ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
เช่นเดียวกับมารยาท ทัศนคติ และสไตล์การแต่งตัวที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา นิยามของคำว่า “กุลสตรี” ก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน ถึงคำนี้จะดูเชยๆ แต่ก็ยังมีพฤติกรรมในแบบกุลสตรีบางแง่มุมที่ยังไม่ตายจากไป ได้แก่ ความสง่างาม ความนอบน้อม การให้เกียรติตนเองและผู้อื่น อ่านบทความนี้เพื่อเรียนรู้ว่า ทำอย่างไรจึงจะเป็นกุลสตรียุคใหม่อย่างแท้จริง
ขั้นตอน
-
แนะนำคนอื่นๆ ให้รู้จักกัน. ถ้าคุณกำลังคุยกับคนๆ หนึ่งอยู่และมีอีกคนเดินเข้ามา แนะนำคนที่คุณคุยอยู่ก่อนให้คนที่เพิ่งเข้ามารู้จัก
- ในโลกธุรกิจ ลำดับการแนะนำคนอื่นๆ ให้รู้จักกันขึ้นอยู่กับระดับ “ความสำคัญ" ของคนๆ นั้น พูดง่ายๆ ก็คือตามลำดับความอาวุโสในบริษัท เช่นถ้าตามตัวอย่างนี้คุณก็ต้องแนะนำคนที่สำคัญมากกว่าให้คนที่สำคัญน้อยกว่ารู้จัก แล้วค่อยกลับกัน [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง จำไว้ว่าลูกค้าอาวุโสสูงสุดเสมอ ไม่ว่าตำแหน่งของเขาหรือเธอจะเป็นอะไร
- ถ้าเป็นไปได้ให้บอกรายละเอียดที่แสดงถึงความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ ของคนที่คุณแนะนำให้อีกคนรู้จักด้วย แทนที่จะแค่บอกชื่อคนนั้น ให้แนะนำตำแหน่งหรือบอกว่าคุณรู้จักคนๆ นี้ได้อย่างไรด้วย
-
พูดคำว่าคะ/ค่ะและขอบคุณ. ถึงจะฟังดูเป็นหลักมารยาทที่สอนกันซ้ำๆ ซากๆ แต่การลืมพูดคำเหล่านี้ (แม้จะโดยไม่ตั้งใจ) จะทำให้คนอื่นสะดุดหูและกลายเป็นการแสดงความหยาบคายอย่างมาก
- พูดขอบคุณทุกครั้งที่มีใครทำอะไรให้คุณไม่ว่าจะเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก มันจะทำให้เขาหรือเธอเห็นว่าคุณซาบซึ้งในสิ่งที่เขาทำ
- ขอบคุณเจ้าภาพหลังจากไปเข้าร่วมงานเลี้ยงหรือโอกาสพิเศษอื่นๆ ที่บ้านของเขาหรือเธอเสมอ ส่งข้อความ “ขอบคุณ” โทรศัพท์ไปหา หรือส่งอีเมลในวันถัดไปก็ได้
- ขอบคุณคนที่ให้ของขวัญคุณเสมอ คุณอาจจะลองเขียนโน้ตขอบคุณไปให้เขาก็ได้
- อย่าใช้คำว่า “เถอะนะ” และ “ขอบคุณ” มากเกินไป การใช้ 2 คำนี้มากเกินไปจะทำให้มันดูไม่มีความหมายและเหมือนว่าคุณไม่ได้พูดออกมาจากใจ เช่น ถ้าพนักงานเสิร์ฟลากเก้าอี้ออกมาให้คุณ คลี่ผ้าเช็ดปากให้คุณ แล้วจากนั้นก็รินน้ำเปล่าใส่แก้วให้คุณ ค่อยขอบคุณตอนเขา/เธอทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแค่ 1 ครั้งไม่ใช่ขอบคุณทุกขั้นตอน
- เพิ่มรายละเอียดเวลากล่าวขอบคุณผู้อื่น แทนที่จะพูดแค่ว่า “ขอบคุณ” ที่เพื่อนมานั่งถกปัญหาด้วยกัน ให้พูดว่า“ขอบคุณมากนะที่เข้าใจ ฉันซึ้งใจมากเลยละ” เพราะจะดูจริงใจกว่า
-
รู้ว่าเมื่อไหร่ควรปฏิเสธ. การเป็นคนสุภาพไม่ได้หมายความว่าจะต้องไม่มีปากเสียงและปล่อยให้คนอื่นเข้ามาตักตวงผลประโยชน์จากคุณ คุณจะต้องเรียนรู้วิธีการปฏิเสธคนอื่นอย่างสุภาพ
- ถ้ามีใครเสนอแอลกอฮอล์หรือบุหรี่ให้แล้วคุณไม่สนใจ ให้ขอบคุณคนๆ นั้นอย่างนิ่มนวลแล้วปฏิเสธ การยอมทำในสิ่งที่คุณไม่อยากทำจะทำให้คนอื่นรู้สึกว่าคุณเป็นคนหัวอ่อน
- เช่นเดียวกัน ถ้ามีผู้ชายพยายามจะ “มารับคุณ” หรือเริ่มจะฉวยโอกาสลวนลามคุณ ให้คุณลุกขึ้นมาปกป้องตัวเองและบอกให้เขาออกไปไกลๆ ถ้าจำเป็นให้เรียกหรือขอให้คนช่วย
-
ศึกษาหาความรู้. กุลสตรีต้องเป็นมีวาทศิลป์และสามารถดำเนินบทสนทนาได้ ซึ่งจะทำได้ก็ต่อเมื่อคุณอ่านหนังสือมามากและคอยติดตามเหตุการณ์ปัจจุบันในโลกตลอดเวลา แม้ว่าการจะเป็นเช่นนี้ได้อาจจะไม่ต้องอาศัยการศึกษาในระบบเสมอไป แต่การได้รับการศึกษาสูงสุดเท่าที่คุณจะไขว่คว้าได้ย่อมเป็นผลดีต่อตัวคุณเอง
- ถ้าคุณไม่ได้รับการศึกษาในระบบ พยายามหาทางอื่นเพื่อศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง อ่านหนังสือเยอะๆ (ทั้งเรื่องจริงและเรื่องแต่ง) อ่านข่าว และเข้าร่วมงามสัมมนาและ/หรืองานเสวนา
- เนื่องจากมีอินเตอร์เน็ต คนส่วนใหญ่จึงสามารถเข้าถึงบทความทางวิชาการในหัวข้อต่างๆ มากมายได้อย่างไม่รู้จบในแค่คลิกเดียว
- มหาวิทยาลัยบางแห่งอนุญาตให้คนนอกเข้ามานั่งฟังบรรยายได้โดยไม่ได้รับหน่วยกิต แต่ต้องแจ้งทางสถาบันก่อนเข้าไปในห้องเรียน
-
วางท่าการทรงตัวดี. การยืนและการนั่งหลังตรงคือสัญลักษณ์ของกุลสตรีที่แท้จริง นอกจากนี้การยืนและนั่งหลังตรงยังดีต่อหลังของคุณและทำให้ช่วงกลางลำตัวของคุณแข็งแรงขึ้น! มันอาจจะต้องอาศัยการฝึกฝนสักหน่อยกว่าจะชิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเคยชินกับการหลังงอ
-
ให้เกียรติผู้อื่น. การเป็นกุลสตรีไม่ใช่แค่การดูดีหรือประพฤติตัวให้เหมาะสมแค่ภายนอก แต่ต้องเป็นคนดีจากภายในด้วย
- เวลาที่คุยกับคนอื่น ให้สนใจเขาหรือเธอแค่คนเดียว เพราะมันเป็นการแสดงออกถึงความสุภาพและทำให้บทสนทนาน่าสนใจมากขึ้นสำหรับทั้งสองฝ่าย
- อย่าพูดขัดหรือพูดขณะที่คนอื่นกำลังพูด
- เสนอความช่วยเหลือให้แก่ผู้ที่ยากลำบาก อาจจะเป็นการกระทำง่ายๆ เช่น ช่วยคนแก่ถือถุงข้าวของ ไปจนถึงการกระทำที่แสดงถึงจิตใจที่งดงามมากกว่านั้น เช่น การเป็นอาสาสมัครที่สถานสงเคราะห์คนหรือสัตว์ไร้บ้าน
-
เป็นคนมีเสน่ห์. กุลสตรีที่แท้จริงไม่ได้นั่งเงียบๆ แล้วปล่อยให้โลกหมุนผ่านตัวเธอไป เธอเข้าไปรวมกลุ่มกับคนอื่น ทำให้บทสนทนาครื้นเครง และอ่อยแบบเนียนๆ ด้วย
- ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะทำให้ตัวเองมีเสน่ห์ได้อย่างไร ลองเริ่มจากการยิ้มให้คนอื่นเวลาที่คุยกันให้มากขึ้นและชมพวกเขาให้บ่อยขึ้น พยายามชมอะไรที่มันเกี่ยวกับคนๆ นั้นโดยตรง เช่น แทนที่จะชมว่ารองเท้าสวยจัง ให้ชมพวกเขาว่า คุณคิดว่าพวกเขามีเซ้นส์เรื่องแฟชั่นที่เฉียบแหลมสุดๆ ไปเลย
-
อย่าใช้คำหยาบ รับประทานเยอะเกินไป หรือดื่มมากเกินไป. การเป็นกุลสตรีต้องรู้จักควบคุมตัวเองและมีจิตใจที่เข้มแข็ง และพฤติกรรมแต่ละอย่างที่ว่ามานี้ก็ล้วนแต่เป็นตัวอย่างของการตามใจตนเองมากเกินไป
-
ให้เกียรติเวลาไปบ้านคนอื่น. เวลาที่คุณเป็นแขกไปเยี่ยมบ้านคนอื่น ให้เจ้าของบ้านเป็นคนบอกว่าคุณจะต้องนั่งตรงไหน วางกระเป๋าไว้ที่ไหน ต้องถอดรองเท้าออกหรือไม่ และอื่นๆ
- จำไว้ว่า บางคนเขาอาจจะมีนิสัยชอบรักษาบรรยากาศในบ้านมากกว่าคนอื่น ใช้วิจารณญาณส่วนตัวตัดสินว่าควรประพฤติตัวอย่างไร
-
เปิดประตูค้างไว้ให้คนอื่น. ไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง การเปิดประตูค้างไว้ให้ผู้อื่นเป็นการแสดงออกถึงการให้เกียรติผู้อื่นและอัธยาศัยที่ดี
-
นิ่ง สงบ และมีสติอยู่เสมอ. อย่าด่าทอคนอื่นเวลาที่คุณรำคาญ โกรธ หรือไม่พอใจ มีสติและรับมือกับสถานการณ์อย่างมีเหตุผลและใจเย็นอยู่เสมอ วิธีนี้จะป้องกันไม่ให้คุณทำหรือพูดอะไรในช่วงที่กำลังโกรธขั้นสุดแล้วมาเสียใจทีหลังโฆษณา
-
รักษาความสะอาดของร่างกาย. วิธีนี้จะทำให้คุณดูดีและหอมสะอาด ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือยังช่วยป้องกันคุณจากการติดเชื้อและโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ ด้วย
- อาบน้ำทุกวัน ถ้าคุณไม่อยากสระผมทุกวัน ให้ใส่หมวกอาบน้ำ ชำระล้างร่างกายด้วยสบู่และน้ำเปล่า
- แปรงฟันทุกวันตอนเช้าและตอนหัวค่ำ การแปรงฟันระหว่างมื้ออาหารยิ่งช่วยเสริมสร้างสุขภาพฟันและเหงือกให้ดูดียิ่งขึ้น
- ทาโรลออน กลิ่นตัวที่หอมสำคัญพอๆ กับการมีรูปร่างหน้าตาดี
- แวกซ์ โกน และ/หรือถอนขนเป็นประจำ การกำจัดขนที่ไม่พึงประสงค์ทำให้คุณดูและรู้สึกมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นอยู่เสมอ ทั้งยังทำให้ผิวของคุณนุ่มน่าสัมผัสด้วย
-
แต่งตัวให้สง่างาม. หมายถึงการแต่งกายให้เหมาะกับกาลเทศะ ลักษณะรูปร่าง และอายุ ใช้วิจารณญาณส่วนตัวตัดสินว่าเสื้อผ้าชิ้นไหนเหมาะสมกับคุณมากที่สุด
- อย่าพยายามยัดตัวเองเข้าไปในเสื้อผ้าที่ใส่ไม่ได้
- ลองใส่เดรสธรรมดาๆ ให้บ่อยกว่ากางเกง แม้ว่ามันจะไม่ผิดอะไรที่จะใส่กางเกง แต่การใส่เดรสและกระโปรงจะแสดงความเป็นผู้หญิงออกมาและอวดส่วนเว้าส่วนโค้งได้มากกว่ากางเกง
- ถ้าเป็นไปได้ให้ใส่กางเกงผ้าแทนการใส่ยีนส์ และเวลาที่คุณใส่ยีนส์ ขอให้แน่ใจว่ามันไม่ขาดหรือรุ่งริ่ง
- อย่าใส่กางเกงวอร์มหรือชุดออกกำลังกายเวลาที่ไม่ได้อยู่ที่ฟิตเนสหรือกำลังออกกำลังกาย การใส่เสื้อผ้าเหล่านี้เดินไปไหนมาไหนทั่วทั้งวันแสดงให้เห็นว่า คุณใส่ใจรูปลักษณ์ตัวเองน้อยมาก
-
รักษาเสื้อผ้าให้สะอาดและรีดให้เรียบ. รีดผ้าเพื่อกำจัดรอยยับ ถ้าเสื้อผ้ามีรอยเปื้อนให้ซักออก
-
อย่าแต่งหน้าจัดหรือใส่เสื้อผ้าที่อวดเนื้อหนังมากเกินไป. ความสง่างามต้องอาศัยแนวคิดน้อยแต่มาก คุณแต่งหน้าเพื่อเน้นความสวยของคุณ ไม่ใช่กลบมันเสียมิด
- อย่าอวดเนินอกมากเกินไปหรือใส่เสื้อเอวลอย การใส่เสื้อผ้าที่เปิดเผยแบบนี้ทำให้คนอื่นคิดว่าคุณไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเพื่อตัวคุณเอง แต่ใส่เพื่อดึงดูดผู้ชายมากกว่า
โฆษณา
-
อย่ารับประทานก่อนที่มื้ออาหารจะเริ่ม. ถ้าคุณไปร้านอาหาร ให้รอจนกว่าอาหารของทุกคนจะมาเสิร์ฟแล้วค่อยเริ่มรับประทาน ถ้าอยู่ที่งานปาร์ตี้อาหารค่ำ ให้รอจนกว่าเจ้าภาพจะคลี่ผ้าเช็ดปากและเริ่มรับประทานอาหาร
-
อย่าพูดขณะที่มีอาหารอยู่ในปาก. เพราะมันไม่ได้แค่หยาบคายเท่านั้น แต่ยังทำให้คนอื่นรับประทานอาหารไม่ลงไปด้วย
- อย่าเรอ เลียปาก หรือสั่นขาเวลาอยู่ที่โต๊ะอาหาร
- ถ้าคุณไอหรือจามขณะอยู่ที่โต๊ะอาหาร อย่าลืมใช้ผ้าเช็ดปากปิดปากด้วย
-
ถ้าจำเป็นให้ขอตัวก่อนลุกจากโต๊ะอาหาร. ถ้าคุณจำเป็นต้องลุกจากโต๊ะอาหารเพื่อไปเข้าห้องน้ำ บอกให้คนอื่นรู้ด้วยว่าคุณจะไปไหน
-
อย่าส่งข้อความหรือคุยโทรศัพท์. ถ้าคุณอยู่ในร้านอาหาร การส่งข้อความหรือการคุยโทรศัพท์นอกจากจะรบกวนคนอื่นๆ ในร้านอาหารแล้ว ยังเป็นการไม่ให้เกียรติคน/กลุ่มคนที่คุณรับประทานอาหารด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหนึ่งในนั้นเป็นคนทำอาหารให้คุณรับประทาน รอจนกว่าทุกคนจะรับประทานอาหารเสร็จแล้วค่อยใช้โทรศัพท์
- ปิดเครื่องหรือปิดเสียงโทรศัพท์ขณะรับประทานมื้อค่ำที่เป็นทางการ
-
อย่าเอาศอกวางบนโต๊ะ. กฎนี้ใช้เฉพาะเวลาที่คุณกำลังรับประทานอาหารอยู่เท่านั้น แต่ถ้าอาหารยังไม่มาหรือคุณกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะแล้วแค่ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มอื่นๆ คุณก็สามารถเอาศอกวางบนโต๊ะได้
-
ตัดอาหารให้มีขนาดพอดีคำ. เพราะไม่เพียงแต่จะดีต่อสุขภาพมากกว่าการรับประทานอาหารคำโตเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณสามารถเคี้ยวและกลืนอาหารได้อย่างรวดเร็วถ้ามีคนถามอะไรขณะที่อาหารยังอยู่ในปากด้วย ไม่มีอะไรจะกระอักกระอ่วน (และน่าขายหน้า) ไปกว่าการมีคนมาถามอะไรทันทีหลังจากที่คุณเพิ่งจะตักอาหารคำโตเข้าปาก!
-
หยิบของบนโต๊ะที่อยู่ในระยะที่เอื้อมถึงเท่านั้น. ไม่อย่างนั้นขอให้คนอื่นหยิบให้คุณหน่อย
- ส่งกระปุกเกลือและกระปุกพริกไทยคู่กันเสมอ แม้ว่าเขาจะขอให้คุณหยิบแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะกระปุกเกลือกับกระปุกพริกไทยต้องอยู่คู่กันเสมอ
-
อย่าลืมใช้ผ้าเช็ดปาก. เช็ดนิ้วหรือปากเมื่อจำเป็น
-
ขอบคุณอย่างสุภาพ. อย่าลืมขอบคุณพนักงานเสิร์ฟเวลาที่คุณอยู่ที่ร้านอาหาร และขอบคุณเจ้าภาพเวลาที่คุณอยู่ที่งานปาร์ตี้มื้อค่ำ ชมอาหารเวลาที่คุณรับประทานอาหารกับคนที่ทำอาหารให้คุณโฆษณา
เคล็ดลับ
- จำไว้ว่า การเป็นกุลสตรีนั้นไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องแสดงความเป็นตัวเองหรือใช้ความคิดสร้างสรรค์น้อยลง อย่ายึดติดกับกฎหรือข้อปฏิบัติที่คุณไม่ได้เชื่อจริงๆ
- กุลสตรีต้องยอมรับในตัวผู้อื่น และไม่พุ่งความสนใจไปที่ความแตกต่างของตัวบุคคลจนเจ้าตัวรู้สึกไม่ดี เช่น ถ้ามีใครที่เดินแปลกๆ อย่าถามเขาจนกว่าคุณจะรู้จักเขาดี หรือให้พูดอีกอย่างก็คือ กุลสตรีต้องยอมรับและอดทนอยู่ตลอดเวลา
- ดูภาพยนตร์คลาสสิกเพื่อหาแรงบันดาลใจในการประพฤติตัวเป็นกุลสตรี
- ลองเข้าคลาสฝึกมารยาทสังคมแบบทางการ
- กุลสตรีต้องมีน้ำเสียงที่น่าฟังและน่าเชื่อถือ ถ้าเสียงของคุณขึ้นจมูก เสียงแหลม หรือเสียงราบเรียบ ถ้าคุณ "เสียงแหบ" หรือ "ขึ้นเสียงสูงตอนท้ายประโยค" ถ้าคนอื่นขอให้คุณพูดอีกรอบบ่อยๆ เพราะว่าเขาไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพูด ลองเข้าคลาสฝึกเสียง บางแห่งเปิดคอร์สการออกเสียงที่ถูกต้องสำหรับผู้หญิงทำงาน
- นั่งไขว่ห้างทุกครั้งที่ทำได้!
- กุลสตรีจะไขว่ห้างที่ข้อเท้า ไม่ใช่ที่หัวเข่า เพราะการไขว่ห้างที่หัวเข่าอาจดูโป๊ได้
- โดยทั่วไปแล้ว การไม่แสดงท่าทีอ่อยจนเกินไปนั้นดีกว่าเสมอ และอย่าลืมเป็นมิตรกับคนอื่นด้วย
- เห็นอกเห็นใจคนอื่น
- ผู้หญิงมีบุคลิกเฉพาะตัวในแบบฉบับของเธอเอง เธอชอบตัวเอง น่าสนใจ และสนุกสนาน
- หลังจากรับประทานมื้อค่ำเสร็จ ให้วางผ้าเช็ดปากไว้ข้างจาน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่หลายคนมักจะลืม
โฆษณา
โฆษณา
