ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บางครั้งการดูหนังสยองขวัญก็ทำให้ใครบางคนรู้สึกผวาและนอนหลับไม่ลง ถ้าคุณรู้สึกกลัวหรือกังวลหลังจากดูหนังสยองขวัญแล้วล่ะก็ คุณสามารถเผชิญกับความกลัวได้ด้วยการยอมรับและพูดถึงสิ่งที่ทำให้คุณกลัว คุณสามารถนึกถึงความกลัวได้อย่างมีตรรกะและหาทางเอาชนะมันได้ อีกทางหนึ่งคือคุณก็ยังสามารถดึงความสนใจตัวเองจากความกลัวไปที่อื่น ด้วยการดูหรืออ่านอะไรตลกๆ ทำอะไรสักอย่างที่ต้องตั้งใจจดจ่อ หรือทำกิจกรรมที่สงบจิตใจได้ และคุณยังทำให้ตัวเองและห้องนอนเป็นอะไรที่สบายพอที่จะช่วยให้คุณนอนหลับได้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

เผชิญหน้ากับความกลัว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หลังจากที่ดูหนังสยองขวัญแล้ว คุณอาจกลัวซอมบี้ ผี ฆาตกรต่อเนื่อง แวมไพร์ หรือสิ่งที่น่ากลัวอีกนับไม่ถ้วน นึกถึงสิ่งที่ทำให้คุณกลัว และยอมรับว่ามันคือสิ่งที่คุณกลัว การระลึกได้ว่าอะไรที่ทำให้คุณกลัวจะช่วยให้คุณคิดถึงความกลัวนั้นได้อย่างมีตรรกะ… หรือไม่ก็ทำให้ยิ่งกลัวกว่าเดิม (บางทีวิธีนี้อาจไม่ได้ผลกับทุกคนเสมอไป) [1]
    • ตัวอย่างเช่น คุณอาจกลัวว่าจะมีใครบุกเข้าบ้านมา หรือคุณอาจกลัวผีมาหลอก
  2. การที่บอกใครสักคนว่าคุณรู้สึกอย่างไรมันช่วยได้มากเลยล่ะ บอกพี่น้องหรือพ่อแม่ หรือโทร ส่งข้อความหาเพื่อน เลือกใครสักคนที่สนับสนุนคุณและจะฟังสิ่งที่คุณอธิบายว่าอะไรที่ทำให้คุณรู้สึกไม่ดี [2]
    • เข้าไปในห้องของพี่น้องคุณแล้วบอกเขาว่า “ฉันเพิ่งดู Saw ภาค 4 มา แล้วก็รู้สึกกลัว กลัวว่าจะมีใครจับฉันไปทรมาณ” บางทีเขาอาจช่วยให้คุณใจเย็นลงและช่วยให้คุณระลึกได้ว่าคุณไม่ได้กำลังตกอยู่ในอันตรายใดๆ
  3. ย้ำตัวเองไว้ว่าคุณยังปลอดภัยเหมือนก่อนที่จะได้ดูหนังเรื่องนั้นนั่นแหละ บอกตัวเองว่ามันคือหนัง ไม่ใช่ชีวิตจริง และหนังเรื่องนี้สร้างขึ้นเพื่อทำให้คุณกลัว หลายๆ คนทำงานหนักและทุ่มเงินไปหลายล้านเพื่อสร้างชุด แต่งหน้า และใช้เทคนิคพิเศษที่ทำให้ดูน่ากลัว ลองพิจารณาถึงความเป็นไปได้ถ้าความกลัวนั้นจะเกิดขึ้นจริงและใช้ความคิดที่มีเหตุผลแยกความกลัวเป็นส่วนๆ ออกมา [3]
    • แม้ว่าในหนังมันอาจดูน่ากลัวและดูเป็นไปได้ แต่ซอมบี้ก็ไม่รุมเข้ามาแถวๆ บ้านคุณหรอก แล้วก็ไม่มีบูกี้แมนออกมาหาคุณด้วยเช่นกัน
  4. วิธีที่ดีที่สุดในการเอาชนะความกลัวก็คือเผชิญหน้ากับมันไปเลย หันหน้าเข้าหาความกลัวเมื่อต้องเจอกับสิ่งที่กลัว หรือจินตนาการว่ากำลังหันหน้าเข้าหาความกลัวถ้าไม่ได้เจอกับสิ่งที่กลัว สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วบอกตัวเองว่าคุณโอเค แม้ว่าจะกลัวอยู่ก็ตาม [4]
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกลัวความมืดหลังจากที่ดูหนังสยองขวัญ ก็ให้ปิดไฟในห้องซะ ลองนั่งอยู่ในความมืดสักสองสามนาทีก่อนจะเปิดไฟอีกครั้งและรู้ว่ามันไม่มีอะไรจะเข้ามาทำร้ายคุณได้หรอก
    • หรืออย่างเช่น คุณอาจกลัวแมงมุมหลังจากที่ดูหนังสยองขวัญเกี่ยวกับมัน ให้เปิดดูรูปแมงมุมในอินเทอร์เน็ต ย้ำกับตัวเองว่ามันก็น่าขยะแขยงบ้างแหละ แต่มันก็ไม่มีทางขยายขนาดตัวใหญ่โตแล้วออกมาถล่มเมืองหรอกนะ
  5. ดูเบื้องหลังตลกๆ หรือการทำงานเบื้องหลังของหนังเรื่องนั้นเพื่อย้ำความจริงว่ามันก็แค่เรื่องแต่งเท่านั้นแหละ การดูฉากและตัวละครในตอนปกติจะช่วยลดความกลัวของคุณไปได้เลยล่ะ การดูฉากน่ากลัวๆ ที่หายน่ากลัวเพราะความผิดพลาด เสียงหัวเราะ และปัญหาอื่นๆ จะช่วยให้คุณเข้าใจว่ามันไม่มีอะไรที่ต้องกลัวเลยแม้แต่น้อย of. [5]
    • หรือจะดูพวกคลิปที่แถมมา อย่างคลิปสัมภาษณ์นักแสดง หรือคลิปสั้นๆ ที่เล่าเรื่องว่าหนังเรื่องนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร เตรียมเสื้อผ้ากันอย่างไร และแต่งหน้าให้ดูน่ากลัวได้อย่างไรบ้าง
    • ถ้าคุณไม่มีแผ่นดีวีดีที่มีโบนัสเหล่านี้ให้ดู ก็หาดูใน YouTube หรือเว็บไซต์ที่คล้ายกันเอาก็ได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

หันเหความสนใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ดูหนังตลกหลังจากที่ดูหนังสยองขวัญจบ หรือดูรายการตลกสักตอนก็ได้ ตั้งความสนใจไปยังอย่างอื่นที่ไม่ใช่หนังสยองขวัญจะช่วยให้คุณหายกลัวได้ การหัวเราะก็จะช่วยเปลี่ยนอารมณ์และทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นด้วยนะ [6]
    • บริษัทฮาไม่จำกัด , เทยเที่ยวไทย , ตลก 6 ฉาก และ สปอนจ์บ็อบ ถือเป็นตัวอย่างรายการตลกๆ ที่คุณอาจชอบก็ได้ [7]
    • ดูคลิปสัตว์ตลกๆ การดูสัตว์น่ารักๆ ทำอะไรที่มันตลกๆ ก็อาจทำให้คุณหายกลัวได้
  2. หยิบโทรศัพท์หรือเปิดคอมพิวเตอร์แล้วเช็คดูหน้าฟีดของโซเชียลมีเดีย หรือจะหาดูคลิปตลกๆ หรือดูเว็บไซต์ของร้านค้าที่คุณชอบก็ได้ การนึกถึงอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่หนังเรื่องนั้นจะช่วยให้ใจของคุณสงบลง และลบความกลัวไปจากหัวคุณได้
    • การไล่ผี
    • ดูวีดีโอ “Grumpy Cat” ใน YouTube สิ มันตลกดีนะ
    • ติดตามเพื่อนๆ ด้วยการดูรูปประจำตัวหรือรูปอื่นๆ ของเพื่อน หรือคุยกับเพื่อนผ่านทางออนไลน์
  3. เลือกหนังสือที่จะไม่ทำให้คุณกลัว ไม่ใช่เวลาจะมาอ่านหนังสือของจินตวีร์ตอนนี้นะ ให้เลือกเรื่องที่สดใส ตลก หรือผ่อนคลายแทน หรือจะอ่านนิตยสารหรือการ์ตูนก็ได้เช่นกัน
    • หนังสือตลกๆ ก็ได้แก่ สิ่งมีชีวิตในโรงแรม , ตะคริว ณ นิ่วใจ , Boy (ใยไหม) หรือ กรุณาอย่ารบกวน
  4. เลือกเพลงอัลบั้มที่ชอบหรือของศิลปินที่ชอบ แล้วเร่งเสียงขึ้นซะ จะร้องคลอ เต้นตาม หรือจัดห้องไปด้วยฟังเพลงไปด้วยก็ได้ทั้งนั้น เพลงถือเป็นวิธีที่ดีในการเปลี่ยนอารมณ์ และจะช่วยให้คุณนึกถึงเรื่องอื่น เนื่องจากคุณอาจมีความเกี่ยวข้องกับเพลงบางเพลง หรือศิลปินบางคนนั่นเอง
    • ตัวอย่างเช่น การฟังเพลงเพลย์ลิสต์ของ Justin Bieber อาจทำให้คุณนึกถึงคอนเสิร์ตของ Justin Bieber ที่คุณไปมากับเพื่อนสนิท นึกถึงความทรงจำว่าคุณสนุกแค่ไหน และคุณก็จะลืมหนังสยองขวัญไปเลย
  5. ทำสมาธิ เล่นโยคะ นับแกะ นอนแช่อ่างน้ำ พยายามผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หรือแค่ หายใจเข้าลึกๆ ก็ได้ กิจกรรมเหล่านี้จะลดความถี่ในการเต้นของหัวใจและทำให้คุณสงบลง ให้จดจ่อกับการสงบจิตใจเพื่อลืมหนังสยองขวัญไปซะ
  6. เล่นเกมต่ออักษรหรือซูโดกุ ทำโครงงานของที่โรงเรียน จัดระเบียบแผ่นดีวีดีของคุณ หรือเล่นเกมในโทรศัพท์ การจดจ่อตัวเองไปกับบางอย่างแทนที่จะมัวแต่กลัว จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นเอง [8]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณกลัวจริงๆ การขอให้ใครสักคนมานอนในห้องกับคุณก็อาจทำให้รู้สึกดีขึ้น โทรหาเพื่อนหรือขอให้พี่น้องหรือพ่อแม่มานอนด้วย หรือขอไปนอนที่บ้านเขาก็ได้ การที่มีใครสักคนอยู่ในห้องด้วยกันจะทำให้คุณรู้สึกปลอดภัยขึ้น และจะช่วยลบความกลัวไปได้ด้วย [9]
    • ถ้าคุณมีสุนัข ก็ให้พามันเข้ามานอนในห้องด้วย ตราบใดที่มันไม่เข้ามากวนใจ
  2. บางคนจะรู้สึกปลอดภัยกว่าถ้าประตูปิดได้ แต่ก็มีบางคนชอบจะให้ประตูเปิดเช่นกัน ลองคิดดูว่าทำแบบไหนแล้วคุณจะรู้สึกดีขึ้น จากนั้นก็จัดการปิดหรือเปิดประตู แต่ต้องล็อคประตูและหน้าต่างด้านนอกไว้ให้ดีเลยนะ
  3. ถ้าคุณกลัวความมืด และกลัวว่าจะมีอะไรน่ากลัวๆ เข้ามาในพื้นที่ของคุณ การเปิดไฟทิ้งไว้ก็จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้ เลือกเปิดไฟในห้องโถงหรือห้องน้ำ หรือเปิดโคมไฟหัวนอนหรือโคมไฟกลางคืนในห้องนอนก็ได้ หรือว่าจะเลือกเปิดทีวีเอาไว้แล้วปิดเสียง เพื่อให้แสงสลัวๆ ส่องอยู่รอบๆ ก็ได้นะ
  4. ถ้าคุณรู้สึกสบายๆ ก็อาจทำให้หลับได้ง่ายขึ้นนะ โดยใส่ชุดนอนที่สบายที่สุด ตบหมอนให้ฟู แล้วซุกเข้าไปในผ้าห่มกับผ้าปูที่นอน ปรับเครื่องควบคุมความร้อน เพื่อที่จะได้อุณหภูมิสบายๆ หรือเปิดพัดลม หรือเครื่องทำความร้อนก็ได้
    • ถ้าคุณมีตุ๊กตาสัตว์หรือผ้าห่มสุดโปรด ก็เอามันขึ้นไปนอนบนเตียงด้วยสิ
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,428 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา