ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การทำใจให้จดจ่ออยู่กับการบ้านนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเวลาที่คุณอยากไปทำอย่างอื่นมากกว่า คุณอาจจะเอาแต่นึกถึงแต่โทรศัพท์ ท้องก็ร้อง หรือไม่คุณก็อยากจะเอนกายลงบนเตียงแล้วงีบสักหน่อย ข่าวดีก็คือแค่ปรับเปลี่ยนกิจวัตรการทำการบ้านเล็กน้อย คุณก็สามารถเอาชนะสิ่งยั่วยุเหล่านี้แล้วกลับไปตั้งใจทำการบ้านได้เหมือนเดิม

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 16:

นำสิ่งที่ทำให้เสียสมาธิได้ง่ายออกไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณหยุดดูโทรศัพท์มือถือไม่ได้ ให้วางไว้ไกลตัว. คุณอาจจะเอาเก็บไว้ในลิ้นชักใต้โต๊ะหรือในกระเป๋า พับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือปิดแท็บเล็ตเมื่อไม่ได้ใช้ทำการบ้าน ปิดทีวีหรือเพลงที่อาจทำให้สมาธิหลุดได้ง่าย [1]
    • แต่บางคนก็รู้สึกมีสมาธิมากขึ้นเมื่อได้ยินเสียงรบกวนเล็กน้อยคลอไปด้วย ถ้าเปิดเพลงเบาๆ แล้วช่วยได้ก็เปิดเลย! แต่ถ้ารู้สึกว่าเสียงเพลงทำให้ไม่มีสมาธิก็ปิดซะ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 16:

บล็อกแอปฯ และเว็บไซต์รบกวนในคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณต้องทำการบ้านบนอุปกรณ์ คุณก็อาจจะไม่ค่อยมีสมาธิ. แอปฯ เช่น Forest, Screen Time, และ OurPact นั้นช่วยไม่ให้สิ่งยั่วยุทั่วไปเข้ามารบกวนคุณได้ ถ้าคุณยังเด็ก ขอให้พ่อแม่หรือผู้ใหญ่คนอื่นๆ ช่วยคุณติดตั้งแอปฯ เหล่านี้ [2]
    • เช่น คุณอาจจะต้องบล็อกแอปฯ หรือเว็บไซต์อย่าง Facebook หรือ YouTube ระหว่างทำการบ้าน
    • ถ้ามีเสียงเรียกเตือนหรือข้อความแจ้งเตือนขึ้นมาในอุปกรณ์ ปิดซะคุณจะได้ไม่เสียสมาธิ คุณคงไม่อยากให้มีการแจ้งเตือนจาก Facebook เด้งขึ้นมาในแท็บเล็ตขณะทำการบ้านหรอกใช่ไหม!
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 16:

ทำทีละงาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จริงๆ แล้วการทำงานหลายอย่างพร้อมกันยิ่งทำให้คุณไม่ค่อยได้งาน. ถ้าคุณทำการบ้านเลขอยู่ ก็อย่าพยายามฟังวิดีโอสอนเรื่องชีววิทยาไปด้วย คุณอาจจะรู้สึกเหมือนได้ทำอะไรเสร็จไปหลายอย่าง แต่จริงๆ แล้วมันยิ่งช้า! ทำงานใดงานหนึ่งให้เสร็จก่อนค่อยเริ่มทำงานถัดไป [3]
    • และอย่าพยายามส่งข้อความหาเพื่อนหรือคุยกับคนในบ้านระหว่างทำการบ้าน
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 16:

แบ่งงานใหญ่ออกเป็นงานย่อย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เขียนรายการขั้นตอนสิ่งที่คุณต้องทำสำหรับงานแต่ละงาน ทำแต่ละขั้นตอนให้เสร็จก่อนค่อยเริ่มทำขั้นตอนถัดไป [4] คุณจะตั้งนาฬิกาจับเวลาไว้ด้วยก็ได้ คุณจะได้ไม่ใช้เวลาทำงานในแต่ละส่วนมากเกินไป [5]
    • เช่น ถ้าคุณต้องอ่านหนังสือ 1 บทและเขียนรายงาน ให้เริ่มจากกวาดสายตาอ่านหัวข้อใหญ่ในบทนั้นเพื่อจับประเด็นสำคัญ จากนั้นก็อ่านทั้งบทแล้วเขียนโน้ตไปด้วย ถัดมาก็ให้เขียนโครงร่างรายงาน หลังจากนั้นก็เขียนรายงานและตรวจทานข้อผิดพลาดให้เรียบร้อยในตอนสุดท้าย
    • ถ้าคุณมีงานหลายงานที่ต้องทำ เขียนรายการสิ่งที่ต้องทำออกมาแล้วทำโปรเจกต์ที่ยากที่สุดหรือสำคัญที่สุดก่อน
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 16:

ถ้ารู้ตัวว่าใจลอย ให้ปรับความสนใจเสียใหม่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองเริ่มฝันกลางวันหรือคิดเรื่องอื่นที่ไม่ใช่การบ้าน อย่าเพิ่งด่าตัวเอง ของแบบนี้มันเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว! แค่ค่อยๆ ปรับความสนใจให้กลับมาอยู่ที่งาน ฝึกไปเรื่อยๆ คุณจะสังเกตและแก้ไขตัวเองเวลาสมาธิหลุดได้ดีขึ้น [6]
    • คุณอาจจะเลือกจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อดึงสมาธิให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน เช่น คุณอาจจะจดจ่ออยู่กับลมหายใจหรือเสียงรอบข้างที่คุณได้ยิน
    • ถ้าคุณทำการบ้านกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว ขอให้เขาช่วยเรียกสมาธิคุณกลับมา เขาอาจจะพูดประมาณว่า “มีสมาธิมั้ย” หรือสะกิดไหล่ถ้าเห็นว่าคุณกำลังวอกแวก [7]
    โฆษณา
วิธีการ 6
วิธีการ 6 ของ 16:

ใช้มือขยับสิ่งของไปเรื่อยๆ เพื่อให้เกิดสมาธิ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. บางคนมีสมาธิมากขึ้นเมื่อถือสิ่งของไว้ในมือ. ถือลูกบอลคลายเครียด ฟิดเจ็ตสปินเนอร์ หรือพวงกุญแจ อะไรก็ได้ที่ทำให้มือคุณได้ขยับระหว่างทำงาน [8] แต่ถ้าไม่สามารถจับอะไรได้ ให้เปลี่ยนมาทำให้ปากไม่ว่างแทนด้วยการเคี้ยวหมากฝรั่ง แคร์รอตแข็งๆ หรือฟิดเจ็ตซิลิโคนสำหรับเคี้ยว
    • การใช้มือขยับสิ่งของไปเรื่อยๆ ช่วยเสริมสมาธิได้ดีในบางคน แต่สำหรับบางคนกลับยิ่งทำให้เสียสมาธิ เลิกใช้วิธีนี้หากมันทำให้คุณรู้สึกไม่มีสมาธิ
วิธีการ 7
วิธีการ 7 ของ 16:

เคลื่อนไหวหรือยืดเหยียดระหว่างทำงาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วิทยาศาสตร์พิสูจน์ว่าคุณเรียนรู้และคิดขณะเคลื่อนไหวได้ดีกว่า. เวลาที่คุณนั่งอยู่กับที่นานๆ คุณจะรู้สึกเบื่อ ล้า และวอกแวกได้ง่าย ลุกขึ้นเดินหรือยืดเหยียดเป็นระยะ ลุกขึ้นมากระโดดตบหรือเดินไปเดินมาสัก 2-3 นาทีก็ได้ การยืนทำงานก็เป็นวิธีเพิ่มสมาธิได้ดีเช่นกัน [9]
    • ลองนั่งบนลูกบอลออกกำลังกายหรือเก้าอี้โยกทำการบ้าน การเคลื่อนไหวอาจช่วยให้คุณจดจ่อได้นานขึ้น
    โฆษณา
วิธีการ 8
วิธีการ 8 ของ 16:

เปลี่ยนการบ้านเป็นเกมเพื่อเพิ่มความสนุก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ลองจับเวลาและดูว่าคุณสามารถแก้โจทย์ได้ถูกต้องกี่ข้อภายใน 5 นาที หรือไม่ก็แบ่งบัตรคำออกเป็นหลายๆ กองแล้วทดสอบความรู้ ถ้าคุณตั้งเป้าหมายให้ตัวเองสักหน่อยและท้าทายตัวเองว่าต้องทำให้เสร็จให้ได้ แม้แต่วิชาที่น่าเบื่อที่สุดก็ยังสนุกขึ้น! [10]
    • หรือคุณจะเปลี่ยนการบ้านให้เป็นเกมสำหรับเล่นกับเพื่อนหรือคนในครอบครัวก็ได้ เช่น ผลัดกันถามคำถามและให้คะแนนเมื่อตอบถูก ใครได้คะแนนมากที่สุดคนนั้นชนะ
    • หรือถ้าคุณไม่ได้อยากเล่นเกมเป็นเรื่องเป็นราว ลองแต่งเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ เช่น ถ้าคุณกำลังอ่านวิชาประวัติศาสตร์ ลองจินตนาการว่าตัวเองอยู่ในยุคที่คุณกำลังอ่านอยู่
วิธีการ 9
วิธีการ 9 ของ 16:

ลองทำการบ้านกับเพื่อนช่วยเรียน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลือกใครสักคนที่ตั้งใจเรียนและไม่ทำให้คุณวอกแวก. เพื่อนช่วยเรียนอาจจะเป็นเพื่อนร่วมชั้น เพื่อน หรือพี่น้องก็ยังได้ แต่ดูให้ดีแล้วกันว่าเขาตั้งใจทำงานให้เสร็จ ไม่ใช่มัวเอ้อระเหย! ถ้าคุณมานั่งทำการบ้านด้วยกันไม่ได้เพราะต้องรักษาระยะห่างทางสังคม ก็นั่งทำการบ้านด้วยกันออนไลน์ผ่านทาง Skype หรือ FaceTime ก็ได้ [11]
    • หรือคุณจะรวมกลุ่มกันเล็กๆ ก็ได้ แลกโน้ต ผลัดกันถามคำถาม หรือแค่นั่งทำการบ้านด้วยกันเงียบๆ ก็ได้
    โฆษณา
วิธีการ 10
วิธีการ 10 ของ 16:

เติมพลังด้วยน้ำเปล่าและของขบเคี้ยวที่ดีต่อสุขภาพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณหิวหรือคอแห้ง คุณจะไม่ค่อยมีสมาธิทำการบ้านและอ่านหนังสือ. วางขวดน้ำเปล่าหรือขวดน้ำเก็บอุณหภูมิไว้ใกล้ตัวระหว่างทำการบ้าน แล้วหมั่นจิบเมื่อคุณเริ่มรู้สึกเหนื่อยหรือไม่มีสมาธิ [12] เตรียมของขบเคี้ยวที่ดีต่อสุขภาพไว้ให้พร้อมเผื่อหิว อาหารที่เหมาะเป็นของขบเคี้ยวระหว่างอ่านหนังสือก็เช่น: [13]
    • แอปเปิ้ลทาเนยถั่ว
    • ถั่วเปลือกแข็ง ถ้าเป็นอัลมอนด์ยิ่งดี
    • กรีกโยเกิร์ต
    • สลัดผลไม้
    • ดาร์กช็อกโกแลต
วิธีการ 11
วิธีการ 11 ของ 16:

พักอย่างน้อย 1 ชั่วโมง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การนั่งทำงานยิงยาวจะทำให้คุณจดจ่อกับงานได้ยาก [14] ระหว่างพักให้ยืดเหยียด เต้นตามเพลง กินขนม หรือดูวิดีโอตลกๆ สัก 15 นาที [15]
    • คุณอาจจะใช้นาฬิกาจับเวลาเพื่อไม่ให้ตัวเองพักนานเกินไป จำไว้ว่ายิ่งรีบกลับมาทำงานเร็วเท่าไหร่ งานก็จะยิ่งเสร็จแล้วเท่านั้น!
    • ถ้าคุณรู้สึกล้า ว้าวุ่นใจ หรือไม่มีสมาธิจริงๆ คุณจะพักนานกว่าที่กำหนดก็ได้ ให้เวลาตัวเองได้ผ่อนคลายสักพักแล้วค่อยเริ่มใหม่
    โฆษณา
วิธีการ 12
วิธีการ 12 ของ 16:

ถ้าเป็นไปได้ให้เลือกเวลาที่ตื่นตัวและหลังจากพักผ่อนอย่างเต็มที่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณจะมีสมาธิมากขึ้นในช่วงเวลาที่คุณรู้สึกดีที่สุด. เช่น คุณอาจจะรู้สึกตื่นตัวมากที่สุดตอนบ่าย ตอนเย็น หรือแม้แต่ตอนเช้าตรู่ก่อนเข้าเรียน คุณจะมีสมาธิมากกว่าถ้าคุณทำการบ้านในช่วงเวลาเหล่านั้น! [16]
    • ทำการบ้านเวลาเดิมทุกวันให้เป็นกิจวัตร เช่น ถ้าคุณทำงานได้ดีตอนช่วงเย็นๆ ให้ทำการบ้านทันทีหลังมื้อเย็นทุกวัน [17] การมีตารางที่แน่นอนจะทำให้คุณไม่รู้สึกวุ่นวายมากนัก
    • คุณอาจจะเลือกทำการบ้านในช่วงเวลาที่ดีที่สุดไม่ได้ทุกครั้ง แต่การสร้างกิจวัตรจะช่วยให้คุณเข้าสู่โหมดทำการบ้านเมื่อถึงเวลา! หลังจากเลือกเวลาได้แล้ว พยายามทำการบ้านเวลาเดิมสม่ำเสมอ
วิธีการ 13
วิธีการ 13 ของ 16:

อ่านหนังสือในที่เงียบๆ และสบาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าเป็นไปได้ให้เลือกบริเวณที่ไม่มีสิ่งรบกวน เช่น เสียงทีวีดังลั่นหรือพี่น้องที่ส่งเสียงดัง จัดพื้นที่บนโต๊ะหรือโต๊ะทำงานเพื่อให้คุณสามารถวางอุปกรณ์ต่างๆ ได้และหยิบเก้าอี้ที่นั่งสบายมา [18]
    • ถ้าคุณทำการบ้านที่บ้านและมีครอบครัวอยู่ด้วย ขอให้พวกเขาลดเสียงลงเวลาที่คุณทำการบ้าน
    • ระวังการอ่านหนังสือในห้องส่วนตัว ถ้าคุณทำการบ้านในพื้นที่สำหรับนอนหรือผ่อนคลาย คุณจะเข้าสู่โหมดทำการบ้านได้ยาก! แบ่งพื้นที่สำหรับทำการบ้านโดยเฉพาะและอย่าทำการบ้านบนเตียง [19]
    • การหาพื้นที่สำหรับทำการบ้านอาจไม่ง่ายนักโดยเฉพาะถ้าหากมีคนอื่นอยู่ด้วย ถ้าคุณหาที่เงียบๆ ไม่ได้ ให้ใส่หูฟังตัดเสียงรบกวน ฟังเสียงสีขาวหรือเพลงสบายๆ ที่ไม่มีเนื้อร้องเพื่อกลบเสียงรอบข้าง
    โฆษณา
วิธีการ 14
วิธีการ 14 ของ 16:

จัดระเบียบอุปกรณ์การเรียน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เก็บเครื่องเขียนไว้ในกล่องดินสอหรืออุปกรณ์จัดเก็บบนโต๊ะ และเก็บเอกสารในแฟ้มตามรายวิชาเพื่อให้หาง่าย [20]
    • ถ้าคุณชอบหาอะไรขบเคี้ยวขณะอ่านหนังสือ ให้เตรียมของขบเคี้ยวเตรียมไว้ก่อน
    • ถ้ามีของอย่างอื่นในพื้นที่สำหรับทำการบ้านที่คุณไม่จำเป็นต้องใช้ ทำความสะอาดพื้นที่สักครู่หรือนำของเก็บเข้าที่ก่อนเริ่มทำการบ้าน เก็บการบ้านที่ทำเสร็จแล้วไว้ในแฟ้มและนำขยะไปทิ้ง
วิธีการ 15
วิธีการ 15 ของ 16:

ถ้ารู้สึกเบื่อให้ย้ายที่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมรอบข้างทำให้สมองตื่นตัวและช่วยให้กลับมามีสมาธิอีกครั้ง. ลองย้ายไปห้องอื่น ออกไปข้างนอก หรือเปลี่ยนสถานที่ทำการบ้านไปเลย (เช่น ห้องติวหนังสือในห้องสมุด) คุณอาจจะรู้สึกว่าการเปลี่ยนบรรยากาศช่วยให้คุณรู้สึกตื่นตัวและสดชื่นมากขึ้นก็ได้ [21]
    • แม้แต่การปรับเปลี่ยนพื้นที่สำหรับทำการบ้านสักเล็กน้อยก็ช่วยได้ เช่น หาอะไรใหม่ๆ มาตกแต่งหรือเปลี่ยนมุมบนโต๊ะกินข้าวก็ได้
    • อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่จริงๆ แล้วการได้ยินเสียงรบกวนคลอในระดับที่พอเหมาะช่วยให้คุณมีสมาธิมากขึ้น! ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไมบางคนถึงทำงานได้ดีกว่าในร้านกาแฟหรือห้องติวหนังสือ
    โฆษณา
วิธีการ 16
วิธีการ 16 ของ 16:

เมื่อทำเสร็จแล้ว ทำอะไรสนุกๆ เพื่อให้รางวัลตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลือกกิจกรรมที่ชอบเพื่อให้คุณมีแรงกระตุ้นที่จะทำการบ้านให้เสร็จ. หาเวลาสักครู่ตัดสินใจว่าจะทำอะไรก่อนเริ่มลงมือทำการบ้าน ถ้าคุณให้รางวัลตัวเองทุกครั้งที่ทำงานเสร็จ คุณอาจจะเริ่มตั้งตารอที่จะได้ทำการบ้านมากขึ้นอีกนิดก็ได้นะ! [22]
    • เช่น คุณอาจจะได้ดูซีรีส์ที่ชอบสักตอน เล่นเกมที่ชอบ หรือโทรหาเพื่อน

เคล็ดลับ

  • ฝึก เจริญสติ เพื่อช่วยให้คุณมีสมาธิและผ่อนคลาย [23] ค้นหาวิดีโอสอนการเจริญสติออนไลน์หรือใช้แอปฯ เช่น Calm หรือ Smiling Mind เพื่อช่วยในการฝึก ยิ่งคุณฝึกมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งใช้ทักษะการเจริญสติในยามจำเป็นได้ง่ายขึ้นเท่านั้น เช่น ในระหว่างทำการบ้าน
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,978 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา