ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ไข่ต้มเหมาะจะนำมาทำเป็นอาหารหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นไข่ปีศาจ สลัดไข่ หรือแม้แต่กินเปล่า ๆ เป็นของว่างที่อยู่ท้องและอุดมไปด้วยโปรตีน อย่างไรก็ตาม หากคุณต้มไข่ทีไรแล้วไข่ก็แตก แถมไข่แดงยังสีเขียว ๆ คล้ำ ๆ อีกต่างหาก แสดงว่าคุณกำลังต้มไข่ผิดวิธีอยู่นะ โชคดีที่มีวิธีต้มไข่ให้ออกมาอร่อยเหาะทุกครั้งหลายวิธีเลย แล้วที่ดียิ่งกว่านั้นก็คือ คุณสามารถเรียนรู้ขั้นตอนง่าย ๆ เหล่าในภายในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง!
ขั้นตอน
-
แยกไข่แล้วนำมาใส่ในหม้อหรือกระทะ. วางไข่ลงเบา ๆ ในหม้อที่ก้นหนา ให้วางไข่ซ้อนกันอย่างเบามือเพื่อที่ไข่จะได้ไม่แตก และอย่าวางไข่ซ้อนกันเกิน 4 ฟอง [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าไข่สดหรือไม่ ให้ทดสอบโดยการเอาไข่ใส่ชามน้ำเกลือ ถ้าไข่จมลงไปที่ก้นชามแปลว่าไข่สด ถ้าไข่ลอย ให้ทิ้งไปซะ
- จะพับผ้าขาวบางวางไว้ที่ก้นหม้อเพื่อเป็นเบาะรองป้องกันไม่ให้ไข่ร้าวระหว่างต้มก็ได้ แต่ขั้นตอนนี้ไม่จำเป็นหรอกนะ
-
เติมน้ำก๊อกเย็นใส่หม้อ. เทน้ำใส่หม้อให้ท่วมไข่ขึ้นมาอย่างน้อย 3 ซม. (1 นิ้ว) แล้วเติมเกลือซักหยิบมือ คุณจะใช้มือจับไข่ระหว่างเติมน้ำก็ได้เพื่อป้องกันไม่ให้ไข่แตก หรืออีกวิธีคือให้เปิดน้ำให้ไหลลงตรงขอบหม้อ
-
นำหม้อตั้งไฟปานกลาง. ปิดฝาหม้อ รอให้น้ำเดือดอ่อน ๆ น้ำจะเดือดเร็วขึ้นถ้ามีฝาปิดหม้อ แต่ถ้าคุณอยากเห็นไข่ชัด ๆ จะไม่ปิดฝาก็ได้
- คุณจะคนไข่เบา ๆ เป็นครั้งคราวก็ได้เพื่อให้ไข่ไม่ติดอยู่ที่ก้นหม้อ ไม่อย่างนั้นไข่จะสุกอย่างไม่ทั่วถึงและแตกง่าย ให้ใช้ไม้พายคนและต้องมือเบามาก ๆ
-
ปิดไฟเมื่อน้ำเดือด. เมื่อน้ำเดือดปุด ๆ แล้ว ให้ปิดไฟทันที ปิดฝาหม้อทิ้งไว้ ความร้อนในน้ำแล้วความอุ่นที่หลงเหลืออยู่จากเตาจะทำให้ไข่สุกได้เอง คุณสามารถปล่อยไข่ไว้แบบนี้ได้ตั้งแต่ 3-20 นาที ขึ้นอยู่กับว่าชอบไข่ต้มแข็งแค่ไหน:
- ถ้าคุณชอบไข่ลวก ให้เอาไข่ออกจากน้ำภายใน 3 นาทีหรือน้อยกว่านั้น ไข่ขาวควรจะพอแข็งตัว ในขณะที่ไข่แดงยังเหลวและอุ่นอยู่ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณชอบไข่ต้มยางมะตูม ให้เอาไข่ออกจากน้ำภายใน 5-7 นาที ไข่แดงควรจะนิ่มนิดหน่อยตรงกลางและไข่ขาวแข็งตัวทั้งหมด
- ถ้าคุณชอบไข่ต้มสุก ให้ปล่อยไข่ไว้ในน้ำร้อน 10-15 นาที ไข่แดงควรจะแข็งหมด เป็นเรื่องยากที่จะต้มไข่ให้สุกเกินไป
-
แช่ไข่เพื่อให้ไข่หยุดสุก. เมื่อรอให้ไข่สุกเสร็จแล้ว ให้เทน้ำออกจากหม้ออย่างเบามือ จากนั้นตักไข่ขึ้นมาทีละฟองด้วยกระบวยมีรู เปิดน้ำก๊อกเย็นราดไข่หรือเอาไข่ใส่ชามน้ำและน้ำแข็งก็ได้เพื่อลดอุณหภูมิไข่อย่างรวดเร็ว ทิ้งไข่ไว้ในน้ำเย็นประมาณ 5 นาที
- เมื่อไข่เย็นลงจนถือไว้ในมือได้แล้ว ให้เอาไข่ไปแช่ตู้เย็น 20-30 นาทีเพื่อให้เปลือกร่อน
- ถ้าคุณไม่ใส่ใจว่าไข่ที่ปอกเปลือกแล้วจะต้องดูดี จะข้ามขั้นตอนการแช่ตู้เย็นและปอกเปลือกไข่เลยก็ได้หลังแช่น้ำเย็น
- วิธีทดสอบว่าไข่ต้มสุกหรือไม่โดยไม่ต้องปอกเปลือกคือให้จับไข่หมุนบนโต๊ะ ถ้าไข่หมุนได้เร็วและง่าย แสดงว่าไข่ต้มสุกแล้ว ถ้าไข่โคลงเคลงไปมา แสดงว่าต้องต้มต่ออีกซักหน่อย
-
ปอกเปลือกไข่เมื่อจะกิน. วางไข่ลงบนพื้นผิวที่เรียบและสะอาด จากนั้นใช้มือกดไข่ คลึงไปมาเพื่อให้เปลือกไข่แตก เริ่มปอกเปลือกจากด้านที่อ้วนกว่าของไข่ก่อน เพราะตรงนั้นจะมีช่องว่างเล็ก ๆ ภายใต้เปลือก ทำให้ปอกได้ง่าย เปิดน้ำเย็นล้างไข่ขณะที่ปอกไปด้วย เปลือกไข่และเยื่อหุ้มไข่จะได้ไม่ติดอยู่ที่ไข่
- คำแนะนำในการปอกเปลือกอย่างรวดเร็ว: วางไข่ทั้งหมดใส่ในหม้อที่ใช้ต้มไข่ ปิดฝาหม้อแล้วเขย่าหม้อไปมาเพื่อกะเทาะเปลือกไข่ทุกใบพร้อมกัน
-
แช่ไข่ใส่ในตู้เย็นได้นานถึง 5 วัน. หลังจากปอกเปลือกไข่แล้วก็กินได้เลย สำหรับไข่ที่ยังไม่ได้กิน คุณจะเก็บไว้ในชามแล้วหาจานมาปิด หรือใส่ภาชนะที่มิดชิดก็ได้ ไม่ว่าจะเลือกวิธีไหนก็ให้ใช้กระดาษชำระอเนกประสงค์ที่เปียกน้ำคลุมไข่เอาไว้ และเปลี่ยนกระดาษทุกวันเพื่อป้องกันไม่ให้ไข่แห้ง [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ให้กินไข่ภายใน 4-5 วัน
- คุณจะเก็บไข่ไว้ในน้ำเย็นก็ได้ ให้เปลี่ยนน้ำทุกวันเพื่อป้องกันไม่ให้ไข่สลายตัว
- จะเก็บไข่ต้มสุกไว้หลายวันทั้งที่ยังไม่ได้ปอกเปลือกก็ได้ แต่ไข่มักจะแห้งและเหนียวขึ้น ทางที่ดีควรปอกเปลือกไข่และเก็บไข่ให้ชื้นด้วยน้ำหรือกระดาษชำระอเนกประสงค์ไว้ในตู้เย็นมากกว่า
โฆษณา
-
ต้มน้ำให้เดือดในชามที่ใส่ไมโครเวฟได้. ปกติแล้วไมโครเวฟใช้ต้มไข่ ไม่ ดีเท่าเตาหรอก แต่ถ้ามีความอดทนหน่อยก็ใช้ได้ง่ายเลย สำหรับวิธีนี้ คุณจะต้องต้มน้ำในไมโครเวฟ โดยที่ยังไม่มีไข่ ก่อน ลองอ่านคำแนะนำของเราเรื่องการต้มน้ำในไมโครเวฟอย่างปลอดภัยเพื่อให้ได้ข้อมูลที่สำคัญดูสิ
- ขอย้ำ: อย่าให้ความร้อนแก่ไข่ที่ยังไม่ตีในไมโครเวฟ ถึงแม้ไข่จะไม่อยู่ในเปลือกแล้ว แรงดันในไข่แดงก็อาจจะทำให้ไข่ระเบิดได้ และทำให้ไมโครเวฟเสียหาย [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เอาชามออกจากไมโครเวฟและใส่ไข่ลงไปอย่างระมัดระวัง. ให้ใช้ผ้าขนหนูหรือถุงมือจับของร้อนหยิบชามออกจากไมโครเวฟ ใช้กระบวยมีรูหย่อนไข่ใส่ชามทีละฟอง เช็คให้แน่นะว่าน้ำท่วมไข่ทุกฟองจนมิด
- อย่าหย่อนไข่ลงน้ำโดยตรง เพราะนอกจากไข่อาจจะแตกเมื่อกระทบก้นชามได้แล้ว อาจจะทำให้น้ำร้อนกระเด็นด้วยก็ได้
-
ปิดฝาชามและปล่อยทิ้งไว้. เมื่อหย่อนไข่ลงน้ำหมดแล้ว ให้หาฝาหรือจานมาปิดปากชามและปล่อยทิ้งเอาไว้ - ความร้อนจากน้ำจะทำให้ไข่สุกเอง เวลาต้มไข่ของคุณจะขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากให้ไข่ต้มแข็งแค่ไหน โดยทั่วไปแล้วคุณควรต้องให้เวลาไข่สุกนานกว่าเวลาต้มบนเตาเล็กน้อย เพราะว่าไข่ไม่ได้มีโอกาสสุกระหว่างที่น้ำกำลังเดือด
- ถ้าคุณชอบไข่ลวก ให้ปล่อยไว้ 10 นาทีหรือต่ำกว่า [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ไข่แดงควรจะยังค่อนข้างเหลวอยู่
- ถ้าคุณชอบไข่ต้มยางมะตูม ให้ปล่อยไว้ประมาณ 15 นาที [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ไข่แดงควรจะนิ่มเล็กน้อยและไข่ขาวแข็ง
- ถ้าคุณชอบไข่ต้มสุก ให้ปล่อยไว้ 20 นาทีหรือมากกว่า [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ทั้งไข่ขาวและไข่แดงควรจะแข็งทั้งหมด แต่ไม่เป็นสีเขียว ๆ เทา ๆ
-
เอาไข่ออกจากน้ำและแช่เย็นตามปกติ. หลังจากปล่อยไข่ทิ้งไว้ตามเวลาที่ต้องการแล้ว ให้ช้อนไข่ออกจากน้ำด้วยกระบวยมีรูหรือกระชอน หลังจากนี้กระบวนการก็เหมือนกับของไข่ที่ต้มบนเตาแล้ว ดังนี้:
- เทน้ำเย็นราดไข่หรือนำไข่ใส่ในชามน้ำผสมน้ำแข็งประมาณ 5 นาทีเพื่อให้ไข่เย็นตัวลง
- เมื่อไข่เย็นพอที่จะจับได้แล้ว จะกะเทาะและปอกเปลือกทันทีเลย หรือจะแช่ตู้เย็นก่อนให้ปอกเปลือกง่ายขึ้นก็ได้
- นำกระดาษชำระอเนกประสงค์ชุบน้ำมาคลุมไข่ หรือเอาไข่ใส่ชามน้ำ แล้วแช่ตู้เย็น ควรกินไข่ภายใน 4-5 วัน และเปลี่ยนน้ำหรือกระดาษทุกวัน
โฆษณา
แก้ปัญหาเฉพาะจุด
-
ถ้าไข่แดงมีสีเขียวอมเทา ให้ลดเวลาต้มลง. การต้มไข่นานเกินไปจะทำให้ไข่แดงมีวงแหวนสีเขียวอมเทาและมีกลิ่นเหมือนกำมะถัน ที่จริงแล้วสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นอันตรายหรอก และไข่ก็สามารถกินได้อย่างปลอดภัย แต่หากคุณรู้สึกว่ามันทำให้ไข่ไม่น่ากิน เพียงแค่ลดเวลาต้มไข่รอบหน้าก็แก้ปัญหาได้แล้ว
- วงแหวนสีเขียวเทาเกิดจากปฏิกิริยาที่ธาตุเหล็กภายในไข่แดงมีต่อไฮโดรเจนซัลไฟด์ในไข่ขาว [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ปฏิกิริยานี้จะเกิดขึ้นหลังจากไข่ทั้งฟองสุกแล้ว
- ความร้อนที่มากเกินไปก็มักจะทำให้โปรตีนในไข่จับตัวเป็นก้อนมากเกิน ซึ่งทำให้ไข่ขาวเหนียวและไข่แดงแห้งได้
-
ถ้าไข่เหลวเกินไป ให้ต้มนานขึ้น. ถ้าคุณใช้ความร้อนไม่พอเวลาต้มไข่ คุณอาจจะเจอปัญหาตรงกันข้ามกับปัญหาไข่แดงสีเขียวอมเทาด้านบน ไข่ที่ไม่ได้ต้มนานพออาจมีไข่แดงที่ไม่แข็งเท่าที่คุณต้องการ ไข่ที่ยังดิบอยู่มาก ๆ อาจจะมี ไข่ขาว ที่ยังไม่แข็งตัวด้วยซ้ำ ถ้าคุณสังเกตว่าไข่ฟองแรกที่นำมากะเทาะและปอกเปลือกยังดูไม่สุก ให้นำไข่ที่เหลือใส่กลับไปในน้ำร้อนและปล่อยทิ้งไว้ต่อ
- ไข่ที่สุกไม่พออาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อซาลโมเนลลาได้ องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาแนะนำให้ต้มไข่จนไข่แดงแข็ง หรือใช้ไข่ที่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ในฟองมาแล้ว [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อย่างที่กล่าวไว้ด้านบน คุณสามารถหมุนไข่บนพื้นผิวที่แข็งได้เพื่อทดสอบว่าไข่ต้มสุกหรือไม่ ถ้าไข่หมุนเป็นวงสม่ำเสมอ (เหมือนลูกข่าง) แสดงว่าไข่สุก ไข่ที่ยังสุกไม่พอหรือไข่ดิบจะหมุนโคลงเคลงหรือไม่ก็หมุนเอียงไปทางเดียว
-
นึ่งไข่สดก่อนจะได้ปอกเปลือกง่ายขึ้น. เยื่อหุ้มไข่ของไข่ที่อายุเพียง 1-2 วันจะยังติดอยู่กับเปลือก ทำให้ปอกเปลือกยาก [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ไข่ที่เหมาะจะนำมาต้มที่สุดคือไข่ที่อายุประมาณ 7-10 วัน ถ้าคุณจำเป็นต้องต้มไข่สดมาก ๆ ให้ลองนึ่งไข่ก่อนเพื่อช่วยแยกเยื่อหุ้มไข่ออกจากเปลือก:
- ใส่ไข่ลงในกระชอนโลหะแล้ววางกระชอนลงบนหม้อ ต้มน้ำซัก 1 นิ้วในหม้อเป็นเวลาประมาณ 10 นาที และคอยกลับไข่ไปเรื่อย ๆ หลังจากนั้นให้ต้มไข่ตามปกติ [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- บางคนชอบใส่เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชาในน้ำที่ใช้ต้มไข่ที่สดมาก ๆ แต่วิธีการนี้อาจทำให้ไข่มีรสกำมะถันได้
-
กะเทาะเปลือกไข่ที่ปอกยากแล้วนำไปแช่น้ำ. ถ้าคุณสังเกตว่าไข่ขาวติดมากับเปลือกไข่ที่กำลังปอกอยู่ ให้คลึงไข่ไปมาเพื่อให้เปลือกร้าวเยอะ ๆ จากนั้นนำไข่ไปใส่ในชามน้ำเย็นไว้ 5-10 นาที นี่จะช่วยทำให้เปลือกคลายตัวและเยื่อหุ้มไข่ไม่ติดกับไข่ ทำให้ปอกได้ง่ายขึ้น
-
เติมน้ำส้มสายชูถ้าไข่แตกในน้ำ. นี่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วไป โดยเฉพาะกับไข่ที่เย็นมาก ๆ ถ้าคุณเห็นว่ามีไข่แตก ให้เติมน้ำส้มสายชู 1 ช้อนชาลงไปในน้ำเพื่อทำให้โปรตีนในไข่ขาวจับตัวกันเร็วขึ้นและอุดรูรั่วในเปลือกไข่ [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง พยายามเติมน้ำส้มสายชูเร็ว ๆ นะ เพราะถ้าเติมทันทีที่เห็นรอยแตก ไข่ก็จะยังต้มสุกอย่างสม่ำเสมอได้
- คุณอาจจะเห็นน้ำขาว ๆ ซึมออกมาจากไข่ที่แตก ถ้าเติมน้ำส้มสายชูไม่ทันก็อย่ากังวล ไข่น่าจะยังต้มสุกได้เหมือนปกติ แค่จะหน้าตาแปลก ๆ หน่อยเท่านั้น
โฆษณา
เคล็ดลับ
- การใช้ช้อนชาเวลาปอกเปลือกไข่จะช่วยให้ไข่ขาวไม่แตกได้ ให้แกะเปลือกกับเยื่อหุ้มไข่ชิ้นเล็ก ๆ จากไข่ด้านมน สอดช้อนเข้าไปใต้เปลือกและเยื่อ ให้ช้อนอุ้มไข่ไว้ จากนั้นเลื่อนช้อนไปรอบ ๆ ไข่และปอกเปลือกแต่ละส่วนออก
- เวลาต้มไข่ ให้เช็คให้แน่ก่อนว่าน้ำเดือดแน่แล้ว สำหรับไข่ฟองใหญ่ให้ต้ม 12 นาที และไข่ฟองใหญ่เป็นพิเศษ ให้ต้ม 15 นาที
- ถ้าใช้ไข่ที่เปลือกสีขาว ให้ใส่เปลือกหัวหอม (ส่วนที่แห้ง ๆ สีน้ำตาล) ลงน้ำขณะต้มไปด้วย เปลือกหอมจะทำให้เปลือกไข่กลายเป็นสีน้ำตาล คุณจะได้แยกออกว่าไข่ฟองไหนต้มสุกแล้วและไข่ฟองไหนยังไม่ได้ต้ม
- ถ้าคุณจะนำไข่ต้มมาหั่นครึ่ง ทางที่ดีควรใช้ไข่ที่สดที่สุดเท่าที่จะหาได้ เพราะไข่สดมักจะมีไข่แดงที่อยู่ตรงกลางฟอง และมีแนวโน้มต่ำกว่าที่จะกลายเป็นสีเขียว ๆ เทา ๆ [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Harold McGee. On Food and Cooking: The Science and Lore of the Kitchen. ISBN 0684800012 ลองใช้เคล็ดลับด้านบนเพื่อปอกเปลือกไข่สดดู
- ไข่ต้มนำไปทำอาหารได้หลายอย่างเลย เช่นไข่ปีศาจ สลัดไข่ เบอร์ริโตอาหารเช้า สลัดนิซัวส์ และอีกมากมาย!
- การคนไข่ 2-3 ครั้งระหว่างที่น้ำกำลังเริ่มเดือดจะช่วยทำให้ไข่แดงอยู่ตรงกลางฟองและช่วยให้ไข่สุกอย่างทั่วถึง
- ถ้าคุณเติมเบกกิ้งโซดาลงในน้ำเดือด หลังจากต้มเสร็จแล้วให้เอาไข่มากะเทาะเปลือกที่ปลายทั้ง 2 ข้าง เอาปากแนบปลายข้างที่แหลมกว่าแล้วเป่าลม อาจจะต้องลองหลายครั้ง แต่ในที่สุดไข่จะหลุดออกมาจากรูอีกฝั่ง!
- ถ้าปล่อยให้อุณหภูมิไข่เท่ากับอุณหภูมิห้องก่อนนำไปต้มจะช่วยป้องกันไม่ให้ไข่แดงกลายเป็นสีเขียวและทำให้ไข่ไม่แตก [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- บางคนแนะนำให้เอาเข็มมาเจาะรูไข่ฝั่งที่มนก่อนต้ม เพื่อที่อากาศที่ขยายตัวจะได้มีทางออก และลดโอกาสที่ไข่จะแตก [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง อย่างไรก็ตาม การวิจัยพบว่านี่ไม่ใช่วิธีที่พึ่งได้เสมอไป [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Harold McGee. On Food and Cooking: The Science and Lore of the Kitchen. ISBN 0684800012
โฆษณา
คำเตือน
- อย่าเอาไข่เปล่า ๆ ใส่ไมโครเวฟ - ไข่อาจระเบิดได้ ทางที่ดีให้ต้มน้ำในไมโครเวฟ แล้วค่อย ใส่ไข่ลงในน้ำและปล่อยให้ไข่สุกนอกไมโครเวฟ คุณยังสามารถทำไข่ดาวน้ำโดยใช้ไมโครเวฟด้วยวิธีนี้ได้ด้วย
- ระวังตัวให้ดีเวลาทำอาหารที่ต้องใช้น้ำเดือด ปกป้องมือและหน้าของคุณเพื่อไม่ให้โดนน้ำร้อนลวก
- การใช้น้ำส้มสายชูมากเกินไปจะทำให้ไข่มีกลิ่นเหม็นและรสเปรี้ยวเหมือนน้ำส้มสายชู
- อย่าใช้ไข่ที่มีรอยแตก เพราะอาจมีเชื้อแบคทีเรียได้ [19] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://khymos.org/eggs.php
- ↑ http://www.simplyrecipes.com/recipes/how_to_make_perfect_hard_boiled_eggs/
- ↑ https://www.exploratorium.edu/cooking/eggs/explore-text.html
- ↑ http://www.thekitchn.com/how-to-soft-boil-an-egg-cooking-lessons-from-the-kitchn-138819
- ↑ http://whatscookingamerica.net/Q-A/eggs2.htm
- ↑ http://whatscookingamerica.net/Eggs/MicrowaveEggs.htm
- ↑ http://coolate.com/eggs/
- ↑ http://coolate.com/eggs/
- ↑ http://coolate.com/eggs/
- ↑ http://www.chow.com/food-news/54897/why-do-hard-boiled-eggs-turn-green/
- ↑ http://www.chow.com/food-news/54897/why-do-hard-boiled-eggs-turn-green/
- ↑ http://www.edinformatics.com/math_science/science_of_cooking/boiled_eggs.htm
- ↑ http://www.theprairiehomestead.com/2014/04/the-easy-way-to-peel-farm-fresh-hard-boiled-eggs.html
- ↑ http://www.edinformatics.com/math_science/science_of_cooking/boiled_eggs.htm
- ↑ Harold McGee. On Food and Cooking: The Science and Lore of the Kitchen. ISBN 0684800012
- ↑ http://www.edinformatics.com/math_science/science_of_cooking/boiled_eggs.htm
- ↑ http://khymos.org/eggs.php
- ↑ Harold McGee. On Food and Cooking: The Science and Lore of the Kitchen. ISBN 0684800012
- ↑ http://lancaster.unl.edu/food/ciq-egg-safety.shtml
โฆษณา