ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การรับประทานเนื้อไก่ที่เสียแล้วอาจทำให้คุณป่วยหนักได้ไม่ว่าจะเป็นไก่ดิบหรือไก่สุกก็ตาม ในการดูว่าเนื้อไก่ดิบเสียหรือยังนั้น ให้สังเกตสี กลิ่น และเนื้อสัมผัสว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ ถ้าเป็นไก่แช่แข็ง ให้สังเกตน้ำแข็งและรอยแห้งสีขาวที่เกิดจากการแช่แข็ง แต่ถ้าจะดูไก่สุกว่าเสียหรือยัง ให้สังเกตกลิ่น สี รสชาติ และรา และอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพิจารณาก็คือวิธีการและระยะเวลาในการเก็บเนื้อไก่

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

เช็กเนื้อไก่ดิบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เนื้อไก่ดิบเมื่อยังสดจะเป็นสีเนื้อออกชมพู แต่ถ้ามันเริ่มจะเสีย มันจะเปลี่ยนเป็นสีเทา ถ้าสีของเนื้อไก่เริ่มจะหม่น คุณต้องรีบใช้ก่อนที่มันจะเสีย เพราะเมื่อไหร่ที่มันดูเป็นสีเทามากกว่าสีชมพู แสดงว่าสายเกินไปแล้ว
    • สีของเนื้อไก่ดิบมีตั้งแต่เริ่มเป็นสีเทาไปจนถึงจุดเหลืองๆ ที่ไม่ใช่หนังไก่ [1]
    • ถ้าคุณเริ่มปรุงอาหารจากเนื้อไก่ที่เสียแล้ว สีของมันก็อาจจะดูหม่นเหมือนเดิมและไม่ขาวเท่าไหร่ [2]
  2. เนื้อไก่ดิบที่เสียแล้วจะมีกลิ่นแรงมาก บางคนก็บอกว่ามันเป็นกลิ่น "เปรี้ยว" แต่บางคนก็บอกว่าคล้ายกลิ่นแอมโมเนีย ถ้าเนื้อไก่เริ่มมีกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นแรงไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอย่างไรก็แล้วแต่ ให้ทิ้งไปเลยจะดีที่สุด [3]
    • เนื้อไก่สามารถส่งกลิ่นเหม็นขณะประกอบอาหารได้ เพราะฉะนั้นถ้ากลิ่นเริ่มไม่ค่อยดีแล้ว ให้ทิ้งไปเลยจะดีที่สุด [4]
  3. Watermark wikiHow to ดูเนื้อไก่ว่าเสียหรือยัง
    เนื้อไก่มันลื่นๆ หรือเปล่า การทดสอบด้วยการสัมผัสจะยากกว่าการทดสอบด้วยสีและกลิ่นเนื่องจากว่าโดยธรรมชาติเนื้อไก่ก็มีความมันวาวและค่อนข้างลื่นอยู่แล้ว แต่ถ้านำเนื้อไก่ไปล้างน้ำแล้วก็ยังมีเมือกลื่นๆ อยู่ เป็นไปได้มากว่าเนื้อไก่เสียแล้ว ถ้าเนื้อไก่มีเมือกเหนียวที่ดูแปลกๆ แสดงว่าน่าจะเสียแล้วแน่ๆ [5]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

ตรวจสอบเนื้อไก่แช่แข็ง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to ดูเนื้อไก่ว่าเสียหรือยัง
    ถ้ามีชั้นน้ำแข็งหนาเกาะอยู่บนเนื้อไก่ แสดงว่าเนื้อไก่ใช้ไม่ได้แล้ว แผ่นน้ำแข็งจะหนาเหมือนน้ำแข็งในช่องฟรีซที่ไม่ได้ละลายมาสักพักแล้ว เนื้อไก่ที่ผ่านการแช่แข็งอย่างรวดเร็วหากใช้ขั้นตอนที่ถูกต้องจะไม่มีแผ่นน้ำแข็งหนาเกาะอยู่ แต่ถ้าน้ำแข็งเป็นสีขาว เป็นไปได้ว่าจะเป็นเรื่องของการสูญเสียความชื้นระหว่างแช่แข็ง
  2. การสูญเสียความชื้นระหว่างแช่แข็งจะเป็นเหมือนผื่นหรือรอยสีขาวบนเนื้อไก่ที่ไม่ใช่ไขมัน มันจะแข็งกว่าหนังที่อยู่รอบๆ และตั้งขึ้นมาเล็กน้อย [6]
    • แม้ว่าจะไม่เป็นอันตราย แต่เนื้อไก่ก็จะไม่ค่อยอร่อย
  3. Watermark wikiHow to ดูเนื้อไก่ว่าเสียหรือยัง
    เนื้อไก่แช่แข็งจะดูค่อนข้างยาก สีมันจะหม่นๆ เหมือนเนื้อไก่ดิบหรือเนื้อไก่สุก เป็นสีเทาเล็กน้อยหรือเป็นสีเหลืองจากไขมัน แต่ถ้าสีเนื้อไก่เข้มกว่าสีเทา ก็ถึงเวลาต้องทิ้งลงถังขยะแล้ว [7]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ตรวจสอบเนื้อไก่สุก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การทดสอบกลิ่นใช้ได้กับทั้งเนื้อไก่สุกและเนื้อไก่ดิบ แต่บางครั้งถ้ามีกลิ่นเครื่องเทศหรือเครื่องปรุงมากลบ มันก็จะแยกความแตกต่างของกลิ่นเนื้อไก่ที่เสียแล้วได้ยาก [8]
    • ถ้าเนื้อไก่มีกลิ่นเหมือนไข่เน่าหรือซัลเฟอร์ แสดงว่ามันเสียแล้ว
  2. Watermark wikiHow to ดูเนื้อไก่ว่าเสียหรือยัง
    บางครั้งวิธีนี้ก็ใช้ไม่ได้ถ้าเนื้อไก่ชุบเกล็ดขนมปังหรือถ้าสีมันเปลี่ยนไปเพราะการปรุงรสหรือการหมัก แต่ถ้าเนื้อไก่ที่ปรุงสุกออกมาเป็นสีขาวเริ่มจะกลายเป็นสีเทา ก็แสดงว่าไม่สามารถนำมารับประทานได้แล้ว [9]
  3. Watermark wikiHow to ดูเนื้อไก่ว่าเสียหรือยัง
    ราเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดว่าเนื้อไก่เน่า บูด และเสียแล้ว ถ้ามีกระจุกสีเขียวหรือสีดำ หรือถ้ามีสิ่งมีชีวิตชนิดใดก็แล้วแต่เริ่มขึ้นบนเนื้อไก่ แสดงว่ามันเน่ามากแล้วและควรนำไปทิ้งทันที เพราะแม้แต่กลิ่นของเนื้อไก่ที่ 'เน่า' ขนาดนี้ก็อาจทำให้คุณคลื่นไส้ได้ [10]
  4. Watermark wikiHow to ดูเนื้อไก่ว่าเสียหรือยัง
    ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าเนื้อไก่สุกยังดีอยู่หรือเปล่า และจะทิ้งก็เสียดายเผื่อว่ามันยังรับประทานได้อยู่ ก็ค่อยๆ กัดชิมดู แต่แทนที่จะเคี้ยวและกลืนลงไปเลย ให้หยุดและค่อยๆ สังเกตรสชาติก่อน [11]
    • ถ้ารสชาติมัน “บูด” หรือออกเปรี้ยวๆ ให้คายออกมาแล้วนำเนื้อไก่ที่เหลือไปทิ้ง
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

เช็กวิธีการเก็บเนื้อไก่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. วิธีนี้อย่างเดียวก็ไม่ใช่สิ่งที่บ่งบอกได้เสมอไปว่าเนื้อไก่ดิบนั้นยังดีอยู่หรือเปล่า เพราะว่าข้อความที่บอกว่า "ขายภายในวันที่" นั้นเพียงแต่บอกว่า เมื่อไหร่ที่ไม่สามารถขายให้กับผู้บริโภคได้แล้ว เพราะฉะนั้นแทนที่จะเอาตรงที่ระบุว่า "ขายภายในวันที่" เป็นเกณฑ์ ให้ใช้วันที่นี้เป็นวิธีในการดูว่า เนื้อไก่ที่คุณสงสัยนั้นเลยช่วงเวลาที่ควรรับประทานมากที่สุดไปแล้วหรือยัง [12]
  2. เนื้อไก่ที่สุกแล้วจะเสียเร็วขึ้นเมื่อสัมผัสกับอากาศ และเนื้อไก่ที่เก็บไม่ดีก็จะมีโอกาสเสียมากกว่า
    • เนื้อไก่ควรเก็บไว้ในภาชนะตื้นที่ไม่มีอากาศเข้าหรือถุงแช่แข็งที่ทนทาน [14]
    • หรือคุณจะใช้กระดาษฟอยล์หรือพลาสติกแรปพันเนื้อไก่ไว้แน่นๆ ก็ได้
    • เช่น ถ้าจะให้รับประทานได้อย่างปลอดภัย ควรหั่นเนื้อไก่ทั้งตัวออกเป็นชิ้น และควรนำไส้ที่ยัดอยู่ข้างในออกมาก่อนนำไปแช่ตู้เย็นหรือช่องฟรีซ
  3. ดูว่าเนื้อไก่เก็บอยู่ที่ไหนและเก็บมานานแค่ไหนแล้ว. [15] วิธีการเก็บเนื้อไก่ก็มีส่วนด้วยเช่นกัน ถ้าเลยช่วงเวลาดังต่อไปนี้ ก็มีโอกาสมากที่เนื้อไก่จะเสียแล้ว
    • เนื้อไก่ดิบที่แช่ในตู้เย็นควรใช้ภายใน 1 หรือ 2 วัน ส่วนเนื้อไก่สุกจะอยู่ได้ประมาณ 3-4 วัน [16]
    • เนื้อไก่ที่สุกแล้วถ้าอยู่ในช่องฟรีซจะสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 4 เดือนโดยไม่เน่าเสียและนำมารับประทานได้อย่างปลอดภัย แต่ถ้าเป็นเนื้อไก่ดิบจะสามารถเก็บไว้ได้ถึง 1 ปี [17]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าเนื้อไก่ผ่านการแช่แข็ง จากนั้นก็นำไปละลายและนำกลับมาแช่แข็งใหม่ ให้ทิ้งไปเลย เพราะอาหารที่นำกลับมาแช่แข็งใหม่อาจกลายเป็นแหล่งรวมแบคทีเรีย
  • ถ้าคุณเกิดคำถามว่าเนื้อไก่มัน "สีเทาเข้มไปไหม" หรือ "ลื่นมากไปไหม" ไหม แสดงว่าใช่ และควรนำไปทิ้ง
  • ถ้าเนื้อไก่ถูกนำมาละลายบนเคาน์เตอร์ ให้ทิ้งไป
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 94,677 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา