ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
บางครั้งความรู้สึกของการมีความนับถือตนเองต่ำก็สามารถกลายเป็นความรู้สึกว่าคุณไม่สมควรได้รับอะไรดีๆ ในชีวิต มันจึงจำเป็นที่จะต้องจัดการกับความคิดเหล่านี้และพยายามเปลี่ยนมันทันทีที่จับสังเกตได้ หากความรู้สึกว่าคุณไม่คู่ควรกับอะไรยังคงอยู่หรือกลายเป็นรู้สึกหนักกว่าเดิม คุณอาจต้องมองหาความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกทางด้านสุขภาพจิตโดยเฉพาะ
ขั้นตอน
-
หาสาเหตุให้ได้ว่าทำไมคุณถึงรู้สึกว่าตนไม่คู่ควรกับอะไร. การเข้าใจแหล่งที่มาของความรู้สึกเป็นขั้นตอนแรกในการสร้างความเปลี่ยนแปลง คุณไปทำข้อผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงในชีวิตอะไรหรือเปล่า หรือรู้สึกว่ายังมีอะไรในอดีตที่ค้างคาอยู่ในใจ หรือปรารถนาอยากจะกลายเป็นคนอื่น [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
จำไว้ว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบ. ทุกคนล้วนมีข้อเสีย แม้กระทั่งในเวลาที่พวกเขาจะดูเลิศหาที่ติมิได้เมื่อมองจากภายนอก เผลอๆ ยังอาจมีใครสักคนมองว่าตัวคุณเองช่างสมบูรณ์แบบเสียด้วยซ้ำไป [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ระบุความคิดที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ. บางครั้งเราเกิดความคิดที่ไม่ได้ทำการตรวจสอบ แล้วยินยอมให้มันไปก่อโลกทัศน์ของเรา เช่น คุณอาจคิดว่า “ฉันไม่สมควรได้รับการเลื่อนตำแหน่งเลย เพราะฉันไม่ได้ขยันเต็มที่” สังเกตดูเวลาที่คุณเกิดความคิดเยี่ยงนี้
-
ตรวจสอบความคิดที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัตินี้อีกครั้ง. จริงหรือที่คุณไม่ได้ขยันทุ่มเทพอให้ได้เลื่อนตำแหน่ง ลองคิดดูสิว่าคุณเคยทำงานได้สำเร็จลุล่วงเมื่อไม่นานมานี้หรือไม่ คุณได้ทำอะไรนอกเหนือไปจากความรับผิดชอบหรือเปล่า [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ปรับเปลี่ยนความคิด. เวลาที่จับได้ว่าตนเองกำลังเกิดความคิดในแง่ลบขึ้นมาโดยอัตโนมัติ พยายามพลิกความคิดนั้น เช่น เวลาที่จับได้ว่าตนเองเริ่มคิดว่าไม่สมควรจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งเพราะไม่ได้ทุ่มเทพอ บอกกับตัวเองอย่างหนักแน่นและชัดเจนว่า “ฉันสมควรได้เลื่อนตำแหน่งแล้ว ฉันทำงานอย่างซื่อสัตย์มาตลอดทั้งห้าปี ฉันทำยอดขายได้ตามเป้าทั้งหกเดือนให้หลังนี้”โฆษณา
-
พยายามใช้เวลาอยู่ท่ามกลางคนที่มองโลกในแง่ร้ายให้น้อยลง. พี่สาวคุณทำให้คุณรู้สึกแย่ในเรื่องน้ำหนักตัวทุกครั้งที่พบหน้าเธอหรือเปล่า คนรับซักแห้งเสื้อผ้าของคุณแสดงกิริยาหยาบคายใส่เป็นประจำหรือเปล่า คุณไม่อาจหลบเลี่ยงผู้คนเหล่านี้ได้ตลอดก็จริง แต่พยายามลดจำนวนเวลาที่คุณจะใช้ร่วมกับพวกเขาลงแทน
- หากคุณรู้สึกว่าถูกรังแกหรือดูหมิ่นด้วยวาจา ลองพิจารณานำเรื่องนี้ไปฟ้องผู้มีอำนาจที่เหมาะสมดู (เช่น สำหรับการถูกดูหมิ่นทางอินเทอร์เน็ต คุณอาจต้องรายงานไปยังผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนั้น คุณอาจต้องฟ้องเจ้านายถ้าโดนเพื่อนร่วมงานรังแก) [4] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ StopBullying.gov ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ตามหาผู้คนที่ทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเอง. นี่อาจหมายถึงคุณจำต้องลองคิดถึงการออกไปเตร็ดเตร่กับคนที่โดยปกติแล้วคุณอาจไม่ได้คบหาสนิทด้วย
- มีผู้หญิงที่ฟิตเนสซึ่งชอบเอ่ยทักทายถามสารทุกข์สุขดิบกับคุณก่อนเสมอหรือเปล่า บางทีเธออาจอยากออกไปดื่มกาแฟสักแก้วกับคุณก็ได้
- คนในคลาสเรียนพิเศษของคุณทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นทุกสัปดาห์หรือเปล่า บางทีคุณควรจัดให้คนกลุ่มนี้ได้พบปะร่วมกันนอกเวลาเรียน
- มีเพื่อนร่วมงานที่ชอบเล่าเรื่องน่าสนใจให้คุณฟังอยู่เรื่อยไหม ลองคิดเชื้อเชิญเขาออกไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันหน่อยไหม
-
ลดเวลาที่คุณให้กับโซเชียลมีเดียลง. คุณใช้เวลาอยู่กับโซเชียลมีเดียมากเกินไปเมื่อเทียบกับคนอื่นหรือเปล่า ผู้คนมักจะชอบโพสต์ตัวเองในภาคอุดมคติลงในอินเทอร์เน็ต ดังนั้นถ้าคุณเอาชีวิตตัวเองไปเปรียบกับชีวิตเพื่อนฝูงบนเฟสบุ๊ก คุณอาจไม่ได้ภาพที่ถูกต้องตามจริงนัก [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้เวลาอยู่ในสถานที่ซึ่งทำให้คุณมีความสุขนานขึ้น. ชอบเข้าพิพิธภัณฑ์หรือเปล่าละ ห้องสมุดสวยๆ ร้านกาแฟเก๋ๆ หรือสวนสาธารณะที่คุณไปบ่อยๆ ลองเปลี่ยนบรรยากาศรอบด้านเพื่อนำพลังงานแง่บวกเข้ามาในชีวิต [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
พูดถึงตัวเองในแง่ดีทุกเช้า. จะพูดออกมาดังๆ หรือพูดในใจก็ได้ และถ้าจะพูดซ้ำมากกว่าหนึ่งครั้งก็ไม่เป็นไร คุณอาจไม่สามารถคิดหาสิ่งที่แตกต่างอยู่ทุกวันได้หรอก โดยเฉพาะในช่วงแรกของการทำแบบนี้ แต่เป็นไปได้ว่าพอคุณเริ่มรู้สึกถึงตัวเองในแง่ดีขึ้นแล้วนั้น คุณจะพบแง่มุมดีๆ ด้านอื่นๆ ให้พูดได้มากขึ้น [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เป็นจิตอาสา. โดยเฉพาะถ้าคุณไม่พอใจกับงานและชีวิตส่วนตัว มันจำเป็นที่จะต้องรู้สึกว่าคุณกำลังช่วยคนอื่นๆ จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าความรู้สึกว่าเรากำลังสร้างความแตกต่างสามารถนำไปสู่การพัฒนาความสุขและความคิดว่าตัวเองมีค่าได้ [8] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HelpGuide ไปที่แหล่งข้อมูล ให้แน่ใจว่าได้พิจารณางานจิตอาสาที่คุณคิดว่าจะทำสำเร็จได้ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณชำนาญเรื่องการรับมือเด็ก ลองคิดเป็นครูสอนพิเศษ
- ถ้าคุณเจ้าระเบียบและเน้นประสิทธิภาพ ลองคิดถึงการทำงาน ลองคิดเรื่องการช่วยงานในสถานสงเคราะห์อาหาร หรือร้านขายของบริจาคที่จะนำรายได้ไปใช้ในการกุศล
- ถ้าคุณเชี่ยวชาญเรื่องการก่อสร้าง ลองคิดถึงองค์กรที่สร้างบ้านเพื่อมนุษยธรรม
-
ทำเป้าหมายเล็กๆ ให้สำเร็จ. การทำเป้าหมายเล็กๆ ให้สำเร็จลงได้ทุกวันช่วยให้คุณรู้สึกถึงชัยชนะซ้ำๆ และช่วยเพิ่มความรู้สึกว่าตนเองมีค่า
- เช่น “ฉันอยากจะลดน้ำหนักสัก 10 กิโลก่อนถึงหน้าร้อน” อาจเป็นเป้าหมายที่ไม่ยืนบนพื้นของความเป็นจริง และอาจทำให้คุณรู้สึกเหมือนคนล้มเหลวถ้าทำตามเป้าไม่ได้
- ในทางตรงข้าม “ฉันต้องการจะกินมื้อเช้าที่ปราศจากน้ำตาลทุกวันในสัปดาห์นี้” ดูเป็นจริงมากกว่า และหากคุณยึดตามเป้านี้ได้ คุณจะมีโอกาสได้รู้สึกว่าทำสำเร็จตามเป้าทุกวัน [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
หาเรื่องที่จะหัวเราะ. การหัวเราะจะหลั่งสารเคมีที่ “ทำให้รู้สึกดี” ที่เรียกว่าเอ็นดอร์ฟินส์ การหัวเราะบ่อยๆ จะช่วยพัฒนาอารมณ์ความรู้สึกโดยรวมของการมีชีวิตที่ดี ยิ่งไปกว่านั้น การมองสถานการณ์ด้วยอารมณ์ขันช่วยให้มันดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่และรบกวนใจได้น้อยลง [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ลอง
- ดูการแสดงตลกตามทีวีหรือคาเฟ่
- ดูซิทคอมที่ชอบ
- ไปเข้าคลาสโยคะหัวเราะ
- อ่านหนังสือรวมมุกตลก
- เล่นกับเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยงหรือ
- ไปร้านเหล้าที่จัดให้มีคืนเล่นเกม (โดยมีเกมอย่าง Taboo, Cranium, หรือ Catchphrase) [12] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HelpGuide ไปที่แหล่งข้อมูล
- คุณยังอาจจำลองความรู้สึกของการหัวเราะได้โดยการใช้ฟันกัดดินสอค้างไว้สักสิบนาที ร่างกายจะตอบสนองความรู้สึกนี้ในกล้ามเนื้อ และอารมณ์ของคุณจะดีขึ้นมาเล็กน้อย [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ออกกำลังกาย. การออกกำลังกายส่งผลต่อสุขภาพจิตโดยรวมและความรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า การออกกำลังกายที่มีแรงต้านต่ำถึงปานกลาง (เช่น โยคะ เดินในระดับพูดคุยได้ หรือการกวาดใบไม้) มักจะให้ผลได้ดีที่สุด [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากคุณไม่มีเวลาเข้ายิม ให้เพิ่มการขยับร่างกายเข้าไปในชีวิตประจำวัน ปิดประตูห้องทำงานแล้วทำท่ากระโดดตบสิบครั้งทุกๆ ชั่วโมง จอดรถในจุดที่ไกลทางเข้าที่สุด เดินขึ้นบันได เดินออกไปทานมื้อเที่ยง
-
ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ. สุขภาพร่างกายที่ดีมักมีส่วนเชื่อมโยงกับความรู้สึกเห็นค่าในตนเอง ยิ่งไปกว่านั้น บรรดาวิตามิน แร่ธาตุ และไขมันดี ล้วนทำให้อารมณ์ดีขึ้น
- ลดอาหารที่มีน้ำตาลสูง คาเฟอิน และแอลกอฮอล์
- ทานอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 อย่างเช่น ปลาแซลมอน แม็คเคอเรล หรือปลาเทราต์ เพื่อให้อารมณ์ดีขึ้น
- ลองอาหารที่อุดมด้วยวิตามินดี เช่น ไข่กับโยเกิร์ต เพื่อเพิ่มเซราโทนิน (สารช่วยให้อารมณ์คงที่) ในสมอง
- เพิ่มปริมาณการบริโภควิตามินบีโดยการทานผักโขม บร็อคโคลี เนื้อ ไข่ และผลิตภัณฑ์จากนม เพื่อเพิ่มพลังงาน [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
พักผ่อนให้เพียงพอ. การนอนหลับส่งผลอย่างใหญ่หลวงต่อสุขภาพจิตและอารมณ์โดยรวม การได้นอนหลับสนิทหนึ่งคืนสามารถเปลี่ยนการมองโลกของคุณได้เลย การจะนอนหลับให้สนิทนั้น ลอง
- เข้านอนและตื่นเวลาเดิมทุกวัน นี่จะช่วยคุณสร้างจังหวะที่ร่างกายสามารถทำตามได้อย่างต่อเนื่องทุกวัน
- งีบหลับสั้นๆ เมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้น และงีบได้คราวละ 15-20 นาทีก็พอ เพื่อจะได้ไม่ตาค้างในตอนกลางคืน
- หลีกเลี่ยงหน้าจอของทุกอย่าง (โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อป เป็นต้น) สักสองชั่วโมงก่อนนอน [16] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HelpGuide ไปที่แหล่งข้อมูล
-
สวดมนต์. ถ้าคุณเป็นคนเคร่งในศาสนา การสวดมนต์อาจเป็นสิ่งเดียวที่คุณต้องการเพื่อให้รู้สึกดีกับชีวิต การสวดในจุดศูนย์รวมของกลุ่ม (เช่นโบสถ์หรือวัด) ทำให้คุณรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ใหญ่กว่าและลดความรู้สึกตัวเองไร้ค่าลงได้ แม่แต่การสวดมนต์คนเดียวก็ทำให้คุณรู้สึกว่าตนเองไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวโฆษณา
-
รับกำลังใจจากเพื่อนและญาติพี่น้อง. มันสำคัญมากที่คุณต้องเข้าใจว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในการดิ้นรนครั้งนี้ สำหรับใครบางคนแล้วแค่มีเพื่อนหรือญาติพี่น้องที่คอยให้กำลังใจสักคนก็เพียงพอแล้วที่จะไม่รู้สึกว่าคุณไร้คุณค่า
-
ถามหาคำชมจากคนที่คุณให้ความนับถือ. การศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้พบว่าคนที่มีเพื่อนคอยเอ่ยชมก่อนจะทำงานใดๆ จนเสร็จนั้นจะทำงานได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้รับคำชม “การอ่อยเหยื่อ” ขอคำชมนั้นไม่เห็นจะเป็นไรเลย! เพื่อนพ้องน้องพี่สามารถช่วยเตือนใจคุณให้รู้ว่าคุณนั้นคู่ควรกับสิ่งดีๆ ที่ชีวิตมีให้ [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลคุณ. มีทางเป็นไปได้ว่าองค์ประกอบบางอย่างของสุขภาพกายคุณอาจทำให้เกิดความรู้สึกว่าตนเองด้อยค่า แพทย์สามารถช่วยคุณตัดสินใจว่าจะรับอาหารเสริมหรือจะเน้นที่การออกกำลังกาย หรืออาจแนะนำผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางให้
-
หากลุ่มช่วยเหลือ. คุณไม่ได้เป็นคนเดียวที่รู้สึกว่าตนเองไม่คู่ควรกับอะไร มองหากลุ่มช่วยเหลือออนไลน์หรือในละแวกที่อาศัย ลอง
-
พิจารณาการพบนักบำบัด. สัญญาณที่แสดงว่าคุณอาจต้องการการบำบัดก็เช่น
- มีอารมณ์ความรู้สึกที่ครอบงำจิตใจอยู่บ่อยๆ
- เพิ่งผ่านความบอบช้ำทางจิตใจอย่างรุนแรงมา
- ปวดศีรษะหรือปวดท้องบ่อยๆ หรือมีอาการป่วยที่หาคำอธิบายไม่ได้ และ
- อยู่ในความสัมพันธ์ขั้นตึงเครียด [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
รู้จักโรคซึมเศร้า. หากความรู้สึกว่าคุณไม่คู่ควรกับอะไรยังมีอยู่เป็นเวลานาน คุณอาจเป็นโรคซึมเศร้า โรคซึมเศร้านั้นแตกต่างจากความรู้สึกเศร้า มันเกี่ยวข้องกับความรู้สึกว่าสิ้นหวังและไร้ค่ามาเป็นเวลานาน บางสัญญาณที่แสดงว่าคุณอาจซึมเศร้าและควรไปรับการบำบัดได้แก่
- หมดความสนใจในเรื่องหรือผู้คนที่คุณเคยสนุกหรือชอบ
- เซื่องซึมมาระยะเนิ่นนาน
- มีความเปลี่ยนแปลงในเรื่องความอยากอาหารและการนอนหลับอย่างรุนแรง
- ไม่สามารถควบคุมสมาธิ
- อารมณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง (โดยเฉพาะอารมณ์ขุ่นเคืองที่เพิ่มขึ้น)
- ไร้ความสามารถควบคุมสมาธิ
- มีความคิดในแง่ลบมาเป็นเวลานานและหยุดคิดไม่ได้
- มีการใช้สารเสพติดเพิ่มขึ้น
- มีอาการปวดที่อธิบายไม่ได้
- เกลียดชังตนเอง หรือความรู้สึกว่าตนเองนั้นไม่มีค่าอะไรเลย [19] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ HelpGuide ไปที่แหล่งข้อมูล
โฆษณา
คำเตือน
- มองหาความช่วยเหลือจากมืออาชีพที่ผ่านการฝึกฝนหากความรู้สึกที่ว่าคุณไม่คู่ควรกับอะไรยังคงอยู่นานเป็นสัปดาห์ หรือถ้าคุณเริ่มรู้สึกว่าเอาแต่รู้สึกเช่นนี้
- ถ้าความรู้สึกว่าคุณไม่คู่ควรกับอะไรกลายมาเป็นความรู้สึกที่คุณไม่คู่ควรจะมีชีวิตอยู่ ให้มองหาความช่วยเหลือในทันที บอกเพื่อน ญาติสนิท หรือมืออาชีพทางสุขภาพจิต โทรศัพท์หาสายด่วนสุขภาพจิตที่หมายเลข 1667 หรือไปที่สายด่วนป้องกันการฆ่าตัวตาย 02-713-6793 (โทรฟรี)
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/me-we/201310/how-finally-feel-good-enough-deserve-better
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/sideways-view/201402/the-curse-perfectionism
- ↑ http://www.thehappinessinstitute.com/freeproducts/docs/Examples%20Of%20Unhelpful%20Thinking.pdf
- ↑ http://www.stopbullying.gov/what-is-bullying/
- ↑ http://sundial.csun.edu/2015/03/to-like-or-not-to-like-how-social-media-effects-self-esteem/
- ↑ http://psychcentral.com/blog/archives/2013/07/07/using-the-power-of-your-environment-to-promote-positive-change/
- ↑ http://www.huffingtonpost.com/2014/01/10/kind-things-to-tell-yourself_n_4570376.html
- ↑ http://www.helpguide.org/articles/work-career/volunteering-and-its-surprising-benefits.htm
- ↑ http://money.usnews.com/money/personal-finance/articles/2012/04/04/why-helping-others-makes-us-happy
- ↑ http://www.forbes.com/sites/lewishowes/2012/07/06/why-thinking-small-is-the-secret-to-big-success/#5742d6e6328f
- ↑ http://www.webmd.com/balance/features/give-your-body-boost-with-laughter
- ↑ http://www.helpguide.org/articles/emotional-health/laughter-is-the-best-medicine.htm
- ↑ https://www.psychologytoday.com/blog/isnt-what-i-expected/201207/try-some-smile-therapy
- ↑ http://nsuworks.nova.edu/ijahsp/vol7/iss2/7/
- ↑ http://www.nutritionist-resource.org.uk/articles/confidence.html
- ↑ http://www.helpguide.org/articles/sleep/how-to-sleep-better.htm
- ↑ http://www.sciencealert.com/fishing-for-compliments-can-be-good-for-you-new-study-finds
- ↑ http://www.huffingtonpost.com/2015/08/11/8-signs-you-should-see-a_n_4718245.html
- ↑ http://www.helpguide.org/articles/depression/depression-signs-and-symptoms.htm
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 17,410 ครั้ง
โฆษณา