เบียร์ด ดราก้อน หรือมังกรเครา มีบุคลิกสบายๆ มีรูปร่างเหมาะมือ และมีรูปโฉมที่มีเสน่ห์ ทั้งหมดที่ว่ามานี้ทำให้เป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมมาก [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เบียร์ด ดราก้อนที่เป็นสัตว์เลี้ยงสามารถเพาะพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี ดังนั้น คุณจึงสามารถเพาะพันธุ์มังกรเคราในช่วงใดก็ได้ของปี แต่หากจะแน่ใจว่าผสมติดต้องใช้เวลาและการเตรียมการจำนวนมาก ดังนั้น จงแน่ใจว่าคุณเข้าใจกระบวนการทั้งหมดเป็นอย่างดี ก่อนที่จะลงมือเพาะพันธุ์มังกรเคราของคุณ
ขั้นตอน
-
ระบุเพศเบียร์ด ดราก้อนของคุณ. มีลักษณะเฉพาะทางกายภาพหลายประการที่จะช่วยให้คุณแยกแยะเบียร์ดตัวผู้กับตัวเมียได้ ตัวผู้จะมีหัวใหญ่กว่าตัวเมีย นอกจากนี้ ขนาดเส้นรอบวงหน้าท้องระดับสะดือ (Abdominal girth) ของตัวผู้จะเล็กกว่าของตัวเมีย และจะมีตุ้มนูนแถวทวารหนักใหญ่กว่าตัวเมียอีกด้วย [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อีกวิธีหนึ่งที่จะดูเพศ คือดูรอยนูนของอวัยวะสืบพันธุ์ของเบียร์ดตัวผู้ซึ่งมีอวัยวะเพศสองอัน (hemipenile) เพื่อจะดูเพศ จงจับเบียร์ดคว่ำหน้าบนมือคุณ แล้วค่อยๆ พับหางขึ้นไปทางด้านหลังเป็นมุม 90 องศา ทำอย่างระมัดระวังไม่ให้กระดูกสันหลังตรงส่วนหางเสียหาย หากโคนหางมีรอยนูนขึ้นมาทั้งสองด้าน บ่งชี้ว่าเป็นตัวผู้ หากไม่มีรอยนูนหรือมีรอยนูนเพียงรอยเดียวคือตัวเมีย [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
พาเบียร์ดของคุณไปพบสัตว์แพทย์. จำเป็นที่เบียร์ดต้องอยู่ในสภาพเหมาะสมที่สุดก่อนหน้าการเพาะพันธุ์ สัตว์แพทย์สามารถตรวจร่างกายพวกมันอย่างถี่ถ้วน และบอกให้คุณรู้ว่าพวกมันมีสุขภาพดีหรือจำเป็นต้องรักษาตัว แพทย์ยังสามารถตรวจดูด้วยว่ามังกรเคราของคุณติดเชื้ออะตาดิโนไวรัสหรือไม่ ไวรัสชนิดนี้แพร่กระจายได้ง่ายในหมู่เบียร์ด และสามารถทำให้เกิดโรคภัยที่ร้ายแรง [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ไม่สมควรเพาะพันธุ์เบียร์ดหากผลตรวจหาเชื้ออะตาดิโนไวรัสเป็นบวก เพราะเชื้อสามารถส่งต่อจากแม่ไปสู่ลูกได้ [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จงจำใส่ใจว่าเบียร์ด ดราก้อนที่มีเชื้อไวรัสอาจจะไม่แสดงอาการในตอนทำการทดสอบ ทำให้ได้ผลลัพธ์เป็นผลลบเทียม (false negative result) ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นการดีที่จะทดสอบเบียร์ดของคุณซ้ำๆ ก่อนที่จะเพาะพันธุ์ [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ให้สัตว์แพทย์ของคุณตรวจเบียร์ดเพื่อทราบอายุ ความยาว และน้ำหนักตัว เบียร์ดซึ่งเหมาะสมที่สุดสำหรับเพาะพันธุ์นั้น ตัวผู้สมควรมีอายุอย่างน้อย 18 เดือน ส่วนตัวเมียสมควรจะมีอายุอย่างน้อย 24 เดือน [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ทั้งคู่สมควรมีความยาวตั้งแต่ปลายจมูกจนถึงปลายหางอย่างน้อย 18 นิ้ว [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง และตัวเมียสมควรหนักอย่างน้อย 350 กรัม [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เสริมอาหารให้กับเบียร์ดตัวเมียของคุณ. ตัวเมียจะต้องการอาหารเสริมประจำวันซึ่งประกอบด้วยแคลเซียมกับวิตามินดี เพื่อช่วยรับประกันว่าไข่ของมันจะมีหินปูนมากพอ และมันจะไม่ขาดแคลเซียมหลังจากวางไข่ ตัวเมียยังต้องการวิตามินรวมทั่วๆ ไปด้วย [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เบียร์ดตัวเมียสมควรได้รับอาหารเสริมอย่างน้อยนานหลายสัปดาห์ก่อนเพาะพันธุ์ [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง จงพูดคุยกับสัตว์แพทย์ของคุณ หากมีคำถามเรื่องวิธีแทรกอาหารเสริมในอาหารของมังกรเคราตัวเมีย
-
จัดเตรียมสถานที่เพาะพันธุ์. แม้เบียร์ดตัวเมียและตัวผู้ของคุณจะอยู่ในกรงเดียวกันเพียงชั่วคราว แต่ก็มีความสำคัญที่จะจัดเตรียมสถานที่เพาะพันธุ์ ประการแรกนั้น สถานที่สมควรกว้างพอที่กิ้งก่าเคราวัยผู้ใหญ่สองตัวจะอยู่กันได้อย่างสบาย ร้านขายสัตว์เลี้ยงใกล้บ้านสามารถช่วยให้คุณตัดสินใจเรื่องขนาดกรงที่จำเป็นต้องใช้ [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ตู้ปลาทำด้วยกระจกเป็นที่นิยมมากสำหรับใช้ใส่เบียร์ด แต่ก็มีกรงชนิดอื่นๆ เช่นกัน รวมทั้งกรงทำด้วยเมลามีน และกรง PVC การใช้มุ้งลวดเป็นฝาปิดด้านบนจะป้องกันไม่ให้เบียร์ดของคุณหลบหนี และยังช่วยให้อากาศหมุนเวียนอีกด้วย [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ใช้เทอร์โมมิเตอร์เพื่อคงอุณหภูมิโดยรวมที่ระหว่าง 77 - 88 องศาฟาเรนไฮต์ (25 - 31 องศาเซลเซียส) ในช่วงกลางวัน และประมาณ 75 องศาฟาเรนไฮต์ (24 องศาเซลเซียส) ในช่วงกลางคืน [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ติดตั้งไฟสำหรับอาบแดด (หาซื้อได้ตามร้านขายสัตว์เลี้ยงแถวบ้านคุณ) ไว้ที่ด้านนอกของกรง เพื่อให้มีจุดรวมแสงสำหรับนอนอาบแดดในกรง ณ อุณหภูมิ 105 องศาฟาเรนไฮต์ (40.6 องศาเซลเซียส) [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- วางหลอดไฟชนิดฟูล สเปคตรัม หรือที่ให้แสงเหมือนกับแสงสว่างตามธรรมชาติ ( รังสี UVA และ UVB) ไว้เหนือกรง โดยให้อยู่สูงประมาณหนึ่งฟุต จากจุดที่พวกเบียร์ดน่าจะใช้เวลาอยู่มากที่สุด รังสี UVA และ UVB จากหลอดไฟจะช่วยให้เบียร์ดของคุณมีสุขภาพดี เพราะช่วยให้พวกมันผลิตวิตามินดี [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จัดวางพวกกิ่งไม้และก้อนหินที่ในกรง กิ่งไม้จะช่วยให้เบียร์ดมีบางสิ่งที่จะใช้ปีนป่าย และก้อนหินจะช่วยให้พวกมันมีโอกาสได้นอนพักและหลบซ่อนตัวจากกันและกัน [19] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เตรียมกล่องสำหรับวางไข่. กล่องวางไข่คือกล่องที่เบียร์ดตัวเมียจะใช้วางไข่ สมควรเป็นกล่องพลาสติกขนาดจุแปดถึงสิบแกลลอน พร้อมฝาปิดที่มั่นใจได้ และเปิดให้อากาศหมุนเวียนได้ด้วย จงใส่ดินชั้นบนหรือดินที่ใช้ปลูกพืชในกระถาง รวมทั้งทราย ให้สูงประมาณแปดนิ้ว [20] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ซื้อตู้ฟักไข่. คุณจำเป็นจะต้องย้ายไข่ออกจากกล่องวางไข่ และนำไปฟัก จะดีที่สุดหากคุณจะซื้อตู้ฟักไข่ที่สร้างไว้แล้วตามร้านขายสัตว์เลี้ยงแถวบ้าน เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาด ตู้ฟักไข่ยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งนิยมใช้กันสำหรับการฟักไข่เบียร์ด ดราก้อนคือ ยี่ห้อ โฮวาบาเตอร์ (Hovabator) [23] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ใช้ภาชนะบรรจุเล็ก ๆ ที่ใส่เวอร์มิคูไลท์ หรือเพอร์ไลท์ (vermiculite or perlite) (หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ทำสวนแถวบ้านคุณ) จนเต็ม แล้ววางลงในตู้ฟักไข่ ใช้นิ้วโป้งกดบนแต่ละชิ้นให้เป็นรอยบุ๋มตรงที่จะวางไข่ แล้วปิดด้วยฝาที่อากาศสามารถหมุนเวียนได้ [24] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
หากเป็นประเทศหนาว จงเตรียมตัวเบียร์ดของคุณสำหรับจุดที่อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำจนเข้าสู่ภาวะจำศีล (brummation). ซึ่งเป็นกระบวนการเพื่อลดอุณหภูมิ และช่วงเวลารับแสง (photoperiod) สำหรับเบียร์ด ในตอนที่เบียร์ดตัวผู้กับตัวเมียอยู่แยกกรงกันนั้น จงลดอุณหภูมิลงให้เหลือ 80 องศาฟาเรนไฮต์ (27องศาเซลเซียส) ในตอนกลางวัน และ 60 องศาฟาเรนไฮต์ (16 องศาเซลเซียส) ในตอนกลางคืน ลดช่วงเวลารับแสงของพวกมันลง: ได้รับแสง 10 ชั่วโมง และอยู่ในความมืด 14 ชั่วโมง [25] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณอาจสังเกตเห็นว่า เบียร์ดจะกินอาหารน้อยลงและซ่อนตัวมากขึ้นเมื่อถึงจุดที่อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำจนเข้าสู่ภาวะจำศีล (brumation) พวกมันอาจจะอาบแดดน้อยลงด้วย แต่หลังจากเลิกภาวะจำศีล พวกมันจะต้องการกลับไปกินอาหารตามปกติ [26] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จุดที่อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำจนเข้าสู่ภาวะจำศีล ( brumation) น่าจะใช้เวลาอย่างน้อยสองหรือสามเดือนก่อนจะทำการผสมพันธุ์ [27] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
ใส่เบียร์ดของคุณในกรงสำหรับเพาะพันธุ์. เบียร์ดทั้งคู่ของคุณอาจจะยังไม่จับคู่กันในทันที และต้องการเวลาบ้างที่จะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ การเตรียมกรงขังให้พร้อมจะช่วยให้พวกมันสะดวกมากยิ่งขึ้น และเมื่อมังกรเคราตัวผู้พร้อมจะผสมพันธุ์ เคราจะมีสีเข้มมากขึ้นจนเป็นสีดำ [28] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เฝ้าดูพฤติกรรมการเกี้ยวพาราสี. เบียร์ด ดราก้อนของคุณจะแสดงพฤติกรรมเกี้ยวพาราสี ก่อนจะจับคู่กันจริงๆ โดยเบียร์ดทั้งตัวผู้และตัวเมียจะเริ่มผงกหัว ตัวเมียอาจจะเริ่มโบกขาหน้าข้างหนึ่งเพื่อบ่งบอกว่าเต็มใจที่จะเพาะพันธุ์ ส่วนตัวผู้อาจกระทืบเท้าและไล่ต้อนตัวเมียไปรอบๆ กรง [29] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [30] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เบียร์ดทั้งคู่อาจจะกระตุกหางถี่ๆ อันเป็นพฤติกรรมหนึ่งของการเกี้ยวพาราสี [31] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
สังเกตพฤติกรรมการจับคู่. เพื่อจับคู่ ตัวผู้จะรีบขึ้นคร่อมหลังตัวเมีย และกัดคอของตัวเมียไว้ การกัดคอไว้ช่วยให้ตัวเมียไม่อาจวิ่งหนีไป ก่อนที่กระบวนการจับคู่จะเสร็จสมบูรณ์ [32] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง หลังจากนั้น ตัวผู้จะกดแนบบริเวณช่องเปิดของอวัยวะขับถ่ายของเสียและระบบสืบพันธุ์ ( cloacal region) กับของตัวเมีย [33] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง กระบวนการจับคู่ทั้งหมดจะใช้เวลาเพียงสี่ห้านาทีเท่านั้น
-
หลังจากหนึ่งสัปดาห์ ให้คืนเบียร์ดกลับสู่เข้ากรงแยกกัน. มีคำแนะนำว่าหลังจากจับคู่กัน ให้ทิ้งพวกมันให้อยู่ด้วยกันนานประมาณหนึ่งสัปดาห์ หลังจากนั้น จึงจับใส่กรงแยกกันตามเดิมนานหนึ่งสัปดาห์ ก่อนจะนำกลับมาอยู่ด้วยกันอีกหนึ่งสัปดาห์สำหรับการจับคู่อีกรอบหนึ่ง คุณอาจจำเป็นต้องทำเช่นนี้หลายรอบเพื่อให้แน่ใจว่าจะประสบความสำเร็จในการจับคู่ [34] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ยังคงให้อาหารเสริมแก่เบียร์ดตัวเมียต่อไปหลังจากผสมพันธุ์แล้ว. ให้มันออกกำลังกายมากขึ้น และคอยดูให้อิ่มน้ำอยู่เสมอหลังการผสมพันธุ์ เพื่อช่วยให้เบียร์ดตัวเมียเตรียมตัวดียิ่งขึ้นที่จะวางไข่ [35] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
เฝ้าดูเบียร์ดตัวเมียในกรงที่ใส่แยกกัน. ตัวเมียจะแสดงพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นว่าพร้อมจะวางไข่ เช่น อาจเริ่มเดินกลับไปเดินมาอยู่ในกรง และมองดูกระวนกระวายเล็กๆ เบียร์ดตัวเมียอาจกินอาหารน้อยลง และขุดกรงอย่างบ้าคลั่งด้วย [36] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เมื่อเบียร์ดตัวเมียมีพฤติกรรมเช่นนี้ ให้ย้ายไปใส่ในกล่องวางไข่อย่างอ่อนโยน เพื่อให้มันสามารถวางไข่ได้
-
ปล่อยให้เบียร์ดตัวเมียวางไข่ในกล่องวางไข่. คุณจะมองเห็นรอยขุดของเบียร์ดตัวเมียในกล่องวางไข่ เพื่อสร้างพื้นที่ๆ จะวางไข่ อาจทำได้ไม่ง่ายที่จะบอกว่ามันได้วางไข่ไปแล้วหรือยัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณไม่ได้เห็นตอนวางไข่ หากเป็นเช่นนั้น คุณจะรู้ว่าตัวเมียได้ไปวางไข่ไปแล้ว ตอนมองเห็นว่าท้องของมันมองดูพองโต หรือแฟบ [39] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง นำตัวเมียออกจากลังวางไข่หลังจากมันได้วางไข่แล้ว
- หากคุณคิดว่าตัวเมียยังไม่ได้วางไข่จนหมดให้พาไปพบกับสัตวแพทย์ในทันที [40] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง มันอาจกำลังทุกข์ทรมานจากปัญหาไข่ติดค้าง ซึ่งเป็นอาการทางการแพทย์ที่ร้ายแรง และทำให้มันวางไข่ไม่ได้
- ตามปกติ เบียร์ดตัวเมียจะวางไข่ในช่วงบ่าย หรือ ช่วงหัวค่ำ คุณอาจต้องการจะเฝ้าดูมันในช่วงนี้ของวัน เพื่อดูว่ามันดูพร้อมหรือไม่ที่จะวางไข่ [41] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ตามปกตินั้น ตัวเมียจะวางไข่ประมาณ 24 ฟองในแต่ละครั้ง แต่ก็อาจวางไข่เพียงแค่ 15 ฟอง หรือมากถึง 50 ฟองได้เช่นกัน [42] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [43] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ไข่ที่เป็นกลุ่มๆ เรียกว่า พวงไข่
-
หลังจากตัวเมียวางไข่แล้ว สมควรย้ายกลับไปใส่ในกรงแยกดังเดิม. โดยทั่วไปนั้น เบียร์ดตัวเมียไม่ได้มีความเป็นแม่มากนัก และเบียร์ดตัวเมียในที่คุมขังมีแนวโน้มที่จะไม่ปกป้องไข่ของมัน [44] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
วางไข่ลงในตู้ฟักไข่. เพื่อจะทำเช่นนี้ ให้ยกไข่โดยใช้สองมือหรือใช้ช้อนคันหนึ่ง จำเป็นที่คุณจะต้องใช้ความอ่อนโยนอย่างที่สุด ขณะกำลังย้ายไข่ที่แม่เบียร์ดเพิ่งวางใหม่ๆ ออกจากกล่องวางไข่ ไปใส่ในตู้ฟักไข่ จงพยายามอย่างดีที่สุด ให้ไข่อยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับตอนที่คุณพบมันในกล่องวางไข่ อาจช่วยได้หากคุณจะใช้ดินสอทำเครื่องหมายที่ปลายบนสุดของไข่ เพื่อป้องกันไม่ให้คุณวางไข่กลับหัวกลับหางโดยไม่ได้ตั้งใจตอนวางไข่ในตู้ฟักไข่ [45] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- วางไข่แต่ละฟองลงในภาชนะบรรจุแต่ละอันในตู้ฟักไข่ ไข่สมควรแนบชิดอยู่ในรอยกดด้วยนิ้วหัวแม่มือที่คุณได้ทำไว้ก่อนหน้านี้ จงทำให้แน่ใจว่าไข่ไม่ได้ถูกปกคลุมด้วยเวอร์มิคูไลท์ หรือเพอร์ไลท์ ก่อนจะวางฝาปิดภาชนะบรรจุ [46] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
คงอุณหภูมิของตู้ฟักไข่ไว้ที่ 82 - 86 องศาฟาเรนไฮต์ (28 – 30 องศาเซลเซียส). ใช้เทอร์โมมิเตอร์แบบดิจิตัลเพื่อเฝ้าดูอุณหภูมิ หากอุณหภูมิในตู้ฟักไข่ร้อนเกินไป พวกตัวอ่อนอาจจะตายอยู่ที่ข้างในไข่ได้. [47] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ตู้ฟักไข่สมควรตั้งอยู่ในห้องที่เย็นกว่าอุณหภูมิในตู้ ห้องที่ร้อนกว่าจะเพิ่มอุณหภูมิในตู้ฟักไข่ ซึ่งจะทำให้พวกตัวอ่อนเสี่ยงจะเป็นอันตราย [48] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เฝ้าสังเกตไข่เป็นประจำ. เฝ้าสังเกตอย่างใกล้ชิดเพื่อดูว่าไข่ดูเปียกชื้นหรือแห้งเกินไป การควบแน่นของไข่อาจทำให้ตัวอ่อนถึงตายได้ จึงมีความสำคัญมากที่จะทำให้แน่ใจว่าไม่ได้มีของเหลวใดๆ เกาะบนไข่ หากไข่มองดูเปียกชื้น ให้เปิดฝาตู้ฟักไข่ออกนาน 24 ชั่วโมง เพื่อไล่ความชื้นส่วนเกิน และปล่อยให้เวอร์มิคูไลท์ หรือเพอร์ไลท์แห้ง [51] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากไข่มีรอยบุ๋ม หรือมองดูเหมือนกำลังจะยุบลง พวกมันอาจจะแห้งเกินไป จงใช้น้ำขนาดอุณหภูมิห้องสร้างความชุ่มชื้นให้กับเวอร์มิคูไลท์ แต่จงทำให้แน่ใจด้วยว่าไม่ได้ทำให้ชื้นเสียจนไข่เบียร์ดเปียก [52] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ไข่ที่มีสุขภาพดีและมีตัวจะขยายใหญ่เป็นเท่าตัวจากขนาดดั้งเดิม และเปลี่ยนเป็นสีขาวแบบชอล์ก ส่วนไข่ที่มีสีเหลือง ชมพู หรือเขียวอาจจะไม่ฟักเป็นตัว [53] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ไข่ที่มีเชื้อราขึ้นอาจจะฟักเป็นตัวหรือไม่ก็ได้ จงพูดคุยกับสัตวแพทย์หากคุณไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรกับพวกไข่ที่ขึ้นรา
- ไข่จะเริ่มฟักภายในประมาณ 60 - 70 วัน [54] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
สังเกตการเปลี่ยนแปลงรูปร่างท่าทางของไข่. เพียงก่อนหน้าที่จะฟักเป็นตัว ไข่อาจจะเริ่มแฟบ และมีหยดน้ำเล็กๆ เกาะ การเปลี่ยนแปลงแบบนี้เป็นปกติ และไม่สมควรจะสับสนกับสัญญาณที่บ่งบอกว่าไข่ไม่สมบูรณ์ คุณยังอาจจะมองเห็นรอยกรีดยาวที่เปลือกนอกของไข่ซึ่งเกิดจากฟันบนปลายจมูกของพวกมัน เจ้าตัวน้อยจะทำรอยกรีดใหญ่พอที่มันจะเอาจมูกกับหัวทะลุขึ้นมา และจะหยุดพักประมาณหนึ่งวันในสภาพหัวยื่นออกจากไข่ [55] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
หลีกเลี่ยงการช่วยให้ลูกเบียร์ด ดราก้อนโผล่ออกมาจากไข่. จงปล่อยให้เบียร์ดตัวจิ๋วฟักออกจากไข่ด้วยตัวเอง ซึ่งตามปกติจะใช้เวลาประมาณ 24 -36 ชั่วโมง คุณอาจจะสังเกตเห็นด้วยว่าไข่ทั้งหมดจะฟักเป็นตัวห่างกันหนึ่งหรือสองวัน [56] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เก็บลูกเบียร์ดไว้ในตู้ฟักสำหรับ 24 ชั่วโมงแรกของชีวิต เพื่อช่วยให้พวกมันปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ [57] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เก็บลูกเบียร์ด ดราก้อนตัวที่ไม่รอดทิ้งไป
-
แบ่งกลุ่มลูกเบียร์ด ดราก้อน ตามขนาด. ใช้กระดาษชำระอเนกประสงค์ชื้นๆ ปูรองพื้นกรงของพวกมัน จะช่วยให้ลูกเบียร์ดไม่ขาดน้ำในช่วงสองสามสัปดาห์แรกของชีวิต คุณยังสามารถพ่นละอองน้ำใส่พวกมันเบาๆ จนกระทั่งพวกมันเริ่มดื่มน้ำด้วยตัวเอง ในแง่ของอาหารนั้น ไข่แดงในไข่ของลูกเบียร์ด ดราก้อนแต่ละตัว จะช่วยให้มันมีสารอาหารอยู่ได้อีกสี่ห้าวัน ดังนั้น คุณสามารถรอจนถึงวันที่สามเพื่อที่จะป้อนอาหารจริงๆ ให้กับพวกมัน (จิ้งหรีด ผักสีเขียวสับละเอียด) [58] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณจะต้องใช้ตู้ปลาขนาดความจุอย่างน้อย 20 แกลลอนเพื่อใส่ลูกเบียร์ด และพวกมันจะต้องการตู้ปลาขนาดใหญ่มากขึ้นเมื่อเติบโตขึ้น [59] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- จัดหาอาหารจำนวนมากพอให้กับลูกๆ เบียร์ด พวกมันจะได้ไม่ต้องเริ่มแทะเล็มหางหรือนิ้วเท้าของกันและกัน [60] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แยกลูกเบียร์ด ดราก้อนที่ตัวใหญ่กว่าและมีลักษณะเด่นกว่าออกไปไว้ต่างหาก เพื่อพวกที่ตัวเล็กกว่าจะสามารถกินอาหารได้ [61] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.beardeddragonguide.com/breeding-sexing-bearded-dragon-lizards/
- ↑ http://www.beardeddragonguide.com/breeding-sexing-bearded-dragon-lizards/
- ↑ http://www.reptilesmagazine.com/Reptile-Health/Habitats-Care/Atadenovirus-This-Disease-Can-Be-Deadly-To-Your-Bearded-Dragon/
- ↑ http://www.reptilesmagazine.com/Reptile-Health/Habitats-Care/Atadenovirus-This-Disease-Can-Be-Deadly-To-Your-Bearded-Dragon/
- ↑ http://www.reptilesmagazine.com/Reptile-Health/Habitats-Care/Atadenovirus-This-Disease-Can-Be-Deadly-To-Your-Bearded-Dragon/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.beardeddragonguide.com/breeding-sexing-bearded-dragon-lizards/
- ↑ http://www.reptilesmagazine.com/Breeding-Lizards/Breeding-Bearded-Dragons-Wissman/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.beardeddragonguide.com/breeding-sexing-bearded-dragon-lizards/
- ↑ http://www.reptilesmagazine.com/Breeding-Lizards/Breeding-Bearded-Dragons-Wissman/
- ↑ http://www.thebeardeddragon.org/bearded-dragon-setup.php
- ↑ http://www.peteducation.com/article.cfm?c=17+1796&aid=2730
- ↑ http://www.peteducation.com/article.cfm?c=17+1796&aid=2730
- ↑ http://www.reptilesmagazine.com/Breeding-Lizards/Breeding-Bearded-Dragons-Wissman/
- ↑ http://www.thebeardeddragon.org/bearded-dragon-setup.php
- ↑ http://www.peteducation.com/article.cfm?c=17+1796&aid=2730
- ↑ http://www.reptilesmagazine.com/Breeding-Lizards/Breeding-Bearded-Dragons-Wissman/
- ↑ http://www.beardeddragonguide.com/breeding-sexing-bearded-dragon-lizards/
- ↑ http://www.beardeddragonguide.com/breeding-sexing-bearded-dragon-lizards/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.reptilesmagazine.com/Breeding-Lizards/Breeding-Bearded-Dragons-Wissman/
- ↑ http://www.reptilesmagazine.com/Breeding-Lizards/Breeding-Bearded-Dragons-Wissman/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.reptilesmagazine.com/Breeding-Lizards/Breeding-Bearded-Dragons-Wissman/
- ↑ http://www.thebeardeddragon.org/bearded-dragon-behavior.php
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ https://nationalzoo.si.edu/Animals/ReptilesAmphibians/Facts/FactSheets/Inlandbeardeddragon.cfm
- ↑ http://www.reptilesmagazine.com/Breeding-Lizards/Breeding-Bearded-Dragons-Wissman/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://beardeddragonsource.com/info-center/health-disease/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.beardeddragonguide.com/breeding-sexing-bearded-dragon-lizards/
- ↑ https://nationalzoo.si.edu/Animals/ReptilesAmphibians/Facts/FactSheets/Inlandbeardeddragon.cfm
- ↑ http://www.reptilesmagazine.com/Breeding-Lizards/Breeding-Bearded-Dragons-Wissman/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.beardeddragonguide.com/breeding-sexing-bearded-dragon-lizards/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.beardeddragonguide.com/breeding-sexing-bearded-dragon-lizards/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.thebeardeddragon.org/bearded-dragon-setup.php
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
- ↑ http://www.lllreptile.com/info/library/care-and-husbandry-articles/-/reproductive-biology-of-bearded-dragons/
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 28,938 ครั้ง
โฆษณา