PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

ผิวหน้าของคุณผลิตน้ำมันตามธรรมชาติออกมาเพื่อปกป้องใบหน้าของคุณ แต่ถ้ามีการผลิตน้ำมันมากเกินไปจนคุณอยากยับยั้งมันล่ะ? ผิวมันอาจเป็นเหตุให้เกิดสิวและยังทำให้คุณเป็นกังวลกับตัวเองอีก แต่โชคดีที่ยังมีวิธีดูแลผิวง่ายๆ ที่จะช่วยหยุดใบหน้ามันย่องนี้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

ล้างหน้า

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์อ่อนโยนเพื่อเลี่ยงการระคายผิว การใช้ผลิตภัณฑ์แรงๆ จะทำให้ผิวหน้ายิ่งผลิตน้ำมันมาชดเชยน้ำมันตามธรรมชาติที่ถูกขจัดออกไป [1]
    • หากการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยนไม่ได้ผล ลองใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเบนซอยล์ เพอร์ออกไซด์ ซาลิไซลิค ไกลโคลิค หรือเบต้าไฮดร็อกซี แอซิด [2]
  2. Watermark wikiHow to หยุดความมันบนใบหน้า
    การสครับหน้าด้วยผ้าขนหนูหรือฟองน้ำที่พื้นผิวไม่ได้เรียบสามารถทำให้ผิวระคายเคืองและยังทำให้ผิวหน้าผลิตน้ำมันมาชดเชยน้ำมันตามธรรมชาติที่ถูกขจัดออกไป หากคุณใช้ผ้าขนหนูในการล้างหน้าให้ซับหน้าเบาๆ [3]
  3. Watermark wikiHow to หยุดความมันบนใบหน้า
    การล้างวันละสองครั้งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการควบคุมความมันบนใบหน้า ล้างหน้าหลังตื่นนอนและก่อเข้านอน [4]
  4. Watermark wikiHow to หยุดความมันบนใบหน้า
    น้ำร้อนทำให้ผิวระคายเคืองและทำให้น้ำมันตามธรรมชาติหลุดออกหมด ทำให้เกิดการผลิตน้ำมันมากขึ้นเพื่อมาชดเชยสิ่งที่เสียไป [5]
  5. หากคุณใช้โทนเนอร์ทั่วใบหน้า คุณอาจลงเอยด้วยการทำให้หน้าของคุณแห้งเป็นส่วนๆ ซึ่งจะลอกและเป็นรอยแดงในเวลาต่อมา เลือกเฉพาะส่วนที่มีความมันและละผิวส่วนที่ไม่มันหรือแห้งไว้ [6]
  6. แผ่นเช็ดหน้าดังกล่าวมีประโยชน์ในการขจัดน้ำมันส่วนเกินเมื่อคุณไม่สามารถล้างหน้าได้ พกติดตัวไว้ในกระเป๋าของคุณหรือที่ที่ทำงานหากคุณมักหน้ามันในภายหลัง ขณะทำงาน [7]
  7. Watermark wikiHow to หยุดความมันบนใบหน้า
    มาสก์โคลนทำให้หน้าแห้งและขจัดน้ำมันออกจากใบหน้าได้เกือบหมด คุณจึงควรใช้มาสก์ดังกล่าวอย่าให้บ่อยเกินไป เก็บไว้ใช้สำหรับโอกาสพิเศษเมื่อคุณต้องการใบหน้าปราศจากน้ำมันเป็นเวลานานๆ [8]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลี่ยงมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เช่น ปิโตรเลียม หรือ เชียบัตเตอร์. ส่วนผสมเหล่านี้จะเพิ่มน้ำมันส่วนเกินให้กับผิวของคุณและทำให้หน้ายิ่งมันไปใหญ่ อ่านส่วนผสมของผลิตภัณฑ์บนบรรจุภัณฑ์ก่อนซื้อ [9]
  2. เลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของไดเมธิโคน. เลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีฉลากระบุว่าปราศจากน้ำมันและที่มีส่วนผสมของไดเมธิโคนแทนปิโตรเลียม มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของไดเมธิโคนจะช่วยให้ผิวมีความแมต ไม่มัน ขณะที่มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของปิโตรเลียมอาจทำให้ผิวยิ่งมันไปใหญ่ [10]
  3. เลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ไม่ทำให้ผิวอุดตันหรือที่ไม่ก่อให้เกิดสิว. ไม่ว่าจะใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ตัวไหน ต้องให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์มีฉลากระบุว่าไม่ทำให้ผิวอุดตันหรือที่ไม่ก่อให้เกิดสิวด้วย มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีฉลากดังกล่าวระบุไว้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากดังกล่าวจะประกอบด้วยส่วนผสมที่ทำให้เกิดสิวน้อยกว่า [11]
  4. ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์บางๆ ทาดูก่อนแล้วดูว่าพอหรือไม่ก่อนทาเพิ่ม ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ในปริมาณขนาดประมาณถั่วลูกไก่ลงบนปลายนิ้ว และใช้เพิ่มก็ต่อเมื่อทารอบแรกแล้วหน้ายังแห้งอยู่ [12]
  5. ลองใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์หลายๆ ตัวจนกว่าจะเจอตัวที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณ. การที่มอยส์เจอร์ไรเซอร์บางตัวได้ผลดีในการควบคุมความมันกับคนบางคนไม่ได้แปลว่ามันจะให้ผลแบบเดียวกับคุณ [13]
    • ถ้าเพื่อนแนะนำผลิตภัณฑ์ชนิดหนึ่งให้กับคุณหรือคุณไปอ่านรีวิวอวยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ชนิดนั้น ให้ลองหาตัวอย่างผลิตภัณฑ์มาลองก่อนจะซื้อมาใช้ เคาน์เตอร์เครื่องสำอางตามห้างมักจะมีตัวอย่างแจกหากคุณขอเขาดีๆ [14]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

แต่งหน้า

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. หลังล้างหน้าและลงมอยส์เจอร์ไรเซอร์ แต่ก่อนจะลงรองพื้น ให้คุณใช้ไพรมเมอร์เนื้อแมตบนใบหน้า สิ่งนี้จะช่วยซับความมันส่วนเกินตลอดวัน [15]
  2. เลือกใช้เครื่องสำอางปราศจากน้ำมันและไม่อุดตันผิว. มองหารองพื้น แป้ง บลัช และบรอนเซอร์ที่มีฉลากระบุว่าปราศจากน้ำมันและไม่ทำให้ผิวอุดตัน เครื่องสำอางเหล่านี้จะไม่ทำให้ผิวมันและไม่อุดตันรูขุมขน [16]
  3. ใช้แป้งดังกล่าวบางๆ ด้วยแปรงปัดแก้มขนาดใหญ่ แป้งชนิดนี้จะไม่ทำให้หน้าดูเหมือนโบกแป้งมาหนา พกแป้งไว้ใกล้มือตลอดเวลาเพื่อเติมหน้าได้ตลอดวัน [17]
  4. ใช้ผลิตภัณฑ์แต่ละอย่างเพียงเล็กน้อยเพื่อลดปริมาณเครื่องสำอางบนใบหน้าของคุณ เครื่องสำอางบางๆ จะช่วยให้ผิวหนังได้หายใจและช่วยป้องกันการผลิตน้ำมันส่วนเกิดตลอดวัน [18]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

สร้างนิสัยที่จะช่วยยับยั้งความมันร่วมด้วย

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. อาหารไขมันสูงเป็นเหตุให้ผิวมัน ผลิตภัณฑ์นมและอาหารที่มีแป้งสูงก็เป็นสาเหตุให้ผิวมันได้ จงเลี่ยงหรืออย่างน้อยให้จำกัดการบริโภคอาหารเหล่านี้จะช่วยยับยั้งความมันบนใบหน้าได้ [19]
  2. อาหารกากใยสูง เช่น ถั่วเมล็ดแห้ง ผลไม้ ผัก และโฮลเกรนสามารถช่วยยับยั้งความมันของผิวได้ [20] ผักใบเขียวและผลไม้ตระกูลส้ม มะนาว มีความสามารถในการควบคุมความมันได้อย่างดี ให้นึ่งหรือต้มผักโดยไม่ใส่น้ำมันเลยเพื่อรับประทาน [21]
  3. น้ำช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและยังชะล้างพิษออกจากร่างกาย การดื่มน้ำให้พอในแต่ละวันเป็นสิ่งจำเป็นในการควบคุมความมัน [22]
  4. ความเครียดทำให้ร่างกายผลิตคอร์ติซอล ซึ่งจะยิ่งทำให้เกิดการผลิตน้ำมันมากขึ้น ควบคุมความเครียดและน้ำมันส่วนเกินที่เกิดจากความเครียดด้วยเทคนิคต่างๆ ที่ใช้ในการผ่อนคลาย เช่น ทำสมาธิ โยคะ หรือหายใจลึกๆ มาเป็นส่วนหนึ่งในกิจวัตรประจำวัน [23]
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

รับการรักษาจากแพทย์ผิวหนัง

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณยังคงมีปัญหาผิวมันไม่หาย แพทย์ผิวหนังอาจจ่ายยาหรือเขียนใบสั่งผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อช่วยจัดการกับการผลิตน้ำมันบนผิวหน้าของคุณ [24]
  2. แพทย์ผิวหนังสามารถจ่ายครีมเรตินอยด์เพื่อยับยั้งความมันบนใบหน้า ครีมเรตินอยด์สามารถลดน้ำมันและลดสิวได้เช่นกัน แต่นี้ใช้ได้ผลกับคนไข้แค่ประมาณ 20-30% เท่านั้น [25]
  3. สาวๆ อาจต้องทรมานใจกับน้ำมันส่วนเกินที่เกิดจากฮอร์โมนผันผวน ในบางกรณี การกินยาเม็ดคุมกำเนิดสามารถยับยั้งการผลิตน้ำมันส่วนเกินและช่วยขจัดสิวได้ [26]
  4. สารช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างกรดเอเอชเอ/ไกลโคลิคเป็นสารช่วยผลัดเซลล์ผิวที่อ่อนโยน ซึ่งช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินออกจากผิว ผลของการรักษาด้วยวิธีเหล่านี้อาจอยู่แค่ชั่วคราว แต่แพทย์ผิวหนังสามารถผสมผสานการใช้สารช่วยผลัดเซลล์ผิวเข้ากับการรักษารูปแบบอื่นๆ เพื่อให้ได้ประสิทธิผลอย่างเต็มที่ที่สุด [27]
  5. ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีรักษาด้วยแอคคิวเทน/โรแอคคิวเทน. แอคคิวเทนใช้ได้ผลดีมากในการควบคุมความมันและเป็นยาที่แพทย์จ่ายเพื่อใช้กำจัดสิว โดยยาดังกล่าวได้มาจากวิตามิน เอ คนไข้มักจะใช้แอคคิวเทนเป็นประจำทุกวันเป็นเวลา 15-20 สัปดาห์ [28] สตรีมีครรภ์หรือกำลังวางแผนจะมีบุตรไม่สามารถใช้ยาชนิดนี้ได้เนื่องจากอาจก่อให้เกิดความพิการแต่กำเนิดได้ [29]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • พกกระดาษซับมันไว้ติดกระเป๋าเพื่อซับความมันส่วนเกินทั้งวัน
  • เปลี่ยนวิธีดูแลผิวหน้าตามฤดูกาล ช่วงหน้าร้อน ผิวของคุณอาจมันมากกว่าหน้าหนาว ดังนั้น ให้ประเมินสภาพผิวของคุณให้แน่ใจเมื่ออากาศเปลี่ยน เพื่อจะได้ทราบว่าคุณควรปรับวิธีปรนนิบัติผิวของคุณหรือไม่อย่างไร [30]
  • หาผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งมอยส์เจอร์ไรเซอร์ กันแดด และรองพื้นในตัว คุณจะได้ไม่ต้องทานั่นนี้โน่นหลายๆ ชั้น [31]
โฆษณา
  1. http://www.teenvogue.com/beauty/skin-care/2013-01/how-to-moisturize-oily-skin-types
  2. http://www.teenvogue.com/beauty/skin-care/2013-01/how-to-moisturize-oily-skin-types
  3. http://www.teenvogue.com/beauty/skin-care/2013-01/how-to-moisturize-oily-skin-types
  4. http://www.beautylish.com/a/vcjir/oily-skin-myths-solved
  5. http://bargainbabe.com/how-to-get-free-makeup-samples/
  6. http://beautyhigh.com/oily-skin-tips/
  7. http://www.webmd.com/beauty/makeup/oily-skin-how-to-make-makeup-last?page=2
  8. http://beautyhigh.com/oily-skin-tips/
  9. http://www.webmd.com/beauty/makeup/oily-skin-how-to-make-makeup-last?page=2
  10. http://www.mensxp.com/grooming/skin-care/9212-foods-for-oily-skin-what-to-eat-and-avoid.html
  11. http://www.mensxp.com/grooming/skin-care/9212-foods-for-oily-skin-what-to-eat-and-avoid.html
  12. http://www.dailymail.co.uk/health/article-29960/Eat-way-healthy-skin.html
  13. http://www.mensxp.com/grooming/skin-care/9212-foods-for-oily-skin-what-to-eat-and-avoid.html
  14. http://www.sciencedaily.com/releases/2007/11/071109194053.htm
  15. http://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/features/oily-skin
  16. http://www.westderm.com.au/solutions/59/oily-skin-treatments-brisbane
  17. http://www.westderm.com.au/solutions/59/oily-skin-treatments-brisbane
  18. http://www.westderm.com.au/solutions/59/oily-skin-treatments-brisbane
  19. http://www.webmd.com/drugs/2/drug-6661/accutane-oral/details#uses
  20. http://www.webmd.com/drugs/2/drug-6661/accutane-oral/details#precautions
  21. http://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/features/oily-skin
  22. http://beautyhigh.com/oily-skin-tips/

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,120 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา