ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ในความสัมพันธ์นั้นมันไม่ปกติที่จะรู้สึกไม่มั่นใจเกี่ยวกับสถานะของความสัมพันธ์ ณ จุดใดจุดหนึ่ง ถึงแม้ว่ามันมักจะชัดเจนเวลาที่ใครบางคนต้องการจบความสัมพันธ์แต่บางครั้งพฤติกรรมของบุคคลนั้นอาจจะยากที่จะเข้าใจ ถ้าคุณคิดว่าแฟนสาวต้องการเลิกก็ควรใช้ขั้นตอนเหล่านี้เพื่อสังเกตพฤติกรรมของเธออย่างมีเหตุผลให้ได้มากที่สุด จากนั้นถ้ามันยังไม่ชัดเจนว่าเธอต้องการเลิกกับคุณหรือไม่เธอดูเหมือนว่าเธอไม่ต้องการพูดสิ่งนั้นออกมาด้วยตัวเอง คุณสามารถก็คุยกับเธอเกี่ยวกับสถานะของความสัมพันธ์

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การสังเกตพฤติกรรมของแฟนสาว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สิ่งนี้อาจจะเป็นหรือไม่เป็นสัญญาณว่าเธอต้องการเลิกแต่ถ้าเธอเคยโทรหาหรือส่งข้อความหาคุณทุกวันแต่ตอนนี้เธอแทบจะไม่ติดต่อมาและไม่รับสายเวลาที่คุณติดต่อเธอก็อาจเป็นสัญญาณว่ามีบางอย่างผิดปกติ [1]
    • อย่าด่วนสรุป อย่างแรกคือคุณต้องนึกถึงสิ่งอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิตของเธอ เธอกำลังจะสอบครั้งสำคัญหรือมีปัญหากับครอบครัวหรือเปล่า? เธอเพิ่งเริ่มงานใหม่หรือเปล่า? อาจจะมีเหตุผลอื่นว่าทำไมเธอถึงไม่ติดต่อคุณบ่อยเหมือนแต่ก่อน
  2. ถ้าแฟนสาวชอบคุณ เธอจะตื่นเต้นที่ได้วางแผนกับคุณ อย่างไรก็ตาม ถ้าเธอไม่ตื่นเต้นเธออาจจะไม่อยากวางแผนอะไร ถ้าคุณแนะนำบางอย่างเพื่อทำในคืนวันศุกร์และเธอพูดว่าเธอจะให้คำตอบคุณในช่วงบ่ายวันศุกร์ก็เป็นสัญญาณว่าเธอกำลังรอให้อะไรบางอย่างที่น่าสนใจมากกว่าเกิดขึ้น
    • จำไว้ว่าเหตุการณ์บางอย่างเพียงเหตุการณ์เดียวไม่ได้แปลว่าเธอต้องการเลิกกับคุณ ถ้ามันเกิดขึ้นครั้งหรือสองครั้งก็อาจจะเป็นเพราะเธอวางแผนที่จะทำอะไรกับเพื่อนอยู่แล้วแต่เธอต้องการยืนยันกับพวกเขาก่อนที่จะบอกคุณว่าเธอไม่ว่าง
    • ถ้าคุณเป็นนักเรียน คุณสามารถชวนเธอมาทานมื้อกลางวันกับคุณ ถ้าเธอตอบว่า “ไม่” และหาข้ออ้างว่าจะทานอาหารกับคนอื่นก็แปลว่าเธออาจจะไม่สนใจความสัมพันธ์อีกต่อไป
  3. การทะเลาะบ่อยครั้งคือสัญญาณที่ชัดเจนว่าความสำคัญกำลังจะจบลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมักจะทะเลาะกันเพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ [2] ช่วงนี้เธอรู้สึกรำคาญเมื่ออยู่กับคุณหรือเปล่า? เธอเริ่มทะเลาะกับคุณด้วยเรื่องที่ไม่เคยทะเลาะกันมาก่อนหรือเปล่า? เหตุผลของสิ่งเหล่านี้มีมากมาย (เช่น เธออาจจะเครียดเกี่ยวกับวันกำหนดส่งงานหรือรู้สึกไม่สบาย) แต่ถ้าพฤติกรรมนี้เกิดขึ้นทุกวันก็เป็นสัญญาณว่าเธอไม่มีความสุขกับความสัมพันธ์
    • ลองพูดกับเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้นที่ทำให้เธอเครียดมากและมีอะไรที่คุณสามารถช่วยได้หรือไม่
  4. ความสัมพันธ์ของคุณอาจจะกำลังจบลงถ้าคุณมีความใกล้ชิดทางร่างกายน้อยลง [3] สิ่งนี้อาจจะไม่ได้หมายถึงเซ็กส์เสมอไปแต่หมายถึงการแสดงออกความรักทางร่างกายโดยรวม ถ้าคุณมีเซ็กส์ในความสัมพันธ์แต่จู่ๆ แฟนก็ไม่อยากมีเซ็กส์และไม่แสดงความรักกับคุณอีกต่อไปก็อาจจะเป็นเพราะมีบางอย่างในความสัมพันธ์ที่ทำให้เธอรำคาญ
    • ถ้าแฟนของคุณไม่ค่อยแสดงออกความรักทางร่างกายอยู่แล้ว คุณก็ควรตระหนักถึงสิ่งนี้ บางคนไม่ชอบแสดงออกความรักทางร่างกายมากเท่าคนอื่นและถ้าแฟนสาวของคุณไม่ชอบก็ไม่จำเป็นว่าเธอไม่ได้รักคุณ
    • เธอเคยชอบจับมือคุณในอดีตแต่ตอนนี้เธอไม่ยอมจับมือหรือปัดมือของคุณทิ้งทุกครั้งที่คุณลองจับมือเธอหรือไม่? สิ่งนี้อาจจะเป็นตัวบ่งชี้ว่ามีบางอย่างที่ทำให้เธอไม่พอใจ
  5. อ่านภาษากาย . ภาษากายคือตัวบ่งชี้ที่ดีว่าใครบางคนรู้สึกอย่างไรข้างใน ถ้าแฟนของคุณมีความสุขที่ได้อยู่กับคุณ เธอจะสบตากับคุณ หันร่างกายเข้าหาคุณเมื่อคุณพูดกัน และจะพยายามอยู่ใกล้คุณ [4]
    • อย่างไรก็ตาม ถ้าเธอกอดอกและหลีกเลี่ยงการสบตาก็แปลว่ามีบางอย่างที่เธอไม่พอใจ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การพูดคุยกับแฟนสาว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถึงแม้ว่าคุณรู้สึกว่าคุณอยากหลีกเลี่ยงบทสนทนาหรือพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่คุณควรพูดกับเธอโดยตรง [5] ไม่มีเหตุผลที่คุณไม่สามารถสื่อสารกับแฟนว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ก็อาจจะใช่ที่บทสนทนานี้อาจจะแปลว่าเธอบอกคุณว่าเธอต้องการเลิกแต่มันอาจจะแปลว่าเธอต้องการบอกคุณว่ามีบางอย่างที่ทำให้เธอไม่พอใจและเธอไม่ต้องการเลิกกับคุณ อย่างน้อยคุณก็จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
    • บอกเธอว่าคุณต้องการหาเวลาพูดกับเธอว่าเกิดอะไรขึ้น อย่าเพียงแค่เดินเข้าไปหาเธอและถามว่าเธอต้องการเลิกกับคุณหรือเปล่า สิ่งนี้อาจจะทำให้เธอสับสนหรือทำให้เธอมีปฏิกิริยาโต้ตอบที่ไม่ดี
    • ถ้าเธอพูดว่าเธอไม่สามารถพูดกับคุณได้เพราะเธอยุ่งก็ลองเสนอเวลาที่คุณรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่ที่โรงเรียนหรือที่ทำงาน คุณยังสามารถชวนเธอไปดื่มกาแฟหรือทานมื้อกลางวัน วิธีนี้เธอจะมองว่าเป็นช่วงเวลาที่เธอมีให้เพื่อคุยกับคุณแทนที่จะเป็นบทสนทนาที่ไม่ได้ตั้งตัว
    • ถ้าคุณไม่สามารถคุยกันต่อหน้าได้ก็สามารถลองแชทกันผ่านทางคอมพิวเตอร์ อีเมล หรือโทรศัพท์ ถ้าคุณทำตัวให้ว่างเพื่อคุยกับเธอในหลากหลายช่องทาง เธอก็จะหาเวลามาคุยกับคุณได้ในที่สุด
  2. คุณต้องใช้เวลาหยุดและคิดถึงเหตุผลที่คุณสงสัยในตัวของแฟนสาวแทนที่จะด่วนสรุป ลองพิจารณาหลักฐานที่ทำให้คุณสงสัย ความสงสัยนั้นเป็นจริงได้แค่ไหน คุณสามารถยืนยันข้อมูลได้หรือไม่ และคุณควรทำอะไรกับข้อมูล [6]
    • เช่น คุณอาจจะสงสัยว่าแฟนสาวนอกใจคุณเพราะคุณเห็นเธอยิ้มและหัวเราะกับเพื่อนร่วมงาน อย่างไรก็ตาม ถ้านี่คือหลักฐานเดียวของคุณ คุณก็ควรพิจารณาว่าเธอแค่ทำตัวดีและพยายามฆ่าเวลากับงานที่น่าเบื่อหรือเปล่า คุณอาจจะตัดสินใจว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่ต้องทำกับข้อมูลคือถามเธอว่าเธอชอบเพื่อนร่วมงานคนนี้หรือเปล่า
    • หลีกเลี่ยงการพูดว่า “ผมรู้ว่าคุณอยากเลิกกับผมและผมรู้ว่ามันเป็นเพราะผู้ชายคนนั้นที่คุณไปเที่ยวด้วย ทำไมเราไม่เลิกกันเลยล่ะ?!” คุณกำลังด่วนสรุปและถึงแม้ว่าคนอาจจะคิดถูกแต่การกล่าวหาต่อหน้าเธอจะยิ่งทำให้เธอโมโห
    • แทนที่จะทำเช่นนั้น คุณควรเริ่มพูดคุยด้วยการพูดว่าคุณสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นและคุณอยากเข้าใจว่าเธอมีความสุขกับความสัมพันธ์หรือมีบางอย่างที่คุณต้องแก้ไข
    • คุณสามารถพูดว่า “ผมรู้สึกกังวลเพราะผมสังเกตว่าเราไม่ได้ไปเที่ยวกันอีกต่อไปและผมไม่แน่ใจว่ามีบางอย่างที่ทำให้คุณไม่พอใจหรือเปล่า” สิ่งนี้แสดงให้เธอเห็นว่าคุณพยายามพูดความรู้สึกโดยไม่ได้กล่าวหาเธอเรื่องใดเรื่องหนึ่ง สิ่งนี้เรียกว่าการสื่อสารที่ไม่รุนแรงและเป็นวิธีที่ดีเพื่อเข้าถึงความรู้สึกที่ลำบากกับคนที่คุณใส่ใจ
  3. การตั้งใจฟังคือการที่คุณใช้ภาษากาย คำถาม และเทคนิคอื่นๆ เพื่อเพิ่มความเข้าใจในสิ่งที่แฟนสาวพูดในขณะที่ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าคุณตั้งใจฟัง เช่น คุณสามารถพูดย้ำสิ่งที่แฟนของคุณพูดอย่างเงียบๆ เพื่อช่วยให้ตัวเองเข้าใจได้ดีขึ้นและคุณสามารถเพิ่มการรับรู้ของเธอว่าคุณตั้งใจทางด้วยการสบตา พยักหน้า และพูดสิ่งที่เป็นกลาง เช่น “อ๋อ” และ “ใช่” [7]
    • อย่าด่วนสรุปและฝืนความต้องการที่จะขัดจังหวะสิ่งที่เธอกำลังพูด ให้โอกาสเธอได้อธิบายว่าทำไมเธอถึงอยากเลิกและทำไมเธอถึงไม่อยากเลิกกับคุณ เธออาจจะมีเหตุผลที่ดีมากมายว่าทำไมเธอถึงวางตัวแปลกไปในช่วงนี้และคุณจะดูเหมือนคนที่ไม่มั่นใจถ้าคุณไม่ให้โอกาสเธอพูดคุยกับคุณ
    • ถ้าเธออยากเลิกกับคุณ คุณก็ต้องรับฟังเหตุผลที่เธออยากเลิกกับคุณ มันอาจจะเป็นสิ่งที่คุณนึกไม่ถึงหรือไม่ได้สังเกต คุณอาจจะสำนึกได้ว่าการเลิกกันเป็นสิ่งที่เข้าใจได้
    • เธออาจจะไม่อยากเลิกกับคุณแต่ไม่อยากทำร้ายความรู้สึกของคุณ เพราะฉะนั้นคุณต้องรับฟังสิ่งที่เธอพูดเพื่อดูว่าเธอพยายามบอกอะไรกับคุณ ถ้าเธอให้เหตุผลมากมายว่าทำไมเธอจึงไม่มีความสุขกับความสัมพันธ์โดยที่ไม่พูดว่าเธอต้องการเลิกกับคุณ คุณก็ควรพูดอย่างตรงไปตรงมา
    • คุณสามารถทำสิ่งนี้โดยพูดว่า “ฟังดูเหมือนว่าคุณรู้สึกไม่มีความสุขจริงๆ กับความสัมพันธ์แต่คุณกลัวว่าคุณจะทำให้ผมเสียใจ คุณพูดตรงๆ ก็ได้ คุณอยากจบความสัมพันธ์นี้หรือเปล่า?” หวังว่าเธอจะจริงใจกับคนเมื่อถึงจุดนี้
  4. ตอนนี้ถึงเวลาที่จะพูดสิ่งที่อยู่ในใจ ถ้าเธอพูดว่าเธออยากเลิกกับคุณ คุณอาจจะต้องการพูดสิ่งที่หยาบคายกลับแต่พยายามอย่าทำแบบนี้ถ้าเป็นไปได้ มันจะไม่แก้ปัญหาและไม่ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น ถ้าเธอพูดว่าทุกอย่างปกติดี คุณก็ควรบอกเธอว่าอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกกังวล
    • คุณต้องใช้ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย “ผม” แทนที่จะเป็น “คุณ” เมื่อคุณคุยกับแฟน ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย “ผม” น่าจะไม่ทำให้เธอโมโห [8] เช่น แฟนของคุณอาจจะโมโหถ้าคุณพูดว่า “ช่วงนี้คุณทำตัวแปลกไป คุณต้องบอกผมว่าเกิดอะไรขึ้น” แทนที่จะพูดแบบนั้น คุณสามารถพูดว่า “ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าเราห่างกันและผมสงสัยว่าคุณรู้สึกแบบนั้นด้วยหรือเปล่า”
    • ถ้าเธอเลิกกับคุณ คุณก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรถ้าคุณไม่อยากพูด คุณสามารถลุกขึ้นแล้วเดินหนีไปหรือแค่พูดว่า “โอเค ผมเข้าใจ” ถ้าคุณต้องการ คุณยังสามารถบอกความรู้สึกของคุณเกี่ยวกับการเลิกรา (เช่น คุณเสียใจ คุณโกรธ หรือคุณคิดว่าเธอทำถูกแล้วและมันเป็นความคิดที่ดี)
  5. ความโกรธเป็นอารมณ์ที่ปกติแต่บางครั้งมันยากที่จะควบคุม [9] คุณอาจจะรู้สึกโกรธได้ง่ายในบทสนทนาที่ใครบางคนอยากเลิกกับคุณ สิ่งนี้เป็นเพราะการถูกเลิกนำมาซึ่งความรู้สึกของการถูกปฏิเสธ คุณอาจจะรู้สึกว่าคุณอยากโกรธเพื่อปกป้องตัวเองจากความรู้สึกของตัวเองแต่ความโกรธจะไม่ช่วยอะไรในสถานการณ์นี้
    • พยายามทำให้น้ำเสียงเรียบและต่ำ และหายใจตามปกติ
    • ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณโกรธก็ควรเดินออกจากบทสนทนา ถึงแม้ว่าเธอพูดว่าเธออยากเลิกและคุณรู้สึกว่าคุณเกลียดเธอในตอนนี้ การเดินจากไปจะช่วยให้คุณไม่พูดสิ่งที่คุณไม่ได้ตั้งใจและอาจจะรู้สึกผิดในภายหลัง
  6. [10] ไม่ว่าผลลัพธ์ของบทสนทนาคือคุณไม่มีแฟนอีกต่อไปหรือคุณยังอยู่ด้วยกัน คุณก็ต้องยอมรับสิ่งที่เธอพูด ถ้าคุณเลิกกันก็ถึงเวลาที่ต้องรับมือกับการเลิกรา ถ้าเธอพูดว่าเธอมีความสุขและไม่อยากเลิก คุณก็ต้องเชื่อเธอ อย่าถามคำถามบ่อยๆ ว่าเธอต้องการเลิกกับคุณหรือไม่ สิ่งนี้จะรู้สึกน่ารำคาญและทำให้คุณดูไม่มั่นใจ
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

การดูว่าต้องทำอะไร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. บางครั้งในความสัมพันธ์ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็มีช่วงเวลาที่รู้สึกไม่มั่นใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ในช่วงนี้บุคคลนั้นจะตีตัวออกห่างจากอีกฝ่ายโดยไม่อธิบายอะไรมากนัก สิ่งนี้อาจจะทำให้คุณสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นและสงสัยว่าคุณทำอะไรผิด ความอยากคือการสอบถามเพื่อดูว่าปัญหาคืออะไรแต่สิ่งนี้จะสร้างความรำคาญให้อีกฝ่ายที่รู้สึกไม่มั่นใจจนทำให้เขาต้องลงมือ
    • ถ้าคุณพบเจอกับสิ่งนี้ก็ควรพยายามให้พื้นที่กับเธอ ถึงแม้ว่าไม่มีสิ่งยืนยันแต่การตีตัวออกห่างจากเธอ 2-3 วันหรือสัปดาห์อาจจะให้โอกาสเธอเพื่อสำนึกได้ว่าเธอมีความสุขกับความสัมพันธ์และรู้สึกเหงาเมื่อไม่มีคุณ
    • ถึงแม้ว่ามันไม่ได้เป็นไปอย่างที่คุณคาดหวังแต่การให้พื้นที่กับเธอจะช่วยให้คุณสำนึกได้ว่าคุณเคยมีชีวิตก่อนที่จะคบกับเธอซึ่งคุณมีความสุขและคุณยังสามารถมีชีวิตที่ดีถึงแม้ว่าไม่มีเธอ
  2. ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่มีแฟน คุณก็สามารถกอบกู้ความสัมพันธ์ได้ อย่างไรก็ตาม คุณต้องเข้าใจว่าถ้าแฟนของคุณไม่มีความสุขและไม่อยากคบกับคุณ มันก็จะยิ่งทำให้คุณทั้งคู่ไม่มีความสุข
    • พยายามระบุว่าอะไรในความสัมพันธ์ที่ทำให้เธอไม่มีความสุข ความจริงที่เจ็บปวดคือเธออาจจะไม่ได้รักคุณอีกต่อไปแต่ก็อาจมีอย่างอื่นที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ที่ทำให้เธอไม่มีความสุข พยายามระบุปัญหาและแก้ไข
    • เซอร์ไพรส์เธอ ถ้าคุณคบกับเธอมาสักพักแล้วคุณอาจจะไม่ได้ใช้เสน่ห์ของคุณเพื่อทำให้เธอมีความสุข เพราะฉะนั้นคุณต้องเซอร์ไพรส์เธอด้วยบางอย่างที่พิเศษ คุณสามารถเซอร์ไพรส์เธอด้วยมื้อค่ำสุดโรแมนติกหรือพาเธอไปเที่ยวที่ที่เธออยากไป คุณสามารถทำเรื่องง่ายๆ เช่น ทำให้เธอรู้ว่าคุณนึกถึงเธอ เช่น ลูกอมหรือดอกไม้ที่คุณรู้ว่าเธอชอบ
    • ลองย้ำเตือนเธอถึงช่วงเวลาที่ดี มีเหตุผลที่คุณสองคนตัดสินใจเริ่มต้นความสัมพันธ์และเหตุผลเหล่านั้นอาจจะดูห่างเหินเมื่อช่วงเวลายากลำบาก พยายามรื้อฟื้นเหตุผลเหล่านั้นด้วยการย้ำเตือนถึงเดทครั้งแรกหรือเวลาที่คุณสองคนหัวเราะด้วยกันอย่างควบคุมไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องบางอย่าง แนวคิดนี้คือการนึกถึงความรู้สึกที่ดีที่คุณรู้สึกในตอนแรกของความสัมพันธ์
    • เขียนจดหมายรักให้เธอ สิ่งนี้เรียบง่ายแต่หลายคนชอบได้รับจดหมายรัก มันไม่ได้แปลว่าคุณต้องเขียนคำเลี่ยนๆ เพียงจดหมายธรรมดาที่คุณย้ำเตือนว่าคุณใส่ใจเธอแค่ไหนก็เพียงพอแล้ว คุณสามารถพูดถึงความทรงจำที่ดีที่คุณมีร่วมกันหรือบางสิ่งที่คุณตั้งใจจะทำกับเธอในอนาคต
    • พยายามเปิดใจและวางตัวเปราะบาง ถึงแม้ว่ามันอาจจะรู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่าที่จะปิดกั้นตัวเองและไม่แบ่งปันเรื่องราวต่างๆ กับแฟนสาว แต่สิ่งนี้อาจจะทำให้ทุกอย่างแย่กว่าเดิม แทนที่จะทำแบบนั้น คุณต้องเปิดใจกับเธอมากขึ้น บอกให้เธอรู้ว่าคุณมีวันที่เครียด พร้อมที่จะแบ่งปันความกลัว และปล่อยให้เธอเห็นด้านที่นุ่มนวลของคุณ
    • สนับสนุนให้เธอมีความเด็ดเดี่ยว บางทีเหตุผลที่แฟนของคุณไม่มีความสุขมีความสัมพันธ์เป็นเพราะเธอรู้สึกอ่อนแอหรือไม่สามารถเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวได้ ลองสนับสนุนให้เธอทำสิ่งต่างๆ ที่เธออยากทำแทนที่จะปกป้องเธอตลอดเวลา [11] เช่น ถ้าแฟนของคุณอยากสมัครมหาวิทยาลัยที่มีการแข่งขันสูง คุณก็ควรช่วยเหลือเธอกับการสมัคร ถ้าแฟนของคุณอยากไปเที่ยวที่ไหนสักแห่งก็บอกเธอว่าเธอควรจะไป
  3. มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากทำแต่ในบางกรณีมันดีที่สุดถ้าคุณจะปล่อยเธอไป ถ้าคุณเห็นชัดเจนว่าเธอไม่มีความสุขในความสัมพันธ์แต่กลัวที่จะปล่อยเธอไปด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง คุณก็ควรกล้าหาญและแสดงให้เธอเห็นว่าคุณใส่ใจกับความเป็นอยู่ของเธอด้วยการเลิกกับเธอเอง
    • คุณสามารถทำสิ่งนี้อย่างนุ่มนวลได้ด้วยการจริงใจ บอกเธอว่าคุณเห็นว่าเธอไม่มีความสุขในความสัมพันธ์มาสักพักและคุณรู้ว่าเธอไม่อยากทำร้ายจิตใจคุณแต่มันถึงเวลาที่ต้องยุติความสัมพันธ์
    • มันอาจจะไม่ทำให้คุณเจ็บน้อยลงที่ต้องเลิกกันแต่มันจะช่วยให้คุณควบคุมสถานการณ์ได้ คุณอาจจะรู้สึกโล่งใจหลังจากที่อยู่ในความสัมพันธ์ที่ไม่มีความสุขมาสักพัก
    • เมื่อคุณเลิกกับแฟน คุณก็ต้อง คลายความโกรธ ที่คุณมีต่อเธอหรือความสัมพันธ์ การยึดติดกับความโกรธและความแค้นมีแต่จะทำร้ายคุณ [12]
  4. คุณต้องการเวลาเพื่อลืมความสัมพันธ์ ถ้าคุณเสียใจกับการสูญเสียความสัมพันธ์ก็ควรจำไว้ว่าอีกไม่นานคุณจะลืมความเศร้า มีสิ่งอื่นอีกมากมายที่คุณสามารถทำเพื่อช่วยให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นแต่คุณจะต้องใช้เวลาเพื่อลืมมันอย่างแน่นอน
    • อย่างไรก็ตาม มันไม่มีเวลาตายตัว อาจจะเป็นหลายวัน หลายสัปดาห์ หรือหลายเดือน พยายามมองแต่ละวันให้เป็นการก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง
  5. ในช่วงแรกของการเลิกรา คุณอาจจะอยากโทร อีเมล หรือส่งข้อความหาเธอ อย่างไรก็ตาม การทำเช่นนั้นจะยิ่งยืดเยื้อความเจ็บปวด [13] ลบเบอร์ของเธอถ้าจำเป็นและลบเธอออกจากบัญชีสื่อโซเชียลทั้งหมดของคุณ
    • ถ้าเธอพยายามติดต่อ คุณก็ควรเมินเฉยกับสายเรียกเข้าหรือข้อความนั้น ถ้าเธอส่งอีเมลหาคุณก็ควรลบโดยไม่ต้องอ่านมัน
    • สิ่งนี้ไม่ได้แปลว่าคุณไม่สามารถคุยกับเธอได้อีก อย่างไรก็ตาม คุณอาจจะรู้สึกผิดกับสิ่งที่คุณพูดหลังจากเลิกกันและมันจะไม่ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นเลย
    • ถ้าคุณไม่อยากกำจัดข้อมูลการติดต่อของเธออย่างสิ้นเชิง คุณสามารถเขียนลงบนกระดาษและเอาไปฝากไว้กับเพื่อนที่คุณไว้ใจจนกว่าคุณจะลืมความสัมพันธ์
  6. ถ้าคุณไม่อยากกำจัดบางสิ่งโดยการทิ้งไปหรือบริจาคให้กับการกุศล คุณสามารถใส่ทุกอย่างลงในกล่องหรือถุงและเก็บเอาไว้ในที่คุณจะไม่เห็น
    • ถ้าคุณคิดว่าคุณอาจจะนึกถึงเธอเพราะวัตถุเหล่านี้ก็ควรกำจัดมันหรือขอให้เพื่อนเก็บเอาไว้สักพัก
  7. ถึงแม้ว่าคุณสามารถให้เวลาตัวเองร้องไห้ในตอนเย็นและเสียใจกับการเลิกลาแต่หลังจากนั้นคุณต้องอย่าอยู่เฉย วางแผนกับเพื่อนๆ เพื่อทำสิ่งต่างๆ ที่คุณชอบ ลองเข้างานสังคมที่คุณสามารถหาเพื่อนใหม่ คุณจะไม่ใช้เวลามากมายเพื่อนึกถึงการสูญเสียแฟนถ้าคุณออกไปทำเรื่องที่สนุกๆ กับคนที่คุณชอบอยู่ด้วย
    • คุณต้องไม่อยู่นิ่งทางกาย มีหลักฐานมากมายว่ากิจกรรมทางกายทำให้คุณรู้สึกดีทั้งทางกายและทางใจ [14] หลังการเลิกราคุณอาจจะอยากนอนและโศกเศร้าแต่พยายามท้าทายตัวเองให้ออกไปเดินหรือวิ่ง ถ้าคุณชอบเล่นกีฬาที่เป็นทีมก็ให้เข้าร่วมทีม
  8. ถึงแม้ว่ามันเป็นเรื่องเศร้าที่ความสัมพันธ์จบลงแต่คุณยังสามารถเรียนรู้จากมันได้ ใช้เวลาทบทวนความสัมพันธ์อย่างซื่อสัตย์ที่สุดที่คุณสามารถทำได้ เป็นไปได้ว่าเธอทำพลาดหลายๆ อย่างในความสัมพันธ์แต่คุณก็อาจจะทำพลาดเช่นกัน แทนที่จะยึดติดอยู่กับความผิดของเธอก็ให้ลองนึกถึงสิ่งที่คุณน่าจะทำได้ดีกว่านี้
    • เช่น บางทีคุณน่าจะลองสื่อสารให้มากขึ้นในความสัมพันธ์ครั้งต่อไปเพื่อที่แฟนในอนาคตของคุณจะสามารถพูดกับคุณเมื่อมีบางอย่างที่ทำให้เธอไม่สบายใจ ถ้าในความสัมพันธ์ครั้งก่อนคุณมักจะโกรธและโมโหเธอพยายามพูดถึงปัญหา บางทีคุณควรจะฝึกเปิดใจและ สงบสติอารมณ์เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่เคร่งเครียด เมื่อเจอกับปัญหา
    • อาจจะเป็นเรื่องยากที่เราจะจริงใจเกี่ยวกับความบกพร่องของตัวเองแต่พยายามเตือนตัวเองว่าไม่มีประโยชน์ที่เราจะซ่อนตัวอยู่ข้างหลังศักดิ์ศรีในตอนนี้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เธออาจจะแค่มีวันหรือสัปดาห์ที่เครียด คุณสามารถให้เวลากับเธอแต่การยื้อความสัมพันธ์ที่ไม่ดีเอาไว้เป็นเรื่องที่ไม่สนุก
  • ถ้าเธอทำตัวไม่ดี เธอก็อาจจะแค่ต้องการเรียกร้องความสนใจ การแสดงออกถึงความรักแบบไม่ตั้งตัวหรือเซอร์ไพรส์ที่มีความหมายอาจจะเป็นทางแก้ไข
  • เขียนจดหมาย ถ้าคุณไม่สามารถหาเวลาเพื่อคุยกับเธอก็ลองสื่อสารกับเธอในแบบอื่น คุณสามารถเขียนจดหมายหรืออีเมลเพื่ออธิบายความรู้สึกของคุณ วิธีนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการสื่อสารอีกรูปแบบแต่ยังจะให้โอกาสเธอได้กลั่นกรองสิ่งที่คุณได้พูด
  • เชื่อสัญชาตญาณของคุณ บ่อยครั้งที่มันชัดเจนว่าความสัมพันธ์ใกล้จะถึงจุดจบ โดยทั่วไปเราจะพยายามเมินเฉยกับความรู้สึกนี้ แต่บ่อยครั้งที่มันคือความรู้สึกที่ถูกต้องเพราะฉะนั้นคุณต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง
  • ถ้าแฟนของคุณต้องการเลิกเพราะเธอไม่มีความสุขในความสัมพันธ์ คุณก็ควรปล่อยเธอไป การ ทำใจหลังเลิกรากัน จะเป็นเรื่องยากแต่ถ้าหากเธอไม่มีความสุขในความสัมพันธ์ การพยายามฝืนให้เธออยู่จะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์แย่กว่าเดิม
  • ถ้าคุณมั่นใจว่าเธอต้องการเลิกแต่ไม่กล้าบอกด้วยบางเหตุผล คุณสามารถยุติความกังวลนี้และ บอกเลิก เธอด้วยตัวเอง ถ้าคุณไม่อยากเลิก สิ่งนี้ก็อาจจะยากแต่จำไว้ว่าการเลิกเป็นเรื่องที่ยากสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและการทำให้มันจบลงหมายความว่าคุณสามารถเดินหน้าต่อไปได้
  • เธอพูดตรงไปตรงมาและบอกว่าเธอมีสัปดาห์ที่เครียดก็ควรช่วยเหลือเธอ ถามเธอว่ามีอะไรที่คุณสามารถช่วยดีขึ้นไหม
โฆษณา

คำเตือน

  • หลีกเลี่ยงการสร้างสถานการณ์ ถ้าเธอเลิกกับคุณ การสร้างสถานการณ์อาจจะรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำในตอนนั้นแต่ในภายหลังคุณจะรู้สึกอับอาย การวางตัวให้สงบมากที่สุด (อย่างน้อยก็ตอนที่อยู่ต่อหน้าเธอ) จะแสดงว่าคุณเป็นผู้ใหญ่ต่อมาคุณจะภูมิใจในตัวเองที่วางตัวดี
  • ภาษากายและอารมณ์เชิงลบสามารถบ่งชี้ว่าเธอหดหู่ พยายามอย่าสับสนความไม่พึงพอใจของเธอกับความสัมพันธ์ที่มีปัญหาทางอารมณ์อื่นๆ ซึ่งเธออาจจะกำลังเผชิญ
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เริ่มความสัมพันธ์แบบ Friends with Benefits
ทำให้แฟนเก่ากลับมารักคุณอีกครั้ง
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายไม่อยากคุยกับคุณแล้ว
รู้ว่าแฟนสาวของคุณแอบไปนอนกับคนอื่นหรือเปล่า
ทำให้ใครบางคนรู้สึกผิด
พิชิตหัวใจแฟนเก่ากลับมา หลังจากการเลิกรา
ทำให้แฟนเก่าคิดถึงคุณ
หาเสี่ยเลี้ยง
ปลอบโยนแฟนสาวของคุณเมื่อเธอรู้สึกแย่
ดูว่าเพื่อนอิจฉาคุณหรือไม่
ฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาดีเหมือนเดิม
จบความสัมพันธ์
ดูว่าผู้ชายกำลังหลอกใช้คุณเพื่อเซ็กส์หรือไม่
เรียกความเชื่อใจจากเขาหรือเธอกลับมา
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,459 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา