ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แทบจะไม่มีอะไรน่ารำคาญกว่าอาการไอแห้งๆ ที่ไม่ยอมหายสักที อาการไอแบบนี้ทำให้ชีวิตคุณลำบากและรบกวนคนอื่นๆ หรือเมื่ออยู่สถานการณ์ทางสังคมต่างๆ อย่างไรก็ตาม มีขั้นตอนที่คุณสามารถทำได้เพื่อลดหรือขจัดอาการไอของคุณโดยสามารถทำได้เองได้ที่บ้าน คุณสามารถรักษาอาการไอเองได้ แต่พึงระลึกไว้ว่าถ้าอาการไอยังไม่หายไปภายใน 3 อาทิตย์หรือนานกว่านั้น คุณควรไปพบแพทย์

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

ทำให้ร่างกายชุ่มชื้นเสมอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. บ่อยๆ แล้วอาการไอเกิดจากน้ำมูกจากจมูกไหลลงคอ นี่มักจะเกิดขึ้นเมื่อคุณเป็นหวัดหรือติดเชื้อไวรัสเช่น เมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ การดื่มน้ำจะทำให้น้ำมูกจากอาการหวัดเบาบางลง [1]
  2. นี่จะช่วยบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบ [2] ให้ลองกลั้วปากแบบนี้ก่อนเข้านอนและในช่วงเวลาอื่นๆ ระหว่างวันเมื่อคุณรู้สึกไม่สบายคอ
  3. ขณะที่น้ำร้อนดูเหมือนว่าจะดีที่สุดสำหรับคอ แค่จริงๆ แล้วน้ำอุ่นจะช่วยทำให้เนื้อเยื่อในร่างกายชุ่มชื้นอิ่มน้ำได้ดีกว่าน้ำร้อน น้ำร้อนอาจจะทำให้เนื้อเยื่อที่อักเสบอยู่แล้วระคายเคืองได้ การดื่มชาอุ่นๆ นั้น เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมที่จะทำให้ร่างกายของคุณอิ่มน้ำและความอุ่นของชาจะช่วยบรรเทาลำคอของคุณ [3]
    • ชาโป๊ยกั๊กนั้นสามารถบรรเทาคอของคุณได้และจะลดอาการไอ ใส่อบเชยเพิ่มขึ้นเพื่อให้ช่วยบรรเทายิ่งขึ้น
    • ต้มขิงพร้อมกับใบชา [4] ใส่พริกนิดหน่อยและใบกะเพราเยอะๆ เพื่อบรรเทาอาการแน่นจมูก [5] สมุนไพรที่ผสมผสานกันจะช่วยบรรเทาและทำให้อาการเจ็บปวดทุเลาลง ซึ่งจะเป็นการทำให้เนื้อเยื่อที่คอนั้นได้พักหลังจากไออย่างหนัก
  4. [6] เมื่อผสมอบเชยและน้ำผึ้งรวมกันแล้ว [7] มันสามารถจัดการกับอาการติดเชื้อได้และยังลดอาการบวม โดยคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระของมันจะช่วยรักษาอาการเจ็บคอได้
    • ในการทำนมอบเชยนั้น ให้ผสมอบเชย ½ ช้อนชาและน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะในกระทะซอส จากนั้นเพิ่มผงฟู 1/8 ช้อนชาและนม 240 มิลลิลิตร ผสมให้เข้ากันดี จากนั้นให้อุ่นจนมันเคี่ยวแต่ไม่ต้องถึงกับต้มให้เดือด ปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นใส่น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ คนจนน้ำผึ้งละลาย และดื่มขณะที่มันยังอุ่นอยู่
  5. น้ำสับปะรดนั้นมีประสิทธิภาพดีกว่าน้ำหวานแก้ไปถึง 5 เท่า จากงานวิจัยในปี 2010 [8] น้ำสับปะรดจะทำให้กล่องเสียงอ่อนตัวลงโดยที่ไม่ทิ้งสารตกค้างที่จะทำให้คุณไออีก เลือกน้ำสับปะรดแทนน้ำส้มหรือน้ำมะนาว [9]
    • น้ำองุ่นก็เป็นน้ำผลไม้ที่ดีที่จะช่วยรักษาอาการไอ [10] ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชาในน้ำองุ่น 1 ถ้วย องุ่นจะทำหน้าที่เหมือนยาขับเสมหะที่ช่วยขับเสมหะในทางเดินหายใจ ดังนั้น จึงเป็นการขจัดอาการไอด้วย [11]
  6. ต้มใบออริกาโน 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำ 1 ถ้วย หลังจากที่น้ำเดือดแล้ว แยกใบออริกาโนออกและจิบชาออริกาโน
    • ถ้าคุณมีเครื่องแยกชา คุณสามารถใส่ออริกาโนไว้ตรงที่กรองแยกชาได้เพื่อที่จะได้แยกออกได้ง่ายดาย
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

รับประทานอาหารที่ช่วยในการบรรเทา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ความเหนียวของน้ำผึ้งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ต่อมทอนซิล ซึ่งจะลดอาการระคายคอ (และอาการไอ) น้ำผึ้งที่ดีนั้นได้ผลเหมือนกับยาแก้ไอเลย! [12]
    • น้ำหมักดอกกุหลาบนั้นก็เป็นตัวเลือกที่ดีนอกจากน้ำผึ้ง สารสำคัญของดอกกุหลาบจะช่วยลดเสมหะได้ดี
  2. น้ำมันหอมระเหยนั้นเป็นน้ำมันที่มีประสิทธิภาพมากที่ใช้รักษาโรคง่ายๆ จนไปถึงโรคหลายชนิด น้ำมันหอมระเหยหลายชนิดมีประโยชน์ในการช่วยลดอาการไอเรื้อรัง [13]
    • น้ำมันหอมระเหยอย่าง น้ำมันยูคาลิปตัส สาระแหน่ โรสแมรี่ เสจ ทีทรี แซนดัลวูด ซีดาร์วูด แฟรงกินเซนส์ และฮิสซอป ล้วนเป็นน้ำมันที่กำจัดอาการแน่นจมูกได้อย่างยอดเยี่ยม
      • ในการรักษาอาการแน่นจมูก ให้หยดน้ำมันหอมระเหย 1-2 หยดลงที่ฝ่ามือ ถูมือและนำมามาวางที่จมูก หายใจเข้าไปลึกๆ 4-6 ครั้ง เพื่อเป็นการทำให้หายใจโล่งขึ้น คุณสามารถหยดน้ำมันหอมระเหย 2-4 หยดลงบนสำลีก้อน เก็บเอาไว้ในถุงซิปล็อคและพกติดตัวคุณได้ [14] ใช้น้ำผึ้ง 1 ช้อนชาและใส่ขิงไป 1/4 ชิ้น ทานมันเข้าไปก็จะช่วยบรรเทาอาการไอ
    • น้ำมันหอมระเหยอย่าง ทีทรี เสจ ยูคาลิปตัส สะระแหน่ โรสแมรี่ มะนาว กระเทียม และขิง ล้วนเป้นน้ำมันที่สามารถบรรเทาอาการเจ็บคอได้ยอดเยี่ยม
      • ในการใช้น้ำมันหอมระเหยเพื่อบรรเทาอาการเจ็บคอ หยดน้ำมัน 1-2 หยดลงไปในน้ำอุ่นครึ่งแก้วและนำมากลั้วคอ 2-3 นาที จากนั้นบ้วนออกมา ขอให้แน่ใจว่าคุณจะไม่กลืนน้ำมันหอมระเหยนั้นไป
  3. มียาแก้ไอหลายชนิดที่สามารถทำเองได้ที่บ้านและมันก็มีประสิทธิภาพดีกว่ายาแก้ไอที่ซื้อตามร้านเสียอีก [15]
    • ทำยาแก้ไอน้ำเชื่อมสูตรสมุนไพร ผสมสมุนไพร 56.8 กรัมลงไปน้ำ 4 ลิตร สมุนไพรที่ใช้ได้ดีนั้นได้แก่ ผักชีล้อม ชะเอมเทศ เปลือกต้นสลิปเปอร์รี่เอล์ม อบเชย รากขิง และเปลือกส้ม ต้มสมุนไพรจนสมุนไพรแฟบตัวลงประมาณครึ่งหนึ่ง (ประมาณ 4 ถ้วย) แยกสมุนไพรออกมาและใส่น้ำผึ้ง 1 ถ้วยลงไปในน้ำที่ต้มสมุนไพร คนจนกระทั่งน้ำผึ้งกับน้ำเข้ากันดี [16]
    • ทำยาแก้ไอน้ำเชื่อมสูตรหัวหอม หัวหอมมีคุณสมบัติที่จะช่วยขจัดเสลดที่ทำให้เกิดอาการไอ ให้หั่นหัวหอมอย่างละเอียดและคั้นออกมาแต่น้ำ ผสมน้ำผึ้งและน้ำหัวหอมในปริมาณที่เท่ากัน ทิ้งเอาไว้ประมาณ 4-5 ชั่วโมง เมื่อส่วนผสมได้ที่แล้ว คุณก็จะได้ยาแก้ไอน้ำเชื่อมที่สามารถนำมาใช้ได้ 2 ครั้งต่อวัน
    • ทำน้ำเชื่อมอัลเดอร์เบอร์รี่ (Elderberry) น้ำเชื่อมอัลเดอร์เบอร์รี่นั้นดีเยี่ยมมากเพราะว่ามันจะช่วยบรรเทาอาการไอและอ่อนโยนกับกระเพาะ ถ้ากระเพาะของคุณนั้นแพ้ง่าย ให้ลองใช้น้ำเชื่อมชนิดนี้ ผสมน้ำอัลเดอร์เบอร์รี่ 1 ลิตรกับน้ำผึ้ง 2 ถ้วยและอบเชยแบบแท่ง 2 แท่ง ต้มส่วนผสมเป็นเวลา 10 นาที วิธีนี้สามารถทำน้ำเชื่อมได้ 1 ลิตร [17]
      • ถ้าคุณอยากทำน้ำอัลเดอร์เบอร์รี่เอง คุณสามารถต้มอัลเดอร์สดหรือแห้งในน้ำ 1 ลิตรประมาณ 45 นาที จากนั้นแยกลูกเบอร์รี่ออกมา และทำตามวิธีด้านบนเพื่อทำน้ำเชื่อม
  4. น้ำจากซุปจะช่วยเปิดโล่งทางเดินหายใจด้านบนและความอุ่นก็จะช่วยบรรเทาคอ [18] มันจะช่วยบรรเทาอาการอ่อนแรงเพราะซุปไก่นั้นอุดมไปด้วยโปรตีน ยิ่งไปกว่านั้น จะมีอะไรสบายเท่ากับซุปไก่ร้อนๆ สักถ้วยหนึ่งล่ะ?
  5. หายาอมที่มีเมนทอล เมนทอลจะทำให้ในช่องคอเย็นและช่วยบรรเทาอาการไอ เมนทอลเป็นสารจากสะระแหน่ที่จะทำให้คอเย็นและสามารถเยี่ยวยาอาการเจ็บคอได้ ยาอมนั้นเป็นตัวเลือกที่ดีถ้าคุณต้องออกไปข้างนอก เช่นไปดูภาพยนตร์หรือไปเรียน เพราะคุณคงไม่อยากจะไอรบกวนคนอื่น
    • ถ้าคุณไม่มียาอม ให้อมลูกกวาดที่แข็งๆ [19] แค่อมลูกกวาดแข็งๆ หรือโลลิป้อปก็จะช่วยเพิ่มการผลิตน้ำลายและบรรเทาอาการไอแห้งๆ การเคี้ยวหมากฝรั่งก็จะช่วยได้ชั่วคราว ลูกอมเปปเปอร์มินท์ก็ดีเยี่ยมเพราะว่ามันมีคุณสมบัติทำให้คอเย็นเหมือนเมนทอล
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

ใช้ความชื้นให้เป็นประโยชน์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อากาศแห้งๆ จะทำให้การขับน้ำมูกออกนั้นค่อนข้างแห้งแข็งและทำให้รู้สึกไม่สบายและก็ทำให้เกิดอาการไอ แต่เครื่องทำความชื้นสามารถช่วยได้ [20]
    • ให้ระวังการใช้เครื่องทำความชื้นมากเกินไป ถ้าเครื่องทำความชื้นนั้นไม่สะอาด มันสามารถส่งต่อเชื้อราไปในอากาศ นี่จะทำให้คุณมีอาการไอนานขึ้นแทนที่จะเป็นการรักษาให้หาย
  2. ขอให้แน่ใจว่าได้ปิดหน้าต่างในห้องน้ำและปิดพัดลม การทำเช่นนี้จะทำให้ห้องน้ำของคุณเต็มไปด้วยไอน้ำ ไอน้ำอุ่นจะทำให้ระบายของเสียในจมูก ไอน้ำจะจัดการกับอาการไอที่เกิดจากหวัด อาการแพ้ และโรคหอบหืด [21]
  3. ต้มน้ำ 1 หม้อ จากนั้นยกหม้อออกจากเตาและวางบนที่ที่วางหม้อร้อนๆ ได้อย่างปลอดภัย ยื่นศีรษะเหนือหม้อและสูดดมไอน้ำ คุณจะคลุมผ้าขนหนูที่ศีรษะด้วยก็ได้เพื่อกักเก็บไอน้ำ
    • ลองใส่ใบไทม์ลงไปในน้ำเพื่อช่วยบรรเทายิ่งขึ้น
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

ใช้ยา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าเสมหะลงคอทำให้คุณไอ ลองใช้ยาลดน้ำมูกที่จะลดการบวมของเนื้อเยื่อที่จมูกและลดน้ำมูก ยาลดย้ำมูกมีหลายรูปแบบทั้งแบบพ่น ยาเม็ด และยาน้ำ [22]
    • ควรใช้ยาลดน้ำมูกแบบยาพ่นไม่เกิน 3 วัน หากใช้นานเกิน 3 วันต่อกันจะทำให้แน่นจมูก [23]
    • ยาพ่นลดน้ำมูกอาจจะมีสารออกซี่เมตาโซลีน (Oxymetazoline) [24] ซึ่งก็เป็นสารช่วยลดน้ำมูกแต่ถ้าใช้เกิน 3 วันก็อาจจะทำให้ทางเดินหายใจที่จมูกเสียหายได้
  2. ยาแก้แพ้จะช่วยจำกัดปริมาณฮิสตามีนที่ถูกปล่อยออกมาในร่างกาย ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายในจมูกและคอซึ่งก็ทำให้คุณมีอาการไอเรื้อรัง [25] ยาแก้แพ้จะได้ผลดียิ่งขึ้นในช่วงฤดูกาลที่คุณแพ้หรือถ้าอาการไอของคุณมาจากปฏิกิริยาแพ้เล็กน้อยต่อบางอย่างเช่น สภาพอากาศ สะเก็ดผิวหนังสัตว์เลี้ยง ปลวก เชื้อรา
  3. [26] ยาระงับอาการไอมีส่วนผสมออกฤทธิ์อย่างการบูร เดกซ์โทรเมทอร์แฟน (Dextromethorphan) น้ำมันยูคาลิปตัส และเมนทอล ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการไอเป็นเวลาสั้นๆ แต่ไม่ได้เป็นการรักษาให้หาย ถ้าคุณมีปัญหาในการนอนเนื่องจากอาการไอของคุณ หรือคุณไอบ่อยๆ จนเจ็บหน้าอกหรือกล้ามเนื้อ คุณอาจจะลองใช้ยาระงับการไอในตอนกลางคืน แต่ขอให้ระลึกไว้ว่ายาระงับนี้ไม่ใช่การรักษา
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

รักษาปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไปหาแพทย์เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยอาการติดเชื้อ. ถ้าคุณติดเชื้อแบคทีเรีย แพทย์จะช่วยจ่ายยาที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียให้คุณ เชื้อไวรัสนั้นไม่ตอบสนองกับยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้นถ้าคุณติดเชื้อไวรัส ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียนั้นไม่สามารถช่วยอะไรได้
  2. สำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวคุณเพื่อหาสิ่งที่ทำให้ระคายเคือง. ถ้าคุณเพิ่งเปลี่ยนน้ำหอมใหม่หรือใช้สเปรย์ห้องน้ำใหม่ [27] นี่อาจจะทำให้โพรงไซนัสระคายเคืองและเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณไอ การสูบบุหรี่ก็เป็นสาเหตุที่สำคัญของอาการไอ [28]
  3. ถ้าคุณเป็นโรคกรดไหลย้อนหรือจุกเสียดบ่อยๆ คุณควรทำตามวิธีที่จะลดอาการของมัน [30] อย่านอนหลังทานอาหารเสร็จเป็นเวลา 3 ชั่วโมงและหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดหรืออาหารอะไรที่จะไป “กระตุ้น”
  4. ยาบางชนิดอย่างยาลดความดันโลหิตอาจจะทำให้มีอาการไอเรื้อรัง [31] ถ้ายาที่คุณใช้มีอาการข้างเคียง ให้ปรึกษากับแพทย์เกี่ยวกับตัวเลือกของยาอื่นๆ ที่จะใช้รักษาโรคของคุณ
  5. หลีกเลี่ยงฝุ่นและสิ่งที่ทำให้เป็นโรคภูมิแพ้. ถ้าคุณไม่กำจัดฝุ่นหรือสิ่งที่ทำให้แพ้จากสภาพแวดล้อมรอบตัวของคุณด้วยการทำความสะอาดหรือใช้ที่กรองอากาศได้ การใช้ยาแก้แพ้ก็นำมาใช้รักษาอาการไอเรื้อรังจากสิ่งที่ทำให้แพ้ได้ [32]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยป้องกันอาการไอตั้งแต่แรกคือจะต้องมีสุขอนามัยที่ดี ให้ล้างมืออย่างเป็นประจำด้วยสบู่และน้ำก็จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อ [33]
  • หลีกเลี่ยงการทานหรือดื่มอะไรที่เย็นเกินไป
  • หลีกเลี่ยงการตะโกน มันจะทำลายเสียงของคุณ
  • นอนหลับให้เพียงพอ โดยเฉพาะถ้าอาการเจ็บคอเกิดขึ้นพร้อมอาการหวัด
  • ขอให้นั่งดื่มชาที่มีน้ำผึ้งและมะนาว หรือน้ำสับปะรด ขณะที่นั่งอยู่ก็พยายามอย่าพูดคุยมาก
  • ดื่มน้ำเยอะๆ
  • เมื่อใช้เครื่องทำความชื้น การใช้แผ่นทความชื้นมากกว่า 1 ครั้งต่อวัน มันจะทำให้อุดตันซึ่งจะทำให้เครื่องทำความชื้นแพร่เชื้อราออกมา
โฆษณา

คำเตือน

  • วิธีที่ทำเองที่บ้านนั้นไม่เหมาะกับเด็กเล็กๆ ให้ระวังเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 1 ขวบไม่ควรทานน้ำผึ้ง
  • ถ้าอาการไอนั้นนานขึ้นและกลายเป้นปัญหา ให้หาคำแนะนำจากแพทย์
  • วิธีที่ใช้รักษาบางวิธีโดยเฉพาะวิธีที่เกี่ยวกับน้ำเดือดนั้นไม่เหมาะกับเด็ก
  • ถ้าคุณเป็นหญิงมีครรภ์ ให้ถามแพทย์ก่อนที่จะใช้วิธีเหล่านี้ที่บ้าน
  • โทรศัพท์หาแพทย์ [34] ถ้าคุณพบว่ามีอาการเหล่านี้ร่วมกับเจ็บคอ
    • เป็นไข้
    • หนาวสั่น
    • ไอเรื้อรังยาวนาน
    • มีเสียงหายใจแหลมสูง
โฆษณา
  1. http://naturalsociety.com/home-remedies-for-cough/
  2. http://www.merriam-webster.com/dictionary/expectorant
  3. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/common-cold/expert-answers/honey/faq-20058031
  4. http://www.healthyandnaturalworld.com/best-essential-oils-for-cold-and-sore-throat/
  5. http://www.healthyandnaturalworld.com/best-essential-oils-for-cold-and-sore-throat/
  6. http://www.sciencedaily.com/releases/2004/07/040706075953.htm
  7. http://www.commonsensehome.com/cold-and-cough-care/
  8. http://www.commonsensehome.com/elderberries-how-to-make-syrups-and-jellies/
  9. http://www.medicaldaily.com/treating-your-sore-throat-without-medication-how-home-remedies-can-soothe-pain-277750
  10. http://newsinhealth.nih.gov/issue/mar2013/feature2
  11. http://www.medicaldaily.com/treating-your-sore-throat-without-medication-how-home-remedies-can-soothe-pain-277750
  12. http://www.webmd.com/cold-and-flu/features/cough-relief-how-lose-bad-cough
  13. http://www.webmd.com/cold-and-flu/features/cough-relief-how-lose-bad-cough
  14. http://www.nytimes.com/2006/03/14/health/14spra.html?_r=0
  15. http://www.emedicinehealth.com/drug-oxymetazoline_nasal/article_em.htm
  16. http://www.patient.info/health/cough-medicines
  17. http://familydoctor.org/familydoctor/en/drugs-procedures-devices/over-the-counter/cough-medicine-understanding-your-otc-options.html
  18. http://healthwyze.org/index.php/component/content/article/184-how-air-fresheners-are-killing-you.html
  19. http://www.webmd.com/cold-and-flu/features/cough-relief-how-lose-bad-cough
  20. http://www.cancer.org/healthy/stayawayfromtobacco/guidetoquittingsmoking/index
  21. http://www.healthline.com/health/gerd/coughing
  22. http://www.rightdiagnosis.com/symptoms/chronic_cough/side-effects.htm
  23. http://www.medicinenet.com/chronic_cough/article.htm
  24. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/adult-health/in-depth/hand-washing/art-20046253
  25. http://familydoctor.org/familydoctor/en/drugs-procedures-devices/over-the-counter/cough-medicine-understanding-your-otc-options.html

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 88,952 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา