ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แรงผลักดันส่วนบุคคลคือกุญแจสำคัญที่ช่วยรักษาเกือบทุกด้านของชีวิตให้คงอยู่ ถ้าเราไม่มีแรงผลักดัน ก็มีโอกาสมากที่เราจะใช้เวลาให้เปล่าประโยชน์และละเลยเป้าหมายด้านชีวิตส่วนตัวและการทำงานของเราไป แม้แต่คนที่มุ่งมั่นที่สุดก็ยังหมดแรงใจได้ในบางครั้ง อ่านบทความต่อไปนี้เพื่อหาเคล็ดลับเด็ดๆ ที่จะช่วยให้คุณกลับไปเดินตามเส้นทางของตัวเองได้อีกครั้งกันเถอะ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ร่าเริงอยู่เสมอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ก่อนที่เราจะทุ่มเทเวลาให้กับอะไรสักอย่าง เรามักจะมีเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวอยู่เสมอ ถ้าคุณเริ่มจะมองไม่ค่อยเห็นแล้วว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร คุณก็อาจจะมีแรงผลักดันน้อยกว่าการที่คุณคอยเช็คตลอดเวลาว่า คุณขยับเข้าใกล้เป้าหมายไปเท่าไหร่แล้ว การคอยเช็คว่าตัวเองไปถึงไหนแล้วและการเช็คกระบวนการทำงานของตัวเองจะช่วยให้คุณมีแรงผลักดันในทุกๆ วัน
  2. เขียนรายการสิ่งที่ทำเสร็จแล้วในแต่ละสัปดาห์เพื่อดูการทำงานของตัวเอง. ถ้าคุณอยากมีแรงผลักดันอยู่เสมอ คุณต้องคอยดูว่าตัวเองเข้าใกล้เป้าหมายแค่ไหนแล้ว ถ้าคุณเห็นว่าตัวเองกำลังทำตามแผนที่วางไว้ หรือกระทั่งเห็นว่าตัวเองทำทุกอย่างออกมาได้ดีทุกครั้งที่คุณเช็คการทำงานของตัวเอง คุณก็จะรู้สึกมีแรงผลักดันและมีความสุขที่ตัวเองกำลังเดินไปสู่เป้าหมาย ถ้าคุณเห็นว่าตัวเองยังทำไม่ถึงเป้าที่วางไว้ มันก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยให้คุณกลับไปเดินหน้าทำตามแผนได้อีกครั้ง [1]
  3. ให้รางวัลตัวเองทุกครั้งที่คุณทำตามเป้าหมายประจำสัปดาห์ได้สำเร็จ. อาจจะเป็นอะไรง่ายๆ อย่างการรับประทานไอศกรีมสักถ้วยหลังจากออกกำลังกายอย่างหนักมาเป็นเวลานาน หรือรางวัลอาจจะเป็นการไปเข้าสปาหลังจากทำงานหนัก ไม่ว่ารางวัลจะเป็นอะไร ถ้ามันช่วยให้คุณมีแรงผลักดันลุกขึ้นเดินหน้าต่อไปได้ ก็เป็นรางวัลที่คุณสมควรให้ตัวเองทั้งนั้น [2]
  4. บางครั้งแม้แต่คนที่มุ่งมั่นที่สุดก็ยังรู้สึกเหมือนมีอะไรมารุมเร้ามากเกินไป คุณอาจจะฝืนตัวเองจนหมดแรง และสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุดก็อาจจะเป็นการได้พักสักครู่ ถ้าเป้าหมายคือการออกกำลังกาย คุณก็อาจจะพักสัก 3 หรือ 4 วันแทนที่จะพักแค่ 1 หรือ 2 วันตามปกติ ถ้าเป็นเรื่องการเรียน อย่าพยายามฝืนนั่งยาวจนกว่างานทุกอย่างจะเสร็จ เป็นไปได้ให้ยืดเวลาออกไปเป็นช่วงๆ ในแต่ละวันหรือสัปดาห์ [3]
  5. ไม่ว่าใครก็ต้องเคยทำตามเป้าที่วางไว้ไม่ได้ ถ้าคุณไม่สามารถที่จะไปให้ถึงเป้าหมายที่คุณวางไว้ในสัปดาห์นี้ได้ ให้จำไว้เป็นบทเรียน พยายามทำงานถัดไปให้เสร็จก่อนเวลาเพื่อที่คุณจะได้ใช้เวลาที่เหลือทำงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จ วิธีนี้จะทำให้คุณยังทำงานตามตารางที่วางไว้ได้แม้ว่าคุณจะพลาดเป้าไปก็ตาม มันไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณพลาดเป้าไปมากเท่าไหร่ แต่อยู่ที่ว่าคุณรับมือกับสิ่งที่คุณทำพลาดและเดินหน้าต่อไปได้ดีแค่ไหน อย่าจมปลักอยู่กับความล้มเหลว แค่ยอมรับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นมนุษย์และทำงานต่อไปเพื่อให้ถึงเป้าหมาย
  6. ดูและอ่านเรื่องหรือสุนทรพจน์ที่สร้างแรงบันดาลใจ. ทุกคนสมควรดูคำพูดสร้างแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่บ้างเป็นครั้งคราว ยกระดับจิตใจของคุณด้วยการดูวิดีโอช่วงเวลาแห่งแรงบันดาลใจใน YouTube เพื่อที่คุณจะได้รู้สึกถึงแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในทันทีและพร้อมที่จะฝ่าฟันอุปสรรคต่อไป สื่อสร้างแรงบันดาลใจที่หาได้ทั่วไปก็เช่น:
    • คำพูดสร้างแรงบันดาลใจของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์เรื่อง “แหกคอก” ทัศนคติแห่งความสำเร็จ
    • ภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่เกี่ยวกับกีฬาเกือบทุกเรื่อง
    • เพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ "การสร้างเนื้อสร้างตัว"
    • ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับวีรกรรมหรือความกล้าหาญ (เช่น: ยุวชนทหาร เปิดเทอมไปรบ 14 ตุลาสงครามประชาชน)
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

เอาชนะนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาสิ่งที่ทำให้คุณผัดวันประกันพรุ่งแล้วกำจัดมันให้สิ้นซาก เอาไปขายหรือเอาไปไว้ในตู้เก็บของ อยู่ให้ห่างจากมัน เอามันไปทิ้ง คุณจะไม่มีแรงผลักดันได้เลยถ้าคุณยังใช้เวลาโดยเปล่าประโยชน์อยู่ [4]
    • ถ้าคุณเสียเวลาไปกับการดูสิ่งต่างๆ ในอินเทอร์เน็ตอย่างไม่มีจุดหมาย ติดตั้ง Browser Extension เพื่อ "เพิ่มไฟในการทำงาน" Browser Extension ที่สามารถติดตั้งได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเหล่านี้ทำให้คุณสามารถปิดกั้นการเข้าเว็บไซต์บางเว็บและ/หรือกำหนดเวลาในการเล่นอินเทอร์เน็ตเพื่อความบันเทิงได้
  2. พึ่งพาการจับตามองของตัวเองและคนอื่น ตั้งบทลงโทษตนเองถ้าคุณไม่ทำตามแผนที่วางไว้ เช่น โยนคุกกี้แสนอร่อยที่คุณเก็บไว้กินทิ้งไปหรือบริจาคเงินให้มูลนิธิ บอกเพื่อนๆ และครอบครัวว่าคุณมีแผนจะทำอะไร ถ้าคุณไม่ทำตามที่พูด พวกเขาก็จะรู้ แล้วคุณก็จะอับอาย พอถึงตอนนี้คุณก็จะมีเหตุผลดีๆ ที่จะเริ่มทำงานได้! [5]
    • เขียนโน้ตสั้นๆ เพื่อเตือนตัวเองให้กระปรี้กระเปร่าหรือตั้งค่าเตือนในโทรศัพท์เพื่อเตือนสิ่งที่ต้องทำให้เสร็จในทุก 20 นาที นี่จะกวนใจคุณจนต้องทำมันให้เสร็จไปในที่สุด
  3. มีแต่คุณเท่านั้นที่รู้ว่าร่างกายสามารถรับคาเฟอีนได้มากน้อยแค่ไหน กาแฟสดตอนเช้าทั่วไปของคนหนึ่งอาจทำให้อีกคนถึงกับใจสั่นและไม่มีสมาธิไปได้ตลอดทั้งวัน ปริมาณคาเฟอีนในระดับปานกลางจะช่วยให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่า จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ และไม่วอกแวก [6]
    • ถ้าคุณติดคาเฟอีนอยู่แล้ว คือคุณต้องการคาเฟอีนเพื่อแค่ให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติ คุณก็โชคร้ายหน่อยนะ!
    • อยู่ให้ห่างจากสารกระตุ้นที่มีฤทธิ์ในการชูกำลังมากกว่า เว้นแต่ว่าแพทย์สั่งเพื่อรักษาอาการใดอาการหนึ่งโดยเฉพาะ เพราะการใช้อย่างไม่ระวังอาจทำให้ติดได้
  4. ออกไปวิ่งระยะสั้นๆ กระโดดตบ หรือชกมวยหน้ากระจก แม้แต่การออกกำลังกายเบาๆ ก็ส่งผลต่ออารมณ์ของเราได้ ทำให้เรารู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากยิ่งขึ้น การออกกำลังกายได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถต่อต้านอาการซึมเศร้าและความรู้สึกมีปมด้อย ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นอุปสรรคต่อการพยายามสร้างแรงผลักดันส่วนบุคคล [7]
  5. ถ้าคุณมีปัญหาในการสร้างแรงผลักดันมากจริงๆ การแบ่งงานใหญ่ออกเป็นงานย่อยๆ หลายๆ งานในแง่ของจิตใจแล้วจะช่วยให้คุณมีแรงผลักดันในการทำงานได้ง่ายขึ้น เพราะเราจะรู้สึกถึงความสำเร็จหลังจากทำงานเสร็จในแต่ละขั้นตอน เทคนิคนี้ช่วยเพิ่มแรงผลักดันได้มากเลยทีเดียว บางครั้งสิ่งเดียวที่คุณต้องทำเพื่อให้ได้มาซึ่งแรงกระตุ้นในการทำงานให้สำเร็จลุล่วงก็คือ คุณต้องผ่านขั้นตอนแรกที่ง่ายที่สุดไปให้ได้เสียก่อน [8]
  6. แม้แต่คนที่มีแรงผลักดันมหาศาลก็ยังอาจสยบให้ความเฉื่อยชาและความเกียจคร้านได้หากต้องทำงานที่น่าเบื่อซ้ำๆ ซากๆ ติดกันหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ทำลายวิถีการทำงานที่ราบเรียบด้วยการแทรกกิจกรรมที่อยู่ๆ นึกอยากทำก็ทำและกิจกรรมพิเศษต่างๆ พยายามสร้างความรู้สึกถึงการไม่สามารถคาดการณ์ได้จากภายใน ที่แม้แต่ตัวคุณเองก็ยังไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้คุณจะทำอะไร วิธีนี้จะช่วยทำให้ความน่าเบื่อในจิตใจจากการทำงานซ้ำกันทุกวันลดน้อยลง ตัวอย่างกิจกรรมที่คุณอาจจะอยากนำไปทดลองก็เช่น:
    • รับประทานอาหารกลางวันกลางแจ้งท่ามกลางทัศนียภาพที่สวยงาม
    • จู่ๆ ก็ไปเตะบอลกับเพื่อนๆ หรือเพื่อนร่วมงานโดยไม่ได้วางแผนมาก่อน
    • ทำให้เพื่อนร่วมงานประหลาดใจด้วยอาหารฝีมือคุณเอง
    • พาเพื่อนหรือคนรักไปเที่ยวในเมืองตอนกลางคืน แม้ว่าจะไม่ใช่โอกาสพิเศษก็ตาม
    • เปลี่ยนสไตล์ส่วนตัว ลองเปลี่ยนโฉมตัวเองชนิดเปลี่ยนเป็นคนละคน แล้วคอยดูปฏิกิริยาจากเพื่อนๆ และเพื่อนร่วมงานของคุณ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • คิดบวกอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แรงผลักดันจะมาพร้อมกับการคิดบวก แม้ว่าสิ่งต่างๆ จะกำลังดิ่งลงเหว ก็ให้เชิดหน้าและสู้ต่อไป
  • มีไอดอลเป็นของตัวเอง นักการเมือง นักกีฬา หรือนักธุรกิจที่คุณชื่นชอบอาจจะมีสุนทรพจน์ที่สร้างแรงผลักดันหรือมีพื้นเพที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ อ่านและเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตของพวกเขาและสิ่งที่พวกเขาต้องเอาชนะเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายของตัวเอง
  • ทำให้สิ่งต่างๆ เป็นเรื่องสนุก เวลาไปฟิตเนสก็ให้พกเพลงโปรดไปด้วย เวลาไปทำงานก็ให้เตรียมของรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ให้ตัวเองหลังจากทำงานย่อยๆ เสร็จ
  • คุณสามารถสร้างแรงผลักดันให้ตัวเองได้ด้วยการทำงานไปด้วยและให้รางวัลเล็กๆ แก่ตัวเองไปด้วย วิธีนี้จะทำให้คุณปรับตัวในแต่ละขั้นตอนของการทำงานได้ง่ายขึ้น
  • ฟังเพลง วิธียอดเยี่ยมที่จะทำให้งานที่น่าเบื่อที่สุดสนุกขึ้นมาได้ก็คือการเปิดเพลงโปรดคลอไปด้วย
  • การฝึกหายใจหรือการเล่นโยคะจะช่วยให้คุณคิดบวกและกระตือรือร้นอยู่เสมอ
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าคุณประสบปัญหาไม่มีแรงผลักดันอย่างร้ายแรงหรือไม่มีแรงแม้แต่จะทำเป้าหมายที่จำเป็นโดยพื้นฐานอย่างเช่น การลุกออกจากเตียง ทำงาน หรือรักษาอนามัยส่วนบุคคล ให้พบแพทย์หรือผู้ให้คำปรึกษา เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคซึมเศร้า
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 12,433 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา