ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

อโวคาโดเพิ่งมาส่งใช่ไหม อยากรีบทำซอสกัวคาโมเล่หรือเปล่า อโวคาโคดิบคงต้องรีบบ่มให้สุกไวๆ ด้วยวิธีต่อไปนี้แล้วล่ะ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

บ่มอโวคาโดที่ยังไม่หั่น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โดยเราจะใช้ถุงนี้แหละเก็บก๊าซเอธิลีนที่จะช่วยบ่มผลอโวคาโดของเราให้สุก [1] แต่ดูให้แน่ใจด้วยนะว่าถุงไม่มีรู!
    • ถุงกระดาษเป็นเครื่องมือในการเก็บก๊าซอย่างหนึ่งเท่านั้น หากคุณคิดเครื่องมืออื่นที่สามารถจับอากาศในลักษณะเดียวกันนี้ได้ก็เยี่ยมไปเลย! เพราะวิธีนั้นก็ใช้ได้เหมือนกัน คุณยายของคุณอาจบอกให้เก็บอโวคาโดในกล่อง แต่คุณสามารถเลือกใช้ถุงแมคโดนัลด์
  2. Watermark wikiHow to บ่มอโวคาโดให้สุก
    กล้วยดีที่สุด แต่ผลไม้ชนิดอื่นก็ใช้ได้เหมือนกัน บางคนชอบใช้แอปเปิลเพราะมันนำมาใช้ได้อีกเรื่อยๆ แม้กระทั่งเมื่อมันเริ่มสุกจัดจนเหี่ยว มันก็ยังปล่อยก๊าซออกมา [2] หากคุณไม่มีผลไม้พวกนี้เลย นอกจากอโวคาโดแค่ผลหรือสองผล ก็นำผลอโวคาโดเนี่ยแหละใส่ถุงกระดาษรวมกันไปเลย
    • ผลไม้ข้างต้นปล่อยก๊าซเอธิลีนมากกว่าผลไม้ชนิดอื่น และยิ่งผลไม้เหล่านี้ผลิตก๊าซเอธิลีนได้มากเท่าไร พวกมันก็จะสุกเร็วยิ่งขึ้นเท่านั้น [3]
  3. Watermark wikiHow to บ่มอโวคาโดให้สุก
    เก็บให้พ้นแสงแดด จะดีที่สุดถ้าเก็บไว้ที่อุณหภูมิประมาณ 18-24 องศาเซลเซียส (หรือ 65-75 องศาฟาเรนไฮต์) หากคุณไม่ได้ใส่ผลไม้พิเศษพวกกล้วย แอปเปิล หรือมะเขือเทศลงในถุงล่ะก็ จะต้องใช้เวลา 2-5 วันในการบ่มผลไม้ [4]
  4. Watermark wikiHow to บ่มอโวคาโดให้สุก
    ผลไม้พิเศษที่กล่าวไปข้างต้นจะช่วยเร่งกระบวนการบ่มอย่างมาก และควรจะสุกภายใน 1-3 วัน [5] อโวคาโอของคุณจะพร้อมก็ต่อเมื่อเปลือกมันหลุดลอกออกได้ง่าย ลองจับอโวคาโอเพื่อดูว่าเปลือกลอกหน่อยๆ แล้วหรือยัง เพราะบางครั้งอาจจะยากสักหน่อยหากคุณดูแค่ที่สีเปลือก
    • อโวคาโดดิบผลจะสวยและมีสีเขียว เมื่อสุก ผลจะเริ่มมีสีม่วงๆ ดำๆ [6] (ตอนนั้นแหละที่คุณจะใช้อโวคาโดได้ในอีกราวๆ 2 วัน) เมื่ออโวคาโดพร้อมสำหรับอาหารมื้อต่อไปของคุณ มันจะมีเขียวหรือสีน้ำตาลเข้ม ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นสีดำออกม่วงต่างหากล่ะ [4]
      • เมื่อสุก อโวคาโดจะเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 2-3 วัน เพราะยิ่งเก็บไว้นานเท่าไร รสชาติก็จะเสียไปมากเท่านั้น
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

บ่มอโวคาโดที่หั่นแล้ว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to บ่มอโวคาโดให้สุก
    เพราะตอนนี้ผลอโวคาโดถูกเปิดออกและอ่อนแอ เราจึงต้องใช้สิ่งที่มีรสเปรี้ยวอย่างน้ำมะนาวในการป้องกันไม่ให้อโวคาโดเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและเละจนเกินไป [7] เพราะคุณต้องการให้มันสุก ไม่ใช่ให้มันเน่า
  2. Watermark wikiHow to บ่มอโวคาโดให้สุก
    โดยประกบอโวคาโดสองส่วนกลับเข้าหากันและห่อด้วยพลาสติกห่ออาหารให้เหมือนกับว่ามันยังไม่ได้ผ่าแยกจากกัน จากนั้นนำไปไว้ในตู้เย็น
    • หากคุณไม่มีพลาสติกห่ออาหาร ให้ใช้กล่องใส่อาหารสุญญากาศ
  3. ระยะเวลาที่อโวคาโดใช้เพื่อให้สุกทั่วทั้งผลขึ้นอยู่กับว่าอโวคาโดอยู่ในกระบวนการบ่มขั้นนี้นานแค่ไหน นำมันออกมาและลองจิ้มอโวคาโดดู หากมันนิ่มและหน้าตาน่าจะทานได้แล้ว ก็ลองชิม แต่ถ้าชิมแล้วยังคิดว่าไม่สุกเท่าที่ควร ก็นำอโวคาโดกลับไปบ่มต่อ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

เก็บรักษาและใช้อโวคาโด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เก็บรักษาอโวคาโดดิบที่ยังไม่ได้หั่นไว้ที่อุณหภูมิห้อง. ห้ามนำไปเก็บไว้ในตู้เย็นโดยเด็ดขาด เพราะอโวคาโดจะไม่มีวันสุกในอุณหภูมิต่ำๆ แน่ [8] และหากคุณไม่ทำอะไรกับมันเลย (นอกจากวางมันทิ้งไว้บนเคาท์เตอร์) อโวคาโดของคุณอาจจะใช้เวลาถึง 6 วันกว่าจะสุก
  2. Watermark wikiHow to บ่มอโวคาโดให้สุก
    ส่วนอโวคาโดที่ผ่านการตัด เฉือน หรือบด ให้พรมด้วยน้ำมะนาว. แม้แต่อโวคาโดที่กลายเป็นซอสกัวคาโมเล่แล้ว ก็ให้หยดน้ำมะนาว หรือน้ำส้ม (ที่ยังสดๆ อยู่) บนอโวคาโดเล็กน้อย เพราะกรดซึ่งมีรสเปรี้ยวจะช่วยชะลอกระบวนการที่จะเปลี่ยนสีอโวคาโดให้กลายเป็นสีน้ำตาล (หรือกระบวนการออกซิเดชั่น) และช่วยยืดอายุอโวคาโดของคุณอีกด้วย
    • หากเห็นว่าอโวคาโดเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล อย่าเพิ่งโยนทิ้งทั้งลูกนะ แค่ตักตรงส่วนที่เป็นสีน้ำตาลออกและใช้ส่วนที่เหลือก่อนที่จะกลายเป็นสีน้ำตาลไปด้วย
    • ถ้าอโวคาโดที่หั่นครึ่งและไม่ได้ถูกสับหรือบด คุณสามารถเลี่ยงไม่ใส่มะนาวโดยการเปิดน้ำให้ไหลผ่านหน้าที่ตัดแล้วเอาไปแช่เย็น มันจะดูแย่กว่าใช้น้ำมะนาวอยู่บ้าง แต่ก็แค่เปลือกนอกที่ยังเก็บความสดของเนื้อในให้ยาวนานขึ้น ผิวน้ำตาลบางๆ นี้ลอกออกได้ง่าย แล้วคุณก็จะได้อโวคาโดสดใหม่เลย
  3. Watermark wikiHow to บ่มอโวคาโดให้สุก
    หากอโวคาโดท่าจะแย่ลงเรื่อยๆ ก็ให้แปรรูปอโวคาโดเป็นพูเรไปเลย ก่อนที่จะนำไปแช่แข็ง. หากอโวคาโดบ่มได้ที่เสียแล้ว แต่คุณไม่มีเวลาจะนำมาทำอาหาร ให้ลองทำพูเรที่ได้จากการใช้อโวคาโดสุกโดยบดให้ละเอียด จากนั้นจึงนำไปไว้ในช่องแช่แข็ง แต่ไม่ควรแช่แข็งทั้งหมด เพราะรสชาติจะไม่กลมกล่อม คุณสามารถนำอโวคาโดมาจิ้ม ทาบนขนมปัง และทานด้วยอื่นๆได้
    • เห็นได้ชัดว่าอโวคาโดจะดีที่สุดเมื่อไม่ได้แช่แข็ง ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ใช้ถ้ากินอโวคาโดแบบสดๆ ไม่ได้
    • อีกทางเลือกคือคุณก็ทำการหั่นเป็นลูกเต๋าแล้วเอาไปดองถ้าอโวคาโดบดแช่แข็งไม่ใช่แนวของคุณ
  4. หวังว่าคุณจะมีเวลาสัก 2-3 วันในการผูกพันกับอโวคาโดของคุณ หากคุณคอยดูอโวคาโดตลอด คุณจะรู้ดีว่าอโวคาโดอยู่ในกระบวนการบ่มมานานเท่าไหนแล้ว โดยผลลัพธ์จะได้ต่างกันออกไปตามระดับของการสุก
    • หากอโวคาโดของคุณเพิ่งเริ่มสุก มันจะถูกความร้อนโดยตรงน้อยกว่า คุณจึงสามารถย่างหรืออบได้ง่ายดาย
    • ถ้าอโวคาโดของคุณต้องใช้เวลาพักใหญ่ๆกว่าจะสุก แต่สุดท้ายก็สุกได้ ควรหั่นเป็นแผ่นบางๆ ซึ่งจะเข้ากับสลัดและซอสซัลซ่าเป็นอย่างดี อโวคาโดแผ่นที่ฝานอย่างดีจะสวยงามน่ารับประทานบนอาหารจานอร่อยของคุณ!
    • ถ้าคุณมีอโวคาโดสุกจำนวนมากล่ะก็ ลองเปลี่ยนมันให้เป็นอาหารที่เป็นเนื้อครีมอย่าง คาราเมลคัสตาร์ด ไอศกรีม หรือชีสเค้กดูสิ มีข้ออ้างในการทดลองทำอาหารแล้ว!
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • สามารถใช้แค่ถุงกระดาษสีน้ำตาลอย่างเดียวก็ได้ ที่ถึงแม้จะไม่ทำให้อโวคาโดสุกเร็วเท่ากับการใส่ผลไม้ลงไปด้วย แต่ก็ยังสุกเร็วกว่าการปล่อยอโวคาโดวางไว้โดยไม่ห่ออะไรเลยอยู่ดี
  • การเติมแป้งทำอาหารลงไปในถุงกระดาษเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการบ่มอโวคาโดให้สุก [9]
โฆษณา

ข้อควรระวัง

  • การนำอโวคาโดไปแช่ในตู้เย็นจะทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามคือ มันทำให้อโวคาโดไม่สุก การนำอโวคาโดไปเก็บไว้ในตู้เย็นจึงดีต่อการเก็บรักษา แต่ไม่ได้ช่วยให้สุกไวขึ้น
  • “ห้ามใช้ไมโครเวฟ” อุ่นอโวคาโด คุณอาจไปเจอบางเว็บไซต์ที่บอกว่าสามารถอุ่นอโวคาโดในไมโครเวฟได้ (และก็ทำได้จริงๆ ทั้งนี้ ในทางเทคนิคแล้วนั้น คุณสามารถใช้ไมโครเวฟอุ่นอะไรก็ได้) แต่นั่นจะทำลายรสชาติของอโวคาโดไป [4]

ส่วนประกอบ

  • อโวคาโด
  • ถุงกระดาษ
  • กล้วย แอปเปิ้ล หรือมะเขือเทศ (สำหรับใช้เร่งกระบวนการบ่ม)

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 149,586 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา