ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณดูสะอาดและตัวหอมสดชื่นในทุกๆ วันเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันการเริ่มต้นและการแพร่กระจายของโรคติดเชื้ออีกด้วย การดูแลป้องกันตัวเองอย่างเหมาะสมจะช่วยให้คุณห่างไกลจากการเจ็บป่วยและการแพร่โรคภัยไปสู่คนรอบข้าง อ่านบทความนี้เพื่อเรียนรู้วิธีจัดการกับอนามัยส่วนบุคคลเพื่อทำให้คุณดูดีขึ้นโดยรวมและป้องกันเชื้อโรคต่างๆ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

พยายามรักษาความสะอาดของร่างกายให้มากที่สุด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยกำจัดสิ่งสกปรก เหงื่อไคล และ/หรือเชื้อโรคที่ร่างกายของคุณอาจสะสมมาตลอดทั้งวัน และป้องกันโรคที่เกี่ยวกับสุขอนามัย [1] นอกจากนี้ การอาบน้ำทุกวันยังช่วยให้คุณรู้สึก แลดู และมีกลิ่นสดชื่นตลอดทั้งวันอีกด้วย
    • ใช้ใยบวบ ฟองน้ำ หรือผ้าเช็ดมือค่อยๆ ขัดให้ทั่วเรือนร่างเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและสิ่งสกปรกออก อย่าลืมเปลี่ยนอุปกรณ์เหล่านี้บ่อยๆ เพราะมักเป็นที่สะสมของแบคทีเรีย
    • ถ้าคุณไม่อยากสระผมทุกวัน ให้ลงทุนซื้อหมวกคลุมผมและอาบน้ำด้วยสบู่และน้ำเปล่า
    • ถ้าคุณไม่มีเวลาอาบน้ำ หมดวันให้ใช้ผ้าเช็ดมือชุบน้ำเช็ดหน้าและรักแร้
  2. จำไว้ว่าผิวหน้าของคุณบอบบางกว่าผิวส่วนอื่นๆ ในร่างกาย คุณจะใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าตอนอาบน้ำฝักบัวหรือจะล้างหน้าต่างหากที่อ่างล้างหน้าก็ได้
    • คำนึงถึงสภาพผิวเวลาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ถ้าผิวของคุณแห้งมาก หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก เพราะจะยิ่งทำให้ผิวของคุณแห้งเข้าไปใหญ่ ถ้าคุณมีผิวบอบบางมาก ให้เลือกผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่ายที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่อ่อนกว่า
    • ถ้าคุณแต่งหน้าจัด ให้เลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่สามารถล้างเครื่องสำอางได้เป็นพิเศษ หรือซื้อผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางต่างหาก พอหมดวันก็ให้เช็ดเครื่องสำอางออกจากใบหน้าให้หมดก่อนค่อยล้างหน้า
  3. การแปรงฟันเป็นประจำช่วยป้องกันโรคเหงือกที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วยของส่วนอื่นๆ ในร่างกาย เช่น โรคหัวใจ เส้นเลือดไปเลี้ยงสมองอุดตัน และโรคเบาหวาน [2] โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแปรงฟันหลังรับประทานของหวานหรืออาหารเปรี้ยวจัดเพื่อป้องกันการสึกกร่อนของฟันนั้นสำคัญมาก
    • เพื่อให้เหงือกแข็งแรงมากยิ่งขึ้น พกยาสีฟันและแปรงสีฟันขนาดพกพาเพื่อแปรงฟันระหว่างมื้ออาหาร
    • ใช้ไหมขัดฟันทุกคืนเพื่อป้องกันโรคเหงือกอักเสบ
  4. ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อช่วยป้องกันไม่ให้มีเหงื่อออกมากเกินไป ส่วนผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายนั้นช่วยปดปิดกลิ่นกายที่ไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากเหงื่อ ลองใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่มาจากธรรมชาติปราศจากอะลูมิเนียม เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดโรคที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายทั่วไป [3]
    • ถ้าคุณเลือกที่จะไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายทุกวัน ให้ใช้ในวันที่คุณคิดว่าจะต้องเหงื่อออกมากเป็นพิเศษหรือในโอกาสพิเศษ ทาผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายก่อนเล่นกีฬา ไปฟิตเนส หรือเข้าร่วมงานทางการต่างๆ
    • ถ้าคุณไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ให้ใช้สบู่และน้ำสะอาดทำความสะอาดรักแร้ตลอดทั้งวันเพื่อกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์
  5. โดยทั่วไป เสื้อควรซักทุกครั้งหลังใส่ แต่กางเกงขายาวหรือกางเกงขาสั้นนั้นอาจจะใส่ 2-3 ครั้งก่อนแล้วค่อยซักก็ได้ ใช้วิจารณญาณส่วนตัวคิดว่าควรซักเสื้อผ้าบ่อยแค่ไหน
    • กำจัดรอยเปื้อนบนเสื้อผ้าก่อนใส่
    • รีดผ้าเพื่อกำจัดรอยยับและใช้เครื่องกำจัดขุยบนเสื้อผ้าเอาขุยและขนออกจากเสื้อผ้า
  6. ไม่ว่าคุณจะกำลังเลี้ยงผมให้ยาวหรืออยากจะไว้สั้นมากกว่า การเล็มผมจะช่วยให้ผมมีสุขภาพดี กำจัดผมแตกปลาย และทำให้ผมของคุณโดยรวมแลดูสะอาดกว่าและสุขภาพดีกว่า
  7. เพราะนอกจากจะทำให้มือและเท้าของคุณดูสะอาดสะอ้านแล้ว ยังป้องกันไม่ให้ชิ้นส่วนเล็กๆ บริเวณผิวหนังข้างเล็บเสียหาย เล็บหัก และอันตรายอื่นๆ ที่อาจเกิดกับเล็บของคุณ เล็บสั้นไม่สามารถสะสมสิ่งสกปรกไว้ในซอกเล็บได้เหมือนเล็บยาว คุณจะตัดเล็บบ่อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากไว้เล็บยาวเท่าไหร่ ก่อนตัดสินใจควรคำนึงก่อนว่าในชีวิตประจำวันคุณใช้มือทำอะไร เช่น ถ้าคุณใช้เวลาส่วนใหญ่พิมพ์คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์หรือเล่นเปียโน เล็บสั้นอาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณ แต่ถ้าคุณอยากไว้เล็บยาวกว่านี้ก็ไม่เป็นไร แต่ต้องเล็มบ่อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เล็บหัก
    • ใช้ไม้ทำเล็บแคะสิ่งสกปรกออกจากซอกเล็บเพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วิธีนี้เป็นวิธีหนึ่งที่สำคัญที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงความเจ็บป่วยและการแพร่กระจายเชื้อโรคไปสู่คนอื่น [4] ล้างมือหลังจากเข้าห้องน้ำ ก่อน ระหว่าง และหลังเตรียมอาหาร ก่อนรับประทานอาหาร ก่อนและหลังดูแลคนป่วย หลังสั่งน้ำมูก ไอ หรือจาม และหลังจากสัมผัสกับสัตว์และ/หรือจัดการกับมูลสัตว์
    • ลองพกเจลทำความสะอาดมือติดตัวไว้ตลอดเวลาเผื่อคุณไม่สามารถหาห้องน้ำเพื่อไปล้างมือได้
  2. คุณควรเช็ดเคาน์เตอร์ครัว พื้น ฝักบัว และโต๊ะอาหารอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งด้วยน้ำและสบู่หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้านทั่วไป ถ้าคุณอยู่กับคนอื่น ลองตั้งระบบทำงานบ้านและผลัดกันทำความสะอาดบ้านทุกสัปดาห์
    • ลองใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่อ่อนกว่าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั่วไป
    • เช็ดรองเท้าที่พรมเช็ดเท้าหน้าประตูก่อนเข้าบ้าน หรือถอดรองเท้าไว้หน้าประตูก่อนเข้ามาในบ้านและขอให้แขกทำเช่นนั้นด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกและเศษโคลนเลอะทั่วบ้าน
  3. สิ่งนี้สำคัญมากหากคุณไม่อยากแพร่เชื้อโรคไปสู่คนรอบข้าง และอย่าลืมล้างมือด้วยสบู่และน้ำหลังจากไอหรือจาม
  4. อย่าใช้มีดโกน ผ้าเช็ดตัว หรือเครื่องสำอางกับร่วมกับคนอื่น. การใช้สิ่งของเหล่านี้ร่วมกับผู้อื่นเพิ่มโอกาสในการแพร่เชื้อแบคทีเรียสตาฟีโลค็อกคัส [5] ถ้าคุณใช้ผ้าเช็ดตัวหรือเสื้อผ้าร่วมกับผู้อื่น อย่าลืมซักทั้งก่อนและหลังให้คนอื่นยืม
  5. ถ้าคุณเป็นผู้หญิง ให้เปลี่ยนผ้าอนามัย/ผ้าอนามัยแบบสอดเป็นประจำ. ผู้หญิงควรเปลี่ยนผ้าอนามัยแบบสอดอย่างน้อยทุก 4-6 ชั่วโมงเพื่อลดโอกาสเกิดอาการท็อกซิกช็อก (TSS) [6] ส่วนผู้หญิงที่ใส่ผ้าอนามัยทั่วไปควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 4-8 ชั่วโมง ถ้าคุณคิดว่าจะนอนเกิน 8 ชั่วโมง ให้ใส่ผ้าอนามัยชนิดกลางคืนแทนการใช้ผ้าอนามัยแบบสอดขณะเข้านอน
  6. การไปพบแพทย์สามารถรู้อาการป่วยและการติดเชื้อได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งทำให้ง่ายต่อการรักษา ไปพบแพทย์ปฐมภูมิ ทันตแพทย์ สูตินรีแพทย์ แพทย์โรคหัวใจ หรือแพทย์ต่างๆ ที่คุณพบเป็นประจำอยู่แล้ว ไปพบแพทย์เมื่อคุณรู้สึกป่วยหรือคิดว่าตัวเองอาจติดเชื้อโรค และต้องไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 75,274 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา