ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เซลลูไลท์ที่เป็นจ้ำๆ ให้เห็นอย่างน่าเกลียดนั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นสืบต่อกันมาทางพันธุกรรมของเรา ซึ่งแย่หน่อยที่ว่า เรามีทางเลือกในการจัดการกับมันน้อยมาก แต่คุณก็พอที่จะประกาศศึกกับเจ้าเซลลูไลท์บริเวณต้นขาด้านหลัง และหาทางไล่มันออกไปจากชีวิตได้ หรืออย่างน้อยก็ทำให้มันเผยออกมาสู่สายตาชาวโลกน้อยลงกว่าเดิมก็ยังดี หากจะลองทำตามวิธีด้านล่างดู ก็คงไม่เสียหายอะไร

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 6:

การนวด การใช้ครีม และเครื่องสำอางค์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ในทางทฤษฎีนั้น การนวดต้นขาด้านหลัง จะช่วยให้เกิดการหมุนเวียนบริเวณดังกล่าวได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้ลักษณะที่เป็นรอยบุ๋มหรือเป็นจ้ำๆ อันน่าเกลียด ลดลงไปได้พอสมควร
    • หากไม่มีอุปกรณ์ช่วย คุณสามารถที่จะใช้มือเปล่านี่ล่ะ ในการนวดต้นขาตัวเอง โดยออกแรงนวดให้พอดีและคลึงนวดเป็นวงกลม ประมาณ 5-10 นาทีทุกวัน อย่าลืมนวดให้ทั่วถึงทุกบริเวณที่เป็นเซลลูไลท์ด้วย
    • นอกจากนี้ คุณอาจนำสบู่สำหรีบนวดมาช่วยด้วยก็ได้ ซึ่งสบู่ประเภทนี้จะมีส่วนโค้งนูนที่ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก และทำให้ก้อนเหลวใต้ผิวหนังแตกตัวออก ในหลายๆ ยี่ห้อจะมีการสารช่วยขัด เพื่อขจัดเซลล์ผิวตายและสารพิษออกจากผิวหนัง รวมถึงสารคาเฟอีนที่ช่วยกระชับผิวของคุณด้วย [1]
  2. เช่นเดียวกับการนวด หากมีการใช้ครีมขัดนวดแบบอ่อนโยนร่วมด้วย ก็จะช่วยเสริมสร้างการไหลเวียน และทำให้สารพิษถูกชะล้างออกไปจากต้นขาของคุณ
    • ลองหาครีมขัดนวดผิวที่มีส่วนผสมตามธรรมชาติมาใช้ก็จะดีกว่า เช่น พวก เกลือ น้ำตาล หรือกากกาแฟบด เพราะส่วนผสมเหล่านี้จะมีความอ่อนโยนและปลอดภัยกับผิวของคนส่วนใหญ่มากกว่า
    • โดยเฉพาะครีมขัดนวดที่มีส่วนผสมของกากกาแฟ จะช่วยให้ผิวของคุณกระชับมากขึ้น ต้องขอบคุณเจ้าส่วนผสมอย่างคาเฟอีนด้วย
    • หากจะให้ผลลัพธ์ดีที่สุด ควรเลือกแบบที่มีส่วนผสมของน้ำมันอย่างเช่น น้ำมันอะโวคาโด้ หรือน้ำมันสกัดจากวิตามินอี เพื่อให้ผิวของคุณได้รับการหล่อเลี้ยงและชุ่มชื้นเสมอ
  3. ครีมหรือเซรั่มกำจัดเซลลูไลท์มักมีขายตามร้านสะดวกซื้อ หรือร้านขายปลีกที่มีชื่อเสียง และมักวางอยู่ในหมวดเครื่องสำอางค์และสุขภาพ ยังไม่มีการชี้ชัดว่า ครีมหรือเซรั่มเหล่านี้มีประสิทธิภาพมากเพียงใด แต่หลายคนอ้างว่า มันทำให้รอยจ้ำของเซลลูไลท์ลดลงได้ภายในเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังการใช้.
    • เซรั่มกำจัดเซลลูไลท์ส่วนใหญ่ มีส่วนประกอบที่ช่วยให้ผิวกระชับ ซึ่งรวมถึงสารสกัดจากใบบัว โคเอ็นไซม์ 10 และแอล-คานีทีน
    • ทาเป็นประจำทุกวันเพื่อให้เห็นผลดีที่สุด และคุณอาจจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ภายในเพียง 1-2 สัปดาห์
    • จงตระหนักว่า ครีมหรือเซรั่มกำจัดเซลลูไลท์บางตัว อาจผสมสารกระตุ้นบางอย่างด้วย ซึ่งจะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่คาดคิดหากใช้บ่อยเกินไป และยังมีการกล่าวอ้างว่า มันส่งผลให้รอยจ้ำบวมมากขึ้น แทนที่จะยุบลงไป อันแสดงให้เห็นว่า ผลดีที่เกิดขึ้นตอนแรก เป็นเพียงผลชั่วคราวเท่านั้น
  4. หากคุณไม่สามารถกำจัดเซลลูไลท์ที่น่าเกลียดบริเวณต้นขาด้านหลังได้ อย่างน้อยก็อาจจะเก็บซ่อนหรือพรางสายตา ด้วยการทาโลชั่นสำหรับทำผิวสีแทน หรือผลิตภัณฑ์ทำผิวสีแทนตัวอื่นๆ
    • ทาผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้ทั่วขาของคุณ อย่าทาแค่เฉพาะบริเวณต้นขาเท่านั้น เพราะการทำเช่นนั้น จะทำให้สีผิวดูไม่สม่ำเสมอกัน และจะยิ่งดึงดูดสายตาคนอื่นมากขึ้น
    • แม้ว่าคนที่มีผิวสีแทนหรือสีเข้ม จะปกปิดเซลลูไลท์ได้ในระดับหนึ่งแล้ว คุณก็ยังควรที่จะทาผลิตภัณฑ์ทำผิวสีแทนบางๆ เพื่อให้ผิวดูเป็นธรรมชาติและมีสุขภาพดี
  5. การค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ก็อาจจะทำให้คุณได้พบกับผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่ทำจากธรรมชาติ ซึ่งอ้างว่าสามารถจัดการเซลลูไลท์ได้ และหากคุณอยากลองผลิตภัณฑ์เหล่านี้จริงๆ ก็ควรเลือกชนิดที่ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว ในขณะที่สามารถขัดนวดมันไปในตัว และกระตุ้นการไหลเวียนได้ด้วย
    • ผลิตภัณฑ์ชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถทำเองได้ที่บ้านและมีการกล่าวถึงในโลกอินเตอร์เน็ตอยู่เสมอ คือ สครับที่ทำจากกากกาแฟ ½ ถ้วยชา (125 มล.) ผสมกับน้ำตาลทรายขาว 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) น้ำมันมะกอก 2-3 ช้อนโต๊ะ (30-45 มล.) กลีเซอรีน 1 ช้อนชา (5 มล.) และน้ำมันสกัดจากวิตามินอี 2 ช้อนชา (10 มล.) โดยนำส่วนผสมดังกล่าวมาตีให้เข้ากัน จนกว่าจะออกมาเป็นเนื้อเดียวกัน [2]
    • ล้างต้นขาด้านหลังของคุณด้วยน้ำร้อน เพื่อเปิดรูขุมขน ใช้มือทาสครับดังกล่าวไปทั่วบริเวณต้นขาด้านหลัง ให้ถูกบริเวณที่เป็นเซลลูไลท์ และขัดถูไปมาประมาณ 5 นาที
    • นำแผ่นใยพลาสติกสำหรับห่อ มาห่อสครับไว้กับต้นขาของคุณ ให้ความชื้นและความร้อนซึมเข้าไป ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ก่อนที่จะแกะพลาสติกและล้างสครับออกจากต้นขา เสร็จแล้วทามอยซ์เจอไรเซอร์ที่คุณใช้เป็นประจำ
    • กาแฟมีสารคาเฟอีนและสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถชะล้างสารพิษที่เป็นต้นเหตุของเซลลูไลท์ในร่างกาย และยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตด้วย
    • น้ำตาลทรายมีฤทธิ์ในการขัดผิว ซึ่งช่วยทำความสะอาดรูขุมขนของคุณ
    • น้ำมันมะกอก กลีเซอรีน และน้ำมันสกัดจากวิตามินอี สามารถช่วยปกป้องผิวและทำให้ผิวชุ่มชื้น
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 6:

การดูแลโภชนาการและออกกำลังกาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ก็เหมือนกับไขมันประเภทอื่นๆ หากคุณต้องการกำจัดเซลลูไลท์บริเวณต้นขา ก็ต้องเริ่มจากปรับโภชนาการให้สมดุล ด้วยการกินอาหารที่ช่วยกำจัดเซลล์ไขมัน
    • ไฟเบอร์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่พบได้จำนวนมากจากธัญพืชไม่ขัดสี ผลไม้ และผักที่มีใบประเภทต่างๆ สามารถปรับสมดุลให้แก่ร่างกายและชะล้างสารพิษออกจากร่างกาย ผ่านทางระบบลำไส้
    • โปรตีน ซึ่งพบได้มากในอาหารจำพวกเนื้อและถั่วต่างๆ สามารถช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เชื่อมประสานเซลล์ผิวและคอลลาเจน ซึ่งได้รับความเสียหาย ส่งผลให้ผิวหนังของคุณกลับมากระชับอีกครั้ง และทำให้ริ้วรอยบุ๋มต่างๆ บริเวณต้นขาลดลง โดยทั่วไปแล้ว แหล่งของสาอาหารอย่างลีนโปรตีน เช่น อาหารจำพวกปลา จะดีกว่าโปรตีนที่มีไขมันปนที่ได้จากการกินอาหารจำพวกเนื้อแดง
    • คุณควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ด้วย โดยเฉพาะที่มาจาก “อาหารขยะ” ต่างๆ เช่น พวกฟาสฟูดส์ที่ทอดในน้ำมัน มันฝรั่ง และพวกลูกอม เพราะอาหารขยะมักจะมีไขมันทรานส์สูง
  2. หากจะกำจัดเซลลูไลท์ คุณต้องผลาญไขมัน และหากจะผลาญไขมัน คุณต้องผลาญแคลอรี่ออกไปให้มากที่คุณบริโภค
    • เริ่มจากค้นหาน้ำหนักตัวที่เหมาะสมกับคุณเอง ด้วยการอ้างอิงจากค่าดัชนีมวลรวมของร่างกาย
    • หากคุณออกกำลังกาย 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ อย่างน้อยสักประมาณ 60 นาที ก็ต้องนำค่าดัชนีดังกล่าว มาคุณด้วย 15 แต่หากคุณไม่ออกกำลังกาย ก็คุณด้วย 13 และหากคุณออกกำลังกายวันหนึ่งชั่วโมงขึ้นไป ก็ให้คุณด้วย 20 ผลลัพธ์ที่ได้ จะเท่ากับจำนวนแคลอรีที่คุณควรบริโภคในแต่ละวัน [3]
    • นำตัวเลขผลรวมของจำนวนแคลอรีที่คุณบริโภคมาทั้งสัปดาห์ ลบด้วยจำนวนแคลอรีที่คุณตั้งเป้าเอาไว้ต่อวัน เพื่อค้นหาว่า คุณต้องปรับลดจำนวนแคลอรี่ออกจากโภชนาการเป็นจำนวนเท่าไร เพื่อลดน้ำหนักและไขมันในร่างกาย
  3. การดื่มน้ำมากขึ้น จะช่วยให้ร่างกายชะล้างสารพิษและไขมัน ส่งผลให้เซลลูไลท์ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายลดลง รวมถึงเซลลูไลท์ที่กระจุกอยู่บริเวณต้นขาด้วย
    • น้ำยังช่วยเสริมความแข็งแรงให้แก่คอลลาเจน และเนื้อเยื่อที่ประสานเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวคุณกระชับมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ริ้วรอยจากคอลลาเจนที่ปรากฏลดลง และทำให้ต้นขาของคุณดูเนียนมากขึ้น
    • คุณควรพยายามเพิ่มปริมาณน้ำที่ดื่มเข้าไปในแต่ละวัน ปริมาณที่ดีที่สุดสำหรับร่างกายคนเรา คือ ประมาณ 8 ออนซ์ (250 มล.) แก้วต่อวัน พยายามดื่มให้ได้ตามปริมาณนี้ หากปกติคุณดื่มไม่ถึง แต่หากคุณดื่มเท่านี้เป็นปกติอยู่แล้ว ก็ลองเพิ่มอีกสัก 1-2 แก้วต่อวัน
  4. การเดิน หรือการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอในรูปแบบใดก็ตาม ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน การออกกำลังแบบคาร์ดิโอจะช่วยให้ระบบไหลเวียนดีขึ้น ส่งผลให้ร่างกายคุณผลาญไขมันได้มากขึ้นด้วย
    • ตัวอย่างการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอทั่วๆ ไป ก็คือ วิ่งจ๊อกกิ้ง ว่ายน้ำ และกระโดดเชือก
    • พยายามสอดแทรกการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเข้าไป สักประมาณสองสามครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้เกิดผลดีที่สุด
    • หากคุณวางแผนที่จะเดินผลาญเซลลูไลท์ที่ต้นขา พยายามเดินสัก 45-60 นาที หกวันต่อสัปดาห์ เหลือไว้วันหนึ่งให้ตัวเองได้พักบ้าง และควรเดินด้วยจังหวะทะมัดทะแมง แต่กะความเร็วให้พอเหมาะสมกับตัวเองด้วย เดินไปเรื่อยๆ ด้วยศีรษะที่เชิดและไหล่ผึ่งผาย และควรชะลอความเร็วลง หากรู้สึกเจ็บขา หรือรู้สึกเริ่มเวียนหัวและหายใจไม่ค่อยทัน
  5. นอกเหนือจากการออกกำลังกาย ซึ่งช่วยให้เลือดลมสูบฉีดแล้ว การบริหารกายในท่าที่เล่นกล้ามต้นขา สามารถช่วยให้ช่วงขาของคุณกระชับ และลดการปรากฏของไขมันที่กระจุกรวมกันอยู่ในบริเวณนั้น
    • การเล่นกล้ามหรือยกน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพ ควรเน้นไปที่ต้นขาและร่างกายช่วงล่างโดยรวม ซึ่งมีหลากหลายท่าทางที่ควรลองทำ แต่เราจะหยิบยกมาแนะนำกันเล็กน้อยเท่านั้น
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 6:

ท่าบริหารกายแบบเฉพาะ - ท่ายกต้นขา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. [4] คุณควรนอนให้หน้าท้องราบติดพื้น เริ่มยกขาขึ้น ให้สูงในระดับเหนือหัวเข่าเล็กน้อย เพื่อให้เท้าอยู่เหนือพื้นประมาณ 4 นิ้ว (10 ซม.)
    • ศีรษะและลำคอของคุณ ไม่ควรราบติดพื้น แต่ก็ไม่ควรฝืนเงยมาด้านหลังมากเกินไป ประคองระดับศีรษะให้ยกขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น และยังคงทำมุมคว่ำลงกับพื้นอยู่เสมอ จากนั้น ให้ยกมือกอดอกเอาไว้ตลอดเวลาด้วย
  2. พยายามงอหัวเข่าช้าๆ ในขณะที่มันยังอยู่เหนือพื้นตลอด ค้างในท่าดังกล่าวไว้ประมาณ 5 วินาทีก็พอ ในช่วงเริ่มแรก
    • สุดท้าย คุณควรพยายามค้างอยู่ในท่าดังกล่าวสักประมาณ 15 วินาที
    • หัวเข่าไม่ต้องถึงกับทำมุมตั้งฉากตรงกับพื้น
  3. ค่อยๆ กางหัวเข่าของคุณ และเหยียดขาตรงออกไป ปิดท้ายด้วยการลดขาที่กำลังเหยียดตรง วางลงกับพื้น
    • ควรทำซ้ำประมาณ 10 ครั้งในแต่ละรอบหรือต่อวัน
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 6:

ท่าบริหารกายแบบเฉพาะ - ท่าม้าดีด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หน้าแขนของคุณควรราบไปกับพื้น และให้คางเกือบแนบชิดกับพื้นด้วยเช่นกัน
    • ปล่อยศีรษะ ลำคอ และหลังของคุณตามธรรมชาติ บริเวณดังกล่าวควรจะยืดออกโดยไม่ต้องเกร็ง และแผ่นหลังของคุณควรทำมุมเอียงลงเล็กน้อยไปทางลำตัวด้านหน้า
  2. คุณควรลองยกขึ้นมาให้ทำมุมประมาณ 45 องศา หัวเข่าควรงอพับ และส้นเท้าแหงนขึ้นด้านบน
    • ประคองหลังให้ตรงตลอดเวลาที่ยกขาขึ้น
    • ค้างไว้ในท่านี้ประมาณ 5 วินาที
  3. ลดระดับขาลงมาช้าๆ ในท่าเริ่มต้น เมื่อลงมาแล้ว ก็ยกขาซ้ายอีกครั้งในรูปแบบเดิม
    • ท่าบริหารกายแบบนี้ ควรทำซ้ำข้างละอย่างน้อย 5 ครั้งต่อหนึ่งรอบหรือต่อวัน
  4. เมื่อเสร็จจากการบริหารขาซ้ายครบตามจำนวนแล้ว ก็ทำซ้ำในรูปแบบเดิมด้วยขาขวาบ้าง
    • การบริหารขาข้างขวา ควรทำให้จำนวนครั้งเท่ากับขาข้างซ้าย
    โฆษณา
ส่วน 5
ส่วน 5 ของ 6:

ท่าบริหารกายแบบเฉพาะ – นั่งบนต้นขา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณควรยืนตรง ให้ส้นเท้าอยู่ห่างจากกำแพงประมาณ 12 นิ้ว (30.5 ซม.)
    • เท้าของคุณก็ควรกางออกเท่าช่วงของหัวไหล่
  2. ค่อยๆ หย่อนตัวลงไปทางด้านหลัง จนกว่าจะติดกำแพง ท่าทางดังกล่าวของคุณ ควรจะเหมือนกับเวลาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้
    • พูดอีกอย่างก็คือ แนวต้นขาของคุณ ควรขนานไปกับพื้น
  3. ประคองท่านั่งดังกล่าวเอาไว้ ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน. ค้างท่านั่งดังกล่าวเอาไว้ประมาณ 30 - 120 วินาที เสร็จแล้ว ค่อยๆ เคลื่อนตัวขึ้นกลับมายืนตามเดิม เหมือนตอนเริ่มต้น
    • คุณอาจจำเป็นต้องใช้แขนช่วยทรงตัว ขณะที่กำลังจะกลับมาอยู่ในท่ายืน
    โฆษณา
ส่วน 6
ส่วน 6 ของ 6:

ใช้วิธีการแพทย์ช่วย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การบำบัดด้วยเลเซอร์ จะทำให้ไขมันแตกตัวออกเหลว และถูกขับออกไปทางระบบน้ำเหลือง ที่ซึ่งมันจะถูกกำจัดออกจากร่างกาย
    • ข้อสังเกต คือ ผลลัพธ์มักต่างกันไปในแต่ละราย แต่โดยทั่วไปแล้ว มันช่วยได้ไม่มากและเห็นผลเพียงชั่วคราวเท่านั้น
    • การรักษาด้วยเลเซอร์ สามารถช่วยลดปริมาณไขมันใต้ผิวหนังของคุณ จึงส่งผลให้ผิวบริเวณดังกล่าวเฟิร์มมากขึ้น แต่การรักษาเช่นนี้ต้องไปทำซ้ำอีกทุกๆ สองสามเดือน เพื่อให้ดูดีอยู่เสมอ
  2. การรักษาเช่นนี้อาจมีการนำมาใช้ขจัดเซลลูไลท์ในบางกรณี แต่การรักษาแนวศัลยกรรมที่ราคาแพงเช่นนี้ ก็อาจทำให้ปัญหาแย่ลง แทนที่จะดีขึ้น
    • แท่งดูดไขมัน มักจะดูดเอาชั้นไขมันที่อยู่ลึก ซึ่งไขมันอันเชื่อมต่อกับเซลลูไลท์นั้น จะอยู่ลงไปใต้ชั้นผิวเท่านั้น ดังนั้น เมื่อชั้นไขมันที่อยู่ลึกถูกดูดออก ผิวหนังและไขมันที่อยู่ใต้บริเวณดังกล่าว ก็จะขาด “ตัวซึมซับ” ในการรองรับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับรอยเซลลูไลท์ที่ปรากฏให้เห็น จึงอาจทำให้เกิดร่องรอยน่าเกลียดกว่าเดิมขึ้นมาได้ [5]
  3. หากคุณยังคงกังวลเกี่ยวกับเซลลูไลท์บริเวณต้นขาด้านหลัง ก็อาจลองนัดแนะพูดคุยกับแพทย์ของคุณ เพื่อหาทางเลือกอื่นๆ ในการกำจัดมัน
    • แพทย์ของคุณอาจจะแนะนำเกี่ยวกับการผ่าตัดศัลยกรรมร่วมด้วย แต่โดยทั่วไปแล้ว เขาหรือเธอมักจะแนะนำทางเลือกแบบธรรมชาติ หรือการใช้ยาทั่วไปในการช่วยคุณกำจัดเซลลูไลท์ดังกล่าว การพูดคุยกับแพทย์จึงเป็นทางเลือกที่ดี ในกรณีที่คุณกำลังสับสน หรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการปรับโภชนาการ ตารางออกกำลังกาย และการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยให้ปัญหาในเรื่องร่องรอยอันโหดร้ายของเซลลูไลท์ลดลง
    โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • สบู่นวดตัว
  • ครีมขัดนวด ทำเองหรือซื้อมาก็ได้
  • ครีมหรือเซรั่มขจัดเซลลูไลท์
  • ครีมทำผิวสีแทน

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 23,576 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา