ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หอยทากสวนเป็นสัตว์เลี้ยงราคาถูกและหาง่ายที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะมันมักจะคอยกินต้นไม้ใบหญ้าในสวนของคุณอยู่แล้ว แม้ว่าคุณต้องให้อาหารและน้ำอย่างน้อยวันเว้นวัน แต่มันก็เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายหากคุณเข้าใจความต้องการของมัน ถ้าคุณดูแลมันอย่างดี มันจะมีชีวิตอยู่ได้ตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

สร้างบ้านให้หอยทาก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าเลี้ยงเพื่อทำโปรเจกต์ระยะสั้น ให้ใช้ภาชนะที่มีรูอากาศ. ถ้าคุณจะสังเกตหอยทากแค่ไม่กี่วันจากนั้นก็ปล่อยกลับเข้าไปในสวนเหมือนเดิม โหลแยมหรือโหลผักดองที่เจาะรูก็ใช้ได้ แต่หอยทากก็อาจจะโดนโลหะบาด เพราะฉะนั้นแทนที่จะใช้ฝา ให้ใช้ผ้าขาวบางคลุมปากโหลแล้วใช้หนังยางรัดไว้
    • จำไว้ว่าหอยทากสามารถปีนขึ้นบนพื้นผิวในแนวดิ่งได้ และจะพยายามปีนหนีถ้าภาชนะไม่มีฝาปิด
  2. ซื้อแท็งก์หรือสวนขวดแก้วขนาดใหญ่หากเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงระยะยาว. ถ้าคุณจะเลี้ยงหอยทากนานกว่านั้น ให้ใช้ภาชนะที่มีพื้นที่เพียงพอกับขนาดตัว เพราะมีแค่ลูกหอยทากหรือหอยทากโตเต็มวัยพันธุ์ที่เล็กที่สุดเท่านั้นที่สามารถอยู่ในกล่องพลาสติกได้นานๆ [1] หอยทากส่วนใหญ่ต้องอยู่ในแท็งก์ใหญ่ๆ เพื่อให้สะอาดและสุขภาพดี คุณสามารถหาซื้อสวนขวดแก้วสำหรับเลี้ยงหอยทากโดยเฉพาะได้ที่ร้านขายสินค้าสัตว์เลี้ยง
    • ใช้ถังปริมาตรอย่างน้อย 5 แกลลอน (19 ลิตร) เพื่อให้หอยทากมีพื้นที่เดินไปรอบๆ ถ้าคุณเลี้ยงหอยทากหลายตัวหรือตั้งใจจะดูแลลูกหอยทากหลังจากที่ตัวโตเต็มวัยผสมพันธุ์ คุณก็ต้องใช้แท็งก์ที่ใหญ่กว่านี้
  3. หอยทากเองก็สูดอากาศเพื่อรับออกซิเจนและหายใจออกเป็นคาร์บอนไดออกไซด์เช่นเดียวกับมนุษย์ สวนขวดแก้วจึงต้องมีรูเพื่อให้อากาศเข้าไปได้ ซึ่งโดยหลักการแล้วต้องมีรูอยู่หลายด้านเพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก บางคนรายงานว่าหอยทากดูมีชีวิตชีวามากขึ้นหากอากาศสามารถถ่ายเทออกจากสวนขวดแก้วผ่านทางรูเล็กๆ ที่อยู่ใต้ฐานได้ [2]
  4. ตราบใดที่แท็งก์ยังชุ่มชื้น หอยทากสวนส่วนใหญ่ทนกับอากาศได้ดีพอสมควร แต่พวกมันจะมีชีวิตชีวาและปลอดภัยที่สุดในอุณหภูมิห้อง วางไว้ในที่ร่มในช่วงที่อากาศร้อน และอย่าให้สัมผัสอากาศหนาวจัด
  5. เพื่อลดโอกาสที่หอยทากจะเจอแบคทีเรียที่เป็นอันตราย ยาฆ่าแมลง และสิ่งอันตรายอื่นๆ ให้ซื้อดินสวนขวดแก้วจากร้านขายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง [3] ตัวเลือกที่ดีรองลงมาก็คือ ใช้ดินธรรมชาติจากในสวนที่ ไม่ได้ ใส่ยาฆ่าแมลงหรือปุ๋ยเคมี ใส่ดินลงตรงฐานสวนขวดหนึ่งชั้นโดยให้ดินกลบแก้วหรือพลาสติกจนมิด
    • อย่าใช้ดินผสมสำหรับปลูกพืช เพราะอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อหอยทาก
  6. ใส่สแฟกนัมมอส พีต ปุ๋ยหมัก หรือเวอร์มิคูไลต์ลงบนดินหนึ่งชั้น [4] ชั้นนี้จะกักเก็บความชื้นในดิน ซึ่งช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับหอยทาก
  7. ใส่สิ่งของที่หอยทากสามารถซ่อนตัวและปีนเล่นไว้ในแท็งก์ เพราะจะช่วยให้พวกมันอยู่สบายขึ้นแถมมองแล้วยังเพลินอีกด้วย ร้านขายของสำหรับสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่จะมีท่อนไม้ปลอมไว้ให้สัตว์เลี้ยงขนาดเล็กคลานเล่น หรือท่ออุโมงค์แฮมสเตอร์อันสั้นๆ ที่หอยทากน่าจะชอบ นอกจากนี้คุณก็อาจเจอของตกแต่งจากในสวนด้วยเช่นกัน! แต่อย่าใส่ก้อนหินลงในสวนขวดแก้ว เพราะว่าหอยทากอาจจะร่วงลงมาโดนแก้วแล้วเปลือกแตกได้ ส่วนเปลือกและกิ่งไม้นั้นโดยทั่วไปไม่กี่สัปดาห์ก็หักแล้ว และคุณก็ต้องนำมาเปลี่ยนใหม่
    • อย่าใช้ของตกแต่งที่ทำจากกระดาษลังเด็ดขาด เพราะมอสและเชื้อราจะขึ้นและทำให้หอยทากตายได้
  8. หอยทากแรงเยอะมากเมื่อเทียบกับขนาดตัว และสามารถปีนขึ้นด้านบนของแท็งก์ได้เกือบทุกชนิด แท็งก์ที่มีฝาล็อกอาจช่วยป้องกันไม่ให้หอยทากหนีออกมาได้ แต่ถ้าฝาของสวนขวดแก้วไม่มีล็อก ให้นำหนังสือหลายเล่มหรือของหนักๆ มาวางทับ
  9. เข้าไปในสวนแล้วมองหาหอยทากตรงที่เป็นดินแฉะ กระถางต้นไม้อันเก่า หรือตรงที่ชื้นๆ ถ้ามองหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ให้วางผักสดไว้ในสวนแล้วกลับมาดูว่าหอยทากมากินไหม เวลาฝนตกหนักหอยทากมักออกมาข้างนอก เพราะฉะนั้นคุณน่าจะมีโอกาสเจอหอยทากมากกว่าหากคุณออกไปหาระหว่างหรือหลังเกิดพายุฝน
    • คุณสามารถจับหอยทากสวนได้โดยไม่เป็นอันตราย แต่ถ้าจะให้ดีก็ควรล้างมือก่อนและหลังจับหอยทากเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดอันตรายกับตัวเองหรือหอยทาก [5]
    • ถ้าคุณไม่อยากจับหอยทาก ให้ใส่ถุงมือ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ดูแลหอยทาก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ฉีดน้ำลงบนมอส พีต หรือวัสดุอื่นๆ ที่คุณใส่ไว้ตรงฐานแท็งก์เมื่อมันเริ่มแห้ง วัสดุในชั้นนี้ต้องชื้นตลอดเวลา ถ้าคุณไม่มีเวลาฉีดน้ำวันเว้นวันเป็นอย่างน้อย คุณก็สามารถใส่น้ำแข็ง ผ้าขี้ริ้วหรือฟองน้ำชุ่มน้ำไว้ในแท็งก์แทนได้
  2. หอยทากอาจจะแข็งแรงขึ้นหากคุณฉีดน้ำให้มันทุกวันหรือวันเว้นวัน แต่ให้สังเกตอุณหภูมิน้ำด้วย ฉีดน้ำอุ่นในช่วงที่อากาศหนาว และฉีดน้ำที่อุณหภูมิห้องในช่วงหน้าร้อน [6]
  3. หอยทากส่วนใหญ่ไม่เรื่องมากและกินผักผลไม้สดได้เกือบทุกชนิด ล้างอาหารให้สะอาดก่อนนำไปให้หอยทาก และหั่นผักชิ้นใหญ่ออกเป็นชิ้นหรือแผ่นเล็กๆ [7] อาหารบางอย่าง เช่น แคร์รอตหรือมันฝรั่งอาจจะต้องนำไปต้มก่อนสักครู่เพื่อให้มันนิ่มขึ้นอีกหน่อย และทิ้งอาหารไว้ให้เย็นก่อนนำไปให้หอยทากทุกครั้ง
    • หอยทากบางตัวอาจจะกินเนื้อดิบ ไข่ดิบ ขนมปังโฮลวีต หรือข้าวโอ๊ต (แช่น้ำแต่ไม่สุก) ลองให้หอยทากกินอาหารให้หลากหลายเพื่อให้มันมีโอกาสได้รับสารอาหารที่ต้องการครบถ้วน [8]
  4. รู้ว่าอาหารชนิดไหนที่อาจเป็นอันตรายต่อหอยทาก. งานวิจัยที่บอกว่าอาหารชนิดไหนมีประโยชน์กับหอยทากมากที่สุดนั้นมีไม่มากนัก และคนเลี้ยงหอยทากเองก็มีความเห็นไม่ตรงกันว่าอาหารอะไรที่อาจเป็นหรือไม่เป็นอันตรายต่อหอยทาก ด้านล่างนี้เป็นรายการอาหารที่เรียงลำดับจากอันตรายมากที่สุดไปหาน้อยที่สุด : [9]
    • อาหารรสเค็มอาจทำให้หอยทากตายได้ อย่าให้อาหารที่มีเกลือโรยอยู่ข้างบนเด็ดขาด
    • อย่าให้พาสต้า ข้าว และข้าวฟ่าง อาหารที่มีแป้งสูงอาจทำให้ระบบย่อยอาหารของหอยทากอุดตัน เพราะฉะนั้นอย่านำไปเลี้ยงหอยทาก
    • พืชที่ปลูกเองระหว่างเจริญเติบโตก็อาจได้รับสารพิษจากควัน ซึ่งอาจทำให้หอยทากเป็นอันตรายได้
    • ผลไม้ที่เป็นกรดสูง เช่น ผลไม้ตระกูลส้ม มะเขือเทศ และกีวีอาจเป็นหรือไม่เป็นอันตรายต่อหอยทากก็ได้ เพราะฉะนั้นให้ในปริมาณน้อยควบคู่กับอาหารอื่นๆ
  5. คุณจะใช้แหล่งแคลเซียมจากไหนก็ได้ขอแค่ต้องสะอาดและล้างให้เรียบร้อย สำหรับคนเลี้ยงทั่วไปแค่เปลือกไข่หรือเปลือกหอยทากในสวนก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าคุณตั้งใจจะเพาะพันธุ์หอยทาก คุณอาจจะต้องซื้อแหล่งแคลเซียมเข้มข้นที่ร้านขายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น ลิ้นทะเลหรือแคลเซียมเสริม [10]
    • ใส่แหล่งแคลเซียมไว้ในแท็งก์ตลอดเวลา หมดก็เติม แต่ให้ใช้แคลเซียมเสริมที่มีแคลเซียมสูงกว่า 20% เท่าที่จำเป็น [11]
  6. ใช้แปรงสีฟันทำความสะอาดหอยทากเมื่อเปลือกเริ่มสกปรก อย่าใช้สบู่และแปรงเบาๆ เพื่อไม่ให้เปลือกแตก หยดน้ำลงบนเปลือก 2-3 หยดเพื่อล้างดินที่ติดอยู่ออกไป
  7. ค่อยๆ หยิบหอยทากขึ้นมาโดยการใช้นิ้วล่อมันตรงใต้หัว จากนั้นนำไปวางไว้บนผ้าขนหนูในภาชนะชั่วคราว ตักดินเก่าไปทิ้งในสวน ใช้ฟองน้ำเปียกผสมสบู่เล็กน้อยถูด้านข้างและตรงฐานของแท็งก์เพื่อกำจัดเมือกและคราบสกปรก ค่อยๆ ล้างถังอย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าล้างสบู่ออกหมด เพราะสบู่อาจเป็นอันตรายต่อหอยทากได้
    • ถ้าภาชนะเล็กอย่าปล่อยหอยทากให้คลาดสายตา
    • อย่าขังหอยทากไว้ในภาชนะที่ไม่มีอากาศ
    • เวลาเปลี่ยนดินและวัสดุอื่นๆ ในแท็งก์ที่ล้างแล้ว ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนในหัวข้อสร้างบ้านให้หอยทาก
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ชามที่ใส่น้ำให้หอยทากจะต้องเป็นจานก้นตื้น ถ้าเป็นจานก้นลึก หอยทากจะจมน้ำเพราะมัน ไม่ใช่ หอยทากน้ำจืด แต่เป็นหอยทากบก
  • นำใบไม้แห้งหลายๆ กำมาใส่ไว้ในสวนขวดแก้วของหอยทากและทำให้ใบไม้ชื้นตลอดเวลา หอยทากชอบคลานและซ่อนตัวในใบไม้ และมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ตรงนั้น
  • ถ้าหอยทากไม่ยอมออกจากเปลือก ให้ถือมันไว้เบาๆ พักใหญ่ เดี๋ยวมันจะออกมา ทำบ่อยๆ แล้วมันจะคุ้นกับคุณ
  • ถ้าหอยทากปีนขึ้นมาอยู่ตรงปากแท็งก์ เป็นไปได้ว่าอากาศอาจจะไม่พอมันก็เลยปีนขึ้นมาตรงที่ที่มีอากาศมากที่สุด วิธีแก้คือให้เจาะรูตรงฐานเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดีขึ้นหรือไม่ก็ซื้อกรงใหม่
  • ในการหยิบหอยทากจากตรงฐานแท็งก์นั้น ให้กระดิกนิ้วเบาๆ ใต้หัวมัน ถ้าหอยทากพยายามจะถอยกลับไป ให้วางอาหารไว้ตรงหน้าเพื่อล่อให้มาที่นิ้วของคุณ กระดิกนิ้วหรือมือใต้หอยทากทั้งตัวเพื่อไม่ให้มันหล่นลงไปก่อนที่คุณจะหยิบขึ้นมาได้
  • วางใบไม้ไว้เหนืออ่างอาบน้ำของหอยทากเพื่อให้มันมีที่ร่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้มันรู้สึกเย็นระหว่างอาบน้ำ
โฆษณา

คำเตือน

  • แม้ว่าหอยทากบางสายพันธุ์ เช่น หอยทากยักษ์แอฟริกาและหอยเชอร์รีจะชอบจานน้ำ แต่หอยทากสวนอาจจมน้ำได้ เติมน้ำลงในขวดสเปรย์หรือปืนพ่นสเปรย์แล้วฉีดในแท็งก์จนชุ่มชื้นแทนการใช้จานน้ำ
  • อย่าตกแต่งเปลือกหอยทากที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยกาวหรือของตกแต่งอื่นๆ เพราะวัสดุเหล่านี้อาจทำให้หอยทากตายได้
  • คอยดูแลไม่ให้เด็กๆ หยิบหอยทากมากินเพราะอาจเจ็บป่วยรุนแรงได้
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • หอยทากสวน
  • ภาชนะ โหล หรือแท็งก์สวนขวดแก้ว
  • สแฟกนัมมอส พีต ปุ๋ยหมัก หรือเวอร์มิคูไลต์ (ทั้งหมดนี้มีขายในร้านขายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงหรือทางออนไลน์)
  • ของตกแต่ง (กิ่งไม้ หิน และอื่นๆ)
  • ผักและผลไม้สด
  • เปลือกไข่หรือแหล่งแคลเซียมอื่นๆ
  • ขวดสเปรย์หรือปืนพ่นสเปรย์

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 19,404 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา