PDF download ดาวน์โหลดบทความ PDF download ดาวน์โหลดบทความ

เวลาเข้าห้องน้ำคุณก็ไม่ได้นึกถึงความสำคัญของทางเดินปัสสาวะสักเท่าไหร่ แต่พอคุณติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI) เข้าให้แล้วล่ะก็ ใจคุณแทบจะนึกถึงเรื่องอื่นไม่ได้เลย เนื่องจากทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่เป็นโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะต้องใช้ยาปฏิชีวนะ คุณจึงต้องเข้ารับการตรวจ ทดสอบปัสสาวะ และรับใบสั่งยา จากนั้นคุณจึงสามารถใช้วิธีธรรมชาติในการบรรเทาความเจ็บปวดจากการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ที่บ้านและป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีกได้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

เข้ารับการรักษาทางการแพทย์

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. สังเกตความเจ็บปวดขณะปัสสาวะหรือการเปลี่ยนแปลงของปัสสาวะ. ถ้าแบคทีเรียในท่อปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะของคุณทำให้เกิดการอักเสบ คุณจะเริ่มรู้สึกเจ็บหรือปัสสาวะยาก คุณอาจจะรู้สึกเหมือนปวดปัสสาวะบ่อยๆ แต่ก็ปัสสาวะออกมานิดเดียวหรือไม่ออกเลย สัญญาณอื่นๆ ที่บ่งบอกถึงการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้แก่ : [1]
    • แสบร้อนขณะปัสสาวะ
    • เจ็บหรือปวดในท้อง
    • ฉี่เป็นฟอง มีสีแปลกๆ (เหลืองเข้มหรือเขียว) หรือมีกลิ่นเหม็น
    • รู้สึกเหนื่อยหรือไม่สบาย
  2. เข้ารับการตรวจจากแพทย์โดยฉุกเฉินหากเกิดการติดเชื้อที่ไตหรือต่อมลูกหมาก. ถ้าคุณมีอาการของโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะมาหลายวันหรือหลายสัปดาห์แล้วแต่ไม่ได้รักษา การติดเชื้อก็อาจจะลามไปถึงไตได้ ถ้าคุณเป็นผู้ชายแล้วติดเชื้อทางเดินปัสสาวะแต่ไม่ได้รักษา มันก็อาจจะลามไปถึงต่อมลูกหมาก ถ้าคุณมีอาการของการติดเชื้อที่ไตหรือต่อมลูกหมาก ให้ไปรักษาที่คลินิกอย่างเร่งด่วนหรือเข้ารับการตรวจฉุกเฉิน : [2]
    • ปวดหลังด้านข้างหรือช่วงล่าง
    • มีไข้หรือหนาวสั่น
    • คลื่นไส้
    • อาเจียน
    • ท้องเสีย
    • ปวดขณะปัสสาวะ
  3. ติดต่อแพทย์ถ้าคุณมีอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ แพทย์จะซักประวัติการเจ็บป่วยและถามอาการของคุณ นอกจากนี้แพทย์จะเก็บตัวอย่างปัสสาวะเพื่อตรวจสอบหาแบคทีเรียในการวินิจฉัยการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะและกำหนดแนวทางการรักษา [3]
    • แพทย์อาจตรวจทวารหนักด้วยหากเชื่อว่ามีการติดเชื้อที่ต่อมลูกหมาก
    • แพทย์อาจตรวจเชิงกรานถ้าตกขาวที่ออกมาจากอวัยวะเพศของคุณมีกลิ่น วิธีนี้จะช่วยตัดการติดเชื้อที่ปากช่องคลอดออกไปได้ [4]
    • ถ้าคุณมีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะบ่อยครั้งหรือมีการติดเชื้อที่ซับซ้อน แพทย์อาจจะดูภาพทางเดินปัสสาวะของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้เป็นนิ่วในไตหรือมีการอุดตันที่ไต
  4. แพทย์จะสั่งยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ปฏิบัติตามคำสั่งในเรื่องของปริมาณยาและอย่าหยุดยาเมื่ออาการเริ่มดีขึ้น คุณต้องรับประทานหาให้ครบเพื่อที่ไม่ให้แบคทีเรียกลับมาอีก [5]
    • ถามแพทย์ถึงผลข้างเคียงของยาปฏิชีวนะและถามว่าคุณควรเลี่ยงแอลกอฮอล์ระหว่างการรักษาหรือเปล่า
    • ถ้าคุณเคยมีภาวะช่องคลอดอักเสบมาก่อน ให้สอบถามแพทย์เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อยีสต์ด้วยยาที่มีฤทธิ์ต้านทั้งปฏิชีวนะและเชื้อรา
  5. คุณควรรู้สึกดีขึ้นหลังจากรับประทานยาปฏิชีวนะไปแล้ว 1 หรือ 2 วัน ติดต่อแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้น เพราะอาจจะต้องมีการปรับยาหรือการติดเชื้ออาจเกิดจากสาเหตุอื่นที่ต้องรักษาแบบอื่น [6]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

คลายความเจ็บปวด

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. รับประทานยาแก้ปวดที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาเพื่อลดไข้และความเจ็บปวด. คุณอาจจะรับประทานยาแก้ปวดที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาช่วง 1 หรือ 2 วันแรกจนกว่ายาปฏิชีวนะจะออกฤทธิ์ ซึ่งจะทำให้ปัสสาวะได้สบายขึ้นและลดไข้ด้วย [7]
    • หลีกเลี่ยงไอบูโพรเฟนหรือแอสไพรินถ้าคุณมีการติดเชื้อที่ไต เพราะอาจเพิ่มอาการต่างๆ ที่ทำให้รักษายากขึ้น
    • อย่ารับประทานไพริเดียมหรือฟีนาโซไพริดีนจนกว่าคุณจะพบแพทย์แล้ว เพราะแม้ว่ายาชนิดนี้จะมีขายตามร้านขายยาเพื่อรักษาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะก็จริง แต่ก็อาจทำให้ปัสสาวะคุณเป็นสีส้มและจะทำให้ผลการตรวจปัสสาวะใช้ไม่ได้
  2. ทั้งในระหว่างที่มีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะและหลังจากหายแล้ว ให้รับประทานของเหลวมากๆ เพื่อกำจัดการติดเชื้อและรักษาร่างกายไม่ให้ขาดน้ำ ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6 – 8 แก้ว (ขนาดแก้ว 230 มล.) คุณจะดื่มน้ำเปล่า ชาสมุนไพรหรือชาไม่มีคาเฟีน หรือจะดื่มน้ำเปล่าผสมมะนาวก็ได้ [8]
    • แม้ว่าจะเชื่อกันมานานว่าน้ำราสป์เบอร์รี่สามารถรักษาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ แต่งานวิจัยพบว่าเป็นการรักษาที่ไม่ได้ประสิทธิภาพและแทบไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้เลยว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ [9]
    • หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีสรสหวาน และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เพราะอาจระคายเคืองกระเพาะปัสสาวะได้
  3. วางแผ่นให้ความร้อนหรือขวดน้ำร้อนบนท้องน้อย หลัง หรือระหว่างขา ความร้อนอ่อนๆ อาจช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้ [10]
  4. 4
    ปัสสาวะเมื่อรู้สึกว่าปวด. อย่าอั้นปัสสาวะแม้ว่าคุณจะยังเจ็บเวลาปัสสาวะอยู่ก็ตาม การปัสสาวะเวลาที่ปวดจะช่วยกำจัดแบคทีเรียออกจากทางเดินปัสสาวะ การดื่มน้ำมากๆ จะเจือจางปัสสาวะ ทำให้ไม่เจ็บมากนักขณะปัสสาวะ [11]
  5. 5
    แช่ในอ่างอาบน้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชูหรือเบกกิ้งโซดา. เปิดน้ำอุ่นลงในอ่างอาบน้ำและเทน้ำส้มสายชูขาว ¼ ถ้วยหรือเบกกิ้งโซดา 60 มล. ลงไปในอ่างอาบน้ำ (ถ้าคุณยังไม่ถึงวัยเจริญพันธุ์) น้ำผสมน้ำส้มสายชูหรือเบกกิ้งโซดาสามารถบรรเทาความเจ็บปวดและกำจัดเชื้อโรคที่อยู่ใกล้ทางเข้าของทางเดินปัสสาวะออกไปได้ [12]
    • ถ้าคุณไม่มีอ่างอาบน้ำ คุณอาจจะใช้อ่างอาบน้ำนั่งที่คุณสามารถแช่ก้นลงไปได้แทน นั่งลงในอ่างอาบน้ำนั่งเพื่อให้ก้นจุ่มลงไปในน้ำที่ผสมน้ำส้มสายชูหรือเบกกิ้งโซดา จำไว้ว่าคุณต้องใส่น้ำส้มสายชูหรือเบกกิ้งโซดา 2-3 ช้อนโต๊ะเท่านั้นสำหรับการแช่ในอ่างอาบน้ำนั่ง
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ป้องกันไม่ให้กลับมาติดเชื้อทางเดินปัสสาวะอีก

PDF download ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปัสสาวะบ่อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะ. คุณต้องดื่มของเหลวเข้าไปให้เพียงพอต่อการปัสสาวะบ่อยๆ และปัสสาวะทันที่คุณปวดเสมอ การปัสสาวะจะกำจัดเชื้อโรคจากระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาการรักษาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหรือป้องกันการติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะได้ตั้งแต่แรก [13]
    • โน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อยหลังจากปัสสาวะเสร็จเพื่อให้แน่ใจว่ากระเพาะปัสสาวะของคุณไม่มีปัสสาวะแล้วจริงๆ
  2. เพราะว่าเซ็กส์นำเชื้อโรคมาสู่ทางเข้าของทางเดินปัสสาวะ คุณจึงต้องปัสสาวะทันทีที่มีเซ็กส์ อย่านอนบนเตียงแล้วรอสักพักค่อยไป ไม่อย่างนั้นแบคทีเรียจะมีโอกาสเข้าสู่ร่างกายของคุณผ่านทางเดินปัสสาวะมากขึ้น [14]
  3. ถ้าคุณอาบน้ำแล้วน้ำที่อาบเริ่มไม่สะอาด การแช่ตัวในอ่างอาบน้ำอาจนำแบคทีเรียมาสู่ทางเข้าของทางเดินปัสสาวะ นอกจากนี้คุณยังไม่ควรนั่งขณะใส่ชุดว่ายน้ำเปียกๆ หรือนั่งแช่ในอ่างน้ำ เวลาอาบน้ำ อย่าใช้สบู่ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด สเปรย์ หรือผลิตภัณฑ์สวนล้างช่องคลอดที่มีน้ำหอมแรง [15]
    • นอกจากนี้คุณยังควรเลี่ยงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่ผสมน้ำหอม เพราะอาจระคายเคืองทางเดินปัสสาวะได้
  4. 4
    หลังเข้าห้องน้ำให้เช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลัง. หลีกเลี่ยงการใช้กระดาษทิชชู่แผ่นเดิมเช็ดมาทางข้างหน้า แต่ให้เช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลังเพื่อที่คุณจะได้ไม่นำเชื้อโรคเข้าสู่ปากท่อปัสสาวะ หลังจากเช็ดเสร็จแต่ละครั้งให้ทิ้งกระดาษแผ่นเดิมไปเลย และอย่าลืมล้างมือเพื่อป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะและแพร่โรคอื่นๆ [16]
    • ถ้ามือของคุณเปื้อนอุจจาระ ให้ล้างมือก่อนเช็ดอีกครั้ง (มีแบคทีเรียจากอุจจาระที่ชื่อ E. coli ที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ 80 – 95 เปอร์เซ็นต์)
  5. เพื่อให้อวัยวะเพศแห้ง ให้ใส่กางเกงในผ้าฝ้ายที่ไม่กักเก็บความอับชื้น เลือกกางเกงในที่หลวมและไม่เสียดสีอวัยวะเพศ เช่น เลือกใส่บ็อกเซอร์หลวมๆ แทนการใส่กางเกงในรูปตัว V [17]
    • คุณต้องเปลี่ยนกางเกงในทุกวันเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ทางเดินปัสสาวะ
  6. (1 แก้ว) ทุกวัน วันละ 3 ครั้ง. การดื่มน้ำแครนเบอร์รี่ทุกวันช่วยป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในผู้หญิงที่มักจะติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะอยู่บ่อยๆ หรือคุณจะรับประทานแครนเบอร์รี่แบบเม็ด 400 มก. ทุกวันก็ได้ [18]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ผลิตภัณฑ์ที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาก็มักจะมีกระดาษตรวจปัสสาวะหรือยาระงับปวด ที่แม้จะบอกได้ว่าคุณติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหรือไม่และช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด แต่ก็ไม่ได้รักษาต้นเหตุของการติดเชื้อ
โฆษณา

คำเตือน

โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,719 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา