ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจัดการกับความคิดถึงใครสักคน ไม่ว่าคนๆ นั้นจะจากไปแค่ช่วงสั้น ได้จบความสัมพันธ์กับคุณลงแล้ว ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว หรือย้ายไปอยู่อีกเมือง ความรู้สึกเจ็บปวดและรู้สึกโหยหาคิดถึงนั้นเป็นปฏิกิริยาปกติที่มีต่อการสูญเสียคนๆ นั้น คุณต้องเรียนรู้ที่จัดการลดความรู้สึกคิดถึงใครสักคน มันจะทำให้คุณรู้สึกสงบ ยอมรับความจริง และมีสติที่จะรู้ว่าพวกเขาอาจจะจากไป แต่จะไม่มีวันถูกลืม

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

จัดการกับความคิดถึงใครบางคนที่ไม่อยู่แค่ช่วงสั้นๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ขีดฆ่าแต่ละวันในปฏิทินและแสดงความยินดีกับตัวเองที่ผ่านแต่ละวันไปได้ ให้เน้นความสนใจไปที่การใช้ชีวิตในหนึ่งวัน ช่วงเวลาที่คนที่คุณรักไม่อยู่ด้วยได้ทำให้ชีวิตของคุณเปลี่ยนไป สำหรับคนที่ต้องอยู่หลังจากคนๆ นั้นจากไปแล้ว เป็นเรื่องสำคัญที่จะใช้ชีวิตให้ผ่านพ้นไปแต่ละวันให้ประสบความสำเร็จ!
  2. เวลาเป็นสิ่งที่มีค่า ตอนนี้คุณมีเวลาที่จะเข้าหาคนอื่นๆ ที่คุณห่วงใยแต่ไม่ค่อยได้ใช้เวลาร่วมกันบ่อยๆ ซึ่งนี่รวมถึงสามีภรรยา เพื่อน และสมาชิกในครอบครัวที่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน
    • ถ้าเมื่อก่อนคุณยุ่งอยู่กับการเลี้ยงดูเด็กๆ แต่ตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่บ้านสักระยะเพื่อเรียนที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ตอนนี้คุณอาจจะมีเวลาที่จะได้ทำสิ่งต่างๆ ที่คุณไม่มีเวลาได้ทำและเลื่อนมันมานาน [1]
  3. เตรียมสิ่งของส่งไปให้คนที่คุณคิดถึง สิ่งของแต่ละชิ้นที่คุณซื้อจะเปิดโอกาสให้คุณได้ให้ความสำคัญกับคนที่คุณคิดถึง เปิดโอกาสให้คุณได้ทำอะไรให้เขาและได้ส่งความรักไปให้ ถ้าคุณอยู่กับลูกๆ ให้หาคืนว่างๆ ในสัปดาห์เพื่อทำงานศิลปะและงานฝีมือส่งไปให้
  4. การทำตัวยุ่งๆ ที่บ้านก็จะเป็นการหันเหความสนใจที่ดีและจะเป็นการทำให้บรรยากาศดีขึ้น การให้ความสนใจกับงานแต่ละชิ้นและทำมันให้เสร็จก็จะทำให้เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าบางวันจะผ่านไปได้ยากกว่าวันอื่นๆ แต่ก็จะมีงานที่คุณสามารถทำได้รอบๆ บ้านเสมอ
    • ปรับปรุงความเป็นอยู่เมื่อเพื่อนร่วมห้องไปพักร้อน สร้างบรรยากาศในห้องที่เมื่อเพื่อนร่วมห้องกลับมาเห็นแล้วจะต้องรู้สึกตื่นเต้น แม้แต่การทำอะไรง่ายๆ อย่างการทำความสะอาดหรือจัดห้องก็ถือว่าเป็นการปรับปรุง นี่จะทำให้คุณมีอะไรทำและผลที่ได้ก็ดีเยี่ยม
    • การเพิ่มต้นไม้ที่ห้องก็เป็นการทำให้พื้นที่ของคุณมีชีวิตชีวา
    • ทำความสะอาดหน้าต่างและบานหน้าต่าง ทุกคนชอบดูวิวข้างนอกที่สะอาดสดชื่น
    • ระบายสีรั้วที่เป็นสนิม
    • ซ่อมประตูที่มีเสียง ก๊อกน้ำรั่ว และของอื่นๆ ที่เสีย
    • ปรับปรุงให้บ้านดูน่าอยู่ ปลูกพืชที่มีสีสันสดใสบริเวณทางเดินหรือจะวางกระถางต้นไม้สวยๆ ตรงระเบียงก็จะทำให้ดูสดใสขึ้น
  5. มีโครงการหรืองานหลายอย่างที่ต้องใช้เวลานานและใช้ความพยายามในการทำให้เสร็จ ถ้าคุณมีเวลาว่างเยอะ ให้ลองเริ่มทำโครงการสักอย่างที่จะไม่เสร็จจนกว่าคนที่คุณคิดถึงจะกลับมา นี่จะทำให้คุณและคนที่คุณคิดถึงมีบางอย่างที่เฝ้ารอคอยร่วมกันและจะทำให้คุณต้องรักษาสัญญาที่จะทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ
    • ถ้าคู่แต่งงานของคุณต้องไปเกณฑ์ทหาร ให้บอกเขาว่าคุณจะทำงานบางอย่างให้เสร็จ เช่น สร้างระเบียงไม้ที่สวนหลังบ้านให้เสร็จ
    • ถ้าคุณอยู่กับลูกๆ หางานที่ทำร่วมกันเพื่อให้ทั้งคุณและลูกๆ ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ใครบางคนไม่อยู่ได้
    • เริ่มทำสวนแบบที่คุณอยากทำ
    • รวบรวมทุนเพื่อเป็นประโยชน์กับกองทัพหรือเป็นเงินทุนที่สำคัญกับคู่แต่งงานของคุณ รายงานความคืบหน้าให้กับเขา นี่จะทำให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นที่คิดถึงและยังเป็นที่รักและที่ต้องการของที่บ้าน
  6. สื่อสารผ่านสไกป์ อีเมล จดหมาย และเขียนการ์ด มันจะมีประโยชน์มากเพราะทำให้คุณเฝ้ารอช่วงเวลาที่จะได้ติดต่อกัน เมื่อคุณเขียนจดหมายไปหาคุณจะรู้สึกว่าได้อยู่ใกล้ชิดกันขึ้นและการได้รับจดหมายตอบกลับนั้นก็น่าตื่นเต้น ความรู้สึกดีๆ จะเพิ่มมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปและคุณก็จะจัดการกับช่วงเวลาที่คนๆ นั้นไม่อยู่ได้ดีขึ้น
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

เดินหน้าต่อไปหลังจากการเลิกรา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณกำลังจัดการกับความรู้สึกเมื่อเลิกรากับใครสักคนหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันเป็นความสัมพันธ์ที่จริงจัง สิ่งที่ยากที่สุดก็คือคุณจะไม่ยอมเดินหน้าต่อไป ให้ปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ โมโห สับสน และปลดปล่อยอารมณ์ที่อยู่อัดแน่นในตัวคุณออกมา
    • คนแต่ละคนก็เผชิญกับอารมณ์ที่แตกต่างกันไป [2] คุณอาจจะไม่ร้องไห้ แต่คุณอาจจะอยากเขียนระบายความรู้สึกของคุณ ทุกๆ คนนั้นก็ต้องแตกต่างกันอยู่แล้ว
    • ปลีกตัวเองออกมาจากสังคมสักพักหรือจะบอกแค่กับเพื่อนสนิทหรือสมาชิกในครอบครัว บางคนนั้นโลกส่วนตัวสูงและนั่นก็เป็นสิ่งที่สามารถรับได้
    • การเขียนความคิดลงไปจะช่วยชี้ชัดว่าอารมณ์ความรู้สึกใดที่ทำให้คุณเจ็บปวด
    • อย่าอายเมื่อคุณรู้สึกเสียใจเมื่อความสัมพันธ์จบลง แม้ว่าคนอื่นจะคิดว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่จริงจัง ไม่มีใครรู้จริงๆ หรอกว่าคุณจะต้องผ่านความเจ็บปวดอะไรเพราะมันเป็นประสบการณ์ของตัวคุณเอง
  2. ผู้คนส่วนใหญ่รู้วิธีต่างๆ ในการพยายามเพื่อให้ได้บางสิ่งบางอย่างมา แต่มีคนจำนวนน้อยมากที่จะเรียนรู้วิธีที่จะสูญเสียสิ่งนั้นไป ซึ่งนี่ก็จะทำให้ผู้คนจัดการกับความสูญเสียต่างๆ ในชีวิตได้ไม่ดีนัก ไม่ว่าสิ่งที่สูญเสียไปนั้นเป็นความสัมพันธ์ คนที่คุณรัก งานของคุณ ความสามารถทางกาย หรือเป็นความเชื่อใจที่มอบให้ใครสักคน ผลกระทบความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นล้วนสามารถเข้าใจได้และจัดการได้ ความรู้สึกโศกเศร้าเป็นอารมณ์ที่ซับซ้อนและจะแสดงออกมาในหลากหลายทางซึ่งก็แตกต่างกันไปในแต่ละคน
    • ความรู้สึกจมอยู่ในความคิดถึงใครสักคน ความรู้สึกนี้จะยิ่งแย่ลงถ้าไม่คลายความโศกเศร้า
    • ในกระบวนการของความรู้สึกเศร้านั้นมีหลายขั้นตอน โดยนี่สามารถนำมาใช้เพื่อให้เข้าใจประสบการณ์โศกเศร้าของตัวคุณเองได้ โดยกระบวนการจะเริ่มจากการไม่ยอมรับ ความรู้สึกชาไปทั้งตัว และความรู้สึกตกใจ จากนั้นก็จะเริ่มต่อรองกับสิ่งต่างๆ รู้สึกเศร้าซึม โกรธโมโห และยอมรับได้ในที่สุด [3]
    • ความโศกเศร้านั้นเป็นการเดินทางของแต่ละคน ทุกคนก็เผชิญกับมันแตกต่างกัน คุณอาจจะติดอยู่ในขั้นหนึ่งของความโศกเศร้านานกว่าขั้นอื่นๆ อย่าเร่งรีบกดดันตัวเองหรืออย่าให้ใครมากดดันให้คุณรีบหายจากความรู้สึกเศร้า ให้เวลากับความเศร้าและมันจะเป็นสิ่งสำคัญของกระบวนการเยียวยาตนเอง
    • ไตร่ตรองให้ลึกซึ้งขึ้นแล้วถามตัวเองว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่เหมาะกับคุณแน่หรือ หรือแค่คุณรู้สึกติดยึดกับตัวเขา หากคุณเองก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ใช่ ก็จะช่วยคุณเตือนตัวเองได้ดีขึ้นว่าเพราะอะไรมันถึงไม่เวิร์ค
  3. เก็บของที่ทำให้ระลึกถึงบุคคลนั้นออกไปเมื่อคุณพร้อม. คุณอาจจะรู้สึกลำบากเมื่อเห็นสิ่งของที่เตือนให้นึกถึงบุคคลนั้น ให้เก็บสิ่งของที่เหลือลงไปในกล่องหรือจะให้คืนไป จะทิ้งมันไปหรือเก็บให้ห่างมือก็ได้ ให้ทำอย่างเดียวกันกับสิ่งของที่คุณสะสมไว้ มันจะทำให้การคิดถึงบุคคลนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นเมื่อคุณไม่เห็นสิ่งของที่ทำให้ระลึกถึงบุคคลนั้นเมื่อใช้ชีวิตในแต่ละวัน
    • ถ้าคุณพบว่าสิ่งของนั้นมีความพิเศษอย่างมากจนไม่สามารถขาดมันไปได้ ให้เก็บไว้ในห้องเก็บของสักพัก
    • ถ้าคุณรู้สึกเจ็บปวดมากเมื่อทำเช่นนี้เพียงคนเดียว ให้ขอให้เพื่อนมาช่วยเก็บด้วย คุณจะรู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้นในการเดินหน้าต่อไปโดยไม่มีคนรักเก่า
    • ให้คิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ คุณจะหยุดคิดถึงคนรักเก่าได้อย่างไรถ้ายังมีรูปถ่ายใบใหญ่ของเขาหรือเธออยู่ข้างเตียงของคุณ?
  4. ถ้าคุณแน่ใจว่าความสัมพันธ์ได้จบลงแล้ว แต่คุณยังคงพูดคุยกับเขาหรือเจอเขาบ้าง นี่จะยิ่งทำให้หยุดคิดถึงได้ยากขึ้น ถ้าคุณสามารถหลีกเลี่ยงการเจอคนรักเก่าของคุณได้อย่างเด็ดขาดได้ คุณก็ควรที่จะทำเช่นนั้นถ้าเป็นไปได้ การยังติดต่อกันอยู่จะยิ่งทำให้คุณต้องเผชิญกับความขัดแย้งทางอารมณ์ที่มันจะไม่ช่วยอะไรคุณได้เลย
    • อย่าโทรศัพท์หรือส่งข้อความไปหาคนรักเก่าเพียงเพราะอยากรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอย่างไรบ้าง มันจะทำให้คุณรู้สึกแย่เท่านั้น
    • ถ้าคุณจะต้องเจอเขาที่โรงเรียน ที่ทำงาน หรือที่อื่นๆ ให้แสดงออกรับรู้การมีตัวตนของเขาเพียงแค่กล่าวว่า “สวัสดี” และใช้เวลาให้น้อยที่สุดที่จะอยู่ต่อหน้าเขา อารมณ์ของคุณมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มในระดับที่สูงขึ้นหลังจากที่เจอเขาซึ่งจะทำให้คุณคิดถึงเขา แต่นี่เป็นแค่ชั่วคราว ดังนั้นให้เข้มแข็งไว้และผ่านมันไปให้ได้
    • ตัดขาดการติดต่อกับบุคคลนั้นทางโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง ถ้าคุณยังคงดูรูปภาพของเขา คุณจะใจลอยคิดถึงสิ่งต่างๆ ระหว่างคุณสองคน
  5. นี่ก็มีจุดประสงค์คล้ายกับพิธีการต่างๆ ที่เกี่ยวกับการสิ้นสุดของสิ่งๆ หนึ่ง เช่น พิธีการจบการศึกษา งานศพ พิธีการปิดงาน ซึ่งพิธีการเหล่านี้เป็นการบอกว่าสิ่งนั้นได้จบลงแล้ว มันทำให้เรารู้สึกถึงการสิ้นสุดของสิ่งต่างๆ การทำพิธีการบอกลาก็จะเป็นการช่วยให้คุณสิ้นสุดความสัมพันธ์ที่เจ็บปวดได้ดีขึ้นและจะช่วยลดทอนความรู้สึกคิดถึงบุคคลนั้น
    • เขียนจดหมายถึงบุคคลนั้น แต่ไม่ต้องส่งไป เขียนความรู้สึกอารมณ์ต่างๆ ที่คุณอยากจะให้เขารู้ ขอบคุณเขาสำหรับช่วงเวลาที่ดีและช่วงเวลาที่แย่ ระบายความโกรธออกมา บอกเขาว่า "ฉันไม่ต้องการความเจ็บปวดเมื่อรู้สึกคิดถึงคุณอีกแล้ว ดังนั้นฉันจะคืนมันให้กับคุณ ลาก่อน" [4]
  6. เมื่อคุณรู้สึกพร้อม คุณอาจจะพิจารณาที่จะเดทกับคนใหม่ คุณอาจจะคิดว่าถ้าคุณเดทกับคนใหม่ทันทีจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของคุณ แต่ดูเหมือนว่ามันจะทำให้คุณรู้สึกแย่กว่าเดิมเมื่อเพราะมันจะทำให้นึกถึงการสูญเสียบุคคลนั้นไป มีโอกาสน้อยที่คุณจะพบ “คนที่ใช่” เพียงแค่หนึ่งอาทิตย์หลังจบความสัมพันธ์ลง
    • การอยู่กับคนใหม่จะทำให้คุณนึกถึงช่วงเวลาที่รักกันกับคนเก่าและจะทำให้ยิ่งรู้สึกคิดถึงเขามากขึ้น
    • การเดทกับคนใหม่ทั้งๆ ที่คุณยังไม่พร้อมนั้นไม่สามารถเติมเต็มความรู้สึกว่างเปล่าของคุณได้
    • ให้ใช้เวลากับเพื่อนคนที่จะช่วยทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเองได้
  7. หยุดทำบางสิ่งที่คุณกับเขาเคยทำร่วมกันหรือสิ่งที่ทำให้นึกถึง หลีกเลี่ยงร้านอาหารที่คุณเคยไปตอนเดทแรกหรือหลีกเลี่ยงมุมโปรดของเขาที่สวนสาธารณะ ซื้อกาแฟหรือเบเกิลจากร้านอื่นที่ไม่ใช่ร้านเดิมสักสองสามอาทิตย์และจะเห็นว่าคุณรู้สึกดีขึ้นในช่วงเช้า อย่าหยุดทำสิ่งที่คุณเคยทำไปซะทั้งหมด แต่ให้ทำสิ่งใหม่ที่จะทำให้คุณคิดถึงคนรักเก่าน้อยลง
    • มันจะรู้สึกมีพลังยิ่งขึ้นในการทำสิ่งที่คุณอยากทำมาตลอดแต่คนรักเก่าของคุณไม่ชอบ เช่น การปีนเขาหรือการเรียนทำพาสต้าตั้งแต่ต้น หาวิธีในการนิยามตนเองโดยที่ไม่มีคนรักเก่าและคุณจะพบว่าคุณคิดถึงเขาน้อยลงอย่างรวดเร็ว
    • ถ้าคนรักเก่าอยู่ในแวดวงสังคมของคุณ คุณอาจจะหลีกเลี่ยงงานเลี้ยงที่เขาอาจจะเข้าร่วมไปสักพัก หาวิธีที่จะทำให้ตัวเองรู้สึกสนุก
  8. [5] การอยู่กับเพื่อนเป็นสิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งที่คุณสามารถทำได้ ใช้เวลากับเพื่อนสนิทของคุณและคุณจะรู้สึกซาบซึ้งที่ได้รับความรักและกำลังใจ คุณมีคนที่สามารถหันไปพึ่งพิงได้และเขาจะเป็นที่ยึดเหนี่ยวระหว่างที่คุณกำลังลำบาก
    • ถ้าคุณรู้สึกพร้อม ให้เจอเพื่อนอย่างน้อยสองสามคนต่ออาทิตย์เพื่อเป็นการหันเหความสนใจจากการนึกถึงคนรักเก่าของคุณ
    • เพื่อนของคุณอาจจะไม่ได้พูดอะไรที่ทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดของคุณหายไปทันทีอย่างอัศจรรย์ แต่การมีพวกเขาอยู่ข้างๆ นั้นก็ช่วยคุณได้มาก
  9. เมื่อตอนที่คุณอยู่กับคนรักเก่า คุณอาจจะไม่มีเวลาในการปรับปรุงตนเอง ให้ใช้ประโยชน์จากเวลานี้ปรับปรุงตนเองให้มีความสุข สุขภาพดี และประสบความสำเร็จ ตั้งเป้าหมายฝึกฝนสำหรับการวิ่งมาราธอน เป้าหมายที่จะเขียนนิยายให้เสร็จ เป้าหมายที่จะเป็นคนหมกมุ่นน้อยลง หรืออะไรก็ได้ที่คุณอยากทำมาตลอดเพื่อปรับปรุงตนเอง
    • เขียนคุณสมบัติที่คุณอยากจะปรับปรุง ลองดูว่าบางทีมันอาจจะเป็นสิ่งที่ขวางทางคุณอยู่ไม่ให้คุณมีความสุข บางทีคุณอาจจะกังวลมากเกินไป หรือเมื่อคุณลองเขียนดูแล้วและอาจจะคิดว่าคุณอาจจะใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติของคุณที่เป็นคนมั่นใจมากก็ได้
    • ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และเน้นการดูแลตัวเอง นี่จะช่วยให้คุณรู้สึกดีกับตัวเองยิ่งขึ้น คุณจะได้รู้สึกอยากมูฟออนเสียที
  10. ทุ่มเทตัวเองกับการทำงานที่ดีและสำคัญ คุณจะคิดถึงเขาน้อยลงมากถ้าคุณมีงานที่ทำให้คุณตื่นเต้นที่จะตื่นขึ้นมาทำในทุกๆ เช้า การได้รับผลตอบรับจากบุคคลที่คุณทำงานด้วยจะช่วยปรับปรุงคุณภาพในการประเมินตัวเองในการทำงาน
  11. อย่าโศกเศร้าอยู่ที่บ้านหรืออยู่ที่บนเตียง ให้ใช้เวลานอนบ้าน ใช้เวลากับเพื่อน และทำให้ตารางชีวิตของคุณยุ่งแบบที่คุณรับไหวและรู้สึกตื่นเต้นกับการคาดหวังสิ่งต่างๆ ในอนาคต
  12. การจบความสัมพันธ์อาจจะทำให้คุณมองทุกสิ่งทุกอย่างในความสัมพันธ์นั้นว่าเป็นสิ่งที่แย่ ให้ลองหาแง่มุมดีๆ ในความสัมพันธ์นั้น อะไรที่คุณได้เรียนรู้บ้างและบทเรียนเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับคุณในอนาคตได้อย่างไรบ้าง ให้รู้สึกซาบซึ้งกับประสบการณ์ที่ได้รับมา [7]
    • ให้รู้สึกขอบคุณประสบการณ์และสิ่งที่ประสบการณ์ได้มอบให้กับชีวิตของคุณ นี่จะพัฒนาสุขภาพกายและใจของคุณโดยรวม [8] เมื่อคุณมีสุขภาพดี คุณจะสามารถจัดการกับความรู้สึกคิดถึงใครบางคนได้ดีขึ้น
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

จัดการกับความรู้สึกคิดถึงเมื่อคนที่รักได้เสียชีวิตไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณกำลังจัดการกับความรู้สึกที่ได้สูญเสียคนที่รักไป คุณควรจะให้เวลาตัวเองได้เศร้าโศกและจะได้ยอมรับจัดการความรู้สึกนั้น คุณจะไม่มีทางหยุดคิดถึงบุคคลนั้นได้ถ้าคุณไม่ให้เวลาตัวเองได้ทำอะไรช้าๆ ปลดปล่อยอารมณ์และความเศร้าของคุณที่เกิดจากการสูญเสียบุคคลนั้นไป [9]
    • กระบวนการของความรู้สึกเศร้าเป็นเรื่องที่แตกต่างกันไปในแต่ละคนดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ถ้าคุณต้องอยู่คนเดียวสักพัก ขอให้แน่ใจว่าได้บอกเพื่อนและสมาชิกในครอบครัวของคุณให้เข้าใจ โดยบอกพวกเขาว่า “ฉันรู้สึกเศร้าอยู่และมันเป็นอุปสรรคที่ฉันกำลังดิ้นรนอยู่ แต่ฉันกำลังจะทำให้มันผ่านไปได้ ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจว่ามันอาจจะต้องใช้เวลา และฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ ฉันรู้แค่ว่าจะต้องเป็นฉันคนเดียวเท่านั้นที่จะคิดออกเอง”
    • ถ้าคุณใช้เวลากับตัวเองมากเกินไปและรู้สึกเหงา ขอให้แน่ใจว่าได้ใช้เวลากับคนอื่นๆ ด้วย
    • เขียนบันทึก [10] พูดความรู้สึกของคุณออกมา ดูรูปภาพของบุคคลที่ได้จากไป หรือจะแค่ร้องไห้ออกมา ถ้าคุณไม่ร้องไห้ อย่ารู้สึกผิดไป แต่ละคนมีวิธีที่แตกต่างกันในการแสดงออกความเศร้า
  2. นี่เป็นวิธีที่ดีที่จะเดินไปข้างหน้าและจดจำผู้ที่จากไปแล้วและสานต่อสิ่งที่เขาเคยทำ อาจจะเป็นการพูดคุยกับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวให้ระลึกถึงบุคคลนั้น หรือจะยึดถือสิ่งที่บุคคลนั้นชอบและทำมันต่อไม่ว่าจะเป็นอาสาสมัครในชุมชน อ่านหนังสือให้เด็กๆ หรือฟังเพลงที่บุคคลนั้นชอบฟัง
    • ถ้าการทำในสิ่งที่ผู้เสียชีวิตไปแล้วชอบทำจะยิ่งเป็นการทำให้คุณเศร้าหรือยิ่งคิดถึง ให้เปลี่ยนกิจวัตรประจำวันของคุณ อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณรู้สึกพร้อมที่จะเดินหน้าต่อ ให้กลับไปทำในสิ่งที่บุคคลนั้นชื่นชอบ ประสบการณ์จากกิจกรรมต่างๆ จะนำพาคุณให้เข้าใกล้ความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับบุคคลนั้นโดยที่ไม่คิดถึงเขามาก
    • ขอให้จำไว้ว่านี่ไม่ได้แปลว่าคุณพยายามที่จะลืมคนๆ นั้นหรือจะไม่นึกถึงเขาอีก คุณต้องการที่จะจดจำบุคคลนั้นในแง่ดี รับรู้ความรู้สึกคิดถึง และทำให้ทุกเรื่องเกี่ยวกับบุคคลนั้นเป็นเรื่องสำคัญ
  3. มันอาจจะไม่มีประโยชน์ที่จะไม่เอ่ยถึงบุคคลนั้นอีกหรือกำจัดทุกอย่างที่ทำให้คุณนึกถึงเขา อย่างไรก็ตาม คุณอาจจะทำเช่นนั้นชั่วคราวได้ถ้ามันทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก แต่ในระยะยาวคุณควรที่จะรู้สึกสบายใจเมื่อพูดถึงบุคคลนั้น คุณอาจจะหัวเราะเมื่อนึกถึงสิ่งตลกๆ ที่บุคคลนั้นเคยพูดหรือทำ มันจะทำให้คุณเศร้าน้อยลงและทำให้เยียวยาตนเองให้ดีขึ้น [11]
    • การสร้างความทรงจำที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักต่อบุคคลนั้นจะทำให้คุณสงบขึ้นกับความจริงที่ว่าเขาได้จากไปแล้ว แม้ว่าคุณจะไม่สามารถนำพาเขากลับมาได้ การได้พูดถึงความทรงจำจะช่วยให้กระบวนการเยียวยาตนเองดีขึ้น
  4. ตระหนักว่าความสัมพันธ์ของคุณยังไม่จบลงแต่ได้เปลี่ยนไป. ความสัมพันธ์นั้นมีองค์ประกอบสองอย่าง นั่นคือ องค์ประกอบทางกายและทางจิตใจ ขณะที่ความสัมพันธ์ทางกายกับบุคคลนั้นได้สิ้นสุดไปแล้ว แต่ความสัมพันธ์ทางจิตใจนั้นยังคงดำเนินอยู่ คุณไม่สามารถหยุดคิดถึงบุคคลนั้นได้สิ้นเชิง
    • ที่คุณพยายามที่จะไม่คิดถึงเขานั้นไม่ได้เป็นการทรยศเขา ถ้าบุคคลนั้นเขารักคุณ เขาก็จะต้องดีใจที่เห็นคุณพยายามที่จะเดินหน้าต่อ
    • มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่คิดถึงเขาเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันครบรอบแต่งงาน วันหยุด หรือช่วงเวลาสำคัญต่างๆ ที่คุณกับเขาได้มีร่วมกัน แทนที่จะเพิกเฉยกับความรู้สึกสูญเสีย คุณควรที่จะกล่าวกับตัวเองหรือกับผู้อื่นว่า “วันนี้ ฉันคิดถึง ____ เขาน่าจะชอบช่วงเวลานี้ มายกแก้วของเราให้กับ ____ พวกเรารักคุณ” นี่จะเป็นการตระหนักถึงความสำคัญของบุคคลนั้นและการสร้างเหตุการณ์ที่ให้เกียรติบุคคลนั้นจะช่วยเยียวยาตัวคุณเอง
    • บางครั้งการคิดถึงผู้ที่จากไปแล้วก็เป็นเรื่องที่มีประโยชน์ แต่มันจะดีกว่าถ้าคุณมีความสุขกับปัจจุบันแทนที่จะโหยหาอดีต
  5. เพื่อนและครอบครัวของคุณจะอยู่เพื่อให้กำลังใจคุณและทำให้คุณดีขึ้นในช่วงเวลาที่ยากลำบาก พวกเขาอาจจะเศร้าด้วยเช่นกัน และคุณก็ควรจะเป็นที่พึ่งให้กันและกันและใช้เวลาเพื่อแสดงความรัก ความห่วงใย และเพื่อที่จะรู้สึกเติมเต็มความว่างเปล่า คุณต้องการความรักและความเอาใจใส่ในช่วงเวลานี้และการใช้เวลากับคนที่คุณรักก็จะช่วยทำให้คุณคิดถึงบุคคลนั้นน้อยลง
    • เพื่อนใหม่หรือสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ไม่สามารถแทนที่บุคคลที่อยู่ในใจคุณหรือทำให้คุณลืมเขาได้
    • ถ้าคุณพบว่าเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวบางคนดูเหมือนจะ “หายเศร้า” จากการสูญเสียได้อย่างรวดเร็วมาก อย่ารู้สึกผิดหวัง แต่ละคนก็มีระยะเวลาที่เศร้าแตกต่างกันออกไป คุณไม่มีทางรู้ว่าจริงๆ แล้วพวกเขารู้สึกอย่างไร
  6. ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือเพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้ ให้หาความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าวิธีบำบัดนี้จะใช้ได้กับคุณหรือไม่ ให้ลองก่อนที่จะตัดสินใจ การพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสถานการณ์ของคุณอาจจะทำให้คุณมีความคิดใหม่ๆ ได้ มันจะต้องใช้ความกล้าหาญและความเข้มแข็งในการหาความช่วยเหลือและผ่านอุปสรรคของชีวิต [12]
    • ภูมิใจในตัวเองเมื่อคุณค้นหาความช่วยเหลือที่คุณต้องการ คุณไม่ควรรู้สึกละอายหรือรู้สึกอ่อนแอเมื่อรู้สึกอยากเข้ารับการบำบัด
  7. แทนที่จะเก็บความคิดที่ทำให้หนักหัวตลอดทั้งวัน การถ่ายทอดความรู้สึกลงไปแต่ละหน้าของสมุดบันทึกก็สามารถช่วยคุณได้ จดลงไปทุกเช้าและทุกเย็นเพื่อเป็นการตรวจสอบตัวเองและเพื่อลดความกดดันลง คุณสามารถเขียนลงไปเมื่อใดก็ตามที่มีความคิดแล่นเข้ามาในหัว ลองหาสิ่งที่ได้ผลสำหรับคุณ
    • เขียนจดหมายไปหาบุคคลนั้น โดยไม่ต้องส่งไป เขียนความรู้สึกอารมณ์ต่างๆ ที่คุณอยากจะให้เขารู้ ขอบคุณเขาสำหรับช่วงเวลาที่ดีและช่วงเวลาที่แย่ ระบายความโกรธออกมา บอกเขาว่า "ฉันไม่ต้องการความเจ็บปวดเมื่อรู้สึกคิดถึงคุณอีกแล้ว ดังนั้นฉันจะคืนมันให้กับคุณ ลาก่อน" [13]
    • อ่านจดหมายออกมาดังๆ ให้ตัวเองหรือให้เพื่อนและสมาชิกในครอบครัวที่คุณเชื่อใจ จากนั้น เผาจดหมายที่บริเวณที่ปลอดภัย การเผาเป็นการชำระล้างอย่างหนึ่งและจะทำให้พลังที่สับสนวุ่นวายในตัวคุณเปลี่ยนไป
  8. เมื่อคุณได้สูญเสียใครคนหนึ่ง คุณอาจจะสนใจไปที่การสูญเสียและสนใจแต่บุคคลที่จากไปแล้วจนคุณลืมที่จะดูแลตนเอง เพื่อที่จะคิดถึงบุคคลนั้นให้น้อยลง ขอให้แน่ใจว่าคุณได้ทำกิจวัตรประจำวันที่จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น นี่ก็รวมถึงการนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน [14] การทานอาหารให้ครบสามมื้อแม้ว่าคุณจะไม่รู้สึกหิว และหาเวลาออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีในแต่ละวัน
    • คุณอาจจะไม่คิดว่าแค่การนอนหลับและทานอาหารอย่างสม่ำเสมอจะสร้างความแตกต่างอะไรมากเมื่อคุณกำลังโศกเศร้าอยู่ แต่ว่ามันจะช่วยได้แน่นอน ถ้าสุขภาพของคุณแข็งแรงขึ้น คุณก็จะสามารถจัดการกับการดิ้นรนให้หลุดจากความเศร้าได้ดีขึ้น
    • หลีกเลี่ยงสิ่งที่มีแนวโน้วว่าจะทำให้คุณเครียดขึ้น นี่อาจจะหมายถึงสถานการณ์รถติด คอนเสิร์ตที่มีเสียงดัง ความรับผิดชอบมากขึ้นในที่ทำงาน หรือการใช้เวลากับเพื่อนที่เจ้าอารมณ์ แม้ว่าคุณจะไม่สามารถกำจัดความเครียดออกไปทั้งหมดได้ คุณสามารถพยายามทำให้มันลดน้อยลงได้
    • ทำสมาธิหรือเล่นโยคะประมาณ 15 นาทีต่อวัน [15] นี่จะช่วยให้คุณสัมผัสถึงร่างกายและจิตใจของคุณและทำให้รู้สึกสงบมากขึ้นตลอดทั้งวัน
    • ให้ความสนใจในเรื่องสุขภาพร่างกายของคุณ มีมากกว่าหนึ่งในสามของผู้ที่สูญเสียคนที่รักไปที่รู้สึกทุกข์ทรมานทั้งทางกายและใจ [16] ขณะที่คุณรู้สึกกังวล หดหู่ และเหนื่อยล้าที่จะทำอะไรก็ตาม คุณไม่สามารถเพิกเฉยกับความต้องการของร่างกายคุณได้
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

จัดการกับความคิดถึงใครสักคนเมื่อเขาย้ายที่อยู่ไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณมีเพื่อนที่ย้ายบ้านไปหรือไปแค่ช่วงหน้าร้อน ขอให้แน่ใจว่าได้ติดต่อพูดคุยกัน ถ้าคุณรู้ว่าคุณจะต้องโทรศัพท์หรือสไกป์หากันทุกอาทิตย์ คุณก็จะรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้นและรู้สึกเหงาน้อยลง ทำให้การติดต่อกับคนๆ นั้นกลายเป็นกิจวัตรที่จะทำให้คุณคาดหวังถึงช่วงเวลาที่จะได้พูดคุยกัน
    • ถ้าคนๆ นั้นอยู่อีกมุมหนึ่งของโลก คุณอาจจะติดต่อผ่านอีเมลหรือส่งข้อความหากัน คุณอาจจะคิดว่าการพูดคุยกันจะยิ่งทำให้คิดถึง แต่จริงๆ แล้วมันจะช่วยให้คุณรู้สึกว่าเขาคนนั้นไม่ได้จากไปไหน
  2. อย่าให้การติดต่อคุยกันทุกวันหรือการส่งข้อความไปตลอดเวลาเป็นนิสัย คุณจะไม่มีความสุขกับชีวิตในปัจจุบันและมันจะทำให้คุณไม่ได้ก้าวออกมาจากพื้นที่ที่คุณเคยชินหรือ comfort zone และมันจะทำให้คุณไม่พยายามเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หรือพบปะกับคนใหม่ๆ
    • ถ้าคนที่จากไปนั้นเป็นคนที่คุณอยากจะคุยมากกว่าใคร ให้หาเหตุผลมาอธิบายว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น แม้ว่าจะเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องติดต่อกัน แต่คุณไม่ควรยึดติดกับเขามากเกินไป [17]
    • โทรไปหาคนๆ นั้นเมื่อคุณกำลังจะตัดสินใจเรื่องใหญ่หรือเรื่องที่สำคัญเกิดขึ้น แต่ลองหาบุคคลที่อยู่ใกล้บ้านคุณและสามารถมาหาคุณได้ก็จะเป็นเรื่องดีเหมือนกัน
  3. การวางแผนไปเยี่ยมคนๆ นั้นจะทำให้คุณมีสิ่งที่เฝ้ารอและจะเป็นการช่วยลดความรู้สึกที่ว่าคุณจะไม่ได้เจอเขาอีกเลย ถ้าคุณรู้ว่าคุณจะได้ใช้เวลาเที่ยวกับเขาในอีกสองสามอาทิตย์ ก็มีแนวโน้มว่าคุณจะไม่มีความอยากที่จะคุยกับเขาตลอดทั้งวันและก็จะรู้สึกคิดถึงเขาน้อยลง
    • คุณและผู้ที่ย้ายออกไปก็มีชีวิตเป็นของตัวเอง และถ้าคุณไปเยี่ยมบ่อยเกินไป คุณก็จะปลีกตัวเองออกจากกิจกรรมทางสังคมที่มีกับคนอื่นๆ ให้ยึดความสมดุลเอาไว้ คุณไม่อยากให้ใครกำจัดคุณออกจากงานทางสังคมเพียงเพราะว่าพวกเขาคิดว่าคุณมักจะไปอยู่กับคนที่คุณคิดถึง
  4. ถ้าคุณเขียนจดหมายทุกสองสามอาทิตย์หรือมากกว่านั้น มันจะทำให้คุณมีโอกาสในการเข้าถึงอารมณ์และความคิดของคุณเองและมันจะทำให้คุณมีความอยากที่จะโทรศัพท์หรือส่งข้อความหาเขานั้นไปหาน้อยลง นี่เป็นวิธีการติดต่อสื่อสารที่สนุกและทำให้คุณคิดถึงคนๆ นั้นน้อยลง
    • การเขียนจดหมายจะทำให้รู้สึกว่าการสนทนากับเขานั้นใกล้ชิดสนิทสนมและทำให้คุณรู้สึกใกล้ชิดกันขึ้นแม้ว่าจะอยู่ห่างกันหลายไมล์
  5. แม้ว่าคุณอาจจะอยากนั่งเฉยๆ คิดถึงคนๆ นั้น แต่แทนที่จะทำเช่นนั้น ให้หาอะไรใหม่ๆ ทำเพื่อทำให้คุณไม่ว่าง เช่น ออกไปเล่นโบว์ลิ่งกับเพื่อนหรือเรียนเล่นกีตาร์ ถ้าตารางเวลาของคุณนั้นมีเวลาว่างมากเพราะเวลาเหล่านั้นเคยถูกใช้ไปกับการทำกิจกรรมกับคนๆ นั้นที่ย้ายจากไป คุณก็จะคิดถึงเขาอย่างนั้นไปเรื่อยๆ ให้เติมเต็มเวลาที่ว่างโดยการทำสิ่งใหม่ๆ และการพบปะคนใหม่ๆ ที่น่าสนใจ
    • ลองเล่นกีฬาใหม่ๆ เช่น วิ่ง หรือเล่นบาสเกตบอล
    • ลองหางานอดิเรกใหม่ๆ เช่น ถ่ายรูป ระบายสี หรือทำอาหาร
    • ลงชื่อเข้าคลาสเรียนที่น่าสนใจในชุมชนหรือโรงเรียนของคุณ เช่น โครงการฝึกการเขียน คอร์สสอนการจัดเมนูอาหารให้เข้ากับไวน์
    • ค้นหาวรรณกรรมใหม่ๆ ที่ชอบ อ่านหนังสือที่คุณตั้งใจจะอ่านให้หมดแต่ไม่เคยอ่านจบ
    • หาการออกกำลังกายใหม่ๆ เช่น ปั่นจักรยาน ปีนเขา โยคะ ซึ่งก็จะทำให้คุณไม่ว่างและจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นมาก
  6. [18] พยายามทำตัวให้เป็นมิตรขึ้นกับคนใหม่ๆ ส่งบัตรเชิญงานเลี้ยงให้เยอะขึ้นเพื่อที่จะได้ใช้เวลาร่วมกันกับคนรู้จัก แม้ว่าคุณอาจจะเขินอาย ให้พยายามรู้จักผู้คนเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ให้ยิ้มแย้ม เป็นมิตร และกล้าเข้าหาผู้คนที่พบ
    • เริ่มต้นจากการถามคำถามส่วนตัวสองสามคำถาม เล่าเรื่องตลกๆ สักเรื่องสองเรื่องเกี่ยวกับตัวคุณเองหรือข้อสังเกตอะไรที่ตลกๆ ถ้าคุณพยายามมากขึ้น คุณก็จะมีเพื่อนมากมายและคิดถึงคนๆ นั้นน้อยลง
    • คุณไม่สามารถหาใครมาแทนที่คนที่ย้ายจากไปได้ เขาเป็นคนที่สำคัญกับคุณและจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป ควรจะเน้นที่การหาเพื่อใหม่ๆ ที่น่าสนใจที่จะทำให้ชีวิตคุณสนุกมากขึ้น
    • ลองให้โอกาสคน คุณอาจจะพบว่าคุณมีอะไรคล้ายคลึงกันหลายอย่างกับคนที่คุณเคยรู้สึกสงสัยในอดีต เมื่อคุณได้ใช้เวลากับเขา คุณอาจจะพบว่าคุณนั้นมีความสุขที่ได้เป็นเพื่อนกัน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • การหัวเราะเป็นยารักษาโรคที่ดีที่สุด ในขณะที่การปล่อยตัวเองให้เศร้าโศกกับความสูญเสียก็เป็นเรื่องที่มีประโยชน์ แต่คุณควรที่จะทำให้จิตวิญญาณของคุณสนุกสนานและไม่ต้องรู้สึกผิด
  • พยายามมีความสุขเล็กๆ น้อยๆ เพื่อหันเหความสนใจของตัวเอง
  • อย่ากลัวที่จะร้องไห้ การร้องไห้เป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์และจะทำให้อารมณ์ของคุณถูกปลดปล่อยออกมา
  • ดูรูปและจดหมายที่คนๆ นั้นส่งมาให้คุณ แต่ต้องกำหนดเวลาเพื่อไม่ให้มันมาครอบงำตัวคุณ
  • อย่าคิดถึงการทะเลาะถกเถียงหรือช่วงเวลาแย่ๆ ให้คิดถึงแต่เรื่องที่ดีไว้
  • ถ้าคุณต้องการที่จะหยุดคิดถึงคนๆ นั้นจริงๆ ให้บอกตัวเองว่า “หยุดได้แล้ว ฉันจะไม่คิดถึงคุณเดี๋ยวนี้แหละ ฉันมีเรื่องที่ต้องทำเยอะแยะที่จะต้องคิดถึงมันเดี๋ยวนี้” พยายามเอาใจออกห่างบุคคลนั้น
  • จำเรื่องตลกๆ ที่คุณทั้งคู่ทำร่วมกันและคาดหวังว่าจะได้เจอกันอีก
  • คุณไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนแต่ก่อนได้ ให้พุ่งความสนใจไปที่อนาคตอันสดใสแทน
โฆษณา

คำเตือน

  • ความเศร้าที่ไม่ได้ระบายออกมาจะปรากฏออกมาทั้งทางกายและทางจิตใจ เรียนรู้กระบวนการของความเศร้าโดยหาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ อย่าปิดโอกาสตัวเองที่จะรู้สึกโศกเศร้าและจบความสัมพันธ์ด้วยความรู้สึกเจ็บปวด
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 19,848 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา