ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

มิตรภาพอาจจะเป็นสิ่งที่ทรงพลังแต่บางครั้งความคิดเห็นของผู้คนเกี่ยวกับบุคคลอื่นเปลี่ยนไป ไม่ว่าจากประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ กาลเวลาที่ผ่านไปหรือปัจจัยต่างๆ อะไรก็ตาม บางครั้งผู้คนไม่อยากเป็นเพื่อนกันอีกต่อไป บางครั้งมันก็ไม่ชัดเจนและมีสัญญาณหลายอย่างที่คุณสามารถบอกได้ว่าใครบางคนไม่อยากเป็นเพื่อนกับคุณอีกต่อไป ถ้าหากมีบางอย่างผิดปกติ คุณอาจจะลองแก้ไขหรือไม่ก็จบมิตรภาพเสียดีกว่า

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

การมองหาสัญญาณต่างๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ดูว่าเพื่อนของคุณปฏิบัติตัวเป็นลบกับคุณหรือไม่. ถ้าหากเพื่อนของคุณมักจะดูถูกคุณหรือเริ่มทะเลาะไม่ว่าด้วยเรื่องอะไรก็ตาม เขาจะกำลังเป็นเพื่อนที่ไม่ดี ถ้าหากเพื่อนของคุณกำลังทำสิ่งนี้ คุณต้องเผชิญหน้ากับเขาและบอกให้เขาหยุด ถ้าเขายังไม่หยุดก็ไม่ใช่สัญญาณที่ดี [1]
    • ประเภทของการดูถูก ได้แก่ การล้อเลียน ประชดประชันและถากถาง ออกความคิดเห็นที่อาจจะฟังดูเหมือนเป็นเรื่องตลกแต่จงใจที่จะทำร้ายคุณ [2] การดูถูกบางครั้งอาจจะแนบเนียน เช่น คำชมเชยที่แอบด่า (ชมเชยคุณในเรื่องที่ไม่ดี) หรือจุดประกายความรู้สึกผิด (เวลาที่เพื่อนของคุณโยนความผิดให้กับคุณเกี่ยวกับปัญหาของเขา) [3] ในหลายๆ กรณีเพื่อนของคุณอาจจะพยายามดูถูกคุณโดยใช้อารมณ์ขันและทำให้คุณเสียหน้าถ้าหากคุณเก็บเอามาใส่ใจI
    • มันเป็นไปได้ว่าเพื่อนของคุณไม่รู้ว่าเขากำลังดูถูกคุณอยู่ ถ้าเป็นเช่นนี้คุณต้องเผชิญหน้ากับเขา ถ้าหากเพื่อนของคุณไม่รู้ เขาก็อาจจะขอโทษคุณทันที
  2. ถ้าหากว่าเพื่อนไม่ชอบคุณ เขาก็อาจจะไม่พยายามติดต่อคุณเท่าที่ควร สิ่งนี้หมายถึงการไม่พูดคุย อีเมล ส่งข้อความหรือในรูปแบบการสื่อสารอื่นๆ ถ้าหากคุณและเพื่อนของคุณคุยกันไม่บ่อย มันก็พูดได้ยากว่าพวกคุณยังเป็นเพื่อนกัน [4]
    • การสื่อสารที่ลดลงหมายรวมไปถึงความถี่หรือความยาว คุณอาจจะพูดคุยกันไม่บ่อยอย่างที่เคยหรือถ้าคุณยังคุยกัน บทสนทนาที่มีตอนนี้ก็สั้นลงมากคุณพบว่าคุณไม่มีเรื่องที่จะพูดคุยกัน
    • คุณยังสามารถสังเกตเห็นสิ่งนี้ถ้าหากว่าคุณคือคนที่พยายามติดต่อสื่อสาร มิตรภาพต้องใช้ความพยายาม ถ้าหากคุณคือคนที่พยายามติดต่ออยู่ฝ่ายเดียวก็แปลว่าเพื่อนของคุณอาจจะไม่ใส่ใจ
  3. ถามตัวเองว่าคุณรับรู้ข่าวสารใหม่ๆ ในชีวิตของเพื่อนอย่างไร. นอกเหนือจากการพูดคุยกันน้อยลง เพื่อนของคุณอาจจะไม่เล่าข่าวสารความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเขาให้คุณฟัง มิตรภาพต้องใช้ความพยายามและคุณไม่ควรรับรู้ข่าวสารของเพื่อนผ่านทางคนอื่นหรือสื่อโซเชียล [5]
  4. ดูว่าเพื่อนของคุณละเลยคุณเพื่อใช้เวลากับคนอื่นหรือไม่. ถ้าหากคุณพยายามวางแผนและเพื่อนของคุณบอกว่าเขาไม่ว่างแต่ภายหลังก็ไปกับเพื่อนคนอื่นในเวลาเดียวกัน สิ่งนี้อาจจะเป็นสัญญาณของการปฏิเสธ
    • ผู้คนเปลี่ยนไป มีสิ่งที่สนใจและมีเพื่อนใหม่ๆ ถ้าหากว่าเพื่อนของคุณมักจะใช้เวลากับคนใหม่อาจจะเป็นเพราะผู้คนเหล่านั้นเข้ากันกับความสนใจใหม่ๆ ที่เพื่อนของคุณมีมากกว่า [6]
    • ถ้าเพื่อนของคุณไม่ใช้เวลากับคนอื่นและปลีกตัวจากทุกคน คุณต้อง ช่วยเพื่อนที่มีอาการโรคซึมเศร้า [7] ถ้าหากนี้คือกรณีของคุณ คุณต้องรวบรวมกำลังพลและหาทางช่วยเหลือให้กับเพื่อน
  5. ลองนึกว่าคุณรู้สึกอย่างไรเมื่ออยู่กับเพื่อน. ถ้าหากมิตรภาพของคุณดูไม่ค่อยดี การพบเจอกันจะรู้สึกอึดอัดและคุณอาจจะรู้สึกประหม่าหรือไม่สบายใจที่ต้องอยู่ร่วมกัน [8] มันเป็นไปได้ว่าคุณกำลังเผชิญหน้ากับเรื่องที่ใหญ่กว่าที่คิดหรือบางที่คุณสองคนอาจจะห่างเหินกันมากแล้ว
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

การหาเหตุผลสำหรับความเปลี่ยนแปลง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถามเขาเกี่ยวกับสิ่งที่คุณสังเกตเห็นที่บ่งบอกว่าเขาไม่ชอบคุณ [9] เปิดใจและจริงใจเกี่ยวกับปัญหา คุณอาจจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทันทีแต่อาจจะช่วยคุณได้ถ้าหากเพื่อนของคุณไม่ชอบหรือโกรธคุณเกี่ยวกับเรื่องบางอย่าง
    • เตรียมตัวให้พร้อมที่จะเผชิญหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากคุณคิดว่าเพื่อนของคุณโกรธเคืองคุณเกี่ยวกับเรื่องบางอย่างที่คุณทำ การแสดงออกว่าคุณพร้อมที่จะประนีประนอมและคืนดีจะช่วยให้เพื่อนของคุณทำสิ่งเดียวกัน [10]
    • เมื่อพูดถึงปัญหา คุณต้องใช้ประโยชน์แทนตัวเอง อย่าเริ่มโดยใช้คำว่า “เธอ” (เช่น “เธออย่างนู้น เธออย่างนี้”) ซึ่งจะทำให้ความคิดเห็นของคุณดูเหมือนเป็นเรื่องจริง แทนที่จะทำแบบนั้น เริ่มด้วยความรู้สึกเมื่อเพื่อนของคุณทำบางอย่างที่เป็นลบกับคุณ (“ฉันรู้สึกว่า…”) หลังจากนั้น พูดถึงพฤติกรรมของเพื่อนและเหตุผลที่มันทำให้คุณรู้สึกต่างๆ นานา สิ่งนี้จะทำให้คำพูดของคุณฟังดูเหมือนข้อกล่าวหาน้อยลง
    • ถ้าหากคุณคิดว่าคุณเป็นคนผิดแต่ไม่แน่ใจว่าทำไม คุณก็ควรถามคำถามปลายเปิด คุณต้องให้โอกาสพวกเขาในการพูดไม่ใช่แค่ตอบอย่างเรียบง่ายเท่านั้น ถามพวกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นหรือคุณทำอะไรผิด [11]
    • คุณต้องให้พื้นที่กับเพื่อนหลังจากที่คุณได้ขอโทษหรือถามคำถามแล้วรอคำตอบ เพื่อนอาจจะมีหลายอย่างที่ต้องพูดและคุณไม่ควรคาดหวังให้เขาตอบคุณในทันที
  2. ถามตัวเองว่าสิ่งต่างๆ ในชีวิตคุณเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่. ชีวิตนำพาผู้คนไปยังทิศทางต่างๆ และทิศทางเหล่านั้นอาจจะไม่มีคุณหรือเพื่อนของคุณอยู่ในนั้น เพื่อนของคุณอาจจะมีความชอบใหม่และเพื่อนใหม่ที่แบ่งปันความชอบมากกว่าที่คุณเป็น [12]
  3. การรับรู้ว่าเพื่อนไม่ชอบคุณอีกต่อไปอาจจะนำพาซึ่งอารมณ์ที่เป็นลบหลากหลาย ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ต้องเก็บอารมณ์เหล่านั้นมากเกินไปแต่มันจะดีกว่าหากคุณใช้อารมณ์เหล่านั้นให้เป็นโอกาสในการคิดทบทวนเกี่ยวกับตัวเองมากขึ้น ลองนึกว่าคุณกำลังรู้สึกอย่างไร (โกรธ กลัว อับอายขายหน้า) เพื่อดูว่าคุณสามารถทำอะไรต่อไปได้บ้าง [13]
    • ถามตัวเองว่าคุณคิดว่าเพื่อนของคุณหมายความว่าอย่างไร คนเรามักจะไม่รู้ผลกระทบของคำพูดและการกระทำของตัวเอง การคิดทบทวนถึงสิ่งเหล่านั้นอาจจะนำมาซึ่งคำขอโทษ บางทีพวกเขาอาจจะต้องการดูถูกคุณจริงๆ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น คุณก็ควรพิจารณาว่าคุณยังต้องการมิตรภาพแบบนี้หรือไม่
  4. คุณอาจจะเพิ่งมีมิตรภาพที่เป็นพิษซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพกายและใจของคุณและคุณไม่ควรกลัวที่จะจบมิตรภาพนี้ [14] คนๆ นี้เป็นเพื่อนแท้ของคุณหรือเปล่า? ถ้าหากคุณห่างกันมาสักพักแล้ว มิตรภาพของคุณก็อาจจะพร้อมที่จะจบลง
    • สัญญาณของมิตรภาพที่เป็นพิษ ได้แก่ การขอคำแนะนำจากนั้นจึงไม่ทำตามหรือเพิกเฉย การทิ้งปัญหาไว้ที่คุณโดยไม่เสนอความช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาเหล่านั้น การทะเลาะหรือเอาชนะและการไม่เคยยินดีกับความสำเร็จของคุณ
    • ในมิตรภาพที่แท้จริง คุณและเพื่อนของคุณจะต้องให้กำลังใจแต่ละฝ่าย ติดต่อกันเสมอและสามารถพูดคุยข้อขัดแย้งได้ด้วยความเคารพและมีทางออกที่เป็นมิตร มิตรภาพที่แท้จริงต้องใช้ความพยายามและคุณ 2 คนต้องพร้อมที่จะใช้ความพยายาม [15]
  5. มันไม่มีประโยชน์ที่จะบังคับใครบางคนให้เป็นเพื่อนกับคุณ สิ่งนั้นจะยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลง มันไม่ได้แปลว่าคุณล้มเหลวแต่สิ่งต่างๆ [16]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หลีกเลี่ยงอารมณ์ที่รุนแรงระหว่างคุณและเพื่อน ผู้คนเปลี่ยนไป บางครั้งมิตรภาพไม่สามารถเป็นไปอย่างที่เคยเป็น มันไม่มีเหตุผลที่ต้องโกรธแค้น นอกเสียจากว่าเพื่อนของคุณจงใจทำบางอย่างที่ไม่ดีกับคุณ
  • มองหาสัญญาณของความซึมเศร้าหรือปัญหาอื่นๆ ถ้าหากเพื่อนของคุณปลีกตัวออกจากทุกคน เขาก็อาจจะกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาที่ใหญ่หลวง
  • ถ้าหากมิตรภาพจบลง คุณอาจจะอยากร้องไห้ คุณสามารถปลดปล่อยอารมณ์ออกมาได้แต่ไม่ใช่ต่อหน้าคนที่เคยเป็นเพื่อนกับคุณ
  • ถ้าหากเพื่อนของคุณดูเหมือนไม่ค่อยอยากคุยกับคุณก็อาจจะเป็นเพราะสถานที่ สถานที่ที่มีผู้คนมากมายเกินไปอาจทำให้เพื่อนของคุณไม่กล้าพูด ลองหาสถานที่ที่คุณสามารถพูดคุยกันได้อย่างสบายใจ
  • มันเป็นไปได้ที่บางครั้งเพื่อนของคุณรักคุณมากกว่าที่คุณรักเขา เพราะฉะนั้น พยายามอย่าทำร้ายความรู้สึกของเพื่อนด้วยเหตุผลที่ไร้ค่า
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 33,192 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา