ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

อาการผีอำอาจนำไปสู่ปรากฏการณ์อย่างเช่น ประสบการณ์ออกจากร่างและฝันแบบรู้ตัว โดยหลักการแล้วผู้มีอาการผีอำจะรู้สึกตัวแต่ขยับไม่ได้ อาการแบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายขยับไม่สะดวกตลอดระยะต่างๆ ของการนอน และอาจเกิดอาการประสาทหลอนร่วมด้วยได้ อาการผีอำมีสองแบบ แบบแรกคืออาการผีอำตอนกำลังจะตื่น อาการผีอำแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อเราเริ่มรู้ตัวก่อนที่ร่างกายของเราได้ออกจากช่วงหลับฝัน (REM) ส่วนอาการผีอำอีกแบบหนึ่งคืออาการผีอำตอนกำลังจะหลับ เกิดขึ้นเมื่อเราเริ่มรู้ตัวขณะที่กำลังหลับ บางครั้งอาการผีอำก็เป็นประสบการณ์ที่น่าตกใจและน่าหวาดกลัวได้ ฉะนั้นคิดให้ดีก่อนตั้งใจก่อให้เกิดอาการผีอำขึ้นบ่อยๆ หรือตลอดเวลา [1]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ลองทำให้เกิดอาการผีอำโดยปรับการนอนให้แปรปรวน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าแบบแผนการนอนที่ผิดปกติมีส่วนทำให้เกิดอาการผีอำ รวมทั้งการถ่ายทอดทางพันธุกรรม [2] คนที่มีช่วงเวลาทำงานเปลี่ยนแปลงตลอด มีแบบแผนการนอนที่ผิดปกติและแปรปรวน จะมีโอกาสเกิดอาการผีอำ โดยทั่วไปอาการผีอำจะพบในคนที่นอนน้อยและนอนไม่พอมากกว่า [3]
  2. ไม่มีวิธีการที่รับรองว่าจะก่อให้เกิดอาการผีอำได้ ถึงแม้จะพบผู้มีอาการผีอำพอสมควร แต่สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอาการนี้ยังไม่แน่ชัด [6] การมีช่วงหลับสั้นๆ ในวงจรการนอนและการงีบหลับในตอนค่ำเป็นวิธีที่จะก่อให้เกิดอาการผีอำ ถึงจะไม่ชัดเจน แต่ก็มีรายงานว่าเป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้วงจรการนอนปกติแปรปรวน และอาจะทำให้เกิดอาการผีอำได้
    • ลุกจากที่นอนก่อนเวลาปกติ ก่อนที่จะทำกิจกรรมประจำวันตามปกติ โดยปกติเราควรจะกระปรี้กระเปร่าระหว่างวันถึงแม้จะรู้สึกเหนื่อยก็ตาม
    • จากนั้นงีบหลับในตอนค่ำ ต้องหลับไม่เกินสองชั่วโมง ให้หลับระหว่าง 1 ทุ่มถึง 4 ทุ่ม
    • หลังจากงีบหลับ ให้พยายามตื่น และทำกิจกรรมให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าอย่างน้อยอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนกลับมานอน [7]
  3. การนอนในท่าที่สบายนั้นสำคัญ ถ้าต้องการทำให้เกิดอาการผีอำ ในรายงานส่วนใหญ่กล่าวว่าการนอนหงายตอนหลับเป็นปัจจัยที่อาจช่วยทำให้เกิดอาการผีอำ ถึงไม่รู้ถึงสาเหตุที่เชื่อมโยงกัน แต่ผู้มีประสบการณ์ผีอำจำนวนมากนอนหงาย [8] [9] นอนหงายนานเท่าที่จะทำได้ และลองย้ำคำสักคำในหัว หรือสวดมนต์ วิธีนี้จะทำให้เราผ่อนคลาย และทำให้จิตใจผ่องใส
    • ย้ำคำนั้นหลายๆ ครั้งและจินตนาการว่ามีใครสักคนกำลังพูดคำนั้นกับเราอยู่
    • อย่าไขว้เขวถ้ารู้สึกว่ามีแสงสว่างและเกิดความรู้สึกอื่น
    • จดจ่อกับคำนั้น แต่ยังคงความผ่อนคลาย และเราอาจรู้สึกว่ากำลังเคลื่อนเข้าสู่ภาวะผีอำ [10]
  4. วิธีการอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้การนอนของเราแปรปรวนและอาจช่วยให้เกิดอาการผีอำคือการปลุกให้ตนเองตื่นตอนดึก ตั้งเวลาให้ตนเองตื่นหลังหลับไปสี่ถึงหกชั่วโมง และจากนั้นให้ตนเองตื่นเป็นระยะเวลาสัก 15 นาทีถึงครึ่งชั่วโมง [11] อ่านหนังสือเพื่อให้จิตใจตื่นตัวช่วงเวลานี้ จากนั้นขณะที่กำลังหลับต่อ ให้หลับตา แต่คงสติให้รู้สึกตัวไว้
    • สวดมนต์หรือจดจ่อเฉพาะจุดใดจุดหนึ่งในขอบเขตสายตาเพื่อให้เกิดอาการผีอำ
    • จากนั้นเราอาจตกอยู่ในภาวะผีอำขณะที่กำลังจะหลับหลับ แต่ก็ยังคงรู้ตัว [12]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ทำความเข้าใจอาการผีอำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ช่วงที่เกิดอาการผีอำเราจะมีสติและรู้ตัว แต่ไม่สามารถขยับตัวหรือพูดคุยได้ อาการแบบนี้จะอยู่แค่สองสามวินาที บางครั้งไม่กี่นาที หรือบางครั้งอาการก็อยู่นานกว่านี้ซึ่งเป็นกรณีที่หาพบได้ยาก คนที่มีอาการผีอำแล้วรู้สึกมีแรงกดที่หน้าอก หรือหายใจไม่ออกราวกับมีอะไรกดทับหน้าอกนั้น ถือว่ามีอาการไม่ปกติ [13]
    • อาการผีอำไม่ก่อให้เกิดอันตรายอะไร แต่ทำให้เกิดความรู้สึกตกใจกลัว โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยมีอาการผีอำมาก่อน
    • บางคนจะประสบอาการผีอำสองสามครั้งในชีวิต แต่บางคนอาจมีอาการบ่อยๆ และบางคนอาจไม่เคยมีอาการนี้เลย
    • โดยปกติจะพบอาการผีอำในวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาว ถึงแม้จะไม่มีผลกระทบอะไรเลยและเพศไม่มีผลต่อการเกิดอาการก็ตาม [14]
  2. ลักษณะสำคัญของอาการผีอำคือมีสติรู้ตัว แต่ขยับตัวไม่ได้ มักรู้สึกหายใจไม่ออกร่วมด้วย การเห็นภาพหลอนน่ากลัวและรู้สึกว่ามีบางสิ่งคุกคามอยู่ในห้องช่วงมีอาการผีอำถือว่าเป็นกรณีที่ไม่ปกติ อาจเห็นภาพหลอนชัดเจนเป็นพิเศษ เพราะเราอยู่ในช่วงครึ่งหลับครึ่งตื่นตอนฝันอยู่ [15]
  3. อาการผีอำไม่มีอันตรายอะไร แต่ถ้าเป็นบ่อยก็อาจทำให้แบบแผนการนอนสับสนแปรปรวน ปกติแล้วการปรับวงจรการนอนให้ปกติและการพยายามลดความเครียดในชีวิตจะลดโอกาสการเกิดอาการผีอำ ถ้าอาการผีอำมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของเรา ปรึกษาแพทย์ บางกรณีแพทย์อาจสั่งยารักษาโรคซึมเศร้ามาให้รับประทานช่วงสั้นๆ [18]
    • ถ้ามีอาการหนัก แสดงว่าอาจมีภาวะความผิดปกติของการนอนหลับ อย่างเช่น โรคลมหลับ
    • พบแพทย์เมื่อเรากำลังมีอาการง่วงมากผิดปกติช่วงกลางวัน และพบว่ารวบรวมสมาธิทำงานในชีวิตประจำวันได้ยากลำบาก [19]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าเรารู้สึกไม่ง่วงเลยหลังจากกลับไปนอนอีกครั้ง ให้นอนในท่าที่สบายซึ่งช่วยให้เราหลับง่ายขึ้น
  • ลองนับเลขในหัวเพื่อให้จิตใจตื่นอยู่
โฆษณา

คำเตือน

  • อาการผีอำอาจก่อให้เกิดอาการเห็นภาพหลอนหรืออาการหูแว่ว พยายามนิ่งไว้ ถ้าเกิดอาการประสาทลอนขึ้น จำไว้ว่าเราปลอดภัยและไม่มีอะไรทำอันตรายเราได้
  • ถ้าเราฝึกร่างกายให้เกิดอาการผีอำทุกคืน เราอาจลงเอยด้วยการหมดแรง อย่าฝึกใช้วิธีนี้ทุกวัน ร่างกายเราต้องการหลับพักผ่อนอย่างน้อยแปดชั่วโมงโดยไม่มีการงีบหลับระหว่างวัน


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,289 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา