ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แซนด์วิชเป็นอาหารจานด่วนที่คุณสามารถรังสรรค์จากวัตถุดิบต่างๆ ที่มีอยู่ในบ้านได้อย่างง่ายดาย โดยทั่วไปแซนด์วิชจะประกอบด้วยเนื้อสัตว์ ชีส ผัก และเครื่องปรุงที่อยู่ตรงกลางระหว่างขนมปัง 2 แผ่น คุณจะทำแซนด์วิชโดยการลองนำวัตถุดิบต่างๆ มารวมกัน หรือจะทำตามสูตรเพื่อให้ได้แซนด์วิชฉบับคลาสสิกที่หลายคนรู้จักกันดีก็ได้ เมื่อคุณทำแซนด์วิชเสร็จแล้ว คุณจะรับประทานแบบร้อนหรือแบบเย็นกับเครื่องเคียงโปรดก็ได้!

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ทำแซนด์วิชเนื้อสัตว์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้เนื้อสัตว์หั่นบางกับชีสเพื่อทำแซนด์วิชมื้อกลางวันสุดคลาสสิก. เนื้อตัดเย็นและชีสเป็นวัตถุดิบมาตรฐานของการทำแซนด์วิชแบบเรียบง่ายเนื่องจากว่ามันนำมาประกอบกันได้ง่าย ลองใช้เนื้อตัดเย็นชนิดต่างๆ เช่น แฮม ไก่งวง หรือเนื้ออบเพื่อดูว่าคุณชอบอะไรมากที่สุด จากนั้นก็นำเนื้อสัตว์มาวางซ้อนกันบนขนมปัง แล้วเลือกชีสที่คุณชอบมาโปะลงบนเนื้อสัตว์อีกที ทามายองเนสหรือมัสตาร์ดลงบนขนมปังอีกด้านหนึ่งแล้วนำมาประกบกัน [1]
    • การจับคู่แบบคลาสสิกที่คุณสามารถลองทำดูได้ก็คือ แฮมหรือไก่งวงกับสวิสชีส หรือเนื้ออบกับเชดดาร์
    • นำขนมปังไปปิ้งถ้าคุณอยากให้ชีสละลายและเนื้ออุ่น
    • วางเนื้อสัตว์ ชีส ขนมปังปิ้ง และผักซ้อนกันหลายๆ ชั้นเพื่อทำเป็น คลับแซนด์วิช
  2. ทอดหรืออบเบคอน 3-4 เส้นจนกรอบแล้ววางพักไว้บนทิชชูทำครัวเพื่อดูดซับความมันบางส่วน ปิ้งขนมปังเล็กน้อยจนเป็นสีน้ำตาลทองและกรอบ วางเบคอน มะเขือเทศ และผักกาดหอมลงบนแผ่นขนมปัง ทามายองเนสลงบนขนมปังชิ้นบน เสร็จแล้วก็จะได้แซนด์วิช BLT [2]
    • เพิ่มอะโวคาโดหรือใช้เบคอนไก่งวงแทนถ้าคุณอยากให้แซนด์วิชของคุณดีต่อสุขภาพมากขึ้น
    • ลองเบคอนแบบต่างๆ เช่น เบคอนหมักเมเปิ้ลหรือรมควันฮิกคอรีเพื่อเปลี่ยนรสชาติของแซนด์วิช BLT
  3. เริ่มจากทอดหรืออบเบคอนจนกรอบ ทอดไข่ดาวหรือทำไข่คนก็ได้เพื่อให้โปะลงบนแซนด์วิชได้ง่าย ปิ้งขนมปังและเรียงเบคอนกับไข่ซ้อนกันตรงด้านล่าง จากนั้นโปะชีสและราดมายองเนสด้านบนอีกที เท่านี้คุณก็ได้มื้อเช้าแสนอร่อยแล้ว [3]
    • ใส่ผัก เช่น มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ หรือพริกหยวกลงในไข่เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้แซนด์วิชของคุณ
    • ถ้าคุณอยากให้แซนด์วิชของคุณดูเป็นมื้อเช้ามากขึ้น ให้ใช้สโคนหรืออิงลิชมัฟฟินแทนขนมปัง
    • ใช้เบคอนไก่งวงหรือใช้เฉพาะไข่ขาวหากคุณอยากให้แซนด์วิชมื้อเช้าของคุณดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น
  4. ทำแซนด์วิชรูเบนเพื่อให้ได้รสเค็มและเปรี้ยว. หั่นขนมปังไรย์หรือขนมปังพัมเพอร์นิกเกิลออกเป็น 2 ชิ้นแล้วทาเนยลงบนขนมปังทั้งสองแผ่น นำขนมปังแผ่นหนึ่งจี่ในกระทะโดยให้ด้านที่ทาเนยคว่ำลง วางเนื้อกระป๋องหั่นบางซ้อนกันและสวิสชีสลงบนขนมปัง ทาซาวร์เคราต์และน้ำสลัดรัสเซียนลงบนเนื้อสัตว์และชีสก่อนนำขนมปังอีกแผ่นมาประกบ ใช้ไฟกลาง-ต่ำขณะจี่แซนด์วิชและกลับด้านเมื่อขนมปังที่อยู่ด้านล่างกรอบแล้ว [4]
    • ระหว่างจี่แซนด์วิชให้นำกระทะทอดอีกใบมากดแซนด์วิชไว้เพื่อให้มันเรียบและรับประทานง่ายขึ้น
    • ถ้าคุณอยากได้แซนด์วิชรูเบนที่รสชาติต่างออกไป ให้เปลี่ยนไปใช้เนื้อสัตว์อื่น เช่น เนื้ออบหรือไก่
    • เพิ่มผักดองลงในแซนด์วิชรูเบนถ้าคุณอยากได้รสชาติเปรี้ยวแหลมเพิ่มเติมคู่กับเซาว์เคราต์
  5. กรองน้ำออกจากทูน่ากระป๋องเพื่อไม่ให้มีน้ำเหลืออยู่ ผสมทูน่ากับมายองเนส เกลือ และพริกไทยเพื่อเพิ่มรสชาติก่อนทาลงบนแผ่นขนมปัง เติมชีสและผักที่คุณชอบลงไปแล้วนำขนมปังไปจี่ในกระทะด้วยไฟกลาง-ต่ำ เมื่อขนมปังด้านหนึ่งเป็นสีน้ำตาลทองก็กลับด้าน เท่านี้ก็เสร็จแล้ว [5]
    • ผสมซอสพริกลงในทูน่าถ้าคุณอยากให้แซนด์วิชของคุณรสชาติเผ็ดขึ้น
    • ถ้าคุณอยากเพิ่มความกรอบในแซนด์วิช ให้สับหอมหัวใหญ่และพริกหยวกผสมลงในทูน่า
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ทำแซนด์วิชแบบง่ายๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณจะนำขนมปังชนิดไหนมาทำเป็นแซนด์วิชก็ได้ เพราะฉะนั้นให้เลือกขนมปังที่คุณชอบมากที่สุด ถ้าคุณอยากได้แซนด์วิชที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น ให้เลือกขนมปังที่ทำจากธัญพืชเต็มเมล็ดหรือธัญพืชหลายชนิดมาผสมกันเพื่อให้ได้สารอาหารและใยอาหารที่มีประโยชน์ คุณจะซื้อขนมปังแบบที่หั่นมาแล้วหรือซื้อมาทั้งก้อนแล้วมาหั่นเองก็ได้ หยิบขนมปังที่คุณเลือกมา 2 แผ่นวางลงบนจานเพื่อให้คุณสามารถเรียงวัตถุดิบซ้อนกันเป็นแซนด์วิชได้ง่ายขึ้น [6]
    • มองหาขนมปังชนิดต่างๆ เช่น ซาวร์โดว์ พัมเพอร์นิกเกิล หรือไรย์เพื่อดูว่ามันมีผลต่อรสชาติของแซนด์วิชโดยรวมอย่างไร
    • ถ้าคุณอยากทำแซนด์วิชซับมารีนชิ้นใหญ่ ให้หั่นขนมปังบาเกตตรงกึ่งกลางในแนวขวางเพื่อใช้เป็นขนมปังแผ่นบนและแผ่นล่าง
    • ถ้าคุณอยากได้แซนด์วิชขนาดเล็กลงหน่อย ลองใช้ขนมปังบันหรือขนมปังโรลแทนขนมปังแผ่น
    • ถ้าคุณอยากรับประทานเป็นแร็พ ให้ใช้พีตาหรือตอร์ติยา
  2. Watermark wikiHow to ทำแซนวิช
    ลองใส่เครื่องปรุงอย่างมายองเนส มัสตาร์ด ซอสมะเขือเทศ หรือน้ำสลัดเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับแซนด์วิช ทาเครื่องปรุงบางๆ ลงบนขนมปังด้วยมีดเพื่อให้ทั่วแผ่น และระวังอย่าใส่เครื่องปรุงมากเกินไป ไม่อย่างนั้นมันอาจจะหยดหรือกระเด็นออกมาได้ง่ายเวลาที่คุณรับประทาน คุณจะทาเครื่องปรุงลงบนขนมปังทั้ง 2 แผ่นหรือแผ่นเดียวก็ได้แล้วแต่ว่าคุณอยากใส่เยอะแค่ไหน [7]
    • ลองใช้เครื่องปรุงให้หลากหลายเพื่อให้ได้แซนด์วิชรสชาติใหม่ๆ เช่น คุณอาจจะใช้ซอสเพสโต ฮัมมัส หรือกรีกโยเกิร์ตแทนเครื่องปรุงทั่วไป
    • นอกจากนี้คุณยังสามารถทาเครื่องปรุงลงบนส่วนประกอบอื่นๆ ในแซนด์วิชได้โดยตรงเพื่อให้เกิดรสชาติระหว่างกัน เช่น คุณอาจจะทาซอสพริกลงบนเนื้อสัตว์โดยตรงเพื่อให้มันเผ็ดขึ้น
    • ถ้าคุณทิ้งแซนด์วิชไว้นานเกินไปหลังจากทำเสร็จแล้ว เครื่องปรุงอาจจะทำให้ขนมปังแฉะเล็กน้อย ซึ่งถ้าคุณไม่อยากให้ขนมปังแฉะ คุณต้องรับประทานทันทีหลังจากทำเสร็จหรือไม่ก็ปิ้งขนมปังก่อน
  3. Watermark wikiHow to ทำแซนวิช
    เลือกขนมปังที่จะใช้เป็นแผ่นล่างเพื่อเริ่มประกอบร่างแซนด์วิช เริ่มจากวางเนื้อสัตว์หรือชีสแผ่นบางๆ ซ้อนกันบนขนมปังแผ่นล่างเพื่อไม่ให้มันปลิ้นออกมาเวลาที่คุณรับประทาน มองหาเนื้อสัตว์ชนิดที่มีโซเดียมต่ำหรือแคลอรี่ต่ำหากคุณอยากให้แซนด์วิชของคุณดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น ใช้เนื้ออย่างน้อย 2-4 แผ่นและชีส 1 แผ่นเพื่อไม่ให้มีแต่รสชาติของขนมปังเป็นหลัก [8]
    • เนื้อตัดเย็นที่นิยมนำมาทำแซนด์วิชได้แก่ ไก่งวง แฮม เนื้ออบ หรือโบโลญญา
    • ลองนำชีสหลายๆ ชนิดมาทำแซนด์วิช ชีสที่นิยมนำมาใช้ได้แก่ สวิสชีส อเมริกันเชดดาร์ มึนสเตอร์ชีส และโปรโวโลเน
    • นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้เนื้อสัตว์ทั้งชิ้น เช่น อกไก่หรือสเต๊ก เพื่อให้ได้แซนด์วิชที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น
    • ถ้าคุณไม่ใส่เนื้อสัตว์ลงในแซนด์วิช ให้วางผักที่มีน้ำหนักไว้ข้างล่าง เช่น แตงกวาหรือมะเขือเทศ
  4. Watermark wikiHow to ทำแซนวิช
    ผักคลาสสิกที่นิยมนำมาทำแซนด์วิชได้แก่ผักกาดหอม มะเขือเทศ และหอมหัวใหญ่ แต่เวลาที่คุณทำแซนด์วิชคุณจะใส่ผักอะไรก็ได้ วางผักลงบนเนื้อสัตว์และชีสโดยให้ผักที่มีน้ำหนักอยู่ด้านล่างและวางผักที่เบาไว้ด้านบน พยายามใส่ผักอย่างน้อย 1-2 ชนิดลงในแซนด์วิชเพื่อให้ได้มื้ออาหารที่ดีต่อสุขภาพและได้เนื้อสัมผัสที่หลากหลายเมื่อคุณกัดเข้าไป [9]
    • ถ้าคุณอยากใส่ผักใบเขียว ลองใส่ผักกาดหอม ผักปวยเล้ง อารูกูลา หรือผักตระกูลโหระพา
    • เติมมะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ และพริกหยวกเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับแซนด์วิช คุณจะนำผักไปผัดก่อนหรือรับประทานแบบดิบก็ได้
    • วางอะโวคาโดหั่นบางหรือต้นอ่อนอัลฟาฟาเพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสและรสชาติที่หลากหลาย
  5. โรยเกลือพริกไทยลงบนแซนด์วิชเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความอร่อย ถ้าคุณอยากให้รสชาติเตะลิ้นมากยิ่งขึ้น ให้ใช้เครื่องเทศหรือสมุนไพรต่างๆ ที่คุณมี เช่น ผักตระกูลโหระพา ออริกาโน หรือพริกคาเยน ใช้เครื่องเทศแต่ละชนิดแต่น้อยเพื่อไม่ให้รสชาติมันจัดจ้านเกินไป [10]
    • คุณสามารถใส่สมุนไพรสดแทนผักกาดหอมได้ถ้าคุณอยากให้รสชาติเข้มข้นขึ้น
  6. Watermark wikiHow to ทำแซนวิช
    ปิ้งขนมปังถ้าคุณอยากได้แซนด์วิชร้อนๆ หรือกรอบๆ. การอุ่นแซนด์วิชจะทำให้ขนมปังกรอบและอร่อยขึ้น วางแซนด์วิชลงบนแผ่นรองอบและใส่เข้าไปในเตาที่วอร์มไว้ที่ 204 องศาเซลเซียสจนกระทั่งชีสละลายหรือขนมปังเป็นสีน้ำตาลทอง นำแซนด์วิชออกจากเตาและนำขนมปังโปะด้านบน เท่านี้ก็เสร็จแล้ว [11]
    • นอกจากนี้คุณยังสามารถปิ้งขนมปังบนกระทะโดยใช้ไฟกลาง-ต่ำได้ด้วย อย่าลืมฉีดสเปรย์น้ำมันทำอาหารหรือเนยลงบนกระทะก่อนเพื่อไม่ให้ขนมปังไหม้
    • ถ้าคุณอยากปิ้งขนมปัง อย่าเพิ่งวางผัก เช่น ผักกาดหอมหรือมะเขือเทศลงไป เพื่อให้แซนด์วิชของคุณมีรสชาติสดชื่น
  7. หั่นแซนด์วิชเป็นชิ้นเพื่อให้รับประทานง่ายขึ้น. เมื่อคุณประกอบร่างแซนด์วิชเสร็จเรียบร้อนแล้ว ให้กดขนมปังชิ้นบนและบีบแซนด์วิชให้แบนเพื่อให้ตัดง่ายขึ้น ใช้มีดหั่นขนมปังหั่นแซนด์วิชเพื่อไม่ให้มันแตกออกจากกัน คุณจะตัดแนวทแยงมุมหรือตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมก็ได้แล้วแต่ชอบ หลังจากหั่นแซนด์วิชเสร็จแล้ว ก็เอร็ดอร่อยไปกับอาหารมื้อนี้ได้เลย! [12]
    • ถ้าคุณไม่อยากหั่นแซนด์วิชก็ไม่ต้องหั่นก็ได้
    • ถ้าคุณอยากเก็บแซนด์วิชบางส่วนไว้รับประทานทีหลัง ให้ห่อฟอยล์หรือพลาสติกแร็ปแล้วเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อไม่ให้มันเสีย
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ทำแซนด์วิชมังสวิรัติ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทำแซนด์วิชเนยถั่วและแยมสำหรับมื้ออาหารง่ายๆ. เลือกเนยถั่วแบบหยาบหรือแบบละเอียดก็ได้ตามชอบแล้วทาบางๆ ลงบนขนมปัง จากนั้นเลือกเยลลีที่ชอบแล้วทาลงบนขนมปังอีกแผ่น นำแซนด์วิชมาประกบกันแล้วเสิร์ฟ [13]
    • ทาแยมหรือพรีเสิร์ฟถ้าคุณอยากให้แซนด์วิชของคุณมีเนื้อผลไม้จริงๆ อยู่ข้างใน
    • ลองเพิ่มวัตถุดิบอื่นๆ เช่น สเปรดเฮเซลนัตหรือกล้วยหั่นเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับแซนด์วิช
  2. ทำแซนด์วิชกริลด์ชีสหากคุณอยากได้แซนด์วิชสูตรคลาสสิก. เลือกชีสที่คุณชอบและวางตรงกลางระหว่างขนมปัง 2 แผ่น ทาเนยตรงด้านนอกของขนมปังและจี่ลงบนกระทะที่ไฟปานกลาง-ต่ำ เมื่อขนมปังกลายเป็นสีน้ำตาลทองแล้วก็พลิกอีกด้านขึ้นมาและให้ชีสละลายทั่วก่อนแล้วค่อยเสิร์ฟ [14]
    • เสิร์ฟแซนด์วิชกริลด์ชีสกับซุปมะเขือเทศเพื่อใช้เป็นเครื่องจิ้ม
    • ทำแซนด์วิชมะเขือเทศกับมอซซาเรลลาเพื่อทำเป็นกริลด์ชีสสไตล์อิตาเลียน
    • เติมผัก เช่น หอมหัวใหญ่ พริกหยวก หรือมะเขือเทศเพื่อให้แซนด์วิชมีคุณค่าทางอาหารมากขึ้น
    • วางแอปเปิลลงบนกริลด์ชีสเพื่อให้แซนด์วิชมีรสคาวผสมหวาน
  3. ทำแซนด์วิชผักแบบแคลิฟอร์เนียเพื่อให้ได้แซนด์วิชที่อุดมไปด้วยสารอาหาร. เริ่มจากกาารทาอะโวคาโดบดบางๆ ลงบนขนมปัง 1 แผ่น จากนั้นก็วางผัก เช่น แตงกวาหั่นบาง ผักกาดหอม มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ และแคร์รอตหั่นฝอยซ้อนข้างบนเพื่อเพิ่มรสชาติตามต้องการ โปะด้วยกรีกโยเกิร์ตหรือชีสแพะเพื่อให้ได้รสชาติที่แตกต่างก่อนนำไปเสิร์ฟ [15]
    • ใส่ผักดองเพื่อเพิ่มความเปรี้ยวและความกรอบเวลาที่คุณกัดเข้าไป
    • ถ้าคุณอยากได้แซนด์วิชที่มีความมันและกลิ่นดิน ให้ทาชีสแพะลงบนขนมปัง 1 แผ่น
  4. รับประทานแซนด์วิชสลัดไข่เพื่อให้ได้รสชาติเข้มข้น. หั่นไข่ต้มเป็นลูกเต๋าเล็กๆ และผสมกับมายองเนส น้ำเลมอน มัสตาร์ด ต้นหอม และเซเลอรี ปรุงรสสลัดไข่ด้วยเกลือ พริกไทย และเครื่องเทศอื่นๆ ตามชอบก่อนนำไปแช่ในตู้เย็น 1 ชั่วโมง ทาสลัดไข่ลงบนขนมปังและโปะด้วยผักกาดหอม เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จแล้ว [16]
    • ถ้าคุณอยากได้มื้ออาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ ให้ใช้ผักกาดหอมแทนแร็พแล้วใส่สลัดไข่ลงไปข้างใน
    • ผสมพริกคาเยนและปาปริก้าลงในสลัดไข่ถ้าคุณอยากได้รสชาติที่เตะลิ้น
  5. ทำฮัมมัสพีตาเพื่อให้ได้แซนด์วิชสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน. ใส่แคร์รอตหั่นฝอย แรดิช และหอมแขกลงในชาม จากนั้นใส่พาสลีย์ น้ำเลมอน และน้ำมันมะกอกลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับผัก เปิดแผ่นขนมปังพีตาและทาฮัมมัสด้านในก่อนยัดส่วนผสมผักเข้าไปข้างใน ใส่มะเขือเทศสับ อะโวคาโดหั่นบาง และสมุนไพรอื่นๆ ลงในพีตา เท่านี้ก็ได้แซนด์วิชแสนอร่อยแล้ว [17]
    • คุณสามารถซื้อพีตาที่มีช่องยัดไส้ด้านในเพื่อให้รับประทานได้ง่ายขึ้น
    • เปลี่ยนไปใช้ฮัมมัสรสชาติต่างๆ เพื่อให้ได้แซนด์วิชรสชาติใหม่
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ทดลองผสมผสานรสชาติต่างๆ ในแซนด์วิช เพราะคุณอาจจะเจอแซนด์วิชในแบบที่คุณชอบก็ได้
  • ใช้ไม้จิ้มฟันยึดแซนด์วิชไว้ด้วยกันเพื่อไม่ให้แตกจากกันก่อนเสิร์ฟ แต่อย่าลืมดึงออกก่อนรับประทาน ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะกัดเข้าไปแล้วเจอไม้จิ้มฟันแทงปากได้
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 78,516 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา