ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

สิ่งหนึ่งที่หนังสือทุกเล่ม หนังละครทุกเรื่อง นิยายและเกมต้องมีร่วมกันคือ พวกมันต้องมีตัวละครอย่างน้อยที่สุดก็หนึ่งตัว ส่วนใหญ่มีสองหรือกว่านั้น และมีบ้างที่มีตัวละครนับร้อย! บางทีตัวละครนั้นก็คือ "คุณ"

ไม่ว่าตัวละครจะเป็นใคร หนังและหนังสือทั้งหมดจะไร้ชีวิตชีวาและน่าเบื่อทันทีถ้าไร้มัน บทความแนะนำนี้จะบอกพื้นฐานและช่วยคุณเรียนรู้วิธีการสร้างตัวละครขึ้นมาเอง!

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 1:

สร้างตัวละครที่คิดขึ้นมาเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่ว่า "การเปิดม่าน" จะอยู่บนแผ่นกระดาษหรือบนหน้าจอคอมพ์ ตัวละครของคุณต้องอยู่ที่ไหนสักแห่ง แม้แต่ที่แห่งนั้นจะเป็นความเวิ้งว้างว่างเปล่าก็ตาม มันอาจเป็นอพาร์ทเมนท์ในปารีส หรือลานจอดรถในโคราช นี่ไม่เพียงเป็นตัวกำหนดฉากหลังให้ตัวละคร แต่ยังช่วยกำหนดลักษณะของพวกเขาอีกด้วย
  2. เริ่มต้นด้วยห้า W กับหนึ่ง H เหมือนนักข่าวทำกัน และพัฒนาไปจากตรงนั้น:

    Where (ที่ไหน), who (ใคร), what (ทำอะไร), when (เมื่อไหร่), why (เพราะอะไร) และ how (อย่างไร)...

    การศึกษา, โรงเรียน, อาชีพ, ที่ทำงาน, จุดประสงค์

    ความขัดแย้ง, ภาวะยุ่งยากใจ, โอกาส, ทางเลือก/การตัดสินใจ (ข้อดีและผลที่ตามมา)

    สุขภาพ, อารมณ์ทางเพศ, สภาพจิตใจ, ช่วงเวลาของชีวิต, อันตราย, ชัยชนะ/พ่ายแพ้, การเติบโต/การเสื่อมถอย, ความตาย,...
    ถ้าคุณกำลังจะสร้างตัวละครขึ้นมา โอกาสเป็นไปได้ว่าคุณจะมีอย่างน้อยก็หนึ่งแนวคิดเรื่องบทอยู่ในใจแล้ว
    • ถ้าคุณจะสร้างเรื่องราวแบบยิ่งใหญ่เป็นมหากาพย์อย่าง The Lord of the Rings คุณจำเป็นต้องสร้างโลกสมมติของตัวละครแทบทั้งใบ บางตัวเป็นฝ่ายธรรม บางตัวอธรรม บางตัวชาย บางตัวหญิง หรือเพศใดก็ตามที่คิดขึ้นมาได้ และมีบ้างบางตัวที่ไม่ได้ดีหรือเลว ไม่หญิงหรือชาย
    • ถ้าจะสร้างเรื่องราวที่สำรวจลึกลงไปในจิตใจ ก็ไม่จำเป็นต้องมีมากกว่าตัวละครตัวเดียวก็ได้
  3. ไม่เหมือนกับสิ่งที่คุณคิดตอนแรกเมื่อคิดถึงคำว่า "ตัวละคร" เพราะใช่ว่าตัวละครทุกตัวในเรื่องต้องเป็นมนุษย์ เช่น ในเรื่อง Lord of the Rings ของโทลคีน ภูเขาคาราดาสก็ทำหน้าที่เป็นตัวละครในเรื่อง เต็มไปด้วยเจตนาร้าย ในขณะที่เรื่อง "The Old Man and the Sea" ของเฮมมิงเวย์นั้น ปลามาร์ลินก็เป็นตัวละครหลักตัวหนึ่ง
  4. แน่นอนว่าคุณต้องการใครบ้างก็ขึ้นอยู่กับเรื่องราวของคุณ แต่โดยการเริ่มจากแนวทางกว้างๆ คุณจะสามารถเริ่มตัดสินใจที่จะเป็นการกำหนดลักษณะตัวละครได้ในที่สุดโดยใช้การตัดทอนลง เหมือนอย่างนักแกะสลักที่ต้องกำจัดหินอ่อนส่วนเกินออกจนได้เป็นรูปปั้นที่มาจากหินก้อนนั้น โครงสร้างที่ว่ารวมไปถึงวัฒนธรรมและลักษณะเฉพาะทางปัจเจกบุคคล (เป็นคนสามัญหรือวีรบุรุษ, เผด็จการ, เหนือมนุษย์หรือยักษ์)
    • คุณจะจำเป็นต้องมีตัวเอก (วีรบุรุษ) และปรปักษ์ (ตัวร้าย) มาเป็นความขัดแย้งที่เป็นพื้นฐานของเรื่อง อาจจำเป็นต้องมีตัวละครรองอย่างเช่นผู้ช่วย เพื่อนสนิท คนรัก ตัวตลก หรือตัวอื่นๆ โปรดสังเกตว่าบางทีตัวที่คุณคิดว่าจะเป็นตัวเอกหรือฝ่ายดีนั้น อาจบรรยายออกมาเป็นตัวร้ายก็ได้ เช่น คองในเรื่อง King Kong
    • คุณอาจใช้ตัวละครแบบแอนตี้ฮีโร่ เหมือนอย่างคลินท์ อีสต์วูดใน Pale Rider ; "ตัวร้าย" ที่น่าเห็นอกเห็นใจอย่างเลนนี่ สมอลใน Of Mice and Men ; ตัวละครที่เอาแน่เอานอนไม่ได้อย่างแจ็ค สแปร์โรว์ใน Pirates of the Caribbean ; หญิงร้ายแบบ femme fatale (ผู้หญิงที่มีเสน่ห์จนนำพาผู้ชายของตนไปพบความยิ่งใหญ่, ความยุ่งยาก, อันตราย หรือหายนะ) เหมือนเจสซิกา แรบบิทใน Who Framed Roger Rabbit ; เพื่อนทรยศเช่นเอียโกใน Othello หรือปีเตอร์ เบลิชใน Game of Thrones ; หรือบางทีอาจเป็นผู้นำทางเจ้าเล่ห์เหมือนสมีกอลใน Lord of the Rings ตัวละครแต่ละตัวที่ว่าเริ่มจากการเป็นแม่แบบ แล้วถูกขัดเกลากำหนดให้ชัดเจนขึ้นเมื่อเรื่องราวดำเนินไป
  5. พอคุณกำหนดแม่แบบตัวละครได้แล้ว ก็สามารถเติมรูปลักษณ์กับนิสัยเข้าไป เอาสิ่งที่ไม่ใช่ตัวละครตัวนั้นออกซะ และเริ่มเผยรูปปั้นที่ฝังตัวอยู่ในก้อนหินอ่อนนั้น ถามตัวเองว่าคุณต้องการให้ผู้ชมรู้สึกอย่างไรในตัวละครตัวนั้น: รัก, สงสาร, เกลียดชัง, เมตตา หรือไม่รู้สึกอะไรเลย เริ่มวาดตัวละครโดยยึดตามผลสุดท้ายที่คุณต้องการ
    • กำหนดว่าตัวละครนั้นเพศชาย, เพศหญิง หรืออะไรอื่น. นี่จะเป็นตัวกำหนดมุมมองทั่วไปของตัวละครตัวนั้น เป็นตัวบ่งชี้นิสัยที่ขึ้นกับแม่แบบ และอาจถึงขั้นเป็นจุดขัดแย้งสำหรับตัวละครและเนื้อเรื่องเมื่อมองผ่านสายตาของสังคมก็ได้ไม่ว่าจะยุติธรรมหรือไม่ เช่น ตัวละครเพศชายท่าทีอวดเก่งย่อมถูกมองแตกต่างจากตัวละครเพศหญิงท่าทีอวดเก่ง (ทั้งคู่ยังเป็นตัวกำหนดลักษณะของตัวละครด้วย!)
    • อายุก็เป็นปัจจัยสำคัญ ยิ่งอาวุโสก็ยิ่งถูกมองว่าฉลาดสุขุมกว่า แต่มันก็อาจนำมาเล่นสวนทางก็ได้ ตัวร้ายที่ยังหนุ่มมักถูกวาดภาพออกมาให้ดูเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่เลวร้ายหรือแค่เป็นพวกบ้าระห่ำ ตัวร้ายที่มีอายุสามารถเป็นได้ทั้งหมด แต่อาจบิดให้ออกมาเป็นแบบนี้โดยสถานการณ์ในชีวิตพาไป ทำให้ตัวละครนี้ยิ่งมีความลึกขึ้น ฮีโร่อายุน้อยมักมองโลกแบบอุดมคติและมีความรู้สึกที่ต่างออกไปจากฮีโร่ที่ผ่านโลกมาเยอะจนเหนื่อยล้าที่แค่ต้องการทำสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้นก็พอ และเมื่อทั้งคู่ต้องพบจุดจบในเรื่อง ปฏิกิริยาก็ต้องแตกต่างกันออกไปด้วย
    • บางทีนี่อาจสลับให้ตรงกันข้าม ดอน กีโฮเต้เป็นแค่ตาแก่ที่ใช้เวลาทั้งชีวิตขลุกอยู่ในห้องอ่านนิยายอัศวิน และดูไร้เดียงสาอย่างน่าสมเพช กระนั้น ไอ้ความไร้เดียงสานี่แหละที่นำพาเขาออกไปเสาะหาการผจญภัยและความรัก และวาดภาพเพ้อฝันออกมาจากโลกรายรอบตัวเขาเมื่อความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวังไว้
  6. ในเรื่องราวสยองขวัญ ตัวเอกอาจต้องการหาทางเอาชีวิตรอดให้ได้ในทุกวิถีทาง เช่น ริปลี่ย์ใน Alien ; ส่วนในนิยายโรแมนติก ฝ่ายตัวร้ายก็อาจพยายามจะขัดขวางพระเอกไม่ให้พบกับ "รักแท้" เหมือนเช่นที่เจ้าชายฮัมเปอร์ดิงค์ทำในเรื่อง The Princess Bride
    • การที่ตัวละครรับมือกับอุปสรรคที่มาขวางกั้นระหว่างตัวเขากับเป้าหมายนั้นจะเป็นตัวกำหนดบุคลิกของเขาออกมาได้อย่างแจ่มชัด ในเรื่องราวที่ซับซ้อนนั้นพวกมันอาจเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยมีแรงขับเคลื่อนและผลสำเร็จของตัวละครบางตัวผ่านเข้ามาในทางชีวิตของอีกตัว ทำให้เรื่องราวดำเนินไปหรือมีจุดพลิกผัน และจะช่วยยกระดับการเข้าสู่เป้าหมายไปอีกหนึ่งขั้น
  7. จะให้ตัวละครดูเป็นตัวเป็นตน ก็ต้องให้พวกเขามีบุคลิกที่ล฿กและรอบด้านเกินไปจากเนื้อเรื่อง บุคลิกบางส่วนอาจไม่ได้เปิดเผยออกาในเนื้อเรื่องโดยตรงก็จริง แต่จะช่วยให้ข้อมูลว่าตัวละครทำไมถึงตัดสินใจทำอย่างนั้นอย่างนี้ได้
    • ทำลิสต์ของสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ และให้แน่ใจด้วยว่าลิสต์นั้นมีความสมดุล พูดง่ายๆ ก็คือ อย่าใส่สิ่งที่ไม่ชอบ 10 อย่างลงไปกับตัวละครทุกตัวหรือกลับกัน แม้แต่ตัวละครที่บ้าๆ บอๆ ที่สุดก็ยังต้องชอบอะไรสักอย่าง ถึงแม้จะเป็นแค่กระจกชิ้นเล็กๆ ก็ตาม
    • ทัศนคติของตัวละครเกิดจากลักษณะนิสัยหลายๆ ส่วนประกอบกัน ซึ่งสามารถนำไปสู่การกระทำที่เหนือความคาดหวังและอาจเปลี่ยนภาพการรับรู้ในตัวละครนั้นจากผู้ชมได้ เช่น ตัวละครที่รักอิสระก็มักจะไม่ชอบผู้มีอำนาจ ถ้าเขาชอบเค้กหรูหราหรือรถสปอร์ต ก็น่าจะไม่ชมชอบความตระหนี่ถี่เหนียว ถ้าตัวละครเป็นคนไร้ความเมตตา แต่ไปช่วยเหลือเด็กในตึกที่กำลังเกิดไฟไหม้ได้อย่างผิดความคาดหมาย ก็จะเป็นการบังคับให้ผู้ชมต้องกลับไปทบทวนบุคลิกของตัวละครตัวนั้นเสียใหม่
  8. พฤติกรรมดีๆ หรือว่าแย่ หรืออะไรก็ตามที่ตัวละครทำติดตัวเป็นประจำชนิดหยุดไม่ได้ มันอาจเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างเช่นนิสัยชอบกัดเล็บ (ซึ่งพอบ่งบอกได้ว่าเป็นพวกขี้กังวล) หรือติดหวีผมเป็นประจำ (สำอางหรือไม่มั่นใจในตนเอง) หรือเรื่องสาหัสหน่อยอย่างเช่นติดยาเสพติด (ใครสักคนที่ละทิ้งความรับผิดชอบและโหยหาการหนีไปจากความเป็นจริง) หรือคนที่คิดแต่เรื่องความตาย (สิ้นหวังและเดียวดาย)
    • ยิ่งใส่นิสัยเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ลงไปในตัวละคร ก็จะยิ่งทำให้พวกเขา "มีชีวิตชีวา" มากขึ้นในใจผู้ชม
  9. ใส่ปัจจัยภายนอกอย่างเช่น เขาอาศัยอยู่ที่ไหน เธอมีหน้าตาอย่างไร และมีสัตว์เลี้ยงข้างกายหรือเปล่า เป็นต้น
    • ตัวละครของคุณอาศัยอยู่ในคอนโดแถวทองหล่อ (รวย) หรืออยู่เพิงในสลัม (ชีวิตลำเค็ญ) ยิ่งลงรายละเอียดมากก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความลึกให้ตัวละครหรือประวัติเบื้องหลังของตัวละครนั้น
  10. เติมความหวาดกลัว จุดอ่อน แรงกระตุ้น และความลับที่ใหญ่ที่สุดลงไป. มันจะช่วยสร้างตัวละครที่แลดูสมจริงขึ้นและยังช่วยพัฒนาแม่แบบของตัวละครตัวนั้น จุดแข็ง/จุดอ่อนของฮีโร่ทั่วไปมักจะอยู่ที่ความซื่อสัตย์/การหักหลัง
  11. มองหาผู้คนตามห้างสรรพสินค้า หรือบนรถไฟฟ้า ช่องทางเลือกหาตัวละครมีอยู่ในทุกที่
    • สังเกตลักษณะทางร่างกาย เช่น รูปทรงจมูก กราม ใบหู ลำตัว ใส่เสื้อผ้าอย่างไร หรือวิธีการเดิน
    • ถ้าคุณชอบท่าทางของพวกเขา อธิบายให้ตัวเองฟังว่าตรงส่วนไหนที่คุณเห็นว่าเขามีเสน่ห์ แล้วแปลงลงไปในตัวละคร ถ้าคุณเห็นคนที่ดูน่ากลัว บอกตัวเองตามตรงว่าทำไมถึงรู้สึกกลัวคนผู้นั้น ถึงแม้เหตุผลจะดูงี่เง่าหรือไม่ถูกต้องตามธรรมเนียมสังคมก็ตาม ใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการสร้างตัวละครขึ้นมา
    • สร้างตัวละครที่ ผสมผสาน ลักษณะเหล่านี้ อย่าใช้บุคลิกของคนๆ เดียวมาใส่ในตัวละครตัวเดียว เพราะถ้าเขามาเจอเข้า คุณเดือดร้อนแน่
  12. จับคู่ลักษณะนิสัยของตัวละครกับการรับรู้เรื่องวัตถุจะช่วยสร้างตัวละครให้ลุ่มลึก และมีประโยชน์สำหรับสื่อให้เห็นอารมณ์กับการกระทำ ตัวอย่าง:
    • กุหลาบบานระยะสั้นๆ แต่คนก็นิยมยกย่องมัน
    • งูนั้นเชื่อใจไม่ได้และสามารถฉกกัดโดยไม่เตือนล่วงหน้า
    • อาคารที่ทำจากก้อนหินนั้นแข็งแกร่งและคงทนต่อความเปลี่ยนแปลง
    • พายุนั้นรุนแรง แต่เป็นสิ่งบอกเหตุว่าจะเติบใหญ่ขึ้น
    • ดาบคมๆ นั้นเป็นอันตรายแม้แต่กับมือที่ถือมันอยู่
  13. ก่อนอื่นให้ทำไมนด์แม็พของทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณได้พูดถึง และทุกสิ่งที่คุณต้องการตัดสินใจในตัวละครตัวนั้น หาเครื่องอัดเสียง ซึ่งโทรศัพท์หรือโน้ตบุ๊คส่วนใหญ่มีให้ แล้วสัมภาษณ์ตัวเองดู หรือจะดีกว่านั้นถ้าได้เพื่อนมาลองสัมภาษณ์คุณในฐานะตัวละครตัวนั้น จดมันลงไปแล้วไปเติมในไมนด์แม็พ เพื่อค้นหาสิ่งที่คุณยังไม่รู้เกี่ยวกับตัวละครของคุณและพัฒนาบุคลิกขึ้นมา ถ้าเกิดมีข้อผิดพลาดในเทปบันทึกเสียง ก็จำไว้ว่าคุณสามารถขยายไอเดียที่มีอยู่ออกเป็นความเป็นไปได้ของเนื้อเรื่องได้หลายแบบ
    • รู้สึกตามตัวละคร และลองสวมบทบาทเป็นตัวละครตัวนั้นดู บางทีตัวละครที่ดีที่สุดอาจถูกสร้างขึ้นมาจากอุดมคติ หรือนิสัย ข้อเสีย หรือจุดแข็งของคุณเอง หรือของคนในบ้านและเพื่อนฝูง/คู่แค้นก็ได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เริ่มต้นด้วยตัวละครเรียบง่ายก็ไม่เป็นไรหรอก แล้วค่อยขยายให้มีรายละเอียดซับซ้อน คุณไม่จำเป็นต้องสร้างตัวละครซับซ้อนสุดขีดตั้งแต่แรก ยิ่งค่อยๆ เผยตัวตนของตัวละครจะยิ่งช่วยตรึงความสนใจของผู้ชม
  • โปรดจดจำ: อย่าเปิดเผย ทุกสิ่งทุกอย่าง ของตัวละครตัวนั้น กั๊กไว้บ้างจะช่วยเพิ่มความลึกลับ มีอะไรให้ผู้อ่านได้คิดอ่านระหว่างบรรทัด
  • มันไม่จำเป็นต้องทำงานตามขั้นตอนที่บอกไปเป๊ะๆ ก็จริง แต่จะง่ายขึ้นเยอะถ้าจะพัฒนาบุคลิกตัวละครขึ้นมาก่อนแล้วค่อยดูว่าเขาจะหน้าตาเป็นอย่างไร
  • วิธีตัดสินใจว่าจะพาตัวละครไปทิศทางไหนคือการทดลองเขียนไอเดียทางเลือกเพื่อดูว่าจะพัฒนามาเป็นบทอย่างที่ต้องการได้หรือไม่
  • ถ้าคุณกำลังสร้างตัวละครที่เป็นสัตว์ เช่น แมว ก็ใช้วิธีแบบเดียวกับตัวละครมนุษย์ อธิบายว่ามันหน้าตาแบบไหน ชอบไม่ชอบอะไร เป็นต้น ตัวอย่าง: "แมวดำตัวน้อยชื่อชาโดว์กำลังเคลียคลอสาวน้อยนามคริสตัลอย่างมีความสุข ชาโดว์เป็นแมวตัวผู้ที่มีนัยน์ตาสุกใสสีเขียวเหลืองและขนดำนิ่มฟู โดยมีส่วนที่ขาวเป็น 'ถุงเท้า' กับตรงปลายหาง"
  • รูปร่างหน้าตามีความสำคัญน้อยกว่าในการสร้างตัวละครที่น่าเชื่อถือ ให้ลองใช้เฉพาะรายละเอียดหลักๆ ที่บ่งบอกบุคลิกของเขาก็พอ
  • ให้แน่ใจว่าได้ตั้งชื่อที่เหมาะกับตัวละคร และชื่อนั้นเหมาะสมกับช่วงเวลาตามท้องเรื่องด้วย
  • สวมบทบาทตัวละครตัวนั้นแล้วเดินไปรอบบ้านเหมือนเวลาเล่นเกมแฟนตาซีวัยเด็ก แสดงไปตามสัญชาตญาณ แล้วจดสิ่งที่ได้
  • พยายามอย่ายึดติดกับตัวละครที่ไม่ได้กะให้เป็นตัวละครเด่น โดยเฉพาะในหนังหรือการ์ตูน ซึ่งมักจะต้องการการรวมตัวหรือกำจัดตัวละครออกไปบ้างให้เนื้อเรื่องเดินหน้าอย่างไม่เทอะทะ ถ้าตัวละครของคุณไม่ได้มีส่วนช่วยเรื่องบท แสดงว่าไม่ต้องมีมันก็ได้
  • ถ้าคุณเป็นคนที่จำความฝันได้ วางกระดาษกับปากกาไว้บนหัวเตียงเลย บางทีอาจเกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมาในฝันก็ได้
โฆษณา

คำเตือน

  • ระวังเวลาแอบสังเกตคนรอบกายด้วย ถ้าคุณเอาแบบอย่างตัวละครมาจากใครคนหนึ่งมากเกินไป คุณอาจพบปัญหาทางกฎหมายได้ จำกฎง่ายๆ ข้อนี้ไว้: อย่าใช้ตัวละครที่มีชีวิตอยู่จริง ไม่ว่าจะยังอยู่หรือเสียชีวิตไปแล้ว เว้นแต่คุณจะได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้น
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • อะไรก็ตามที่ใช้เขียน ดินสอ ปากกา คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องพิมพ์ดีดหรือเครื่องอัดเสียง
  • อาจไม่จำเป็น แต่การบอกรับสมาชิกนิตยสารเกี่ยวกับนักเขียนจะช่วยพัฒนาฝีมือของคุณขึ้นไป

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 22,849 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา