ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การลดน้ำหนักให้ได้ 9 กิโลกรัมภายใน 2 สัปดาห์ไม่ใช่เรื่องง่าย และแม้ว่าการผ่าตัดหรือยาลดน้ำหนักจะเป็นที่นิยมในหมู่คนที่ต้องการลดน้ำหนักภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่การเลือกรับประทานอาหารและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตบางอย่างก็เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าอยู่ดี แต่ต้องจำไว้ด้วยว่า การคุมอาหารเพื่อการลดน้ำหนักนั้นไม่ใช่วิถีการกินโดยทั่วไป ดังนั้น ถ้าหากต้องการควบคุมน้ำหนักนานกว่า 2 สัปดาห์ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

กินแต่ของที่ช่วยลดน้ำหนัก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. น้ำเปล่าช่วยชำระล้างสารพิษต่างๆ ในร่างกาย ทำให้คุณลดน้ำหนักได้ง่ายขึ้นและดีกว่าน้ำหวานแน่นอนเพราะไม่มีแคลอรี่ ถ้าคุณควบคุมตัวเองให้ดื่มแต่น้ำเปล่าได้ รับรองว่าน้ำหนักของคุณจะลดลงเร็วขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าอยากดื่มอะไรที่มีรสชาติบ้าง ก็ให้ดื่มชาไม่ผสมน้ำตาลแทน
    • หมั่นดื่มน้ำเปล่าตลอดทั้งวันยกเว้นก่อนออกกำลังกาย ช่วงก่อนออกกำลังกายให้ดื่มกาแฟดำ (ผสมนมไขมันต่ำนิดหน่อยก็ได้) อั๊กๆ ตามใจชอบ เพราะกาเฟอีนทำให้คุณกระปรี้กระเปร่าและช่วยให้ออกกำลังกายได้หนักขึ้นอีกนิด [1]
    • การดื่มน้ำเปล่านอกจากจะทำให้รู้สึกอิ่มแล้ว ยังเพิ่มระดับการเผาผลาญอีกด้วย งานวิจัยล่าสุดพบว่า การดื่มน้ำเย็น 2 แก้วช่วยเพิ่มระดับการเผาผลาญถึง 40 เปอร์เซ็นต์เป็นเวลา 15-20 นาที ผู้เข้าร่วมการทดลองนี้ลดน้ำหนักไปได้ถึง 7 กิโลกรัมภายใน 3 เดือน โดยวิธีการหลักๆ ก็คือดื่มน้ำเปล่าอย่างเดียว [2]
  2. คนที่ไม่ได้ควบคุมน้ำหนักสามารถกินอาหารขยะได้โดยไม่มีผลอะไรกับร่างกายมากนัก แต่สำหรับคนที่มีเป้าหมายลดน้ำหนักอย่างเร่งด่วน (เช่นคุณ) ต้องงดอาหารพวกนี้โดยเด็ดขาด
    • อยู่ให้ห่างจากของทอด ของมัน และของหวานทุกชนิด อะไรก็ตามที่ทำมาจากแป้ง นม ไข่ ผ่านการทอด เคลือบช็อกโกแลต พัน ห่อ สอดไส้น้ำตาล พวกนี้ห้ามเด็ดขาด
    • อ่านฉลากก่อนกินเสมอ เพราะแม้แต่ของกินที่คนคิดว่าดีต่อสุขภาพอย่างโยเกิร์ตหรือซีเรียลบาร์ก็ผสมน้ำตาลอยู่มาก
  3. ทุกอย่างตั้งแต่พาสต้ายันคุกกี้ล้วนแต่เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ซึ่งก็คือน้ำตาลปลอมตัวมานั่นเอง เจ้าวายร้ายพวกนี้จะไปเพิ่มระดับอินซูลินให้สูงพรวด เพิ่มการสะสมของไขมันและทำให้เราอ้วนในที่สุด การงดคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวช่วยลดระดับการเพิ่มอินซูลินได้ ตัวอย่างอาหารที่เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวก็ได้แก่ ข้าวขาว ขนมปัง มันฝรั่ง คุกกี้ เค้ก โดนัท มันฝรั่งทอด เพร็ตเซล และไอศกรีม [3]
    • ถ้าจะให้ดีก็ควรงดคาร์โบไฮเดรตทุกชนิด เพราะการลดน้ำหนัก 9 กิโลกรัมภายใน 2 สัปดาห์นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยนะ เพื่อให้ร่างกายของคุณเผาผลาญดีขึ้น คุณจะต้องลดหรืองดแป้งไปเลย และเพื่อลดน้ำตาลไปในตัว คุณก็ควรงดผักที่มีส่วนผสมของแป้ง (เช่น มันฝรั่ง น้ำเต้า แครอท) ธัญพืช (รวมถึงข้าวกล้องด้วย) และผลไม้ที่มีน้ำตาลเยอะอย่างกล้วย ส้ม และแอปเปิล
    • ยิ่งคุณหิวมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งอยากกลับไปกินอาหารแบบเดิม ๆ มากเท่านั้น ดังนั้น ควรกินแต่อาหารที่ดีต่อสุขภาพเพราะช่วยทำให้อาการโหยของกินอร่อยๆ หายไป และเวลาที่รู้สึกอิ่มคุณจะเลือกอาหารได้ดีกว่าด้วย
  4. [4] ยังคงถกเถียงกันอยู่ว่า อาหารพลังงานติดลบนั้นให้พลังงานติดลบจริงหรือไม่ ตามทฤษฎีแล้ว อาหารพลังงานติดลบคืออาหารที่ต้องใช้พลังงานในการย่อยมากกว่าพลังงานที่อาหารนั้นให้แก่ร่างกาย ถึงแม้ว่าอาหารพลังงานติดลบอาจจะไม่ได้ช่วยคุณเบิร์นพลังงานจริงๆ แต่ที่แน่ๆ คือมันให้พลังงานแค่ไม่กี่แคลอรี่เท่านั้น
    • ถ้าเป็นอาหารประเภทผัก ให้เน้นหน่อไม้ฝรั่ง บีทรูท บร็อกโคลี่ กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก เซเลอรี่ แตงกวา กระเทียม ถั่วเขียว ผักกาดหอม หอมใหญ่ หัวไชเท้า และผักปวยเล้ง
    • ถ้าเป็นผลไม้ ให้เน้นบลูเบอร์รี่ แคนตาลูป แครนเบอร์รี่ ส้มโอ เลมอน มะนาว ส้ม มะม่วง มะละกอ ราสเบอร์รี่ สตรอเบอรี่ มะเขือเทศ ส้มเขียวหวาน และแตงโม
  5. เปลี่ยนจากเนื้อวัวและเนื้อหมูเป็นเนื้อสัตว์ที่ให้ไขมันต่ำอย่างไก่หรือปลาแทน ถ้ากินปลาก็จะยิ่งดีใหญ่เพราะกรดไขมันที่อยู่ในปลานั้นให้น้ำมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และยังช่วยลดความอยากอาหารมันๆ ทอดๆ ด้วย [5]
    • ทุกมื้ออาหารควรมีผักด้วยเสมอ กินเข้าไปเยอะๆ เพราะผักนอกจากจะให้พลังงานและน้ำตาลแล้ว ยังอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย (ยกเว้นมันฝรั่งที่ให้พลังงานสูง) และทำให้คุณรู้สึกอิ่มท้อง ถือเป็นทางลัดสู่การลดน้ำหนักที่ได้ผลดีที่สุด
  6. การควบคุมอาหารอย่างเข้มงวดด้วยการกินน้อยมากๆ ช่วยให้น้ำหนักลดได้แค่ในระยะสั้นๆ ถ้าคุณอยากจะรีดน้ำหนักแบบด่วนๆ และไม่ได้สนใจว่ามันจะกลับมาขึ้นอีกหรือเปล่า การกินแต่น้อยก็อาจจะเหมาะกับคุณ เพียงแต่คุณต้องรู้ไว้ว่าการลดน้ำหนักแบบนี้ไม่ดีต่อสุขภาพและไม่ได้ช่วยลดน้ำหนักในระยะยาว
    • อาหารลดน้ำหนักที่นิยมกันมากที่สุดในตอนนี้ได้แก่น้ำผลไม้และการทำ Master Cleanse และด้วยความที่ทั้งคู่เป็นของเหลวจึงทำให้ลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว แต่จะดื่มแต่น้ำผลไม้กับ Master Cleanse อย่างเดียวมันก็ใช่ที่ การลดน้ำหนักแบบนี้ไม่ควรทำในระยะยาว แต่ถ้าหมดหนทางจริงๆ ก็ทำได้ เพียงแต่อย่าไปหลงเชื่อคำโฆษณาที่บอกกันปากต่อปากมากนัก
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เปลี่ยนนิสัยการกิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถึงคุณจะรู้สึกอยากงดอาหารเช้าหรืออดอาหารสักวัน คุณก็ไม่ควรทำอย่างนั้นโดยเด็ดขาด การอดอาหารนานๆ ทำให้สูญเสียกล้ามเนื้อ ทำลายสุขภาพ และทำให้ลดน้ำหนักยากขึ้นด้วย เพราะเมื่อร่างกายของเราไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอ มันจะกักเก็บพลังงานด้วยการเผาผลาญช้าๆ โดยอัตโนมัติ วันแรกๆ น้ำหนักอาจจะลงฮวบฮาบ แต่พอผ่านไปสัก 2 สัปดาห์น้ำหนักก็อาจจะกลับมาเท่าเดิม [6]
    • แต่ถ้าคุณมีแผนการอดอาหารชั่วคราวอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว คุณก็สามารถทำได้ แผนการอดอาหารที่ไม่ทำร้ายสุขภาพก็คือ คุณจะต้องอดอาหารเป็นเวลา 8-24 ชั่วโมง แล้วค่อยกินตามปริมาณแคลอรี่ที่ตั้งไว้ (แต่กินบ่อยกว่าเดิม) ทีหลัง [7] วิธีนี้แม้จะได้ผล แต่ก็ควรได้รับการเห็นชอบจากแพทย์ก่อน เพราะถ้าวิธีนี้ไม่เหมาะกับคุณ จะกลายเป็นว่าร่างกายจะยิ่งสะสมไขมันมากขึ้นไปอีก [8]
  2. กำหนดไว้เลยว่าหลังกี่ทุ่มฉันจะไม่กินอะไรอีกแล้ว. หลายคนบอกว่าวิธีนี้ช่วยให้น้ำหนักลดได้จริง พวกเขาจะตั้งไว้เลยว่าหลังกี่ทุ่มจะ หยุด กิน ซึ่งส่วนมากไม่ทุ่มนึงก็ 2 ทุ่ม การงดกินอาหารตอนกลางคืนอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคน เพราะทีวีก็เปิดอยู่และเพื่อนๆ ที่นั่งข้างๆ ก็หาของขบเคี้ยวใส่ปาก อดทนไว้ รับรองว่าผลที่ได้คุ้มค่าแน่นอน
    • คุณไม่จำเป็นต้องเคร่งครัดกับตัวเองมาก ทำวิธีนี้แค่ 5-6 วันต่อสัปดาห์ก็พอ เหลือวันฟรีสไตล์ไว้ไปหาอะไรกินกับเพื่อนๆ บ้าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าวันนั้นจะซัดปิ้งย่างได้นะ จิบแค่ไวน์กับกินนิดหน่อยก็พอ
  3. การนับแคลอรี่เพื่อลดความอ้วนนั้นดูจะเป็นวิธีที่เชยไปแล้ว เพราะแต่ละคนมีร่างกายที่ต่างกัน ดังนั้นปริมาณแคลอรี่ที่เท่ากันก็อาจจะส่งผลต่างกันได้ และการนับแคลอรี่ก็เป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก แต่การควบคุมแคลอรี่ให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะตามหลักเกณฑ์ ทั่วไป นั้นดีต่อสุขภาพ และถ้าคุณควบคุมตัวเองได้ดีมากๆ ก็ลองให้รางวัลตัวเองเป็นดาร์กช็อกโกแลตสักหน่อยกับอกไก่เพิ่มอีกครึ่งชิ้น อย่าสวาปามเข้าไปละ เอาแค่ให้หายอยากก็พอ
    • สูตรการคงรูปร่างที่สมส่วนคือใช้พลังงานเท่ากับที่กินเข้าไป พูดง่ายๆ ก็คือถ้าออกกำลังกายมากก็จะกินได้มากขึ้นโดยไม่ต้องกลัวอ้วน และการลดน้ำหนักก็คือการใช้พลังงานมากกว่าที่กินเข้าไป โดยเฉลี่ยแล้ว (แค่ โดยเฉลี่ย ) คนเราต้องใช้พลังงานมากกว่าที่กินเข้าไปถึง 3,500 แคลอรี่ ถึงจะลดน้ำหนักได้ 450 กรัม [9] ดังนั้น การลดน้ำหนักให้ได้ 9 กิโลกรัมภายใน 2 สัปดาห์ก็หมายความว่า คุณจะต้องกำจัดน้ำหนักให้ได้วันละ 675 กรัม ซึ่งก็คือต้องใช้พลังงานมากกว่าที่กินเข้าไป 5,000 แคลอรี่ทุกวัน ไม่ง่ายเลยใช่ไหมล่ะ
  4. นอกจากจะต้องคิดว่าจะกิน อะไร แล้ว ยังต้องคิดอีกด้วยว่าควรจะกินมาก แค่ไหน เพราะแม้แต่อาหารที่ดีต่อสุขภาพก็ยังต้องกินในปริมาณที่เหมาะสมถึงจะดี เริ่มจากการใช้จานและช้อนส้อมที่เล็กกว่าเดิมและห้ามเติมอีก คำนวณปริมาณอาหารตามฉลากโภชนาการ ถ้าไม่แน่ใจข้อมูลส่วนไหนก็ลองค้นดู
    • ขนมเป็นอะไรที่คำนวณแน่นอนไม่ค่อยได้ เพราะฉะนั้นก่อนที่จะสวาปามถั่วเข้าไปทั้งถุงแทนที่จะกินแค่กำมือเดียวตามที่ฉลากบอก ให้ตวงแยกออกจากถุงไว้ก่อนเลย พอหิวก็ค่อยเอาส่วนที่ตวงไว้มากิน คุณจะได้กินถูกต้องตามสัดส่วนที่ระบุไว้ในฉลากโภชนาการและรู้ว่าตัวเองกินไปเท่าไหร่กันแน่
  5. การอดอาหารควบคู่ไปกับการปั่นจักรยานเพื่อเผาผลาญแคลอรี่เป็นพักๆ นับวันจะยิ่งเป็นที่นิยมมากขึ้น การลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้เน้นว่า บางครั้งการกินอาหารที่ให้พลังงานสูงก็ถือเป็นสิ่งดีเพราะช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายเผาผลาญช้าลง (หรือไม่เผาผลาญเลย) ตามใจปากสักสัปดาห์ละครั้ง อาจจะช่วยให้คุณมีกำลังใจลดน้ำหนักมากขึ้นนะ [10]
    • ถ้าคุณมีแผนจะคุมอาหารนานกว่านี้ เลือกมาสักวันแล้วกินให้เต็มเหนี่ยวไปเลย! กินอะไรก็ได้ที่อยากกิน กินเข้าไปให้หมด แต่ทางที่ดีตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ลดน้ำหนัก ควรลิมิตเวลากินแหลกไว้ไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง เพราะฉะนั้น สัปดาห์นี้คุณมีเวลาเพลิดเพลินกับอาหารที่อยากกิน 1 ชั่วโมง แล้วหลังจากนั้นกลับมาทำตามแผนเดิมนะ
  6. ดูปากนะคะ กินให้ บ่อย ขึ้น ไม่ใช่กินให้ มาก ขึ้น ลองคิดง่ายๆ สมมติว่าคุณมีสิทธิ์กินเซเลอรี่ได้แค่วันละ 5 ชิ้น (สมมติเฉยๆ ไม่ได้แนะนำให้ทำตาม) คุณก็คงจะไม่กินรวดเดียว 5 ชิ้นตอนเช้า แต่จะแบ่งไว้เผื่อหิวทีหลัง หลักการเดียวกัน ในช่วง 2 สัปดาห์นี้คุณต้องกินน้อยๆ แต่กินให้ บ่อย ขึ้น เพื่อไม่ให้ท้องหิว
    • แผนการควบคุมอาหารที่ดีต่อสุขภาพมักจะแนะนำให้เรากินขนมด้วย เพราะขนมช่วยเร่งระบบเผาผลาญและป้องกันไม่ให้เราเครียดจนสติแตกแล้วกินแหลกทีหลัง กินอาหารแต่ละมื้อให้น้อยลงเพื่อที่จะได้มีโควตาเหลือเผื่อขนมด้วย รับรองว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์คุณจะต้องพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้แน่นอน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

เปลี่ยนวิถีชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทางเดียวที่จะควบคุมสารอาหารและแคลอรี่ได้อย่างจริงจังก็คือการทำอาหารกินเอง แม้ว่าปัจจุบันจะมีร้านอาหารหลายร้านที่เพิ่มเมนูสุขภาพเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า แต่คุณก็ไม่มีทางรู้อยู่ดีว่าน้ำสลัดผสมอะไรบ้างหรือทางร้านใช้น้ำมันอะไร ดังนั้น การทำอาหารกินเองจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าและคุณก็จะได้ควบคุมอาหารที่กินเข้าไปทุกคำจริงๆ
    • ถ้าทำอาหารกินเอง คุณจะเลือกใช้น้ำมันที่ดีต่อสุขภาพอย่างน้ำมันมะกอกก็ได้ ใส่เนย น้ำตาล เกลือ (ตัวการทำให้ท้องอืด) น้อยลง การทำอาหารกินเองนอกจากจะควบคุมปริมาณอาหารได้แล้ว คุณยังควบคุมเงินในกระเป๋าสตางค์ได้อีกด้วยนะ
  2. ถ้าคุณตั้งใจว่าจะเปลี่ยนนิสัยการกินและการออกกำลังกายตั้งแต่นี้จนหาไม่ คุณก็คงจะขี้เกียจจดบันทึก แต่นี่เป็นการลดน้ำหนักภายใน 14 วัน เพราะฉะนั้นคุณทำได้แน่นอน การจดบันทึกจะช่วยให้คุณรู้ว่าคุณมักจะออกนอกลู่นอกทางตอนไหน มีตรงไหนต้องปรับบ้างหรือเปล่า และทำให้คุณเห็นว่าตัวเองทำไปได้แค่ไหนแล้ว ยิ่งเห็นตัวเองทำได้มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้นเท่านั้น เพราะมันพิสูจน์ให้เห็นว่าคุณเป็นคนมีวินัยสูงเลยละ
    • คุณจะใช้วิธีบ้าน ๆ อย่างการจดไดอารี่อาหาร หรือจะใช้แอพฯ ลดน้ำหนักที่มีให้โหลดมากมายมหาศาล มีหลายแอพฯ ที่สามารถคำนวณแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และการออกกำลังกายได้ด้วย
  3. อันนี้มันก็แน่นอนอยู่แล้ว แต่ว่าสำหรับการลดน้ำหนักภายในระยะเวลาอันรวดเร็วนั้นสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความตั้งใจจริง ถ้าคุณไม่ได้ทำตามแผนการกินหรือแผนการออกกำลังกายอย่างจริงจัง คุณก็ไม่สมควรจะให้รางวัลตัวเองด้วยการ “งด” ลดความอ้วน 1 วัน เพราะว่าถ้าคุณตัดสินใจจะมาทางนี้แล้ว คุณก็ต้องทำให้สำเร็จ ห้ามท้อเด็ดขาด
    • คุณจะมุ่งมั่นมากขึ้นถ้าคุณป่าวประกาศให้คนอื่นรู้ว่าคุณจะลดน้ำหนักให้ได้ หรือมีคนลดน้ำหนักเป็นเพื่อนคุณ เพราะมันจะทำให้คุณต้องมีความรับผิดชอบกับตัวเองมากขึ้น คุณจะได้กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพและออกกำลังกายด้วยกัน แล้วก็จะได้มีคนไว้คอยบ่นด้วยยังไงล่ะ
  4. ออกกำลังกายปานกลางถึงหนักวันละหลายๆ ชั่วโมง. [11] วิธีเผาผลาญพลังงานที่ดีที่สุดคือการออกกำลังกาย ถ้าร่างกายของคุณเคยชินกับกิจกรรมที่ต้องออกแรงปานกลางอยู่แล้ว ก็ให้เปลี่ยนมาทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงหนัก ๆ แทนตลอดทั้งวัน แต่ถ้าคุณไม่เคยชินกับการออกแรงมากเท่าไหร่ ก็ให้ออกกำลังกายปานกลางอย่างสม่ำเสมอ อย่าลืมพักเบรกบ่อยๆ และหมั่นจิบน้ำเพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
    • กิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก ๆ เผาผลาญ 400 – 600 แคลอรี่ต่อชั่วโมง ตัวอย่างกิจกรรมที่ใช้แรงมากๆ ก็เช่นวิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิก เล่นบาสเก็ตบอล ยกน้ำหนัก หรือทำสวน
    • กิจกรรมที่ออกแรงปานกลางเผาผลาญ 200 – 400 แคลอรี่ต่อชั่วโมง เช่นเดินป่า ทำงานในสวนเบาๆ เต้น เล่นกอล์ฟ ปั่นจักรยานช้า ๆ และเดินช้าๆ ทำกิจกรรมเหล่านี้ให้ได้อย่างน้อย 30 นาที 2–3 ครั้งต่อสัปดาห์
  5. ถ้าคุณกำลังดูรายการโปรดอยู่แล้วมีโฆษณามาคั่น ก็วิดพื้นสักหน่อย ตอนเก็บจานก็เต้นไปด้วย วิ่งบนระเบียงทางเดิน อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่ช่วยสร้างกล้ามเนื้อและส่วนเว้าส่วนโค้งได้จริงๆ นะ
    • ถึงคุณจะยุ่งขนาดไหน คุณก็หาโอกาสออกกำลังกายได้เสมอ จับปลาสองมือเลยดีไหมละ! เช่นพาหมาไปเดินเล่น หมาก็เพลิน คุณก็ได้ออกกำลังกาย จอดรถไว้ให้ไกลประตูห้าง ทำงานบ้านเป็นบ้าเป็นหลัง หรือล้างรถเอง โอกาสออกกำลังกายมีอยู่เสมอแหละ
  6. ร่างกายมนุษย์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้ถ้าไม่ได้นอนเต็มอิ่ม การนอนช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนเพื่อให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ และทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญแคลอรี่และลดน้ำหนักได้ดีขึ้นด้วย ยิ่งถ้าจะลดน้ำหนักภายในระยะเวลาอันรวดเร็วแล้วละก็ คุณต้องนอน 7–8 ชั่วโมงต่อวันเลยละ
    • การนอนหลับให้เพียงพอช่วยควบคุมฮอร์โมนและช่วยให้ไม่หิว [12] เพราะฉะนั้นนอกจากจะช่วยเผาผลาญพลังงานและปิดโอกาสการกินแล้ว ยังช่วยให้คุณไม่รู้สึกอยากกินอะไร ในตอนตื่น ด้วย
    โฆษณา


เคล็ดลับ

  • การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเป็นการออกกำลังกายที่ดีมาก วิ่งหรือเต้น 2-3 ชั่วโมงต่อวัน รับรองหุ่นสวยสมใจแน่
  • เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี คุณจะต้องออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง ช่วงแรกอาจจะยาก แต่พอได้ทำไปแล้วก็จะรู้ว่ามันไม่ได้แย่อย่างที่คิด
  • ถ่ายรูประหว่างลดน้ำหนักไปด้วย เพราะถ้าส่องกระจกคุณอาจจะไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง แต่ถ้าถ่ายรูปเก็บไว้แล้วนำมาเทียบกัน คุณจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน
  • วางแผนการกิน
  • มโนถึงรูปร่างในฝัน ดูรูปคนหุ่นดี ๆ ตอนออกกำลังกายจะได้รู้สึกฮึกเหิม
  • ออกกำลังกายในช่วงที่คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าที่สุด!
  • คุณสามารถซื้อหรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่ช่วยบันทึกว่าคุณดื่มน้ำมากเท่าไหร่ ออกกำลังกายหรือยัง กินอะไรบ้าง วิธีนี้จะช่วยให้คุณจดจ่ออยู่กับเป้าหมายการลดน้ำหนักมากขึ้น และดูว่าตัวเองจะปรับปรุงแผนการกินและการออกกำลังกายให้ดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง
  • วางรูปดาราหรือนางแบบที่คุณอยากมีหุ่นแบบเธอบ้างไว้ในตู้ ตู้เย็น หรือแม้กระทั่งใกล้ๆ กับกล่องใส่อาหารขยะ เพราะทุกครั้งที่คุณกำลังจะคว้าถุงมันฝรั่งทอดกรอบออกมาจากตู้ขนม คุณก็จะเห็นรูปคุณเธอเหล่านั้นแล้วเปลี่ยนใจไปคว้าน้ำเปล่าแทน
  • ปรึกษาแพทย์หรือเทรนเนอร์ส่วนตัวว่ามีวิธีที่ช่วยลดน้ำหนักลงมาก ๆ ในระยะเวลาสั้น ๆ อีกไหม เพราะในท้องตลาดมีอาหารเสริมช่วยลดน้ำหนักมากมาย และผู้เชี่ยวชาญก็ย่อมรู้ว่าตัวไหนเหมาะกับคุณหรือมีวิธีทางการแพทย์อื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าหรือเปล่า
  • อย่าอดอาหารเด็ดขาดเพราะจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ นอกจากนี้พอกลับมากินอาหารปกติคุณจะเกิดอาการโยโย่ด้วย! หมั่นกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ คุณต้องกินเข้าไปเพื่อให้น้ำหนักลด
  • บอกให้คนอื่นรู้ว่าคุณลดน้ำหนักอยู่ หรืออาจจะชวนคนอื่นมาออกกำลังกาย/กินอาหารตามแผนกับคุณ อาจจะฟังดูเพี้ยนๆ นะ แต่เชื่อเถอะสัญชาตญาณอยากเอาชนะจะทำให้คุณฮึดสู้
โฆษณา

คำเตือน

  • แพทย์ส่วนใหญ่บอกว่า ใน 1 สัปดาห์ควรลดน้ำหนักแค่ 0.5–1 กิโลกรัม เพราะฉะนั้นก่อนที่จะลดน้ำหนักเยอะๆ ภายในระยะเวลาสั้นๆ ต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนว่า แผนควบคุมน้ำหนักนี้ดีต่อสุขภาพคุณไหม หรือมีความเสี่ยงอะไรบ้าง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 59,232 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา