ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ค่ำคืนที่ยาวนานและมืดมิดอาจทำให้คนที่นอนคนเดียวหรืออยู่คนเดียวรู้สึกเหงาเป็นพิเศษ ความโดดเดี่ยวในยามดึกเกิดขึ้นได้กับทุกคน มันจะทำให้เศร้าหรือทำให้กลัว แม้ว่าคุณจะต้องยอมรับความรู้สึกเหงานั้น แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องฝืนทนข้ามผ่านมันไปด้วยความทุกข์ ยังมีสิ่งดีๆ อีกมากที่คุณสามารถทำได้เพื่อเต็มเติมช่วงเวลายามค่ำคืนนั้นให้มีความสุขขึ้น

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ทำตัวยุ่งๆ ตอนกลางคืน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มีหลายวิธีที่คุณจะขยับร่างกายและพาใจออกจากความรู้สึกเหงาได้ ไม่ว่าจะออกกำลังกาย เต้นเพลงโปรด กระโดดเล่นบนเตียง หรือเรียนคาราเต้ผ่าน YouTube
    • การออกกำลังกายจะทำให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นและอาจทำให้หายเหงาได้ [1] แค่จำไว้ว่าอย่าออกกำลังกายในช่วงที่ใกล้เวลานอน ไม่อย่างนั้นร่างกายและสมองคุณจะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อผ่อนคลายและเข้าสู่โหมดพัก สำหรับบางคน การออกกำลังกายตอนเย็นๆ จะช่วยให้นอนดึกได้นิดหน่อยโดยที่ยังรักษาสุขภาพให้ดีอยู่
    • ทำอะไรสนุกๆ และตลกๆ เช่น เปิดเพลงแล้วเต้นในชุดชั้นใน มันจะทำให้คุณหัวเราะได้ ซึ่งเป็นสิ่งดีๆ ที่จะทำให้รู้สึกดีและไม่เหงา [2]
  2. ตอนกลางคืนอาจเป็นช่วงที่ความรู้สึกแย่ๆ จะถูกปล่อยออกมา โดยเฉพาะเวลาอยู่คนเดียว แต่คุณสามารถจัดการกับมันได้โดยหาพลังทางบวกมาช่วยให้ความเหงาเบาบางลง
    • เปิด Pinterest หรือ Google หาคำคมเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ เอามาตั้งเป็นภาพหน้าจอโทรศัพท์มือถือหรือรูปโปรไฟล์ในโซเชียลมีเดียต่างๆ อ่านอัตชีวประวัติของคนที่ประสบความสำเร็จที่คุณชื่นชม หรือดู TED Talk เพื่อหาความรู้และยกระดับจิตใจ [3]
  3. อ่านหนังสือดีๆ ดูหนังเรื่องโปรด ดูโทรทัศน์ หรือเล่นอินเทอร์เน็ต ตัวเลือกเหล่านี้จะช่วยให้สมองคุณจดจ่อกับสิ่งอื่นและหันเหความสนใจของคุณออกจากความรู้สึกโดดเดี่ยว เมื่อคุณเริ่มรู้สึกง่วงแล้วก็ค่อยไปนอน
  4. บางทีสิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำคือออกจากบ้าน (ถ้าสภาพอากาศเป็นใจ) การออกมาเจอสิ่งหันเหความสนใจและเปลี่ยนสถานที่สามารถช่วยให้คุณลืมความเหงาไปได้ คุณอาจได้เจอคนรู้จักและคุยกันสักหน่อย หรืออาจจะบังเอิญเจออะไรที่น่าสนใจระหว่างทางก็ได้ [4]
    • ลองไปในที่ที่ไม่รู้จัก เช่น ขับรถไปในย่านที่ไม่คุ้นเคย หรือเดินไปแถวบ้านที่คุณไม่ค่อยได้ไป แค่ต้องมั่นใจว่ามันปลอดภัย วิธีนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสอะไรใหม่ๆ ซึ่งมีส่วนช่วยบรรเทาความเหงา และช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของคุณได้มากทีเดียว
  5. ผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งแนะนำให้อ่านอะไรเกี่ยวกับความเหงาเพื่อบรรเทาความเหงา ยิ่งคุณได้รู้จักความเหงาและธรรมชาติของมันมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งเหงาน้อยลงเท่านั้น เมื่อคุณรู้ว่ายังมีคนอื่นที่รู้สึกแย่และเจ็บปวดแบบเดียวกับที่คุณเป็น มันจะทำให้คุณรู้สึกแย่น้อยลง [5]
    • มองหาหนังสือหรือบทความออนไลน์ หรือไปหาหนังสือที่ห้องสมุดดู เก็บไว้กับตัวเผื่อเวลาที่คุณรู้สึกแย่ คุณจะได้หยิบข้อความกระตุ้นใจที่คุณชอบขึ้นมาอ่านเพื่อปลอบตัวเองยามเหงา ตัวอย่างหนังสือเกี่ยวกับความเหงาที่ดีคือ Lonely: Learning to Live with Solitude ของ Emily White [6]
  6. คิดไว้เสมอว่าคุณเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของตัวเอง คุณไม่จำเป็นต้องอยู่กับคนเยอะๆ หรือทำอะไรน่าตื่นเต้นเพื่อที่จะมีความสุข การอยู่กับคนอื่นเป็นเรื่องดี แต่การเรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียวอย่างมีความสุขก็สำคัญเช่นกัน การใช้เวลาอยู่กับตัวเองนั้นมีค่ามาก ถ้าคุณสามารถยอมรับที่จะอยู่คนเดียวและเปิดรับความเหงาได้ คุณก็จะรู้สึกเหงาน้อยลง
    • เมื่อคุณรู้สึกเหงา ให้หาเวลาหลับตาและผ่อนคลาย จดจ่ออยู่กับลมหายใจและความรู้สึกที่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย ลองอยู่กับปัจจุบัน และมุ่งความสนใจไปที่ตัวเอง
    • พูดประโยคให้กำลังใจตัวเองเพื่อเตือนให้รู้ว่าคุณไม่ได้เหงาอยู่คนเดียว และเพื่อปลอบประโลมตัวเองเวลารู้สึกแย่ๆ “นี่คือช่วงเวลาแห่งทุกข์ ความทุกข์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ตอนนี้เราต้องดีกับตัวเอง ต้องมอบความเห็นใจให้ตัวเอง” [7]
    • วิธีนี้อาจใช้ไม่ได้ผลกับทุกคนเสมอไป บางคนอาจรู้สึกว่ามันยากที่จะผ่อนคลายด้วยการจดจ่ออยู่กับตัวเองในขณะที่กำลังเหงา และอาจอยากได้สิ่งหันเหความสนใจมากกว่า ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติและไม่ได้ผิดอะไร
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

อยู่กับคนอื่นๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาใครสักคนที่คุณสามารถคุยด้วยไม่ว่าจะดึกแค่ไหน แม้แต่ตีสองครึ่งก็ตาม อาจจะเป็นคนรัก พี่น้อง พ่อแม่ หรือเพื่อนสนิทก็ได้ [8] หันไปปลุกคนรักที่นอนอยู่ข้างๆ หรือโทรศัพท์ถึงใครสักคนที่เต็มใจจะคุยกับคุณ หรืออาจจะไปคุยกับเพื่อนร่วมห้องที่อยู่ไม่ไกล แค่หาใครสักคนถ้าทำได้
    • ถ้ายังไม่ดึกจนเกินไป ลองโทรไปหาคนที่ยินดีจะคุยกับคุณ เช่น ญาติผู้ใหญ่ มันไม่ใช่แค่ช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น แต่ยังช่วยพวกเขาด้วย ซึ่งก็จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นไปอีก
    • ถ้าความเหงามาทักทายกลางดึก และมันดึกเกินกว่าจะโทรหรือไปหาใคร คุณก็ยังเขียนอีเมลหรือจดหมายถึงคนพิเศษได้เสมอ [9] แม้คุณจะเคยชินกับการติดต่อสื่อสารแบบทันทีทันใดในสังคมที่ก้าวกระโดดนี้ แต่การเขียนถึงคนสำคัญในเวลาแบบนี้ก็เป็นสิ่งที่ดีมากๆ ที่จะช่วยส่งผ่านความรู้สึกนึกคิดของคุณได้ แล้วอีเมลหรือจดหมายนั้นก็จะไปถึงพวกเขาในเวลาไม่นาน
    • คุณสามารถชวนคนอื่นมาดูหนัง กินมื้อค่ำ หรือออกไปเที่ยวกันได้ ถ้าคุณได้เจอเพื่อนสนิทหรือครอบครัวก็ลองชวนพวกเขาค้างคืนดู บางทีการมีอีกคนอยู่ด้วยมันก็ดีนะ
  2. ทางหนึ่งที่จะหลีกเลี่ยงความเหงายามดึกคือการออกไปข้างนอกตั้งแต่เย็นจนถึงเวลานอน นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณต้องอยู่นอกบ้านจนถึงเช้า แค่ออกไปดูหนังกับเพื่อน กินมื้อค่ำกับเพื่อนร่วมชั้น หรือไปดื่มสังสรรค์กับที่ทำงาน [10]
    • คุณอาจจะไม่มีอารมณ์ออกไปข้างนอกถ้ากำลังหดหู่หรือเศร้า แต่จริงๆ แล้วนั่นเป็นสิ่งที่คุณควรทำมากที่สุด [11] อีกอย่าง เมื่อกลับถึงบ้านก็จะถึงเวลาเข้านอนพอดี คุณจะได้ไม่มีเวลามานั่งเหงา
    • ถ้าคุณไม่อยากออกไปไหนจริงๆ ให้ลองทำแบบนี้ แทนที่จะออกไปใช้เวลาทั้งคืน ให้บอกเพื่อนหรือกลุ่มที่คุณจะไปเจอว่าคุณจะไปดื่มแค่แก้วเดียว (หรือของว่างอีกนิดหน่อย) แล้วก็จะกลับ จากนั้นอะไรๆ อาจจะไปได้สวยและคุณอาจจะรู้สึกดีกว่าที่คิด แล้วค่อยอยู่ดื่มต่ออีกสักแก้ว (หรือสองก็ได้)
  3. การหากิจกรรมหรือคอร์สเรียนที่คุณสนใจมาทำในช่วงเย็นจะช่วยพาใจคุณออกจากความรู้สึกเหงา และทำให้เวลาตอนเย็นของคุณมีแบบแผนมากขึ้น [12] ถึงคุณจะหากลุ่มที่นัดช่วงตีสองไม่ได้ คุณก็ยังหากิจกรรมทำในช่วงเย็นถึงค่ำได้ เช่น ฝึกโยคะ ไทชิ ถักนิตติ้ง และวาดภาพ
    • เข้าไปที่ meetup.com เพื่อหากลุ่มคนในพื้นที่ใกล้เคียงที่มีความสนใจเหมือนๆ กัน และหากิจกรรมที่จัดใกล้บ้านคุณ ใครจะไปรู้ล่ะ คุณอาจได้เจอใครบางคนที่ประสบปัญหาเหงายามดึกเหมือนคุณก็ได้ แล้วคุณสองคนก็จะได้ใช้เวลาร่วมกัน คุยโทรศัพท์ หรือสไกป์หากันเพื่อคลายเหงา
  4. คนเราเวลารู้สึกแย่ เรามักจะมุ่งความสนใจทั้งหมดและทุ่มเทไปที่ตัวเองคนเดียว ซึ่งมันจะทำให้ความรู้สึกแง่ลบเพิ่มขึ้นได้ แต่ถ้าเราสนใจสิ่งรอบข้างแทน เราก็จะเอาใจออกห่างจากความเหงาและทำสิ่งดีๆ ได้บ้าง [13]
    • ลองไปเป็นอาสาสมัครตามสถานสงเคราะห์คนไร้บ้าน ศูนย์พักพิงสัตว์ หรือที่อื่นๆ ใกล้บ้านคุณที่ต้องการความช่วยเหลือ เวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อคุณได้เล่นกับสัตว์หรือช่วยอาบน้ำให้พวกมัน หรือเข้าร่วมงานการกุศลต่างๆ
    • ลองไปเยี่ยมผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่บ้านพักคนชราหรือโรงพยาบาลในท้องถิ่น ถ้าคุณมีญาติอยู่ที่นั่นก็ไปเยี่ยมพวกเขาบ้าง และคุณจะได้พบความสุข บางทีถ้าคุณมีโอกาสได้รับรู้ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหน ชีวิตอาจจะมีหวังมากขึ้น การได้ช่วยเหลือผู้อื่นนั้นช่วยให้มุมมองความคิดเปลี่ยนได้จริงๆ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

นอนคนเดียว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. [14] การเข้านอนและตื่นให้เป็นเวลาทุกวันจะช่วยให้คุณนอนหลับได้เร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกเครียดน้อยลงขณะกำลังนอน มันอาจต้องใช้เวลาสองสามสัปดาห์ที่จะสร้างกิจวัตรการนอนใหม่ ดังนั้นหากยังปรับตัวไม่ได้ในทันทีก็ไม่ต้องกังวล
    • การเข้านอนเร็วในตอนที่ข้างนอกยังมีเสียงอยู่บ้างอาจช่วยให้คุณรู้สึกเหงาน้อยลง ถ้าอยู่คนเดียว วิธีนี้อาจจะทำให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้นเพราะยังมีเสียงจากคนอื่นอยู่ในตึกหรือถนนด้านนอก [15]
  2. ใช้เวลาผ่อนคลายเล็กน้อยก่อนเข้านอน เลิกดูโทรทัศน์และเล่นโทรศัพท์อย่างน้อย 20 นาทีก่อนเข้านอน เพื่อให้สมองได้เตรียมตัวสำหรับการพักผ่อน [16]
    • วิธีอื่นๆ ที่ช่วยให้จิตสงบก่อนนอน เช่น ทำสมาธิ ฝึกกำหนดลมหายใจ สร้างมโนภาพ และผ่อนคลายกล้ามเนื้อ คุณอาจจะลองอ่านหนังสือหรือนิตยสารโดยเปิดไฟแบบไม่ต้องสว่างมาก เล่นครอสเวิร์ด หรือฟังเพลงสบายๆ ก็ได้ [17]
  3. การพยายามฝืนหลับทั้งที่คุณทำไม่ได้มีแต่จะเพิ่มความเครียดและทำให้หลับยากขึ้น ถ้าคุณไม่สามารถนอนหลับได้ ให้ลุกไปที่อื่นและหากิจกรรมเบาๆ ทำก่อน [18] เมื่อถึงเวลา คุณจะรู้สึกผ่อนคลายขึ้นและพร้อมที่จะกลับไปนอน
  4. คนเราจะนอนหลับได้ดีขึ้นในตอนกลางคืนหลังจากได้ออกไปเจอแดดตอนกลางวัน ควรควบคุมความสว่างของแสงในห้องเวลานอนด้วย เพราะการเปิดไฟไว้จะทำให้หลับยากขึ้น [19]
    • ถ้าคุณไม่มีม่านกันแสง (ม่านแบบที่กันแสงเข้าทั้งหมดจริงๆ) ลองซื้อผ้าปิดตามาใช้เวลานอน ราคาไม่แพงและหาซื้อได้ตามร้านขายยาและร้านค้าออนไลน์ทั่วไป
  5. ถ้าคุณไม่งีบช่วงกลางวัน ตอนกลางคืนคุณจะเหนื่อยและนอนหลับได้ง่ายขึ้น ทำให้มีเวลารู้สึกเหงาหรือเครียดน้อยลง [20]
  6. คุณอาจจะต้องฟังเสียงจากสิ่งแวดล้อมหรือเสียงที่มีความถี่สม่ำเสมอ หลายคนชอบฟังเสียงจากธรรมชาติ เช่น เสียงน้ำตก หรือเสียงในป่าฝน
    • เสียงเหล่านี้และเสียงอื่นๆ ที่คล้ายกันนั้นสามารถหาฟังได้จากเครื่องเล่นเสียงหรือแอพพลิเคชั่นบนมือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์
    • สำหรับคนเหงาๆ ที่นอนคนเดียว การเปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้แล้วเปิดเสียงเบาๆ อาจเป็นทางที่ดี เสียงจากโทรทัศน์อาจช่วยให้สงบได้ ถ้าเป็นไปได้ก็ให้หันหน้าจอไปทางอื่นเพื่อลดแสงรบกวนจากจอโทรทัศน์ แสงไฟในห้องนอนอาจรบกวนการนอนหลับ [21]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • คนเราสามารถอยู่คนเดียวได้โดยไม่รู้สึกเหงา และในหลายๆ ครั้งคุณก็อาจเลือกที่จะอยู่คนเดียวเอง อย่างเวลาที่อยากอ่านหนังสือ งีบหลับ หรือดูรายการโปรด ในทางกลับกัน ความเหงาจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคุณอยู่คนเดียวและรู้สึกเศร้ากับการที่ต้องอยู่คนเดียว [22] ในสถานการณ์แบบนี้ ความคิดความเข้าใจถือเป็นสิ่งสำคัญมาก [23]
  • ความเหงาจะส่งผลกระทบต่อโรคอ้วนและระดับความดันโลหิต (ทำให้สูงได้ถึง 30 จุด) และยังทำให้นอนไม่หลับได้ด้วย คุณจึงควรจัดการกับความเหงาก่อนที่มันจะเพิ่มมากจนเกินไป [24]
  • ใครๆ ก็มีเวลาที่รู้สึกเหงากันทั้งนั้น ถึงจะมีผู้คนรายล้อมอยู่ก็ตาม มันเป็นเรื่องธรรมดาของความรู้สึกที่มีขึ้นมีลง อย่าฝืนตัวเองให้มากไปล่ะ
  • อ่านหนังสือดีๆ หรือถ้าอยากทำอย่างอื่นก็ลองหยิบหนังเรื่องโปรดมาดู หรือดูรายการตลกๆ ก็ได้
  • ลองรับเลี้ยงสัตว์อย่างสุนัขหรือแมวเพื่อให้เป็นเพื่อนคลายเหงา [25]
  • ตอนนี้คุณอาจจะรู้สึกแย่และเศร้าสุดๆ เพราะไม่มีใคร แต่จำไว้ว่าในอีกไม่กี่เดือนหรืออาจจะอีกหลายปี ช่วงเวลาเหล่านี้จะกลายเป็นหนึ่งในความทรงจำของคุณ เพราะมันเกิดขึ้นแล้วและเป็นจริง อย่าฝืนเลย มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะรู้สึกแบบนั้น
โฆษณา

คำเตือน

  • การปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความเหงามากเกินไปอาจทำให้คุณซึมเศร้าและท้อแท้ ซึ่งมีแต่จะทำให้รู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยวมากขึ้นไปอีก ถ้าคุณเริ่มสังเกตว่าตัวเองติดอยู่กับความรู้สึกเศร้า หมดกำลังใจ ควรไปขอความช่วยเหลือจากแพทย์หรือนักบำบัด
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 10,318 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา