ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันหรือภาษาอังกฤษในสหรัฐอเมริกานั้นคือภาษาที่ใช้ในประเทศผู้ใช้ภาษาอังกฤษทั่วโลก แม้ว่าภาษาพูด ตัวสะกด และสำเนียงอาจต่างไปในอเมริกา หรือแม้แต่แต่ละภูมิภาคของสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม หากคุณพูดภาษาอังกฤษเป็นอยู่แล้ว ก็จะไม่มีปัญหาในการเข้าใจภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกา

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

เรียนภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เรียน ภาษาอังกฤษ . ภาษาอังกฤษแบบอเมริกันโดยทั่วไปก็เหมือนกับภาษาอังกฤษท้องถิ่นแบบอื่น ยกเว้นบางประโยค ภาษาพูด สำเนียงพื้นเมือง หรือการสะกดคำ ภาษาอังกฤษแบบอเมริกันนั้นเหมือนกับภาษาที่พูดในสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ และที่อื่นๆ ในโลก มีข้อแตกต่างทางท้องถิ่นบางอย่าง ซึ่งทำให้บางคนกล่าวว่ากลุ่มภาษาเหล่านี้ “ถูกแบ่งแยกกันด้วยภาษากลาง” แต่ในความจริง คำและประโยคโดยส่วนใหญ่นั้นเหมือนกัน หากคุณรู้ภาษาอังกฤษ และฟังคนที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษแบบอเมริกันรู้เรื่อง คุณก็สามารถใช้ชีวิตในอเมริกาได้สบายเช่นกัน
  2. ภาษาอังกฤษแบบอเมริกันนั้นใช้ต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคของสหรัฐอเมริกา คอยตั้งใจฟังเพื่อจับประโยคท้องถิ่นและภาษาพูด โดยเฉพาะเวลาเข้าสังคม คุณจะเห็นความแตกต่างเมื่อเดินทางจากภูมิภาคหนึ่งไปอีกที่
  3. ตัวอย่างประโยคมีดังนี้.
    • "Awesome" และ "cool" ใช้อธิบายสิ่งที่ดีเยี่ยม สร้างสรรค์ หรือได้รับความนิยม ใช้มากในอเมริกามากกว่าประเทศอื่น ทั้งสองคำยังใช้พูดแสดงความรู้สึก เมื่อมีใครบอกอะไรให้คุณฟังอีกด้วย
    • "What's up?" หรือสั้นๆ ว่า "Sup" ประโยคนี้ใช้ถามผู้อื่นว่าเขากำลังทำอะไร สบายดีหรือไม่ เป็นประโยคทักทายทั่วไป ไม่ควรใช้ในโอกาสทางการ แต่ใช้พูดกับเพื่อนได้ และมักใช้ในหมู่วัยรุ่นชาย
    • "Hanging out" คือการออกไปใช้เวลากับใครหรือที่ไหน อาจใช้เพื่ออธิบายหรือเพื่อนัดหมายเหตุการณ์พิเศษต่างๆ ("Do you want to hang out?" แปลว่า อยากออกไปเที่ยวด้วยกันไหม) หรือใช้เพื่ออธิบายสิ่งที่ทำเป็นนิสัย ("I hang out at the mall a lot" แปลว่า ฉันมักออกไปเที่ยวห้าง) เป็นคำที่วัยรุ่นมักใช้เพื่ออธิบายว่าเวลาว่างทำอะไรหรือสังสรรค์อย่างไร โดยมักไม่มีจุดมุ่งหมายใดเป็นพิเศษ คำนี้ยังหมายถึงการอยู่บ้านเฉยๆ โดยไม่ทำอะไรอีกด้วย ("What are you up to?" คุณทำอะไรอยู่? / "Not much; just hanging out" ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ)
    • "Y'all" คือตัวย่อของ "You all" ซึ่งเป็นสรรพนามบุรุษที่ 2 ใช้เรียกกลุ่มคน ใช้มากในรัฐทางใต้ แต่ก็เป็นที่ยอมรับในภูมิภาคอื่นด้วย
    • Soda, Pop, Cola, Soda pop, Coke ฯลฯ น้ำอัดลมชื่อดัง เช่น แฟนต้า หรือโคคา-โคล่า อาจถูกเรียกด้วยชื่อที่ต่างกันไปในแต่ละรัฐ
  4. หากคุณเคยเรียนภาษาอังกฤษแบบบริติช พึงระลึกว่าบางคำและบางประโยคอาจไม่เหมือนกับภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน หากคุณใช้คำ สำเนียง หรือการสะกดแบบบริติช คนอื่นก็อาจไม่เข้าใจคุณ ลองศึกษาภาษาอังกฤษอเมริกันดู:
    • ใช้ "Restroom/Bathroom" แทน "Toilet/Lavatory/Loo"
    • "Elevator" แทน "Lift"
    • "Trunk" แทน "Boot"
    • "Freeway" แทน "motorway"
    • "Sweater" แทน "jumper"
    • Pants มีความหมายว่ากางเกง ไม่ใช่กางเกงใน
    • "Vest" แทน "waistcoat" (ส่วนเสื้อชั้นในมักใช้คำว่า undershirt แทน)
    • "Sneakers" แทน "Trainers"
    • "Diaper" แทน "nappy"
    • "Bathing suit" แทน "swimming costume"
    • "Vacation" แทน "holiday" (holidays มักหมายถึงวันหยุดราชการเท่านั้นหรือช่วงวันหยุดพักผ่อน โดยเฉพาะวันคริสต์มาส)
    • "French fries" หรือ "fries" แทนคำว่า "Chips"
    • "Bag of Chips" แทน "Packet of Crisps"
    • "Gasoline" แทน "Petrol" และ "gas station" แทน "filling station"
    • "Truck" แทน "Lorry"
    • "Flashlight" แทน "Torch"
    • "Color" แทน "Colour"
    • "Favorite" แทน "Favourite"
    • "Popsicle" แทน "Ice Lolly"
    • "Tire" แทน "Tyre"
    • Napkins ใช้เพื่อเช็ดหน้าระหว่างมื้ออาหารเย็นเท่านั้น
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

พบปะกับคนอเมริกัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่าคาดหวังให้ใครเข้าใจสำเนียงของคุณ สหรัฐอเมริกานั้นเป็นชาติที่ก่อตั้งขึ้นด้วยผู้อพยพ และคอยต้อนรับผู้มาเยือนเสมอ อย่างไรก็ตาม พวกเขามักไม่ได้เรียนภาษาอื่น 95% ของคนอเมริกันนั้นคงไม่เดินทางไปรัฐอีก 50 รัฐและไม่เดินทางไปต่างประเทศ ดังนั้น หากพวกเขาไม่เข้าใจคุณหรือไม่พูดภาษาของคุณ ก็อย่าพึ่งคิดว่าพวกเขาขาดการศึกษา พวกเขาแค่ใช้ชีวิตตามความเป็นจริงเท่านั้น
  2. หากคุณพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง อย่าขุ่นเคืองใจหากคนอเมริกันล้อหรือขำเมื่อคุณพูดอะไรแล้วพวกเขาไม่เข้าใจ สำหรับคนอเมริกันบางคน เสียงหัวเราะอาจช่วยบรรเทาความหงุดหงิดใจเนื่องจากกำแพงภาษา พวกเขาไม่ได้ตั้งใจดูหมิ่นคุณ คุณก็แค่หัวเราะร่วมไปด้วย เพราะเป็นเรื่องปกติที่อาจจะมีการเข้าใจผิดกันบ้างในตอนแรก
  3. คุณอาจเจอคนที่เป็นมิตรหรือคนที่หยาบคาย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคนอื่นในอเมริกาจะเป็นเช่นนั้น นอกจากนี้ การวางตัวของคนอาจแตกต่างกันไปตามสถานที่ๆ คุณอยู่ และคนที่คุณคุยด้วย การวางตัวของคนในเมืองใหญ่อาจแตกต่างจากคนที่อยู่ในชนบทหรือพื้นที่ทำฟาร์ม คนในเมืองใหญ่มักทำอะไรรวดเร็วและอาจดูหยาบคายกับคุณ อย่าเหมารวมว่านี่คือลักษณะของคนอเมริกาทั้งหมด หากมีคนนิวยอร์ก 3 คนหยาบคายกับคุณ ก็ไม่ควรไปบอกคนอื่นว่า “คนอเมริกาหยาบคาย”
  4. พูดให้ดังขึ้น “อีกนิด” เมื่อคุยกับคนอเมริกา. เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ในอเมริกา และยังช่วยสร้างบรรยากาศความเป็นหนึ่งเดียวกันด้วย
  5. อย่าพูดทุกสิ่งที่คุณคิด เพราะมันอาจฟังดูก้าวร้าว แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเงียบเสมอไป เพียงแค่เรียบเรียงคำพูดให้ดีเพื่อไม่ให้เจ้าบ้านโกรธ มารยาทนั้นสำคัญ คุณต้องมีมารยาท เห็นอกเห็นใจ และใจดี โดยเฉพาะกับคนอเมริกาซึ่งให้การต้อนรับคุณในฐานะเจ้าบ้าน.
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หากคุณต้องการความช่วยเหลือ ชาวอเมริกาส่วนใหญ่จะให้ความช่วยเหลืออย่างดี อย่าคิดว่าคนอเมริกาทั่วไปจะหยิ่ง เพราะส่วนใหญ่พวกเขาจะเต็มใจช่วย
  • หากไม่แน่ใจคำไหน ให้สะกดออกมา แม้ภาษาอังกฤษอเมริกาจะต่างกับบริติช แต่ก็มีคำที่ใช้เหมือนกันด้วย คนส่วนใหญ่สามารถเข้าใจได้
  • ภาษาอังกฤษที่ใช้ขับร้องนั้นเป็นภาษาอังกฤษอเมริกาสำเนียงกลาง ไม่ว่านักร้องจะมีสำเนียงใดก็ตาม เสียงสระที่ลากยาวในการขับร้องนั้นทำให้เกิดภาษาอังกฤษอเมริกาสำเนียงกลาง
  • คนอเมริกาส่วนใหญ่จะกลืนเสียง T คู่กลางคำ และเกิดเสียงคล้ายตัว D แทน เช่น "Bottle" กลายเป็น "boddle" และ "little" เป็น "liddle" ฯลฯ ลองฟังคนพูดสำเนียงอเมริกาจะเข้าใจมากขึ้น
โฆษณา

คำเตือน

  • หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับสิ่งที่คุณจะถามหรือพูด ให้เกริ่นก่อนการสนทนาว่าคุณไม่แน่ใจ เพื่อที่จะได้ไม่เกิดความขุ่นเคืองใจต่อผู้ฟัง หรือเกิดการเข้าใจผิด


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,795 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา