ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ในขณะที่หลายวิธีช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสิว แต่ในบางครั้งมันก็ช่วยไม่ได้ที่จะมีสิวซักเม็ดผุดขึ้นมาในช่วงเวลาแย่ๆ ไม่ว่าสาเหตุนั้นจะเกิดจากความเครียด ฮอร์โมนหรือการกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ คุณคงไม่ปล่อยให้สิวบ้านั่นเด่นหราอยู่บนหน้าคุณหรอก มาลองใช้วิธีที่แพทย์ผิวหนังแนะนำและวิธีที่สามารถทำเองได้ที่บ้านเพื่อกำจัดสิวนั้นออกภายในระยะเวลาสั้นๆ
ขั้นตอน
-
ใช้กรดซาลิไซลิก. วิธีนี้เป็นวิธีที่แพทย์ผิวหนังทั่วไปแนะนำสำหรับสิว/สิวอักเสบ โดยการใช้กรดซาลิไซลิกที่มีค่า pH ระหว่าง 3 และ 4. บีเอชเอ (BHA) ใช้สำหรับฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้อย่างปลอดภัยและลดความมันส่วนเกินซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว ให้หาทรีตเมนท์เฉพาะจุดที่โฆษณาว่ามีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกและทาทันทีในบริเวณที่คุณรู้สึกว่าจะเกิดสิว การใช้โฟมล้างหน้าที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก นอกจากจะช่วยทำให้สิวที่มีอยู่ลดลง ยังช่วยลดการก่อตัวของสิวที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
-
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอล. เรตินอลเป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอซึ่งช่วยทำให้สิวแห้งลงได้ แต่เรตินอลอาจจะแรงไปสำหรับผิวที่บอบบางแพ้ง่าย ดังนั้นให้ลองหาผลิตภัณฑ์ตามเคาน์เตอร์เครื่องสำอางทั่วไปก่อนที่จะให้แพทย์ผิวหนังสั่งจ่ายยาเรตินอลให้คุณ ทาวันละครั้ง (หรือตามคำแนะนำข้างกล่อง) จนกว่าสิวของคุณจะหาย
- เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีเรตินอล ต้องแน่ใจว่าได้ทาครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นมากพอ เพราะเป็นไปได้ว่าผิวบริเวณรอบๆ สิวจะแห้งกร้านและอาจลอกออกหรือแตกได้
-
ใช้ฟองน้ำคอนยัค. ฟองน้ำเหล่านี้จะช่วยขัดผิวอย่างอ่อนโยนและเผยเซลล์ผิวใหม่
-
รักษาความสะอาดของผิว. ตลอดทั้งวัน ผิวหน้าคุณต้องเผชิญกับมลพิษในอากาศ เหงื่อและความสกปรก ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้สิวของคุณนั้นแย่ลง ล้างหน้าวันละ 2 ครั้งและควรพกแผ่นทำความสะอาดหน้า/ทิชชู่เปียกติดตัวตลอดทั้งวัน วิธีนี้จะทำให้ผิวของคุณสะอาดและสดชื่น เพียงแค่คุณเช็ดทำความสะอาดหน้า ไม่ว่าเมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกว่าผิวหน้ามันเยิ้ม เต็มไปด้วยฝุ่นละอองหรือเหงื่อ วิธีนี้สะดวกมากโดยเฉพาะหลังออกกำลังกายหรือเวลาอากาศร้อน
-
ลองฉีดสเตียรอยด์. ถ้าคุณมีสิวซีสต์และคุณคงไม่สามารถกำจัดออกได้ด้วยตัวเอง แนะนำให้ไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อฉีดสิวด้วยสเตียรอยด์แทน นี่จะช่วยลดความแดงและบวมอย่างเห็นได้ชัดและสิวของคุณจะหายเร็วกว่าปกติ ให้ลองปรึกษากับหมอเกี่ยวกับวิธีรักษาอื่นๆ ด้วยที่จะช่วยให้สิวของคุณหายไปเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังการฉีดสิว [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้ยาทาสิวเบนโซอิล เปอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide). เป็นสกินแคร์ที่ดีที่สุดอีกตัว เบนโซอิล เปอร์ออกไซด์เป็นสารออกฤทธิ์ที่มักใช้เป็นส่วนประกอบในยารักษาสิว หาครีมทาสิวเฉพาะจุดที่มีส่วนประกอบสำคัญเป็นเบนโซอิล เปอร์ออกไซด์ ทาวันละ 1-2 ครั้งจนกว่าสิวจะหาย โดยมีหน้าที่ลดความมันส่วนเกินและฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่จะอุดตันรูขุมขน
-
ลองมาส์กหน้าด้วยแอสไพริน. หนึ่งในหน้าที่หลักของตัวยาแอสไพรินคือช่วยบรรเทาอาการอักเสบและอาการบวมซึ่งอีกรูปหนึ่งของกรดซาลิไซลิก หรือพูดง่ายๆ ว่าแอสไพรินก็เป็นบีเอชเอชนิดหนึ่ง บดยาแอสไพริน 1-2 เม็ด ผสมน้ำเล็กน้อยเพื่อทำให้กลายเป็นเนื้อข้นๆ ทาลงไปบนสิว ทิ้งไว้ให้นานที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ ล้างออกด้วยน้ำเย็น คุณก็จะเห็นว่าสิวของคุณนั้นเกือบจะหายแล้ว!
-
ใช้น้ำแข็งรักษาสิว. คล้ายๆ กับแอสไพริน น้ำแข็งมักถูกใช้เพื่อบรรเทาอาการบวมและแดงตามผิวหนังของร่างกาย วางก้อนน้ำแข็งหรือถุงน้ำแข็งลงไปบนสิวซัก 20-30 นาที วิธีนี้จะช่วยให้รูขุมขนเล็กลงซึ่งทำให้แบคทีเรียและสิ่งสกปรกหลุดออกมาเอง นอกจากนี้ ยังช่วยลดรอยแดงและขนาดให้เล็กลง ทำให้ผิวของคุณเรียบเนียนจนเกือบเป็นปกติโฆษณา
ครีมพอกหน้าและมาส์กหน้า
-
ใช้ครีมพอกมะขาม: มะขามมีสรรพคุณในการรักษาสมานผิว ผสมมะขามกับน้ำเปล่าเล็กน้อยหรือโยเกิร์ตในสัดส่วนที่พอเหมาะ ให้ทาตอนกลางคืนทิ้งไว้อย่างน้อย 30-40 นาทีก่อนล้างออกด้วยน้ำเปล่าเช่นเดียวกับมาส์ก อย่างไรก็ตาม ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์เป็นกรดอย่างระมัดระวัง ตรวจสอบค่า pH โดยใช้แผ่นทดสอบ pH ซึ่งไม่ควรต่ำกว่า 3 และการทำวิธีนี้จะต้องทำไปซักระยะหนึ่งถึงจะได้ผลลัพธ์ตามต้องการ การทำเพียงครั้งเดียวจะไม่เห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างในทันที
-
ทำมาส์กแตงกวา. วิธีนี้เป็นได้ผลดีสุดในการปลอบประโลมผิวและลดรอยแดง แต่จะไม่ได้ผลดีเท่ากับวิธีก่อนหน้านี้ในเรื่องฆ่าเชื้อแบคทีเรีย สับแตงกวาให้ละเอียดจนกลายเป็นเนื้อครีมข้นๆ และทาลงบนสิวหรือพอกทั้งหน้า ทิ้งไว้ให้แห้ง 15-20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น ดูสิ! รอยแดงของคุณลดลงอย่างเห็นได้ชัดและคุณก็รู้สึกเย็นสดชื่นขึ้นอีกด้วย
-
อบไอน้ำ. การอบไอน้ำจะช่วยเปิดรูขุมขนและทำให้ผิวหนังได้หายใจ วิธีนี้คุณสามารถกำจัดแบคทีเรีย สิ่งสกปรกและน้ำมันที่ตกค้างอยู่ในรูขุมขนซึ่งเป็นสาเหตุของการติดเชื้อหรือการอักเสบได้อย่างล้ำลึก การทำวิธีนี้ อย่างแรกคุณต้องเทน้ำร้อนลงในภาชนะขนาดใหญ่ แล้วเอาหน้าไปอังไว้เพื่อให้หน้าได้สัมผัสกับไอน้ำที่ลอยขึ้นมา จากนั้นล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เช็ดหน้าให้แห้งแล้วจึงทาครีมบำรุงที่ให้ความชุ่มชื้นสูตรไม่มีน้ำมันโฆษณา
สมุนไพร
-
ใช้น้ำมันทีทรีแบบเจือจางหรือน้ำมันสะเดา (น้ำมันสะเดาหรือที่รู้จักกันในนามว่าน้ำมันใบสะเดา). น้ำมันทีทรีถูกนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์เสริมความงามมากมายด้วยคุณสมบัติที่ช่วยปลอบประโลมผิวและสรรพคุณในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ให้ซื้อน้ำมันทีทรีบริสุทธิ์มา นำมาเจือจางเพื่อเอามาทาสิว ทำเพียงแค่วันละครั้งและทำซ้ำจนกว่าสิวจะหาย อย่างไรก็ดี ให้ระมัดระวังการใช้น้ำมันทีทรีแบบที่ยังไม่เจือจางกับผิว เพราะนอกจากจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามแล้วยังทำให้ผิวไหม้ได้ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้กระเทียม. มันอาจฟังดูแปลกแต่กระเทียมเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในการรักษาสิวด้วยเหตุผล 2 ข้อคือ เป็นยาฆ่าเชื้อโรคแบบธรรมชาติและยังมีปริมาณซัลเฟอร์สูง (ซึ่งดีสำหรับการขจัดความมัน) ให้สับกระเทียมให้ละเอียดจนกลายเป็นเนื้อข้นๆ หรือจะหั่นครึ่งก็ได้แล้วนำมาโปะไว้ที่สิว ทิ้งไว้ 5-10 นาทีแล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำเย็นโฆษณา
วิธีรักษาที่หาได้จากในครัว
-
ใช้น้ำผึ้งรักษาสิว. น้ำผึ้งเป็นสารทำความสะอาดผิวธรรมชาติที่ดีเยี่ยม เพราะมันทำหน้าที่โดยกำจัดเชื้อแบคทีเรียและดูดซับสิ่งสกปรกและความมัน หยดน้ำผึ้งในปริมาณเล็กน้อยลงบนสิว ทิ้งไว้นานที่สุดเท่าที่ทำได้ ถ้าคุณอยากจะทาน้ำผึ้งทั้งหน้าแล้วละก็ คุณสามารถทำได้ในรูปแบบของการมาส์กหน้า หากจะล้างออกให้ล้างด้วยน้ำอุ่น
-
ใช้มะละกอ. ใช่แล้ว ผลไม้เมืองร้อนที่คุณชอบนำมาปั่นดื่มเป็นสมูทธี้อยู่บ่อยๆ นั่นแหละ ช่วยทำความสะอาดผิวและกำจัดสิวได้เป็นอย่างดี คั้นมะละกอหรือบดให้ละเอียดจนกลายเป็นเนื้อข้นเหนียวและทาลงบนสิว ทิ้งไว้ให้นานเท่าที่จะทำได้ก่อนล้างออกด้วยน้ำเย็น คุณสามารถทำวิธีนี้ได้ทุกวันและบ่อยตามต้องการโฆษณา
เคล็ดลับ
- ใช้น้ำแข็ง น้ำแข็งมีประโยชน์ช่วยให้สิวยุบ
- ตอนล้างหน้า แทนที่จะล้างรอบเดียวให้ล้างซัก 2 รอบ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่
- อย่าเอามือจับหน้า! อย่าจับหรือบีบสิวเด็ดขาดเพราะมันไม่ได้ช่วยให้สิวหายเร็วขึ้น
- การดื่มน้ำมากๆ และกินอาหารที่มีประโยชน์เป็นวิธีธรรมชาติที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส แต่บางคนอาจจะแพ้อาหารบางประเภทซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเกิดสิว
- อย่าเอาผมมาปรกหน้า เพราะสิ่งสกปรกและแบคทีเรียจากเส้นผมก็เป็นสาเหตุที่ทำให้สิวเพิ่มขึ้นได้
- ล้างหน้าทุกคืนก่อนนอนและทุกเช้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีค่าความกรด - ด่างที่สมดุล (pH balanced)
- ผสมเกลือลงในน้ำ เกลือจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวได้
- ใช้เปลือกส้มด้านในรักษาสิว ถูเปลือกส้มลงบนผิวส่วนที่มีปัญหาสิว
- คุณสามารถใช้น้ำผึ้งอุ่นๆ ได้เหมือนกัน นำสำลีชุบน้ำผึ้ง ทาทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
- รักษาความสะอาดของปลอกหมอนอยู่เสมอโดยซักทุกๆ 4-5 วัน
- ถ้าแต่งหน้าให้ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางโดยเฉพาะเช็ดหน้าก่อน นอกเหนือจากการล้างหน้าปกติ
- ทาครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นในขณะที่หน้าของคุณยังชื้นอยู่เพราะการทาครีมตอนที่ผิวเปียกจะทำให้ครีมซึมซาบลงสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น หากคุณเป็นคนผิวมันแล้ว ยิ่งต้องทาครีมบำรุง เพราะร่างกายจะยิ่งผลิตน้ำมันออกมาตอบสนองกับความแห้งกร้าน
- อย่าบีบสิว! ให้ทา AHA หรือ BHA เพื่อให้สิวหลุดออกไปเอง
- ใช้ยาสีฟัน. ยาสีฟันช่วยลดขนาดและทำให้สิวแห้ง อีกทั้งยังทำให้หน้าของคุณนุ่มและดูมีน้ำมีนวลแต่หลีกเลี่ยงการใช้ในปริมาณที่มากเกินไปหรือระวังอย่าให้เข้าตาเพราะอาจะทำให้แสบได้
- นำสำลีก้อนจุ่มแอลกอฮอล์ล้างแผลและนำไปโปะไว้ที่สิวจะช่วยให้ขนาดสิวเล็กลง
- ทาครีมกันแดดที่สามารถป้องกันรังสี UVA และ UVB และต้องมีค่า SPF 15 เป็นอย่างน้อยในวันที่แดดแรงๆ เพราะผิวที่ไหม้จากแดดจะทำให้สิวนั้นหายยากขึ้น
- อย่าจับหน้าแม้ว่ามือของคุณจะดูสะอาดก็ตาม
- อย่าแกะ อย่าแคะ ไม่เช่นนั้นมันจะใหญ่ขึ้นและทำให้อาการสิวแย่ลง
- อย่าแกะสิวเด็ดขาด มันมีแต่จะทำให้แย่ลง!
- ล้างหน้าทุกวัน วันละ 2 ครั้ง การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้าที่ดีจะช่วยได้มาก ให้เลือกยี่ห้อ (เช่น Proactiv หรือ Murad) ที่เชี่ยวชาญเรื่องผลิตภัณฑ์ล้างหน้าและครีมเพิ่มความชุ่มชื้นที่ดูแลเกี่ยวกับสิว การใช้เครื่องสำอางมากๆ เพื่อปกปิดสิวนอกจากจะไม่เป็นผลดีแล้ว ยังทำให้เครื่องสำอางไปอุดตันรูขุมขนและอาจทำให้สิวเพิ่มขึ้นได้
- อย่าบีบสิว มันมีแต่ทำให้แย่ลง
- การขับเหงื่อ (ที่รู้จักกันทั่วไปว่าเหงื่อออก) จากการทำกิจกรรมเรียกเหงื่อ เช่น กีฬา ควรทำความสะอาดทันทีเมื่อทำกิจกรรมเสร็จเพราะมันจะยิ่งทำให้สิวเป็นหนักกว่าเดิม
- คุณสามารถใช้เปลือกกล้วยได้เหมือนกัน กล้วยมีประโยชน์กับร่างกายและช่วยปกป้องผิว ให้ถูเปลือกกล้วยลงบนผิว
- ใช้น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล สิ่งนี้ช่วยได้จริงๆ แม้ว่าคุณจะมีผิวที่แพ้ง่าย หยดน้ำส้มสายชูลงบนสำลีแล้วใช้แทนโทนเนอร์ แต่ถ้าคุณมีผิวแพ้ง่าย ให้ผสมน้ำกับน้ำส้มสายชูก่อนใช้
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
- อย่าลืมล้างเครื่องสำอางออกก่อนเข้านอน เครื่องสำอางทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกและแบคทีเรียได้ง่าย
- ลดความเครียด: ความเครียดส่งผลต่อฮอร์โมนและทำให้สิวอักเสบและสิวเห่อได้ คุณไม่สามารถนับได้หรอกว่าคุณเครียดมากแค่ไหนแต่สิ่งที่ทำให้เครียดจะส่งผลกระทบกับการทำงานและชีวิตประจำวันของคุณ ความเครียดส่งผลต่อสุขภาพและผิวพรรณ ดังนั้นคุณควรเรียนรู้ที่จะผ่อนคลายบ้าง นั่นเป็นสิ่งสำคัญแต่ไม่ใช่ก็ทุกคนนะที่ทำได้!
- พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารดีดีและออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน ล้างหน้าด้วยสบู่ล้างหน้าทุกวันวันละ 2 ครั้ง
- ถ้าคุณกำจัดสิวไม่ได้และกังวลว่าใครจะเห็น ให้ใช้คอนซีลเลอร์ที่เป็นเวชสำอางปิดสิวจนกว่าสิวจะหาย
- รักษาความสะอาดของผม ความมันจากเส้นผมจะทำให้สิวเป็นมากกว่าเดิม
- เอาผ้าขนหนูหรือฟองน้ำเปียกกดลงบนสิว แต่อย่ากดแรงไปเพราะจะทำให้เลือดออก
- แต้มยาสีฟันลงบนสิวแล้วทิ้งไว้ค้างคืน ทำแบบนี้ทุกคืนจนกว่าสิวจะหาย ความเจ็บปวดจะหายไปก่อนแล้วจากนั้นไม่นานสิวก็จะหาย
- ใช้สบู่ที่แนะนำโดยแพทย์ผิวหนัง เช่น สบู่ยี่ห้อ pears oil-clear
- ทายารักษาสิวทันทีหลังอาบน้ำเสร็จเพราะรูขุมขนเปิดอยู่
- ทำความสะอาดหน้าทุกเช้าและก่อนนอนเพราะช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขน การที่มีสิ่งอุดตันรูขุมขนอาจก่อให้เกิดสิว เมื่อรู้สึกว่าหน้ามันให้ล้างหน้า เพราะความมันเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้เช่นกัน
- สำหรับผิวมันให้ใช้เบคกิ้งโซดาผสมกับน้ำให้เป็นเนื้อข้นๆ ทาทิ้งไว้ 30 นาทีแล้วจึงล้างออก
- ควรล้างมือก่อนจับหรือล้างหน้าทุกครั้ง
- ล้างหน้าวันละ 2 ครั้งด้วยแผ่น Clearasil หรือแผ่น Neutrogena แล้วประคบด้วยน้ำแข็ง อย่าไปบีบมันเพราะจะทำให้เจ็บและทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของใบหน้า ก่อให้เกิดผลเสียในระยะยาว
- หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าตอนกลางคืน หยดน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลลงบนสำลีเช็ดหน้า เช็ดทั่วใบหน้า มันจะช่วยทำให้รอยแดงของสิวจางหายไป
- ดื่มน้ำเยอะๆ และล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
โฆษณา
คำเตือน
- การบีบสิวอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้และไม่แนะนำอย่างยิ่ง โดยเฉพาะถ้าเป็นสิวเม็ดใหญ่
- ถ้าคุณปกปิดสิวด้วยเครื่องสำอาง ควรเลือกดีดี เพราะมันอาจทำให้น้ำมันและสิ่งสกปรกไปอุดตันรูขุมขน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเป็นเครื่องสำอางที่มีสารให้ความชุ่มชื้น (ใช้เครื่องสำอางที่ทำให้เกิดการแพ้น้อย เครื่องสำอางสูตรไม่มีน้ำมันหรือเวชสำอางก็ได้)
- คุณสามารถใช้วิธีการอบไอน้ำร้อนได้เหมือนกันเพราะมันจะช่วยให้รูขุมขนของคุณเปิดออก แต่คุณต้องทำความสะอาดผิวหลังจากอบไอน้ำหน้า
- ทาครีมกันแดดทุกครั้งเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์เบนโซอิล เปอร์ออกไซด์ เพราะมันทำให้ผิวบอบบางและไวต่อแสงขึ้น
- เวลาใช้ผลิตภัณฑ์เบนโซอิล เปอร์ออกไซด์ ให้เลี่ยงการสัมผัสผมและเสื้อผ้าเพราะมันอาจทำให้ สีตกได้
- คุณควรทำความสะอาด (และอาจจะขัดผิวและลงครีมเพิ่มความชุ่มชื้น) ผิววันละ 2 ครั้ง ให้ลองไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อหาว่าสบู่และโลชั่นตัวไหนที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณหรือคุณจะลองผิดลองถูกดูก็ได้
- เบนโซอิล เปอร์ออกไซด์มีขายทั้งสูตร 2.5%, 5%, และ 10% (สำหรับล้างหน้าและครีม) สำหรับบางคน 10% แรงเกินไปและทำให้ผิวระคายเคือง แต่สำหรับบางคน สูตรที่น้อยกว่า 10% อาจจะไม่เห็นผล มันอาจจะช่วยได้ถ้าเริ่มจาก 5% แล้วค่อยเพิ่มเป็น 10% แต่ถ้าใช้แล้วผิวแห้งลอกและระคายเคืองก็ให้ลดลงเหลือ 2.5%
- การใช้เบนโซอิล เปอร์ออกไซด์ทำให้ข้างล่างผิวชั้นบนแห้งซึ่งอาจจะทำให้สิวหลุดออกไปแต่ก็จะทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองจนทำให้เกิดอาการคันและผื่นได้ ถ้าผิวของคุณแห้งมากหลังจากสิวหายแล้วให้ลองใช้โลชั่นที่อ่อนโยนกับผิวหน้าอย่าง Dove ดู
- ห้าม นอนโดยที่ยังไม่ได้ล้างเครื่องสำอาง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา