ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
สิวที่ขึ้นบนหน้าอกเป็นอะไรที่กวนใจเราๆ อย่างยิ่ง โดยเฉพาะถ้าคุณอยากใส่เสื้อคอกว้างหรือชุดคลุมอาบน้ำก็ยิ่งไปกันใหญ่ แต่ยังโชคดีที่คุณสามารถรักษามันได้ด้วยตัวเองอยู่นะ เพื่อให้โอกาสคุณได้เผยผิวที่เรียบเนียนและมีความสุขกับการได้โชว์สักหน่อยไงล่ะ
ขั้นตอน
-
ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นสูตรกำจัดสิว. ใช้ถุงมือขัดผิวและคลีนเซอร์ที่มีกรดซาลิไซลิกผสมอยู่ 2% ขณะอาบน้ำ โดยต้องคอยเปลี่ยนถุงมือขัดผิวอย่างน้อยทุกๆ 3 เดือน เพราะมันถือเป็นแหล่งเจริญเติบโตของแบคทีเรียด้วย
- สบู่ที่มีส่วนผสมดังกล่าวสามารถช่วยรักษาสิวได้
- ถ้าคุณขัดผิวแรงเกินไป จะเป็นการไปกำจัดน้ำมันธรรมชาติบนผิวได้ และจะไประคายเคืองสิวเอาด้วย ฉะนั้นให้ขัดอกอย่างอ่อนโยนเสมอเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วก็พอ
- อาบน้ำทุกวัน ถ้าคุณไม่ทำความสะอาดผิว ก็เหมือนเป็นการดึงไขมันและแบคทีเรียมาสะสมบนผิว ก่อให้เกิดสิวขึ้นได้
-
ทายากำจัดสิว. ตัวครีมควรมีความเข้มข้นของกรดซาลิไซลิกผสมอยู่ระหว่าง 0.5 ถึง 2 เปอร์เซนต์ โดยทาครีมบนสิวโดยตรงเพื่อทำให้สิวแห้งและรักษาบริเวณนั้นได้ไวขึ้น
-
ใช้ยาเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ (BP). เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์จะสู้กับแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวได้ และช่วยทำให้สิวแห้ง บวกกับช่วยลอกผิวที่ตายแล้วบนหนังกำพร้าออกไปได้ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
อย่าลืมขัดผิวด้วยนะ. การขัดผิวจะเป็นการกำจัดผิวหนังกำพร้าที่ตายหรือผิวชั้นนอกสุดออกไป แถมยังสามารถช่วยลดการเกิดสิวที่หน้าอก และทำให้รอยสิวจางลงอีกด้วย
- สิวที่หน้าอกมักเกิดจากการที่รูขุมขนอุดตัน ซึ่งทำให้ไขมันก่อตัวขึ้น และก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสิวนั่นเอง [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ผู้ชายมักจะมีขนหน้าอก ขณะที่ผู้หญิงมักจะสวมบราและเสื้อที่รัดแน่นกว่า ทั้งสองสาเหตุนี้ต่างทำให้สิวขึ้นที่อกได้ ทำให้การขัดผิวเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ แล้วก็อย่าลืมใช้คลีนเซอร์หรือโทนเนอร์เช็ดหลังจากที่เหงื่อออกตอนออกกำลังกายด้วยล่ะ
-
ใช้มาส์ก. หามาส์กที่ทำจากโคลนหรือชาร์โคล หรือใช้มาส์กที่มีส่วนผสมของกรดแมนเดลิค
- มาส์กโคลนหรือชาร์โคล มาส์กอกสองครั้งต่อสัปดาห์ แล้วจากนั้นก็ล้างออก มาส์กจะทำความสะอาดบริเวณนั้น และช่วยกำจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขนด้วย [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- มาส์กกรดแมนเดลิค มาส์กชนิดนี้มักจะใช้มาส์ก 10 ถึง 15 นาทีก่อนอาบน้ำ จากนั้นก็ล้างออกด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสูตรกำจัดสิวได้เลย
- จะลองเป็นมาส์กโคลนหรือมาส์กที่มีส่วนผสมของ น้ำมันทีทรี ก็ได้ ใครหลายๆ คนบอกไว้ว่าน้ำมันทีทรีถือเป็นตัวช่วยอย่างดีสำหรับสภาพผิวหลายแบบเลยล่ะ
-
ทำส่วนผสมแอสไพรินขึ้นมา. แอสไพรินจะมีกรดซาลิไซลิกผสมอยู่แล้ว ซึ่งจะทั้งทำให้สิวแห้งและลดอาการระคายเคืองจากสิวได้ด้วย ทำให้ส่วนผสมนี้ออกมาเป็นคู่ปรับกับสิวได้อย่างสมบูรณ์แบบนั่นเอง
- บดยาแอสไพริน 2 เม็ดแล้วผสมกับน้ำหนึ่งช้อนชาและน้ำผึ้งอีกหนึ่งช้อนชา เอาไว้ทาบนอก หรือจุดอื่นที่ต้องการ รอให้แห้งสัก 10 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็น
โฆษณา
-
ใส่เสื้อที่เป็นผ้าฝ้ายหรือผ้าลินิน. ผ้าฝ้ายและผ้าลินินเป็นเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีที่สุด และมันยังปล่อยให้เหงื่อระเหยออกไปแทนที่จะก่อตัวขึ้นบนอกและเข้าไปอุดตันรูขุมขน นำพาเอาแบคทีเรียเข้ามาเจริญเติบโตแทนด้วยเคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญผู้ดูแลด้านความงามที่มีใบอนุญาตและผู้เชี่ยวชาญการรักษาสิวคิมเบอร์ลี่ย์ แทนเป็นผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Skin Salvation คลินิกรักษาสิวในซานฟรานซิสโก เธอได้ใบอนุญาตมานานกว่า 15 ปีและเชี่ยวชาญในการรักษาดูแลผิวพรรณทั้งการใช้ยาและยาทางเลือก เธอเคยทำงานเป็นผู้ช่วยโดยตรงของลอร่า คุกซี่ย์แห่งคลินิก Face Reality Acne และเคยศึกษากับดร.เจมส์ อี. ฟูลตัน ผู้ร่วมสร้าง Retin-a และเป็นผู้นำในงานค้นคว้าเรื่องสิว คลินิกของเธอผสมผสานการบำรุงดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่เชื่อใจได้และการให้ความรู้ความเข้าใจเพื่อผิวสุขภาพดีอย่างยั่งยืน
การหาสาเหตุของสิวจะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นอีกในอนาคต ช่างเสริมสวยคิมเบอร์ลี ตันกล่าวว่า: "ถึงแม้การเป็นสิวจะเป็นเรื่องลำบาก ข้อดีของมันคือมันเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่ามีอะไรบางอย่างในร่างกายที่จำเป็นต้องเข้าไปดูแล ถ้าคุณมีปัญหาเรื้อรังอื่นๆ ร่างกายอาจไม่แสดงสัญญาณออกมาให้เห็นจนกว่ามันจะกลายเป็นปัญหาร้ายแรง แต่สิวนี่จะบอกคุณได้ว่ามีอะไรสักอย่างส่งผลต่อร่างกายของคุณอยู่"
-
เปลี่ยนวิถีการกิน. กินวอลนัทกำมือหนึ่งทุกๆ วันจะช่วยลดการอักเสบของผิวหนังได้นะ กินพวกผักกับผลไม้ให้มากขึ้น รวมถึงกินโปรตีนแบบไร้มัน อย่างพวกเนื้ออกของสัตว์ปีกหรือถั่วเหลือง ควบคู่ไปกับธัญพืชและกรดไขมันโอเมก้า 3
- คนที่กินผักกับผลไม้เยอะๆ ดื่มนมและกินน้ำตาลน้อยๆ ย่อมมีสิวขึ้นน้อยลงไปด้วย [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง โดยให้กินผัก (เน้นผักใบเขียว) สำหรับ 5 ถึง 9 ที่ต่อวัน
- ไขมันที่ดีต่อสุขภาพอย่างไขมันโอเมก้า 3 จะช่วยลดอาการอักเสบและเพิ่มเซลล์ชนิดดีให้กับร่างกาย [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แต่โอเมก้า 3 จะสลายไปถ้าเจอกับออกซิเจน หมายความว่าถ้าคุณอยากได้รับโอเมก้า 3 เยอะๆ ก็พยายามกินมันแบบดิบๆ เข้าไว้นะ โดยอาหารที่มีโอเมก้า 3 ได้แก่
-
ดื่มน้ำมากๆ. ผิวหนังถือเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายมนุษย์ แล้วมันก็เหมือนกับอวัยวะอื่นๆ ที่ต้องการน้ำเพื่อคงความชุ่มชื้นและรักษาระดับความสุขภาพดีเอาไว้นั่นแหละ แพทย์หลายคนแนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 9 ถึง 12 แก้วต่อวัน (2.2 ถึง 3 ลิตร) ขึ้นอยู่กับว่าคุณเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย [7] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
- ลดเครื่องดื่มที่มีรสหวาน น้ำตาลเยอะๆ อย่างน้ำอัดลม น้ำผลไม้และสมูทตี้ แม้ว่าจะถูกโต้แย้งมานานแล้ว แต่ผลรายงานใหม่ได้แสดงว่าอาหารนั้น มี ผลกับการเกิดสิวอย่างมาก เห็นว่าพวกน้ำตาลนี่ตัวจุดชนวนเลยล่ะ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง น้ำตาลจะไปขัดขวางอินซูลิน ทำให้ไปกระตุ้นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดสิวได้
- ชาเขียวสูตรไร้น้ำตาลก็ได้ผลในการรักษาสิวเช่นกัน ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ เพราะอนุมูลอิสระจะส่งผลกับเซลล์ที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังเป็นริ้วรอย อีกทางเลือกแห่งสุขภาพนอกจากน้ำเปล่า ก็ลองชงชาเขียวที่ทั้งดีทั้งอร่อยดื่มดูสิ!
-
งดผลิตภัณฑ์จากนม. ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมย่อมมีฮอร์โมนจากวัวผสมอยู่ด้วย และฮอร์โมนเหล่านี้ก็จะไปกระตุ้นรูขุมขนและต่อมน้ำมันเข้าน่ะสิ ถ้าคุณจำเป็นต้องดื่มนม ให้เลือกดื่มนมขาดมันเนยเอานะ เพราะฮอร์โมนนี้จะมีมากในส่วนที่เป็นไขมันของนม ฉะนั้นการดื่มนมขาดมันเนยจะช่วยลดการเกิดสิวได้ [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้โลชั่นทาผิวชนิดไม่อุดตันรูขุมขนเพื่อป้องกันไม่ให้สิวเกิดขึ้นอีก. [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง อ่านฉลากที่เขียนว่า "ไม่อุดตันรูขุมขน (non-comedogenic)" หรือ "ไร้น้ำมัน (oil-free)" เอา เพราะส่วนผสมที่อุดตันรูขุมขนมีสิทธิ์ไปอุดตันได้นั่นเอง
- ส่วนผสมที่อุดตันรูขุมขนได้นั้นมีทั้งโกโก้บัตเตอร์ เม็ดสี น้ำมันถ่านหิน และไอโซโพรพิล ไมริสเตท
- ถ้าคุณเป็นคนผิวมัน ก็ควรใช้โลชั่นที่ไม่อุดตันรูขุมขนควบคู่กับคลีนเซอร์ไปเลย [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ล้างมือทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ. ถ้าคุณใช้มือที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคแตะที่อกตัวเอง ก็เหมือนเป็นการแพร่แบคทีเรียไปยังผิวหนังบริเวณอก ซึ่งมันก็จะไปอุดตันในรูขุมขน ฉะนั้นก็ล้างมือซะ ไม่ใช่แค่เอาไว้ป้องกันสิว แต่ยังป้องกันโรคอื่นๆ ได้ด้วย
-
กำจัดความเครียดออกจากชีวิตให้มากที่สุด. แพทย์ก็ไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจนว่าทำไม แต่ก็รู้กันว่าความเครียดกับโรคทางผิวหนังเป็นของคู่กัน โดยเฉพาะความเครียดกับสิวนี่แหละ บางทีเซลล์ที่ผลิตไขมัน ซึ่งเป็นสาเหตุของสิวตัวฉกาจ อาจมีความผิดปกติเมื่อคนเรารู้สึกเครียดก็เป็นได้ [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- พักผ่อนให้เพียงพอ แพทย์รู้ดีว่ายิ่งคุณนอนน้อย ก็จะยิ่งรู้สึกเครียดระหว่างวันมากขึ้น [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง และถ้าคุณยิ่งเครียด สิวก็จะยิ่งมานะ
-
ออกกำลังกาย. การออกกำลังกายถือเป็นยาครอบจักรวาลเลยล่ะ ในกรณีนี้ การออกกำลังกายจะทำให้สุขภาพดีและลดความกังวลกับความเครียด ฉะนั้นลองหาเวลาวิ่งหรือเดินไปเรื่อยๆ เข้าร่วมทีมเล่นกีฬา หรือไปปั่นจักรยานก็ได้นะ
- อาบน้ำหลังออกกำลังกาย นี่เป็นอะไรที่สำคัญมากๆ เลยล่ะ หลังจากที่ออกกำลังกายเสร็จแล้ว รูขุมขนอาจอุดตันจากเหงื่อก็ได้ ถ้าหากว่าคุณอาบน้ำและทำความสะอาด ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้หลีกเลี่ยงสิวที่จะขึ้นบนอก ซึ่งเกิดจากความละเลยหลังออกกำลังกายนั่นเอง
โฆษณา
-
ใช้ก้านสำลีจุ่มไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์มาแตะสิว.
- หรือจะใช้ก้านสำลีจุ่มยาหยอดตา (ที่แก้อาการตาแดง) แล้วแตะสิวแทนก็ได้ ยาหยอดตาสามารถช่วยลดอาการอักเสบและรอยแดงได้ และเพื่อประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นในการบรรเทาอาการ ให้นำก้านสำลีจุ่มสารละลายไปแช่ในช่องแช่แข็งสัก 30 ถึง 60 นาทีก่อนจะนำมาใช้
-
ทาคอนซีลเลอร์ที่มีส่วนประกอบของกรดซาลิไซลิกผสมอยู่. โดยเลือกคอนซีลเลอร์ให้สีเข้มกว่าสีผิวคุณ 1 เฉด
-
ทารองพื้นสีเดียวกับสีผิวคุณ.
-
ถ้าไม่อยากใช้เครื่องสำอาง ก็ให้ทาคาลาไมน์แทน. สีชมพูจะช่วยปกปิดสิวขณะที่บรรเทาการระคายเคืองได้ด้วยโฆษณา
เคล็ดลับ
- อย่าใส่น้ำหอมบนหน้าอก ไม่อย่างนั้นมันอาจไปอุดตันรูขุมขนหรือปิดรูขุมขนได้
- เปลี่ยนผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ไม่อย่างนั้นเซลล์ผิวที่ตายแล้วกับแบคทีเรียก็จะก่อตัวขึ้นบนที่ที่คุณนอน และทำให้สิวขึ้นตามร่างกายได้
- ถ้าวิธีต่างๆ ไม่ได้ผลเลย ควรไปหาแพทย์ผิวหนังซะ เพื่อที่จะได้ครีมหรือยาทานตามสั่งซึ่งได้ผลดีกว่ามาใช้
- ถ้าคุณจะทาโลชั่น ลองใช้โลชั่นสำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ผิวหนังดูก็ได้ มันทั้งให้ความชุ่มชื้นและไม่อุดตันรูขุมขนด้วยนะ
- อย่าทำส่วนผสมสำหรับกำจัดสิวเอง เพราะบางทีมันอาจมีบางอย่างที่ส่งผลไม่ดีต่อผิวหนังคุณหนักขึ้นกว่าเดิม ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนจะใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่คุณไม่มั่นใจว่าปลอดภัยกับตัวเองหรือไม่ บางทีแพทย์อาจสั่งยาให้ด้วยก็เป็นได้นะ
- เมื่อใดก็ตามที่เหงื่อออกบริเวณหน้าอกและไม่สามารถไปอาบน้ำได้ในทันที ให้ใช้วินเตอร์กรีนรับบิ้งแอลกอฮอล์ 50% และสารสกัดต้นวิชฮาเซล 70% ถูที่หน้าอกเป็นยารักษาสิวดูสิ
- เปลี่ยนผงซักฟอกที่ใช้ให้เป็นสูตรธรรมชาติหรือสำหรับผิวแพ้ง่าย ซึ่งเป็นสูตรเหลวและไม่ผสมน้ำหอม
- วิธีที่คุณลองอาจต้องใช้เวลาถึง 6 สัปดาห์ถึงจะเห็นผล อย่ายอมแพ้เร็วเกินไปกับบางวิธีที่อาจได้ผลในที่สุดนะ
- ยาฆ่าเชื้อสร้างความแตกต่างได้มากเลยล่ะ มันสามารถนำไปเจือจางในน้ำจำนวนหนึ่ง (ประมาณ 560 มล.) แล้วใช้ล้างบริเวณที่เกิดสิวได้
- ถ้าคุณไว้ผมยาว ให้รวบผมขึ้นตอนจะนอน เพราะน้ำมันจากผมอาจไปอุดตันรูขุมขนบนผิวได้
- สวมสร้อยคอเพื่อเบี่ยงเบียนความสนใจและปกปิดหน้าอกของคุณ
โฆษณา
คำเตือน
- ถ้าคุณจะสวมผ้าพันคอหรือเครื่องประดับเพื่อปกปิดสิว ต้องให้แน่ใจก่อนว่าคุณไม่ได้แพ้วัสดุเหล่านั้น (ไม่อย่างนั้นสิวก็จะเห่อหนักกว่าเดิมได้)
- อย่าไปแกะหรือบีบสิว เพราะมันจะทำให้ระคายเคืองหนักกว่าเดิม เลือดอาจออก หรืออาจเกิดเป็นแผลเป็นได้ การไปบีบสิวและสัมผัสผิวหนังมากเกินไปย่อมเป็นการไปกระจายน้ำมันและแบคทีเรียยังบริเวณอื่น ซึ่งจะไปอุดตันรูขุมขนทำให้สิวขึ้นหนักกว่าเดิมอีกได้
- ปรึกษาแพทย์ก่อนจะทานยาเพื่อกำจัดสิว โดยเฉพาะถ้าคุณกำลังตั้งครรภ์หรือมีปัญหาสุขภาพเรื้อรังอยู่
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.webmd.com/drugs/drug-1344-Benzoyl+Peroxide+Top.aspx?drugid=1344&drugname=Benzoyl+Peroxide+Top
- ↑ http://www.wisegeek.com/how-do-i-treat-chest-acne.htm
- ↑ http://www.cosmopolitan.com/hairstyles-beauty/how-to/banishing-chest-acne
- ↑ 4.0 4.1 http://www.huffingtonpost.com/dr-mark-hyman/do-milk-and-sugar-cause-a_b_822163.html
- ↑ http://health.howstuffworks.com/wellness/food-nutrition/healthy-eating/5-foods-high-in-omega-3.htm
- ↑ 6.0 6.1 6.2 http://nutritiondata.self.com/foods-000140000000000000000.html
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/in-depth/water/art-20044256
- ↑ http://www.womenshealthmag.com/beauty/get-great-skin
- ↑ http://www.marieclaire.com/hair-beauty/how-to/acne-back-chest
- ↑ http://www.menscience.com/Comedogenic-vs-Non-comedogenic-Products_ep_177.html
- ↑ http://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/acne-care-11/stress-and-acne
- ↑ http://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/acne-care-11/lifestyle
- ↑ http://www.cosmopolitan.com/hairstyles-beauty/how-to/banishing-chest-acne
โฆษณา
