ถ้าอยากเปลี่ยนแปลงอะไรลึกๆ ในระบบ Linux ก็ต้องใช้งานในฐานะ root user (superuser) ในเวอร์ชั่นส่วนใหญ่ของ Linux จะมีหลาย root account ได้ แต่ถ้าเป็น Ubuntu ปกติจะปิดการใช้งานแบบ root user ไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าไปยุ่งกับระบบผิดๆ ถูกๆ จนระบบเสียหายหรือไม่ปลอดภัย คำสั่งสำหรับใช้งานแบบ root access ก็คือ sudo นั่นเอง
ขั้นตอน
-
กด Ctrl + Alt + T เพื่อเปิดหน้าต่าง terminal. ปกติตามค่า default Ubuntu จะล็อคไม่ให้คุณใช้ root account เพราะงั้นก็ใช้คำสั่ง su เปิด root access ไม่ได้เหมือนคนใช้ Linux เวอร์ชั่นอื่นๆ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ต้องเริ่มด้วยคำสั่ง sudo แทน
-
พิมพ์ sudo แล้วค่อยตามด้วยคำสั่งอื่น. “Sudo” ย่อมาจาก “Super User Do” เวลาคุณเริ่มคำสั่งด้วย sudo ก็เท่ากับใช้คำสั่งที่ตามมาในฐานะ root user
- เช่น คำสั่ง sudo /etc/init.d/networking stop ใช้ตัดการเชื่อมต่อ ส่วนคำสั่ง sudo adduser จะเพิ่ม user ใหม่ในระบบ ซึ่งทั้ง 2 คำสั่งนี้ จะใช้ได้ต้องเป็น root user เท่านั้น
- จะมีให้คุณใส่รหัสผ่านก่อนใช้คำสั่ง sudo ทุกครั้ง โดย Linux จะเก็บรหัสผ่านนี้ไว้ 15 นาที จะได้ไม่ต้องนั่งพิมพ์ใหม่บ่อยๆ
-
พิมพ์ gksudo แล้วค่อยตามด้วยคำสั่งเปิดโปรแกรมที่ต้องใช้ GUI (Graphical User Interface). เพื่อความปลอดภัย Ubuntu ไม่แนะนำให้ขึ้นต้นคำสั่งเปิดโปรแกรมที่ใช้ GUI ด้วย “sudo” [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ให้พิมพ์ gksudo แทน
- เช่น พิมพ์ gksudo gedit /etc/fstab เพื่อเปิดไฟล์ "fstab" ใน GEdit ซึ่งเป็นโปรแกรม editor ที่ใช้ GUI
- ถ้าคุณใช้ KDE Window Manager ให้พิมพ์ kdesudo แทน gksudo
-
จำลอง root environment. ถ้าคุณเป็นผู้ใช้ขั้นสูงที่อยากใช้งาน root shell เพื่อใช้บางสคริปต์ ให้จำลอง root shell โดยพิมพ์ sudo –i คำสั่งนี้จะทำให้คุณได้ superuser access โดยใช้ตัวแปร root environment [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- พิมพ์คำสั่ง sudo passwd root เพื่อตั้งรหัสผ่าน root หรือก็คือ “เริ่มใช้งาน (enable)” root account ตั้งแล้วห้ามลืมรหัสผ่านนี้เด็ดขาด
- พิมพ์ sudo -i แล้วใส่รหัสผ่าน root
- ถ้า $ เปลี่ยนเป็น # แสดงว่าคุณใช้ root access ได้แล้ว
-
ตั้งค่าให้คนอื่นใช้ sudo ได้. ถ้าคุณตั้ง account ให้คนอื่นที่ตอนแรกไม่มี root access ก็ต้องเพิ่ม username เขาใน sudo group โดยพิมพ์ usermod -aG sudo username (เปลี่ยน “username” เป็น username ของเขา) [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
กด Ctrl + Alt + T เพื่อเปิดหน้าต่าง terminal. เพื่อความปลอดภัย (และป้องกันความเสียหาย) ตามค่า default บัญชี root user จะถูกล็อคไว้ไม่ให้ใช้ได้ ต้อง "ใช้คำสั่ง Sudo เปิด Root Access" ในวิธีการที่แล้วก่อน ถ้าอยากใช้คำสั่งในฐานะ root user อย่างปลอดภัย ก็ต้องใช้
sudo
หรือgksudo
แทน ถ้าคุณจำเป็นต้องมี root user แยก (ต้องใช้กับโปรแกรมของบริษัท หรือ workstation นี้ใช้กับผู้ใช้เดียวเท่านั้น) ก็เปิดใช้ root user ได้ด้วยคำสั่งง่ายๆ- เปิดใช้ root user แล้วระบบอาจตกอยู่ในความเสี่ยงได้ ใครใช้ Ubuntu ไม่แนะนำให้ทำ [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
พิมพ์ sudo passwd root แล้วกด ↵ Enter . จะมีให้ตั้งรหัสผ่านใหม่ของ root user [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ตั้งแล้วห้ามลืมเด็ดขาด
-
ใส่รหัสผ่าน แล้วกด ↵ Enter .
-
พิมพ์รหัสผ่านอีกรอบ แล้วกด ↵ Enter . ตอนนี้คุณก็ตั้งรหัสผ่าน root user เรียบร้อยแล้ว
-
พิมพ์ su - แล้วกด ↵ Enter . พิมพ์รหัสผ่าน root ตอนถูกถาม เพื่อเข้าหน้าต่าง root prompt
- ถ้าอยากปิดใช้งาน root account ให้พิมพ์ sudo passwd -dl root [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
เคล็ดลับ
- อย่าพยายามล็อกอินแบบ root user บ่อยๆ คำสั่งไหนต้องเป็น superuser ก็ใช้ sudo หรือ gksudo ได้เลย
- หรือใช้ sudo –i เข้า shell ของ user อื่นในระบบ อย่างถ้าจะเป็น user ชื่อ “jane” ให้พิมพ์ sudo –I jane แล้วใส่รหัสผ่าน "ของคุณ" แทน (อย่าใส่รหัสผ่านของ Jane นะ)
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://help.ubuntu.com/community/RootSudo
- ↑ https://help.ubuntu.com/community/RootSudo#Graphical_sudo
- ↑ https://dzone.com/articles/puppet-sudo-sudo-i-and-sudo-su-0
- ↑ https://www.digitalocean.com/community/tutorials/how-to-create-a-sudo-user-on-ubuntu-quickstart
- ↑ https://help.ubuntu.com/community/RootSudo
- ↑ http://www.thegeekstuff.com/2009/09/ubuntu-tips-how-to-login-using-su-command-su-gives-authentication-failure-error-message
- ↑ https://help.ubuntu.com/community/RootSudo
โฆษณา