ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

พอถึงจุดหนึ่งเราทุกคนต่างก็อยากพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ในชีวิตด้วยกันทั้งนั้น แผนพัฒนาตนเองสามารถช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายที่คุณใฝ่ฝันได้ ไม่ว่าคุณจะอยากเผชิญความท้าทายใหม่ๆ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน หรือเปลี่ยนนิสัยที่ไม่ดีต่อสุขภาพ การสร้างแผนพัฒนาตนเองเป็นวิธียอดเยี่ยมที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน...

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

มุ่งสู่เป้าหมาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตัดสินใจว่าอยากเปลี่ยนแปลงอะไร [1] . เอากระดาษที่ยังไม่ได้ใช้มาหนึ่งแผ่นหรือเริ่มเขียนบันทึกใหม่ เขียนลงไปว่าด้านไหนของชีวิตที่คุณรู้สึกไม่โอเค ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าเราควรทำตามเป้าหมายทีละอย่างจะดีกว่าเพื่อให้เราโฟกัสกับเป้าหมายได้ตลอด แต่คุณอาจจะรู้สึกว่าคุณมีเป้าหมายหลายอย่างที่ต้องพิชิตให้ได้พร้อมกันทีเดียว ระบุด้านต่างๆ ในชีวิตที่คุณรู้สึกหนักอึ้งมาเป็นเดือนๆ หรือเป็นปีๆ เช่น ถ้าคุณสูบบุหรี่ ตอนนี้อาจถึงเวลาตั้งเป้าเลิกบุหรี่ได้แล้ว! ด้านต่างๆ ในชีวิตก็เช่น:
    • สุขภาพและสมรรถภาพทางกาย
    • ความสัมพันธ์
    • หน้าที่การงาน
    • การเงิน
    • นิสัยและการดำเนินชีวิต
    • การศึกษา
  2. เขียนเป้าหมายลงไป.นำกระดาษแผ่นใหม่มาหนึ่งแผ่นและลงมือเขียนสิ่งที่คุณอยากทำให้สำเร็จ จากการศึกษาพบว่าคุณมีแนวโน้มที่จะจริงจังกับเป้าหมายมากขึ้นเมื่อคุณเขียนเป้าหมายลงไป [2] เขียนหัวข้อ 4 หัวข้อไว้ด้านบนสุดของกระดาษ หัวข้อใหญ่หัวข้อแรกควรจะเป็น "ด้านที่อยากเปลี่ยนแปลง" และหัวข้อย่อย 4 หัวข้อที่เหลือควรเป็น "1 เดือน" "6 เดือน" "1 ปี" และ "5 ปี" คุณจะเขียนถึง "10 ปี" หรือมากกว่านั้นก็ได้ ใต้ด้านที่อยากเปลี่ยนแปลง ให้เขียนสิ่งที่คุณอยากจะเปลี่ยน เช่น "หน้าที่การงาน" หรือ "การเงิน" จากนั้นใต้หัวข้อระยะเวลา ให้เขียนสิ่งที่คุณอยากเปลี่ยนแปลงในชีวิตภายในระยะเวลานั้นๆ
    • เป้าหมายของคุณต้องเขียนอย่างเป็นบวก เช่น เขียนว่า "ฉันจะ..." ไม่ใช่ "ฉันอาจจะ" หรือ "ฉันหวังว่า..." ยิ่งข้อความของคุณฟังดูมั่นใจมากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งสร้างแรงกระตุ้นให้คุณได้มากเท่านั้น
    • เขียนเป้าหมายให้เจาะจง เช่น แทนที่จะเขียนว่า"ฉันจะลดน้ำหนัก" ให้เขียนว่า "ฉันจะลดน้ำหนักให้ได้ 3 กิโลกรัมด้วยการเพิ่มกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากขึ้นและรับพลังงานให้น้อยลง"
    • ด้านล่างของกระดาษให้เขียนหัวข้อว่า "ขั้นตอนปฏิบัติ" และเขียนทุกขั้นตอนที่คุณต้องทำเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย เช่น "ฉันจะเดินให้ได้ 1.5 กิโลเมตรทุกวัน" หรือ "ฉันจะกินสลัดสดๆ ทุกวัน"
  3. ตั้งเป้าหมายที่ทำได้จริง [3] . คุณมีทักษะ ความรู้ เครื่องมือ และแหล่งทรัพยากรที่จะทำให้เป้าหมายเป็นจริงได้ไหม เช่น คุณอาจจะอยากไปเรียนภาคค่ำ ลงทุนซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกาย หรือจ้างครูส่วนตัวมาสอนธุรกิจ คุณจะรู้สึกมีแรงบันดาลใจมากขึ้นและพร้อมที่จะก้าวไปสู่เป้าหมายมากยิ่งขึ้นถ้าคุณทำทุกอย่างเพื่อเตรียมพร้อม
  4. นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มีที่ปรึกษาเจ๋งๆ อยู่เบื้องหลัง หานักธุรกิจ นักกีฬา หรือบุคคลสาธารณะที่ประสบความสำเร็จที่คุณชื่นชอบ ถ้าคุณรู้จักพวกเขา ถามพวกเขาว่าพวกเขาสนใจจะมาเป็นที่ปรึกษาให้คุณไหม ถ้าคุณไม่รู้จักพวกเขา ก็ให้อ่านวิธีพิชิตเป้าหมายของพวกเขา ศึกษาว่าพวกเขาทำได้อย่างไรและหาแรงบันดาลใจจากความมุมานะของพวกเขา พวกเขาน่าจะมีบล็อกหรือบทความที่บอกเล่าความสำเร็จของตัวเอง เช่น "ฉันเก็บเงินล้านแรกได้จากการ…" [4]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เชื่อมั่นในตนเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ขั้นแรกของการตั้งเป้าหมายคือคุณต้องเชื่อและศรัทธาหมดใจว่าคุณสามารถประสบความสำเร็จได้ ถ้าคุณไม่เชื่อว่าคุณสามารถเปลี่ยนชีวิตและได้ในสิ่งที่คุณต้องการได้อย่างแน่นอน คุณก็อาจจะลืมการตั้งเป้าหมายแล้วไปทำอย่างอื่น ถ้าคุณลังเล ให้มองไปรอบๆ โลกของคุณ ทุกอย่างเริ่มต้นจากความคิดทั้งนั้น! กำจัดเสียงกระซิบด้านลบที่คุณบอกตัวเอง เช่น "ฉันดีพอไหมนะ" ออกไป เพราะคุณดีพออยู่แล้ว [5]
  2. มุ่งมั่น [6] . ถ้าคุณรู้สึกไม่ค่อยมุ่งมั่นกับเป้าหมายสักเท่าไหร่ ให้เอาเป้าหมายที่เขียนไว้ออกมาอ่าน นอกจากนี้ให้เขียนว่าคุณจะจริงจังกับเป้าหมายได้อย่างไรและเพื่ออะไรสัก 2 – 3 หน้า ทำไมมันถึงสำคัญกับคุณ มันมีความหมายกับคุณอย่างไร ทำไมผลลัพธ์ที่ออกมามันถึงสำคัญและทำอย่างไรคุณถึงจะทำให้มันเป็นจริงขึ้นมาได้ ถ้าไม่มีความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง คุณก็มีแนวโน้มจะไปสู่เป้าหมายได้ตลอดรอดฝั่งน้อย ขณะที่คุณกำลังมุ่งหน้าทำตามเป้าหมายของคุณ คุณอาจจะเช็กระดับความมุ่งมั่นของคุณระหว่างทางด้วยก็ได้
    • ถามตัวเองว่าพยายามถึงที่สุดแล้วหรือยัง
    • คอยตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังเดินไปสู่แต่ละเป้าหมายจริงๆ
    • ถ้าคุณล้ม คุณต้องเต็มใจที่จะลุกขึ้นเพื่อพยายามใหม่และก้าวต่อไป
    • เลือกที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ ทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว [7]
  3. ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่า การใช้เวลาในแต่ละวันนึกภาพเป้าหมายให้ชัดเจนอาจส่งผลต่อระดับความสำเร็จที่คุณได้รับได้อย่างมีนัยยะสำคัญ บางงานวิจัยเผยว่า การฝึกจิตนั้นมีประสิทธิภาพเกือบเทียบเท่ากับการฝึกกาย ก่อนที่คุณจะเข้านอนในแต่ละคืน ลองหลับตาแล้วนึกภาพความสำเร็จของตัวเอง [8]
  4. บอกเป้าหมายของคุณให้เพื่อนฟัง [9] . บอกกลุ่มคนที่สนับสนุนคุณ เช่น ครอบครัวและเพื่อนๆ ของคุณว่าเป้าหมายส่วนตัวของคุณคืออะไรเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คุณพิชิตเป้าหมาย และช่วยเสริมความมุ่งมั่นให้คุณไปสู่จุดหมายได้ เพื่อนๆ หรือครอบครัวของคุณอาจจะถามคุณเป็นครั้งคราวว่าไปถึงไหนแล้ว ซึ่งจะทำให้คุณจดจ่ออยู่กับสิ่งที่คุณกำหนดไว้ว่าจะทำได้มากขึ้น ถ้าคุณไม่ได้บอกใครเลยว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร คุณก็อาจจะยอมแพ้ได้ง่ายๆ และไม่รู้สึกผิดที่ตัวเองล้มเหลว
  5. ผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ต่างเคยฝันในสิ่งที่ดูเป็นไปไม่ได้เลยในตอนแรก แต่แทนที่จะปล่อยให้ความยากลำบากหยุดพวกเขาไว้ พวกเขากลับเลือกที่จะเดินหน้าต่อ พยายามมองโลกในแง่ดี เพราะอุปสรรคของความสำเร็จที่ใหญ่ที่สุดก็คือความคิดของคุณเอง ขณะที่คุณกำลังขับรถหรืออยู่ที่บ้าน ให้เปิดซีดีสร้างแรงบันดาลใจฟังเพื่อกระตุ้นและทำให้คุณมีกำลังใจที่จะเดินหน้าต่อ และอย่าลืมปรับมุมมองที่มีต่อสิ่งต่างๆ ด้วย
    • อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
    • อย่าปล่อยให้ความกลัวลอยๆ ขัดขวางไม่ให้คุณได้ทำในสิ่งที่คุณอยากทำ
    • หาแง่มุมดีๆ ในสถานการณ์แย่ๆ
    • สร้างและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้
    • เพิ่มคุณค่าและด้านดีๆ ให้กับชีวิตคนอื่น
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

จัดระเบียบชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มีหลายวิธีที่คุณสามารถเพิ่มพูนความรู้เพื่อให้ตัวเองได้เรียนรู้เกี่ยวด้านที่คุณต้องการพัฒนามากขึ้น การศึกษาสิ่งที่คุณตั้งใจจะพัฒนาเพิ่มเติมจะช่วยให้คุณรู้ว่าสาขาที่คุณสนใจนั้นตอนนี้ไปไกลถึงไหนแล้ว และทำให้คุณมีแรงบันดาลใจอยู่เสมอด้วย
    • อ่านหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเพื่อดูว่ามีการเรียนการสอนอะไรเปิดในชุมชนบ้าง
    • ไปที่ห้องสมุดประชาชนเพื่อหาหนังสือแล้วเอาไปอ่าน
    • เรียนรู้จากประสบการณ์และความรู้ของคนอื่น หมั่นหาความรู้จากคอร์สเรียนออนไลน์หรือการสัมมนาที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคุณ
    • ถามเพื่อนๆ ที่ประสบความสำเร็จในด้านที่คุณต้องการจะพัฒนาว่าเขาใช้แหล่งทรัพยากรอะไร
  2. การจดโน้ตเป็นกระบวนการเชิงรุกที่ทำให้คุณเป็นผู้เรียนเชิงรุกด้วยเช่นกัน ขณะที่คุณเข้าร่วมการสัมมนาหรือฟังซีดีสร้างแรงบันดาลใจ ให้จดสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ คุณจะนำสิ่งที่คุณได้เรียนรู้ไปปรับใช้กับเป้าหมายของคุณอย่างไร การจดโน้ตจะทำให้ข้อมูลที่คุณกำลังเรียนรู้สดใหม่ในความทรงจำ และยังช่วยให้คุณก้าวเดินไปสู่เป้าหมายได้ตลอดรอดฝั่งด้วย
  3. พูดกันตรงๆ เถอะว่า ถ้าคุณไม่ได้นึกถึงเป้าหมาย คุณก็จะไม่มีวันทำให้มันสำเร็จขึ้นมาได้ ถ้าคุณไม่ทำอะไรกับเป้าหมายของคุณเลย มันก็จะกลายเป็นแค่ความปรารถนา กำหนดเวลาสำหรับการทบทวนเป้าหมาย อาจจะเป็นทุกเช้าวันจันทร์เพื่อทบทวนว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาคุณไปถึงไหนแล้ว และกำหนดขั้นตอนขึ้นมาใหม่สำหรับสัปดาห์หน้าเพื่อช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายสุดท้ายได้ในที่สุด การอ่านเป้าหมายทุกวันจะช่วยเตือนคุณถึงความสำคัญของเป้าหมาย และทำให้คุณรู้แน่ชัดว่าอะไรคือสิ่งที่คุณต้องการในชีวิต [10]
    • เช็กว่าคุณกำลังทำตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ได้หรือไม่ บางทีคุณอาจจะต้องเพิ่มความตื่นเต้นและเพิ่มขั้นตอนเล็กๆ เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย
    • คุณต้องมีเป้าหมายที่ท้าทายพอสมควร ถ้าเป้าหมายทำได้ง่ายเกินไป บางทีคุณอาจจะต้องทำให้เป้าหมายท้าทายขึ้นด้วยการเพิ่มรายละเอียดเข้าไปใหม่ เช่น "ฉันจะวิ่งวันละ 3 กิโลเมตร" แทนที่จะเป็น "ฉันจะวิ่งวันละ 800 เมตร"
    • เช็กว่าตัวเองยังมีแรงบันดาลใจที่จะทำเป้าหมายให้สำเร็จอยู่หรือไม่ ถ้าไม่ ให้จัดทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางจนกว่าคุณจะรู้สึกกระตือรือร้นมากขึ้น
    โฆษณา


เคล็ดลับ

  • เริ่มจากสิ่งที่คุณสามารถทำสำเร็จได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ ก่อนเพื่อที่คุณจะได้ไม่หมดกำลังใจว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ
  • อย่ารีบร้อน ทำทีละขั้นทีละตอนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
  • ฉลองให้กับความสำเร็จเมื่อคุณพิชิตเป้าหมายได้
  • เวลาที่คุณหาข้อมูล ให้หาจากหนังสือ ซีดี และคอร์สเรียนที่เกี่ยวข้อง เช่น ถ้าคุณอยากปลดหนี้ ให้หาหนังสือเกี่ยวกับอิสรภาพทางการเงินมาอ่าน
  • หาคนให้คำปรึกษาเพื่อที่คุณจะได้ไม่ยอมแพ้
โฆษณา

คำเตือน

  • จำไว้ว่าการเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา การมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละจะนำไปสู่ความสำเร็จที่จับต้องได้
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 19,976 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา