ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การสมัครสมาชิกฟิตเนสมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่คุณในการเข้าถึงอุปกรณ์ฟิตเนสคุณภาพสูง คลาสออกกำลังกายที่หลากหลาย และเทรนเนอร์ผู้เชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม หลายๆ คนที่เป็นสมาชิกฟิตเนสกลับไม่ได้เข้าใช้บริการฟิตเนสอย่างเต็มที่เท่าไรนัก หากคุณเป็นหนึ่งคนที่กำลังประสบปัญหาดังกล่าว ลองมองหากลยุทธ์ต่างๆ ที่จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้คุณเข้าฟิตเนสบ่อยขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการให้รางวัลตัวเอง การทำความรู้จักกับสมาชิกคนอื่นๆ ในฟิตเนส หรือการวางกระเป๋าฟิตเนสไว้ในบริเวณที่หยิบได้สะดวก

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

สร้างแรงจูงใจด้วยสิ่งต่างๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลือกซื้อหนังสือเสียงสำหรับฟังเมื่ออยู่ที่ฟิตเนสเท่านั้น. ผลการศึกษาพบว่าการตั้งกฎให้ตัวเองสามารถฟังหนังสือเสียงได้เฉพาะเมื่ออยู่ที่ฟิตเนสเท่านั้นจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้คุณเข้าฟิตเนสได้บ่อยครั้งขึ้น ลองเลือกซื้อหนังสือเสียงสักเรื่องที่คุณรู้สึกสนใจเพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้คุณอยากเข้าฟิตเนสมากขึ้น [1]
    • หากหนังสือเสียงไม่ใช่สิ่งที่คุณสนใจเป็นพิเศษ คุณอาจเปลี่ยนเป็นสร้างลิสต์ภาพยนตร์สำหรับดูในระหว่างการออกกำลังกายเท่านั้น เช่น ในขณะกำลังเดินบนเครื่องเทรดมิลล์หรือเครื่องอีลิปติคอล
    • คุณอาจลองสร้างเพลย์ลิตส์เพลงสำหรับฟังในฟิตเนสก็ได้เช่นกัน โดยเลือกเพลงที่คุณชื่นชอบและตั้งใจไว้ฟังในระหว่างการออกกำลังกายเท่านั้น
    • อีกหนึ่งทางเลือกคือการหาพอดแคสต์ที่คุณต้องการฟังเฉพาะเมื่ออยู่ที่ฟิตเนสเท่านั้น พยายามเลือกเพลงที่มีจังหวะเร็วเพื่อให้การออกกำลังกายของคุณสนุกมากยิ่งขึ้น
  2. การให้รางวัลตัวเองเมื่อทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งสำเร็จเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยสร้างแรงจูงใจให้คุณอยากเข้าฟิตเนสมากขึ้น ลองกำหนดรางวัลให้กับตัวเองเมื่อคุณเข้าฟิตเนสจนครบจำนวนครั้งที่กำหนดต่อสัปดาห์หรือเดือน [2]
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจให้รางวัลตัวเองเป็นน้ำยาทาเล็บสีใหม่หรือการเช่าภาพยนตร์สักเรื่องหากคุณเข้าฟิตเนสครบ 5 ครั้งใน 1 สัปดาห์ หรืออาจให้รางวัลตัวเองด้วยการไปทำเล็บหรือชมภาพยนตร์เมื่อคุณเข้าฟิตเนสครบ 20 ครั้งใน 1 เดือน
    • กำหนดรางวัลที่จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับคุณและมุ่งมั่นที่จะให้รางวัลกับตัวเองเมื่อคุณเข้าฟิตเนสครบจำนวนครั้งที่กำหนดเท่านั้น
  3. คำนวณค่าใช้จ่ายที่เสียไปเปล่าๆ เมื่อไม่เข้าฟิตเนส. ค่าสมาชิกฟิตเนสมีราคาที่ค่อนข้างสูง จึงเป็นการสิ้นเปลืองเงินเปล่าๆ หากคุณสมัครสมาชิกทิ้งไว้แต่กลับแทบไม่ได้เข้าฟิตเนสเลย หากความรู้สึกเสียดายเงินนี้สามารถสร้างแรงจูงใจให้กับคุณได้ ลองคำนวณจำนวนค่าใช้จ่ายที่เสียไปหากคุณหลีกเลี่ยงไม่ยอมเข้าฟิตเนสหรือเข้าเพียงน้อยครั้ง [3]
    • สมมติว่าราคาสมาชิกฟิตเนสของคุณอยู่ที่ประมาณ 2000 บาทต่อเดือน หากคุณไม่เข้าฟิตเนสเป็นเวลานานกว่าสัปดาห์ แสดงว่าคุณเสียเงินไปเปล่าๆ แล้วถึง 500 บาท และหากคุณเข้าฟิตเนสเพียง 2 ครั้งใน 1 เดือน นั่นหมายความว่าคุณจ่ายเงินในการเข้าใช้ฟิตเนสต่อครั้งถึง 1000 บาท
  4. ตั้งกฎว่าจะบริจาคเพื่อการกุศลหากไม่ไปฟิตเนส. หากความคิดที่ว่าคุณกำลังเสียเงินมากกว่าที่คุณได้เข้าใช้บริการฟิตเนสจริงดูเหมือนจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับคุณได้ ลองตั้งกฎว่าคุณจะบริจาคเงินอย่างน้อย 3000 บาทเพื่อการกุศลหากคุณไม่เข้าฟิตเนสครบจำนวนครั้งที่กำหนดต่อเดือน [4]
    • ยกตัวอย่างเช่น ลองให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่าคุณจะเข้าฟิตเนส 20 ครั้งใน 1 เดือน ไม่เช่นนั้นคุณจะต้องบริจาคเงิน 3000 บาทให้กับศูนย์พักพิงสัตว์ท้องถิ่นแทน
    • หรือหากคุณคิดว่าคุณจะมีแรงจูงใจมากยิ่งขึ้นหากต้องเสียเงินให้กับสิ่งที่คุณไม่เห็นด้วยหรือไม่สนับสนุน ลองตั้งกฎว่าคุณจะมอบเงินให้กับสิ่งนั้นหากคุณไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของคุณได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ทำให้การเข้าฟิตเนสเป็นประสบการณ์ที่ดี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หลายๆ คนอาจออกกำลังกายเพื่อกระชับหุ่นให้ดูดีในเสื้อผ้าชุดโปรด เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง หรือเพื่อดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง แต่จุดมุ่งหมายเหล่านี้อาจฟังดูไม่เฉพาะเจาะจงมากพอที่จะสร้างแรงจูงใจให้กับคุณได้ ดังนั้น แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่จุดมุ่งหมายทั่วไปเหล่านี้ คุณอาจลองหาจุดมุ่งหมายเฉพาะของตัวเองสักข้อเพื่อสร้างแรงจูงใจให้คุณอยากเข้าฟิตเนสมากขึ้น [5]
    • สมมติว่าคุณมีลูก จุดมุ่งหมายของคุณอาจเป็น “ฉันต้องไปฟิตเนสบ่อยขึ้นเพื่อให้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกชายของฉัน” หรือคุณอาจหาจุดมุ่งหมายที่เฉพาะเจาะจงกว่านั้น เช่น “ฉันอยากแข็งแรงเพื่อพร้อมสำหรับการส่งตัวลูกสาวในวันแต่งงานของเธอ เพราะฉะนั้นวันนี้ฉันจะต้องเข้าฟิตเนสให้ได้”
    • คุณยังสามารถสร้างแรงจูงใจจากงานสำคัญที่กำลังใกล้เข้ามาถึงได้เช่นเดียวกัน เช่น คุณอาจลองนึกว่า “ฉันอยากดูดีจนทุกคนตกตะลึงในงานคืนสู่เหย้า 10 ปีของโรงเรียนมัธยมปลาย เพราะฉะนั้นวันนี้ฉันจะต้องเข้าฟิตเนสให้ได้”
  2. การกำหนดเป้าหมายของการเข้าฟิตเนสเป็นวิธียอดเยี่ยมที่จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้คุณไปฟิตเนสบ่อยยิ่งขึ้น ลองใช้ หลัก SMART ในการกำหนดเป้าหมายที่คุณต้องการบรรลุจากการเข้าฟิตเนสของคุณ SMART ย่อมาจาก Specific (เฉพาะเจาะจง) Measurable (วัดผลได้) Achievable (บรรลุผลได้) Results-focused (มุ่งเน้นผลลัพธ์) Time-based (มีกรอบเวลา) [6]
    • ยกตัวอย่างเช่น เป้าหมายของคุณคือการปรับลดระยะเวลาการวิ่ง 5 กิโลเมตรลงมา 2 นาทีภายในปลายเดือนหน้า เป้าหมายดังกล่าวมีลักษณะที่เฉพาะเจาะจง สามารถวัดผลในทางสถิติและทำให้สำเร็จลุล่วงได้ รวมถึงมีผลลัพธ์ที่เห็นได้จริงและมีการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจน
    • คุณสามารถทำให้เป้าหมายนี้บรรลุได้โดยการฝึกซ้อมวิ่ง 5 กิโลเมตรบนเครื่องเทรดมิลล์ที่ฟิตเนส 3 ครั้งต่อสัปดาห์
  3. มองหากิจกรรมหรือคลาสออกกำลังกายที่คุณชื่นชอบ. การออกกำลังกายจะกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับคุณเมื่อคุณบังคับตัวเองให้ออกกำลังกายในรูปแบบที่คุณไม่ชื่นชอบ ดังนั้นลองมองหากิจกรรมหรือคลาสออกกำลังกายที่ทำให้คุณรู้สึกสนุกเพื่อทำให้การเข้าฟิตเนสเป็นสิ่งที่คุณตั้งตารอคอย
    • ลองเข้าร่วมคลาสต่างๆ ในฟิตเนสของคุณ เช่น สปินนิ่ง สเต็ปแอโรบิก คิกบ็อกซิ่ง หรือ HIIT (High-Intensity Interval Training) หากรู้สึกไม่ชอบเมื่อได้ลองเข้าร่วมแล้ว คุณก็สามารถมองหาคลาสใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา นอกจากนี้การไปถึงคลาสก่อนเวลาเล็กน้อยยังเปิดโอกาสให้คุณได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่และรู้สึกสนุกสนานกับการออกกำลังกายมากขึ้น
    • เลือกใช้เครื่องออกกำลังกายที่หลากหลาย เช่น เทรดมิลล์ สเต็ปแมชชีน สเตชั่นเนอรี่ไบค์ และอีลิปติคอล
    • หากฟิตเนสของคุณมีโซนสำหรับเซอร์กิตเทรนนิ่ง คุณอาจลองเข้าร่วมดูสักครั้งเพื่อดูว่าชอบหรือไม่
  4. ทำความรู้จักเทรนเนอร์และสมาชิกคนอื่นๆ ในฟิตเนส. การหาโอกาสพูดคุยกับเทรนเนอร์และสมาชิกคนอื่นๆ ในฟิตเนสจะช่วยให้การเข้าฟิตเนสของคุณเป็นเรื่องสนุกยิ่งขึ้น ทั้งยังทำให้คุณรู้สึกกระตือรือร้นในการไปฟิตเนสมากกว่าเดิม เพราะเมื่อไรก็ตามที่คุณหายหน้าไปจากฟิตเนส หลายๆ คนจะสังเกตเห็นและเริ่มถามหาคุณ เริ่มต้นจากการทักทายเทรนเนอร์หรือสมาชิกคนอื่นๆ เมื่อพบหน้าในแต่ละครั้งเมื่อคุณเข้าฟิตเนส และเมื่อรู้สึกคุ้นหน้ากันแล้วจึงเริ่มพูดคุยแนะนำตัวเอง [7]
    • ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณเจอหน้าเทรนเนอร์หรือสมาชิกคนอื่นๆ ตอนที่กำลังเดินเข้าฟิตเนส คุณอาจทักทายว่า “สวัสดีครับ ผมชื่อคริสนะ วันนี้ผมรู้สึกเหนื่อยๆ แต่ไหนๆ ก็มาถึงแล้วก็คงต้องออกกำลังกายสักหน่อย แล้วคุณล่ะ วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง”
    • คุณอาจมองหาเพื่อนร่วมออกกำลังกายสักคน โดยอาจเป็นสมาชิกคนอื่นๆ ที่คุณทำความรู้จักในฟิตเนสหรือเพื่อนของคุณที่ต้องการมีคู่หูออกกำลังกายเช่นเดียวกัน ลองส่งข้อความหาเพื่อนคู่หูของคุณทุกครั้งที่คุณเข้าฟิตเนส หรือนัดพบปะกันที่ฟิตเนสสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเข้าฟิตเนส

ดาวน์โหลดบทความ
  1. นอกเหนือจากการเสริมสร้างความมั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเองซึ่งเป็นเป้าหมายสุดท้ายของการเข้าฟิตเนสของคุณ การเลือกสวมชุดออกกำลังกายชุดโปรดสักชุดถือเป็นหนึ่งส่วนสำคัญเช่นเดียวกันที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ หากเสื้อผ้าที่คุณสวมใส่ออกกำลังกายค่อนข้างเก่าหรือไม่สบายตัวเท่าไรนัก ลองหาซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายใหม่ๆ สำหรับเข้าฟิตเนสให้กับตัวเอง
    • ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจหาซื้อเลกกิ้งหรือกางเกงขาสั้นและเสื้อยืดหรือเสื้อกล้ามตัวใหม่ รวมถึงรองเท้าผ้าใบสวมใส่สบายๆ คู่ใหม่สักคู่
  2. เข้านอนเร็วขึ้นเพื่อให้ร่างกายมีพลังพร้อมสำหรับการออกกำลังกาย. อาการเหนื่อยล้าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้คนโดยส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงไม่เข้าฟิตเนส ดังนั้นเพื่อไม่ให้ร่างกายของคุณรู้สึกเหนื่อยล้าจนไม่อยากออกกำลังกาย ลองบังคับตัวเองให้เข้านอนเร็วขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย [8] เพราะแม้การนอนหลับเพิ่มอีกเพียง 30 นาทีก็สามารถเปลี่ยนความอ่อนเพลียให้เป็นความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าพร้อมสำหรับการเข้าฟิตเนสได้
    • ยกตัวอย่างเช่น หากตามปกติคุณเข้านอนในเวลา 5 ทุ่ม ลองเปลี่ยนเวลาเข้านอนให้เร็วขึ้นเป็นช่วง 4 ทุ่มถึง 4 ทุ่มครึ่งแทน
  3. การเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับการเข้าฟิตเนสอยู่เสมอเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับคุณได้ เนื่องจากคุณจะมีข้ออ้างในการหลีกเลี่ยงการไปฟิตเนสน้อยลงเมื่อคุณเตรียมตัวพร้อม จัดกระเป๋าฟิตเนสให้พร้อม และเก็บไว้ในบริเวณที่หยิบได้สะดวกตลอดเวลา [9]
    • ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการไปฟิตเนสหลังเลิกงาน คุณอาจเก็บกระเป๋าฟิตเนสไว้ในท้ายรถหรือที่ออฟฟิศของคุณ เช็คให้มั่นใจว่าในกระเป๋าฟิตเนสของคุณมีชุดออกกำลังกาย รองเท้าผ้าใบ ขวดน้ำ ผ้าขนหนู และขนมรองท้องเตรียมพร้อมครบถ้วน
    • แต่หากคุณต้องการไปฟิตเนสในช่วงเช้าก่อนไปทำงาน ลองวางกระเป๋าฟิตเนสเตรียมไว้ข้างประตูบ้าน คุณอาจสวมชุดออกกำลังกายเลยและเตรียมขวดน้ำ อุปกรณ์อาบน้ำ ผ้าขนหนู และเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนใส่ไปทำงานใส่ในกระเป๋าให้พร้อม
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,756 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา