ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
มันจะดีมากเลยนะ ถ้าหากว่าคุณรู้จักส่วนต่างๆ ของกีตาร์ที่คุณใช้เล่นอยู่ทุกวัน เพราะในระยะยาว มันจะมีประโยชน์กับตัวคุณอย่างมาก ดังนั้น เราก็เลยจะมาสอนวิธีการเซ็ทอัพกีตาร์ด้วยตัวเองให้กับคุณ เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมได้เลย!
ขั้นตอน
-
เช็คความตรงของคอ. เช็คคอกีตาร์เพื่อดูว่ามันโก่งหรือแอ่น และเพื่อการเช็คที่แม่นยำ ให้คุณใช้ไม้บรรทัดวางนาบไว้บนเฟรต และทำแบบนี้ทั้งสองด้านของคอกีตาร์ เพื่อดูให้แน่ใจว่าคอกีตาร์ของคุณไม่เบี้ยว- คอกีตาร์ของคุณต้องโค้งเข้าด้านในเล็กน้อย ดูได้จากหัวกีตาร์ที่ต้องโค้งเข้ามาหาทางหย่องกีตาร์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าช่างปรับกีตาร์หลายคนก็มักจะตั้งคอกีตาร์ไม่ให้ตรงเกินไป แล้วเวลาวัด คอกีตาร์ที่ดีควรจะมีช่องว่างระหว่างคอกับไม้วัดสักเล็กน้อย ถ้าหากคอกีตาร์แอ่นไปด้านหลังเกินไป มันจะสงผลต่อแอคชั่นของกีตาร์ ถ้าเป็นแบบนั้น คุณควรไปร้านขายกีตาร์ เพื่อให้พนักงานปรับให้ใหม่
-
เช็คอีกทีให้แน่ใจ หากคุณคิดว่าคอมันอาจจะโก่ง. ใช้สายกีตาร์สาย 4 เพื่อเช็คความตรงของคอกีตาร์ โดยเช็คจากความสูงของสายนั้น โดยหลังจากที่ตั้งสายกีตาร์แล้ว ให้คุณคาดคาโป้ที่เฟรต 1 และใช้มือขวากดสาย 4 เฟรต 22 หรือเฟรตอะไรก็ได้ที่อยู่ข้างในสุดของคอกีตาร์ แล้วเช็คความห่างระหว่างสายกีตาร์และเฟรตบอร์ดที่เฟรต 12 หรือถ้าวิธีง่ายๆ ก็ให้คุณใช้บัตรแข็งสไลด์ข้างใต้สายกีตาร์ นอกจากนี้คุณยังสามารถเช็คความตรงทั้งคอกีตาร์ได้โดยการกดที่เฟรตอื่นๆ และใช้สายกีตาร์เป็นตัววัดความตรง
- หากคุณมีฟีลเลอร์เกจ (เครื่องวัดระยะชนิดที่เป็นใบมีด) ให้คุณคาดคาโป้ที่เฟรต 1 แล้วกดไปที่เฟรตสุดท้ายของสาย 6 แล้วใช้ฟีลเลอร์เกจวัดระยะห่างระหว่างสาย 6 และเฟรต 8 ความยาวที่วัดได้ควรจะอยู่ที่ประมาน .010 นิ้ว (0.254 มม.) ถ้าหากวัดได้มากว่า .010 นิ้ว คุณต้องไขคอกีตาร์ให้ตรงขึ้นด้วยประแจแอลตามเข็มนาฬิกา
-
ไข truss rod เพื่อปรับคอกีตาร์. หากต้องการปรับคอกีตาร์ที่โก่งอยู่ ให้หาฝาปิด truss rod ซึ่งมักจะอยู่บริเวณหัวกีตาร์ หรือบางครั้งอาจจะอยู่ด้านล่างของคอกีตาร์ใกล้ๆ กับหย่อง แล้วถอดฝานั้นออก จากนั้นค่อยๆ ไขทีละนิดอย่างช้าๆ ด้วยประแจแอลที่มีขนาดเหมาะกับ truss rod
- ถ้าคอกีตาร์ของคุณแอ่นเกินไป ให้คุณหมุนประแจแอลทวนเข็มนาฬิกา เพื่อยกสายกีตาร์ให้สูงขึ้น และในขณะที่คุณกำลังไขอยู่คออยู่ ให้คุณไขแค่นิดเดียวพอ แล้วปล่อยให้กีตาร์ปรับสภาพสักนิด โดยตั้งทิ้งไว้สักหนึ่งคืน จากนั้นค่อยตั้งสายใหม่อีกครั้งก่อนที่จะเช็คหรือเล่นอีกรอบ
-
เช็คองศาระหว่างคอและลำตัวกีตาร์. ถ้าหาก truss rod ถูกตั้งไว้อย่างดีแล้ว แต่ว่าสายกีตาร์บนเฟรต 12 สูงจากเฟรตบอร์ดเกินไป มันเป็นไปได้ว่าระหว่างคอและลำตัวกีตาร์มีอะไรผิดปกติ ถ้าเป็นแบบนั้นให้คุณวางกีตาร์ไว้กับพื้นเรียบๆ แล้วถอดสายกีตาร์ออก จากนั้นถอดคอกีตาร์ออกจากลำตัว เพื่อที่จะดูว่าตรงข้อต่อที่คอกับตัวกีตาร์นั้นมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ซึ่งการถอดคอกีตาร์นั้นทำได้โดยการไขน๊อตที่ด้านหลังออก
- คอกีตาร์ของคุณควรจะอยู่ในแนวขนานกับตัวกีตาร์ แต่บ่อยครั้งก็มักจะมีขี้เลื่อยมาจากโรงงาน ซึ่งทำให้คอเบี้ยว แต่ถ้าหากได้รับการทำความสะอาดอย่างดีแล้วคอก็จะกลับมาตรงเหมือนเดิม
- ถ้าหากคอกีตาร์ยังเบี้ยวอยู่ คุณสามารถใส่ spacer ตรงระหว่างสองน๊อตล่าง เพื่อที่จะทำให้คอนั้นเอนไปด้านหลัง หรือไม่ก็ระหว่างสองน๊อตบน เพื่อที่จะให้คอเอนมาด้านหน้า ในบางครั้งคุณอาจจะใช้แค่กระดาษ Post-It เป็น spacer ก็ได้ และจำไว้ว่า spacer พวกนี้จะอยู่ติดกับไม้ ไม่มีการขยับเขยื้อนหากคุณใส่คอกีตาร์กลับเข้าไปแล้ว และถ้าคุณอยากจะได้ spacer ที่หนาหน่อย คุณก็แค่พับกระดาษ Post-It ให้หนาขึ้น
โฆษณา
-
ปรับแอคชั่นของสายกีตาร์. แอคชั่นกีตาร์ หมายถึง ความสูงจากเฟรตบอร์ดของสายกีตาร์ มือกีตาร์ที่ชอบเล่นกีตาร์แบบไม่ต้องออกแรงมากมักจะตั้งแอคชั่นให้ต่ำ ส่วนมือกีตาร์สายเฮฟวี่ก็มักจะตั้งแอคชั่นที่ค่อนข้างสูงเพื่อเสียงที่พวกเขาต้องการ แต่จริงๆ แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในการตั้งแอคชั่นก็คือ แอคชั่นกีตาร์แบบไหนที่คุณเล่นแล้วเหมาะมือ และไม่มีเสียงติดเฟรต ซึ่งถ้าหากคุณมีกีตาร์สองตัว ให้คุณลองทำวิธีด้านล่างนี้กับกีตาร์ตัวที่มีมูลค่าน้อยที่สุดก่อนจะดีกว่า แล้วค่อยไปลองกับกีตาร์ตัวโปรดของคุณ
- เริ่มต้นโดยการวัดความห่างจากด้านล่างสายกีตาร์ไปจนถึงเฟรต 1 เพราะนี่จะช่วยให้คุณรู้ว่าช่องวางสายของ nut กีตาร์มีความลึกอยู่ในระดับที่พอดีหรือไม่ หากระยะห่างที่วัดได้ไม่ตรงหรือใกล้เคียงกับสเปคด้านล่าง คุณควรเอากีตาร์ของคุณไปเช็ค ความสูงของสายที่เฟรต 12 จะเป็นตัวบอกว่าคุณจะต้องเพิ่มหรือลดความสูงของ saddle และข้อมูลด้านล่างก็คือสเปคมาตรฐานสำหรับกีตาร์ไฟฟ้า
- เฟรต 1 สาย treble - 1/64 นิ้ว หรือ .0156 (0.397 มม.)
- เฟรต 1 สาย bass - 2/64 นิ้ว หรือ .0313 (0.794 มม.)
- เฟรต 12 สาย treble - 3/64 นิ้ว หรือ .0469 (1.191 มม.)
- เฟรต 12 สาย bass - 5/64 นิ้ว หรือ .0781 (1.984 มม.)
- เริ่มต้นโดยการวัดความห่างจากด้านล่างสายกีตาร์ไปจนถึงเฟรต 1 เพราะนี่จะช่วยให้คุณรู้ว่าช่องวางสายของ nut กีตาร์มีความลึกอยู่ในระดับที่พอดีหรือไม่ หากระยะห่างที่วัดได้ไม่ตรงหรือใกล้เคียงกับสเปคด้านล่าง คุณควรเอากีตาร์ของคุณไปเช็ค ความสูงของสายที่เฟรต 12 จะเป็นตัวบอกว่าคุณจะต้องเพิ่มหรือลดความสูงของ saddle และข้อมูลด้านล่างก็คือสเปคมาตรฐานสำหรับกีตาร์ไฟฟ้า
-
ปรับแบบผิวเผิน. หากคิดว่า truss rod และคอกีตาร์ถูกปรับไว้ดีแล้ว ให้คุณปรับความสูงของสาย 1 ให้มีความสูงประมานความหนาของเหรียญ 50 สตางค์ที่นำไปวางบนเฟรต 12 ซึ่งเหรียญ 50 สตางค์จะมีความหนาน้อยกว่า 2/32 นิ้ว (1.6 มม.) และในการปรับคุณอาจจะต้องตั้งแอคชั่นให้ต่ำกว่าเดิม ถ้าทำได้
- สาย 3 และสาย 2 นั้นปรับคล้ายๆ กัน แต่ว่าสาย 6 สาย 5 และสาย 4 จะมีขดลวดพันไว้อีกชั้นหนึ่งเลยทำให้สายหนา ซึ่งคุณสามารถปรับ 3 สายนี้ให้อยู่สูงจากเฟรตบอร์ดมากว่าสายอื่นๆ ได้
-
ตั้งอินโทเนชั่น. เมื่อกดตรงเฟรต 12 แล้วดีด กีตาร์ของคุณอาจจะไม่เพี้ยน แต่ว่าเมื่อเล่นที่เฟรตอื่นๆ หรือลองตีคอร์ด เสียงที่ได้ออกมาอาจจะเพี้ยนก็เป็นได้ การที่จะตั้งอินโทเนชั่นได้ คุณต้องมีหย่องที่มี saddle แบบปรับได้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ก็จะมีน๊อตที่ท้ายหย่องที่สามารถใช้ปรับ saddle ให้ไปด้านหน้าหรือด้านหลังจากส่วนบนของกีตาร์ได้ ซึ่งในการเซ็ทอัพกีตาร์นั้น การตั้งอินโทเนชั่นควรอยู่ขั้นตอนสุดท้ายของการเซ็ทอัพ เพราะการปรับทุกๆ อย่างบนกีตาร์ จะส่งผลต่ออินโทเนชั่นเสมอ
- ในการตั้งอินโทเนชั่น ให้คุณนำจูนเนอร์มาเช็คเสียง แล้วดีดสาย 6 เฟรต 12 โดยดีดทั้งแบบ harmonic (โน้ตที่อยู่บนเฟรต) และดีดแบบธรรมดาที่เฟรตเดิม เสียงที่ได้ควรจะเป็นเสียงเดียวกัน ถ้าหากเสียงเพี้ยนคุณต้องปรับแอคชั่นใหม่
- หากเสียงของเฟรต 12 นั้นสูงเกินอ็อกเทฟจริง ให้คุณเพิ่มความยาวของสายโดยการปรับ saddle ไปด้านหลังเข้าหาทาง tailpiece
- หากเสียงของเฟรต 12 นั้นต่ำเกินอ็อกเทฟจริง ให้คุณลดความยาวของสายโดยการปรับ saddle เข้าหาด้านบนของตัวกีตาร์
- ใช้วิธีเดิมสำหรับสายที่เหลือ แล้วคุณก็จะได้กีตาร์ที่อินโทเนชั่นไม่เพี้ยน แต่ว่าถ้าหากคุณเป็นพวก perfectionist คุณจะเอากีตาร์ของคุณไปปรับที่ร้านซ่อมกีตาร์เพื่อความแน่นอนก็ได้นะ
- ในการตั้งอินโทเนชั่น ให้คุณนำจูนเนอร์มาเช็คเสียง แล้วดีดสาย 6 เฟรต 12 โดยดีดทั้งแบบ harmonic (โน้ตที่อยู่บนเฟรต) และดีดแบบธรรมดาที่เฟรตเดิม เสียงที่ได้ควรจะเป็นเสียงเดียวกัน ถ้าหากเสียงเพี้ยนคุณต้องปรับแอคชั่นใหม่
-
ปรับเฟรตใหม่หากจำเป็น. ถ้าหากมีบางเฟรตมีเสียง buzz ในขณะที่เล่น เป็นไปได้ว่าเฟรตกีตาร์ของคุณอาจจะไม่เรียบ แต่ถ้าหากคุณกล้าพอ คุณอาจจะปรับระดับเฟรตด้วยตัวเองเลยก็ได้ โดยขั้นแรก คุณต้องดูให้แน่ใจว่า truss rod และแอคชั่น รวมถึงคอกีตาร์ถูกตั้งมาอย่างพอดีแล้ว เพราะคอกีตาร์ที่โก่งเกินไปสามารถทำให้เฟรตสึกได้ แล้วถ้าหากมีเฟรตไหนสูงกว่าเฟรตอื่นๆ คุณอาจจะใช้ค้อนพลาสติกปรับระดับเฟรตใหม่ก็ได้
- ถ้าทำแล้วยังไม่ได้ผล ให้คุณขัดเฟรตด้วยกระดาษทราย โดยขั้นแรกให้คุณเช็คให้แน่ใจว่าคอกีตาร์ไม่เบี้ยวแล้ว จากนั้นวางกีตาร์กับพื้นเรียบ แล้วแปะเทปกาวบนฟิงเกอร์บอร์ดให้เหลือแค่เฟรตกีตาร์อย่างเดียว จากนั้นนำบล็อกกระดาษทรายเบอร์ 100 มาขัดทุกเฟรตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการที่ใช้บล็อกกระดาษทรายขัดไปบนเฟรตนั้น จะทำให้เฟรตที่สูงกว่า มีความสูงเท่ากับเฟรตอื่นๆ
- หากเฟรตกีตาร์ของคุณสึกแล้ว การปรับระดับเฟรตใหม่ก็อาจจะเป็นเรื่องยาก คุณอาจจะต้องเปลี่ยนเฟรตใหม่ทั้งหมด ซึ่งอาจจะเปลี่ยนยากและมีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้น เพื่อความประหยัดให้คุณปรึกษากับช่างทำกีตาร์ก่อนที่จะไปเปลี่ยนเฟรตจะดีที่สุด
-
ปรับหย่อง. การปรับที่สำคัญที่สุดที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับกีตาร์แบบ Floyd Rose ก็คือ ทำให้แน่ใจว่าหย่องนั้นบาลานซ์กันแล้ว โดยขั้นแรก ให้คุณเช็ค truss rod และคอกีตาร์ว่าปรับไว้ดีแล้วหรือยัง แล้วเวลาตั้งสายแล้วก็ให้ดูที่หย่องด้วยว่าอยู่เป็นแนวขนานกับตัวกีตาร์หรือไม่ ถ้าหากว่ายังไม่ขนาน คุณต้องปรับสปริงที่อยู่ด้านหลังของตัวกีตาร์ใหม่
- ตั้งสายกีตาร์ใหม่อีกครั้ง แล้วเช็คหย่องกีตาร์ด้วย. ปรับจนกว่าหย่องจะขนานกับตัวกีตาร์ จำไว้ว่าเมื่อไรที่ปรับหย่องคุณก็ต้องปรับแอคชั่นและอินโทเนชั่นใหม่ด้วย ซึ่งในขณะที่ปรับอินโทเนชั่น มันก็เป็นไปได้ว่าหย่องอาจจะเคลื่อน เพราะฉะนั้น คุณก็ต้องปรับสปริงใหม่อีกครั้ง แล้วก็ตั้งอินโทเนชั่นใหม่อีกทีหนึ่ง
-
เป็นอันเสร็จสิ้นโฆษณา
เคล็ดลับ
- เปลี่ยนสายให้เป็นประจำ โดยใช้สายเบอร์เดิมที่เคยใช้จะดีที่สุด กีตาร์ตัวตันส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับสายแบบ light gauge จากโรงงาน (.009-.042) ส่วนมือกีตาร์แจ๊สส่วนใหญ่จะใช้สายที่เบอร์ใหญ่ขึ้นมาหน่อย (.010-.046) และแน่นอนสุดยอดตำนานมือกีตาร์บลูส์อย่าง สตีวี่ เรย์ วอห์น นั้นใช้เบอร์ 13 (.013-.056) ดังนั้น คุณควรจะลองหลายๆ เบอร์ก่อน เพื่อดูว่าเบอร์ไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด พวกสายเบอร์ใหญ่นั้นเหมาะกับการเล่นสไลด์กีตาร์ แต่ถ้าหากคุณชอบเล่นแบบดันสาย คุณควรใช้สายเบอร์ 9 หรือไม่ก็ 8
- หากสายกีตาร์อยู่สูงจากเฟรตบอร์ดที่อยู่ไกล้ nut (เช่น ตรงเฟรต 1) เกินไป ให้คุณลดความต่ำของสายตรง nut ลง แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำด้วยตัวเองได้ค่อนข้างยาก ดังนั้น เอาไปให้ช่างทำดีกว่า
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- สายกีตาร์ชุดใหม่ (หากคุณเล่นกีตาร์บ่อย)
- คีมตัดลวด
- เครื่องตั้งสายกีตาร์
- ไขควง (ขึ้นอยู่กับประเภทกีตาร์)
- ประแจแอล (1/4 นิ้ว หรือ 5/16 นิ้ว หรือขนาดอื่นๆ ขึ้นอยู่กับกีตาร์ของคุณ) หรือไขควงหมุนน็อต
- ไม้หลาโลหะหรือไม้บรรทัดยาว
- คาโป้
- ไม้บรรทัดเล็กขนาด 1/16 นิ้ว
- ฟิลเลอร์เกจ (.002-025)
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
