PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

คุณอาจจะเริ่มเล่น Facebook เพียงเพราะอยากติดต่อกับเพื่อนเก่า หรือแค่อยากจำวันเกิดของเพื่อนใหม่ได้ หรือเล่นแค่เพราะรู้สึกเบื่อๆ แต่ตอนนี้ เมื่อคุณค้นพบแล้วว่าการใช้ชีวิตจริงโดยไม่ต้องมานั่งเช็ค นั่งคิดถึง Facebook นั้นมันช่างยากเย็นซะจริงๆ คุณก็สามารถเลิกเล่น Facebook แบบถาวรได้ทันทีโดยการลบบัญชี Facebook แต่คุณจะเลิกติด Facebook แล้วหันมาหาความสุขกับชีวิตที่ไม่มี Facebook อีกครั้งได้อย่างไร ลองอ่านต่อไปเพื่อเรียนรู้วิธีการดูนะ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

คิดทบทวนถึงตอนที่ใช้ Facebook

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ย้อนรอยดูสิว่าคุณใช้ Facebook ทำอะไรบ้างในหนึ่งวัน (หรือหนึ่งสัปดาห์). ลองคิดดูว่าจริงๆ แล้วคุณใช้ Facebook ทำอะไรบ้าง หลังจากทุกครั้งที่เล่นเสร็จ ลองถามตัวเองดูว่า "ฉันได้อะไรจากการนั่งเช็ค Facebook บ้าง?" คุณน่าจะได้คำตอบประมาณว่า ฉันล็อกอินเพียงเพื่อเข้าไปดูว่ามีคนสะกิดบ้างไหม มีอัพเดตอะไรใหม่ๆ บ้างรึเปล่า หรืออาจจะเข้าไปเขียนข้อความใหม่ๆ โพสต์เพลง หรือทำอะไรไร้สาระโน่นนี่เพื่อฆ่าเวลา บางที คุณอาจจะล็อกอินเพื่อเข้าไปทำอะไรที่ตั้งใจไว้ เช่นเข้าไปตอบรับคำขอเป็นเพื่อน
    • การจดบันทึกกิจกรรมที่คุณทำบน Facebook ช่วยให้คุณตระหนักได้ว่าความจริงแล้ว คุณใช้เวลาไปกับการทำสิ่งที่ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรมากแค่ไหน
    • ลองจดบันทึกเวลาที่คุณล็อกอินและเวลาที่ล็อกเอาท์ หรือดาวน์โหลดแอพลงบนเบราว์เซอร์เพื่อเช็คว่าคุณใช้เวลาหมดไปกับเว็บไซต์ต่างๆ มากแค่ไหน
  2. ลองคิดถึงสิ่งอื่นๆ ที่คุณสามารถทำได้ในช่วงเวลาเหล่านี้. ถ้าคุณพบว่าตัวเองใช้เวลาเอาเป็นว่าสักประมาณ 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์บน Facebook ลองเขียนรายการสิ่งอื่นๆ ที่คุณสามารถทำได้เสร็จภายในเวลานี้ การได้เห็นจำนวนชั่วโมงที่เขียนลงไปจะทำให้คุณตระหนักถึงความเป็นจริงอันโหดร้ายว่าคุณกำลังใช้เวลาในชีวิตอย่างเปล่าประโยชน์ไปกับการเล่น Facebook และนี่คือสิ่งอื่นๆ ที่คุณสามารถทำได้:
    • หางานพาร์ทไทม์และเก็บเงินจำนวนนั้นไว้ (หรืออาจจะนำไปลงทุน)
    • สอนลูกๆ (หรือญาติตัวน้อยๆ) โยนบอล
    • ออกกำลังกายให้ฟิตแอนด์เฟิร์ม
    • ใช้เวลาพูดคุยกับผู้คนในชีวิตจริง
    • ทำความสะอาดห้อง
    • ทำงานอาสา
    • อ่านหนังสือ
    • เรียนรู้ภาษาใหม่ๆ ด้วยตัวเอง
    • ทำเบาะรองนั่งเก้าอี้หวาย
    • ฟังเพลงจนเป็นกิจวัตรสักหนึ่งอัลบั้มต่อวัน
  3. หากคุณเพิ่งเริ่มเล่น Facebook เมื่อหนึ่งหรือสองปีที่แล้ว หรือถ้าคุณผ่านช่วงชีวิตม.ปลายและมหาลัยมาก่อนที่ Facebook จะเปิดตัว ลองคิดถึงสิ่งต่างๆ ที่คุณเคยทำก่อนที่จะมานั่งเล่น Facebook บางทีคุณอาจจะเคยใช้เวลาหน้าจอคอมน้อยกว่านี้และใช้เวลาออกไปเที่ยวข้างนอกมากกว่านี้ ลองทำรายการข้อดีของการใช้ชีวิตโดยไม่มี Facebook เพื่อกระตุ้นตัวเองดูนะ และนี่คือตัวอย่างข้อดีของชีวิตที่ไม่มี Facebook:
    • คุณอาจจะใช้เวลาไปกับการตามส่องเรื่องแฟนเก่า นั่งกังวลว่ารูปของคุณจะออกมาเป็นยังไง หรือนั่งเปรียบเทียบตัวคุณกับ "เพื่อน" ทุกคนที่ไม่ได้เจอมา 5 ปีน้อยลง
    • คุณอาจจะได้ใช้เวลาเล่นฟุตบอลหรือเทนนิสกับเพื่อนมากขึ้น
    • คุณอาจจะได้ใช้เวลาพูดคุยกับคนจริงๆ แบบตัวเป็นๆ แทนที่จะมัวแต่นั่งเช็คเรื่องราวของพวกเขาบนอินเตอร์เน็ต
    • การเขียนสิ่งดีๆ ทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้นในชีวิต ก่อน ที่จะมี Facebook จะช่วยให้คุณตระหนักว่าคุณสามารถมีความสุขได้โดยไม่จำเป็นต้องมี Facebook ความจริงแล้วถ้าคุณเล่นจนติด มันจะทำให้ชีวิตของคุณหดหู่ซะมากกว่า
  4. คิดหาวิธีการที่จะทำให้คุณได้รับข้อดีของ Facebook โดยไม่จำเป็นต้องมี Facebook. ลองเขียนข้อดีทั้งหมดที่คุณได้รับจาก Facebook และสิ่งที่คุณจะคิดถึงมากที่สุดเมื่อลบบัญชี Facebook ทิ้งไปแล้ว จากนั้นให้ลองคิดหาวิธีการอื่นๆ ที่จะช่วยให้คุณยังได้รับสิ่งดีๆ เหล่านี้ได้โดยไม่ต้องมานั่งท้อแท้ใจเพราะชีวิตถูกล่ามไว้กับบัญชี Facebook และนี่คือตัวอย่างวิธีการหาข้อดีของ Facebook จากสิ่งอื่นๆ:
    • บางคนบอกว่าพวกเขาเล่น Facebook เพราะอยากจำวันเกิดเพื่อนได้เท่านั้นเอง ถ้านี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่คุณเล่น Facebook แล้วล่ะก็ ลองทำเครื่องหมายวันเกิดของ เพื่อนจริงๆ ของคุณลงบนปฏิทินไว้กันลืม หรือจะแค่เขียนใส่กระดาษแล้วแขวนไว้แถวๆ โต๊ะทำงานก็ได้นะ หรือจะทำตารางวันเกิดโดยแบ่งออกเป็นเดือนๆ ก็ยังได้
    • บางคนเล่น Facebook เพราะชอบแชร์ภาพถ่าย แทนที่จะใช้ Facebook ลองหันมาแชร์ภาพผ่านบัญชี Instagram และเชื่อมต่อกับเพื่อนและสมาชิกในครอบครัวที่คุณอยากแชร์ภาพให้ดูจริงๆ ก็พอ
    • บางคนเล่น Facebook เพราะอยากรู้เรื่องราวความเป็นไปของเพื่อน แทนที่จะเข้า Facebook เพื่อเช็คข่าวคราวของเพื่อน 5 คนที่สนิทที่สุดบนโลก Facebook อันกว้างใหญ่ ลองเปลี่ยนมาตั้งเป้าว่าจะโทรหรืออีเมลหาพวกเขาสักสัปดาห์ละครั้ง หรือเดือนละครั้งเพื่อถามสารทุกข์สุขดิบแทน
    • บางคนเล่น Facebook เพราะอยากรู้สึกว่าตัวเองได้เข้าสังคมในระหว่างที่กำลังนั่งเหงาๆ อยู่ที่ทำงาน หรือเมื่อติดแหง็กอยู่ที่บ้าน หรืออาจจะยุ่งเกินกว่าจะออกไปเที่ยวตะลอนกับคนอื่นๆ แต่แทนที่จะมัวนั่งคุยกับคนบนโลกอินเตอร์เน็ต ลองฉกฉวยเวลาช่วงพักกลางวันออกไปทานมื้อเที่ยงกับเพื่อนร่วมงาน หรือพยายามทำงานให้เสร็จเร็วขึ้น จะได้รีบกลับบ้านและออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ
    • บางคนชอบ Facebook เพราะชอบอ่านเรื่องราวที่คนอื่นโพสต์ และชอบนั่งเมนท์แสดงความเห็น ถ้าเป็นอย่างนั้น ลองหาแหล่งข่าวอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมเอาไว้อ่านแทน Facebook เพื่อเพิ่มพูนความรู้และทำให้คุณไม่ตกข่าว ตัวอย่างเว็บไซต์ที่หลายๆ คนชอบโพสต์ข่าวสารต่างๆ มากที่สุดก็เช่น Pantip, Dek-d, Sanook , Jeban ลองเลือกเว็บไซต์ใหม่ๆ ที่ให้ความรู้ได้มากกว่าเอาไว้อ่านแทน Facebook ดูนะ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ลงมือทำ

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณเข้า Facebook นั่นก็เพราะทุกครั้งที่คุณเช็คอีเมลหรือมือถือ คุณจะเห็นการแจ้งเตือนว่ามีคนโพสต์ภาพหรือคอมเมนท์ให้คุณ หรือเห็นว่าวันนี้เป็นวันเกิดของลูกพี่ลูกน้องคนที่สามของเพื่อนสนิทคนที่สองของคุณ ข้อความประเภทนี้ทำให้คุณจำต้องคลิกเข้า Facebook อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยมี "จุดประสงค์" ก็เพื่อจะได้ดูว่าเขาโพสต์อะไรไว้ แต่มันจะทำให้คุณเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์เพียงเพื่อมานั่งเลื่อนดูภาพไปเรื่อยๆ
    • การปิดการแจ้งเตือนเป็นมาตรการแรกที่จะทำให้ Facebook ดึงดูดความสนใจของคุณได้น้อยลง
    • เพื่อปิดการแจ้งเตือน ให้คลิกรูปกุญแจ กด "See More Settings" (ดูการตั้งค่าเพิ่มเติม) ค้นหาแท็บ Email (อีเมล) จากนั้นกด Edit (แก้ไข) แล้วเลือก "Only notifications about your account, security and privacy" (การแจ้งเตือนเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้ของคุณ ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวเท่านั้น)
  2. ก่อนที่จะลบ Facebook คุณควรบันทึกข้อมูลสำหรับติดต่อคนที่คุณต้องติดต่อด้วยจริงๆ เก็บไว้ ถ้ายังไม่มีนะ โดยให้บันทึกเก็บไว้ในบัญชีอีเมล จะได้สามารถติดต่อกับคนที่คุณแคร์จริงๆ ต่อไปได้ ถ้าคุณติดต่อกับใครสักคนด้วยการส่งข้อความผ่าน Facebook เพียงอย่างเดียว คนๆ นั้นอาจจะไม่ใช่เพื่อนของคุณจริงๆ ก็ได้นะ
  3. การเลิกเล่น Facebook แบบหักดิบก็ยากพอๆ กับการเลิกบุหรี่นั่นแหละ เพราะฉะนั้น ลองหยุดเล่นสักหนึ่งหรือสองวันดูก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มเป็นหนึ่งสัปดาห์ ในช่วงนี้ ให้จดทุกอย่างที่คุณสามารถทำได้สำเร็จเพราะไม่มัวไปเสียเวลาเล่น Facebook จากนั้นให้ตั้งเป้าหมายว่าในสัปดาห์ถัดไปอยากจะทำอะไรอีกบ้าง และพยายามทำให้สำเร็จโดยที่ไม่แตะ Facebook
    • เมื่อคุณสามารถใช้ชีวิตโดยไม่มี Facebook ได้สัก 2-3 สัปดาห์แล้ว คุณควรมุ่งมั่นทำให้ครบ 1 เดือนไปเลย หลังจากนั้นก็น่าจะได้เวลาเลิกเล่นแบบถาวรแล้วล่ะ
    • หากคุณนั่งจดจ่อกับ Facebook เพราะกลัวจะพลาดอัพเดตสำคัญๆ ของเพื่อน หรือกลัวว่าพวกเขาจะไม่ชวนไปงานปาร์ตี้ ลองหาเพื่อนสนิทสักคนที่อยู่วงในคอยอัพเดตข่าวความเป็นไปของเพื่อนๆ เพื่อให้คุณไม่ตกข่าว
    • อีกทางเลือกก็คือ คุณอาจจะบอกให้เพื่อนหยุดพูดถึงสิ่งที่เขากำลังทำกันบน Facebook ให้คุณได้ยิน และบอกย้ำกับตัวเองว่าถ้า "เพื่อน" ของคุณมีเรื่องสำคัญจะบอกจริงๆ พวกเขาจะโทรหาหรือไม่ก็มาบอกต่อหน้าเลย ไม่ใช่ไปโพสต์บน Facebook
  4. เขียนโพสต์สั้นๆ บอกเพื่อนทุกคนว่าคุณจะหยุดเล่น Facebook สักพัก พวกเขาจะได้รับรู้ไว้ถ้าเคยติดต่อคุณผ่าน Facebook เป็นประจำ วิธีการนี้จะช่วยให้คุณรักษาสัญญาได้มากขึ้นอีกด้วย เพราะเมื่อคุณป่าวประกาศไปแล้วว่าจะเลิกเล่น Facebook คุณมักจะมีแนวโน้มที่จะรักษาสัญญาได้มากกว่า
    • ถ้าคุณจริงจังแบบสุดๆ บอกเพื่อนไปเลยว่าอย่ามาล้อเรื่องที่คุณไม่เล่น Facebook และอย่ามาบอกให้คุณยอมแพ้และกลับไปเล่นเหมือนเดิมอีกเป็นอันขาด
  5. เมื่อคุณป่าวประกาศไปแล้วว่าจะเลิกเล่น Facebook ตอนนี้ก็ได้เวลาใช้มาตรการเพื่อให้เลิกได้จริง พร้อมกับจัดการเรื่องราวบนโลกออนไลน์ที่คุณทิ้งไว้ให้เสร็จสิ้น และนี่คือตัวอย่างสิ่งที่คุณอาจจำเป็นต้องทำ:
    • คุณมี 2 ทางเลือก คือ คุณสามารถปิดบัญชีแบบชั่วคราว ซึ่งจะทำให้คุณได้ถอยห่างออกมาจาก Facebook โดยไม่สูญเสียข้อมูลอะไรเลย หรือจะเลือกลบบัญชีแบบถาวร อันนี้ล่ะคือของจริง
    • ถ้าคุณตั้งกลุ่มบางอย่างขึ้นมา ให้โอนสิทธิ์แอดมินไปให้คนที่คุณไว้ใจ
    • ส่งอีเมลหาเพื่อนใน Facebook เพื่ออธิบายเหตุผลที่คุณตัดสินใจเลิกเล่น อย่าลืมใส่ข้อมูลติดต่อปัจจุบันลงไปด้วยนะ พวกเขาจะได้ติดต่อคุณได้โดยไม่ต้องใช้ Facebook
    • ถ้าคุณวางแผนว่าจะลบบัญชีทิ้งแบบถาวร ให้ลบข้อมูลในโปรไฟล์ของคุณออกให้เกลี้ยง และอย่าลืมลบรูปถ่ายของคุณด้วย!
  6. คุณสามารถใช้วิธีการนี้ได้ในช่วงที่รู้สึกท้อใจ เพราะกลัวว่าจะควบคุมสติไม่ให้เล่น Facebook ไมได้ ทั้งๆ ที่ลบบัญชี Facebook ไปแล้วก็ตาม
    • คุณสามารถใช้โปรแกรม "ควบคุมตัวเอง" ซึ่งสามารถหาโหลดได้ตามอินเตอร์เน็ต เพื่อปิดช่องทางการเข้าถึงเว็บไซต์โซเชียลมีเดียยอดฮิตต่างๆ
    • โปรแกรมควบคุมสำหรับคุณพ่อคุณแม่ก็ช่วยได้เหมือนกัน โปรแกรมลักษณะนี้มีอยู่เยอะแยะมากมาย มันจะทำให้คุณสามารถจำกัดได้ว่าใครสามารถเข้า Facebook (หรือเว็บไซต์อื่นๆ) และจะเล่นได้นานเท่าไร
  7. หลายๆ คนติด Facebook เพราะชอบหยิบขึ้นมาเช็คโน่นนี่ไปเรื่อยๆ ตอนไม่มีอะไรทำ เช่นในคาบเรียนหรือช่วงพักกลางวัน จากนั้นความอยากรู้อยากเห็นก็เริ่มลุกลามไปถึงช่วงเวลาที่ควรเอาไว้ทำเรื่องอื่น เช่น อ่านหนังสือหรือทำงาน ลองหาอะไรทำในช่วงเวลาสั้นๆ เหล่านี้ จะได้ไม่กลับไปสู่วงเวียนเดิมๆ อีก:
    • อยู่ให้ห่างจากคอมพิวเตอร์ให้มากที่สุด พวกเราหลายๆ คนพอว่างๆ ก็ชอบไปนั่งหน้าจอคอมจนติดเป็นนิสัย ลองหากิจกรรมอย่างอื่นทำจะได้อยู่ให้ห่างจากคอมพิวเตอร์และ Facebook อาจจะลองหันมาจดบันทึก นั่งสมาธิ หรือถักนิตตั้งด้วยนิ้วดูก็ได้นะ
    • ลองหัดเทคนิคเจ๋งๆ ในการเล่นสเก็ตบอร์ดจิ๋ว หรือ Teck Deck ดูก็ได้นะ
    • ตั้งเป้าไว้ว่าจะอ่านหนังสือให้ได้สัปดาห์ละเล่ม แทนที่จะใช้เวลาว่างไปกับการเล่น Facebook
    • โทรเมาท์มอยกับเพื่อน หรือชวนเพื่อนออกไปหาอะไรทำสนุกๆ อะไรก็ได้ที่คุณสามารถทำได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เลิกเล่น Facebook บนมือถือเพื่ออัพเดตสถานะหรืออะไรทำนองนี้ ถอนการติดตั้งจากมือถือไปเลยถ้าคุณมีเวอร์ชันดาวน์โหลด (เช่นใน iPhone, Palm)
  • หากคุณกำลังหาวิธีที่จะช่วยให้คุณเข้า Facebook น้อยลง ลองเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นตัวเลขยาวๆ จากนั้นให้จดรหัสใส่กระดาษแล้ววางไว้ในที่ที่หยิบยากจนน่าหงุดหงิด หากใช้วิธีนี้ เมื่อไรก็ตามที่คุณอยากลงชื่อเข้าสู่ระบบ คุณจะต้องมานั่งขุดคุ้ยหากระดาษจดรหัสทุกครั้ง และถ้าคุณเริ่มจำรหัสผ่านได้เมื่อไร ให้ตั้งรหัสใหม่แล้วทำแบบเดิมเลย
  • เมื่อรู้ตัวแล้วว่าคุณสามารถทำอะไรได้บ้างเมื่อติด Facebook คุณควรพยายามหลีกเลี่ยงเว็บโซเชียลมีเดียอื่นๆ อย่างเช่น MySpace ด้วยนะ
  • หากคุณคันไม้คันมืออดเปิดบัญชี Facebook ที่ปิดไว้ชั่วคราวไม่ได้ ลองใช้วิธีการนี้ก่อนที่จะปิดบัญชี Facebook: เปิดโปรแกรม Notepad แล้วพิมพ์อะไรก็ได้ลงไปมั่วๆ (เช่น lskdjfd) จากนั้นลงชื่อเข้า Facebook แล้วเปลี่ยนรหัสผ่านของคุณ คัดลอกข้อความที่คุณเพิ่งพิมพ์ใน Notepad ลงไปในช่องรหัสผ่าน แล้วกดเปลี่ยนรหัสผ่าน จากนั้นให้ปิดบัญชี Facebook ของคุณและลบประวัติในคลิปบอร์ดทิ้งให้หมด
  • เลิกติดแหง็กอยู่กับหน้าจอคอมหรือมือถือ ไขตัวเองออกมาจากโลกเหล่านั้น และพยายามต้านทานมันให้ได้!
  • เก็บกระดาษบันทึกตารางเวลาการเล่น Facebook (ถ้ามี) และเป้าหมายในการใช้ชีวิตโดยไม่มี Facebook ไว้กับตัว และแปะไว้ด้านหน้าให้เห็นอยู่ตลอดเวลา
  • สำหรับเป้าหมายที่ต้องอาศัยระเบียบวินัยพอตัว การทำร่วมกับเพื่อนมักช่วยได้เสมอ ทางเลือกหนึ่งคือการชวนเพื่อนหรือใครสักคนในครอบครัวที่คุณไว้ใจมาทำด้วยกัน
  • หากต้องการติดตามสถานะที่เพื่อนอัพเดตลงบน Facebook ลองสมัคร RSS Feed ในอีเมลหรือโปรแกรม RSS Reader อื่นๆ ที่คุณใช้อยู่เพื่ออัพเดตสถานะของเพื่อน เช่น คุณสามารถรับแจ้ง Feed ได้ใน MS Outlook 2007 ซึ่งคุณสามารถอ่านเรื่องราวที่เพื่อนอัพผ่านอีเมลได้
  • คิดถึงสุขภาพของคุณเข้าไว้ คอมพิวเตอร์นั้นมีประโยชน์ (ใช่! ก็จริง แค่เอาไว้นั่งอ่านเว็บไร้สาระ) แต่ในทางกลับกัน การจ้องหน้าจอคอม นั่งพิมพ์เป็นชั่วโมงๆ โดยใช้นิ้วแค่ 1 หรือ 2 นิ้วกดคีย์บอร์ดนั้นเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของความเจ็บป่วยและปัญหาสุขภาพต่างๆ นานา
โฆษณา

คำเตือน

  • คุณอาจคิดว่าถ้าคุณทำอย่างนี้ เพื่อนอาจจะเกลียดคุณก็ได้ (แต่คุณกำลังจะทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้นนะ)
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ดาวน์โหลดวิดีโอจากทุกเว็บไซต์ได้แบบฟรีๆ
หาวันที่เผยแพร่ข้อมูลของเว็บไซต์
หาละติจูดกับลองจิจูดใน Google Maps
เว้นวรรคห่างๆ ใน HTML
อิโมจิซ่อนความสยิวที่คนใช้แชตกันมากที่สุด
แก้ปัญหาเข้าบางเว็บไม่ได้
เขียนเว็บเพจง่ายๆ ด้วย HTML
รู้ความหมายของอีโมจิรูปหัวใจสีดำ
เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในคอมพิวเตอร์ Windows
ดูว่าใครแชร์โพสต์ของคุณบนเฟซบุ๊ก
แก้ปัญหาเซิร์ฟเวอร์ DNS ไม่ตอบสนอง
รู้ความหมายของอีโมจิหน้ากลับหัว
เช็คตำแหน่งปัจจุบันใน Google Maps
ตั้งชื่ออีเมลให้โดนใจ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 17,827 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา