
  2. จำไว้ว่าสิ่งที่คุณกำลังประสบในตอนนี้เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น. นึกถึงว่าคุณจะต้องรับมือกับคนที่เกลียดคุณอีกยาวนานเท่าไหร่ จินตนาการตัวเองในอีก 5 ปีข้างหน้า พิจารณาว่าคุณจะไปที่ไหนและคุณต้องการทำอะไร ถามตัวเองว่าคนที่เกลียดคุณเหล่านี้จะยังคงเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณในตอนนั้นหรือไม่ [9] เป็นไปได้สูงว่าคนรู้จักคนที่เกลียดคุณเหล่านี้ที่โรงเรียน 2-3 ปีจากตอนนี้คุณจะไม่ต้องเจอพวกเขาอีกเลย อดทนไว้จนถึงวันนั้น
    • ถ้าหากคนที่เกลียดคุณเหล่านี้จะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณในอีก 5 ปีข้างหน้า ถามตัวเองว่าคุณสามารถทำอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงได้บ้าง คุณย้ายโรงเรียนได้ไหม? คุณสามารถเผชิญหน้ากับพวกเขาตอนนี้และจัดการปัญหาได้หรือเปล่า?
    • ถ้าหากคนที่เกลียดคุณจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณในอีก 5 ปีข้างหน้าก็ลองนึกว่าทำไม บางทีคุณกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยหรือคุณกำลังเปลี่ยนงานหรือเปลี่ยนวงจรทางสังคมใหม่ มีอะไรที่คุณสามารถทำเพื่อให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเร็วกว่าเดิมหรือไม่?
  3. รับรู้ว่าความเกลียดสะท้อนกลับไปยังคนที่ส่งมันมา คนเหล่านี้ไม่ได้เกลียดคุณเพราะคุณทำผิดหรือมีข้อบกพร่อง มีโอกาสสูงว่าพวกเขารู้สึกไม่สบายใจกับตัวตนของตัวเอง บางคนทำตัวโหดร้ายเพราะว่าเขาอิจฉาหรือเขาไม่หยุดเพื่อคิดว่าคำพูดของเขาจะมีผลกับผู้อื่นอย่างไร ใช้ความเห็นอกเห็นใจเพื่อเปิดใจของคุณ [10]
    • ถ้าหากคุณให้อภัยคนที่เกลียดคุณ คุณอาจจะคิดว่าคำพูดของพวกเขาไม่รบกวนคุณอีกต่อไป พยายามเข้าใจความรู้สึกของพวกเขา รับรู้ให้มากกว่าประสบการณ์และความไม่มั่นคงของตัวเอง [11]
    • อย่าเข้าใจผิดคิดว่าการดูถูกดูแคลนคือการให้อภัย หลีกเลี่ยงการบอกตัวเองว่าคนที่เกลียดคุณเหล่านี้โง่หรือน่าสมเพชหรือสมองกลวงถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม เตือนตัวเองว่าคนที่เกลียดคุณเหล่านี้คือมนุษย์ที่มีความคิดและความรู้สึกเป็นของตัวเอง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ย้ำเตือนตัวเองให้แข็งแกร่งอยู่เสมอ ความแข็งแกร่งของนิสัยเอาชนะปริมาณได้เสมอ
  • อย่ากระตุ้นความเกลียด อย่าทำตัวเย่อหยิ่งหรือน่ารังเกียจ
  • ครั้งต่อไปที่ใครบางคนคุกคามหรือด่าทอคุณ คุณต้องส่งสัญญาณสันติภาพให้เขา
  • จำไว้ว่าการที่คุณถูกเกลียดมักจะไม่ใช่ปัญหาของคุณ ถ้าหากคุณไม่ได้ทำอะไรผิดก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญถ้าใครบางคนเกลียดคุณด้วยเหตุผลที่งี่เง่า ถ้าผู้คนมีปัญหากับคุณ พวกเขาน่าจะเป็นผู้ใหญ่พอที่จะไม่ยุ่งกับคุณ
  • ถ้าพวกเขาเกลียดเพศ เชื้อชาติ ศาสนา ความพิการหรือความชอบทางเพศของคุณ คุณไม่ควรปล่อยวาง ถ้าหากสิ่งนี้เกิดขึ้นในโรงเรียน คุณต้องคุยกับคุณครูหรือผู้บริหาร ถ้าหากสิ่งนี้เกิดขึ้นที่ทำงาน คุณต้องคุยกับหัวหน้าหรือฝ่ายบุคคล
  • อย่าปล่อยให้ความคิดเห็นของคนอื่นติดอยู่ในหัวของคุณ คุณมีเรื่องที่ดีกว่านั้นที่ต้องคิดและสิ่งที่เป็นบวกที่คุณควรจดจ่อ
  • มันไม่เป็นไรถ้าหากผู้คนเกลียดคุณ คุณไม่สามารถทําให้ทุกคนพอใจได้ตลอดเวลาและคุณมักจะพบเจอกับคนที่ไม่ชอบคุณด้วยเหตุผลที่งี่เง่าหรือเพียงเพราะพวกเขาอิจฉา ถ้าหากใครบางคนเกลียดคุณ คุณต้องภูมิใจในตัวเองว่าคุณได้ทำบางอย่างที่ดึงดูดความสนใจตั้งแต่ตอนแรก [12]
  • อย่าสนใจเพราะคนพวกนี้จะไม่อยู่ในชีวิตของคุณตลอดไป อยู่ท่ามกลางผู้คนที่ทำให้คุณมีความสุข
  • พยายามหลีกเลี่ยงพวกเขาให้มากที่สุด
  • “ฆ่า” พวกเขาด้วยความปราณีและเบี่ยงเบนความสนใจ (และร่างกาย ถ้าหากเป็นไปได้)ของคุณไปที่อื่น เป็นคนรัก อย่าเป็นคนเกลียด
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าทะเลาะเบาะแว้ง วิธีนี้จะทำให้คุณมีปัญหาในโรงเรียนหรือทำผิดกฎหมาย
  • อย่าพยายามแก้แค้นเพราะมันจะย้อนกลับมาแว้งกัดคุณ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,478 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา