ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

อาการกลัวรถไฟเหาะตีลังกานั้นมักเป็นผลมาจากหนึ่งในสามสิ่งนี้: กลัวความสูง, กลัวอุบัติเหตุ, และความกลัวที่จะอยู่ใต้พันธนาการ กระนั้น ถ้ารู้จักเข้าถึงปัญหาอย่างถูกวิธี คุณก็สามารถควบคุมความกลัวเหล่านี้ และสนุกไปกับความตื่นเต้นหวาดเสียวอย่างปลอดภัยที่เครื่องเล่นเหล่านี้มีให้ ในช่วงปลายทศวรรษที่ 90 ศาสตราจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเคยได้รับการว่าจ้างจากสวนสนุกแห่งหนึ่ง ให้พัฒนายารักษา “โรคกลัวรถไฟเหาะ” มาค้นพบเทคนิคหลากหลายที่มีประโยชน์ในการควบคุมระดับความเครียดและทำให้รถไฟเหาะดูเหมือนสิ่งที่สามารถควบคุมได้ [1] คุณสามารถเรียนรู้วิธีสร้างความมั่นใจ ขึ้นรถไฟเหาะเที่ยวแรก และควบคุมอารมณ์ระหว่างนั่ง คุณอาจจะสนุกไปกับมันก็ได้ ดูขั้นตอนที่ 1 สำหรับข้อมูลมากกว่านี้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

เสริมสร้างความมั่นใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เป็นความคิดที่ดีถ้าจะเรียนรู้เรื่องรถไฟเหาะก่อนจะไปลองนั่งดู สวนสนุกบางแห่งจะมีการจัดอันดับรถไฟเหาะตามระดับความเข้มข้น คุณจึงสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับรถไฟเหาะแบบนั้นได้เพิ่มขึ้นก่อนจะไปเยือนโดยดูจากแผนที่ของสวนสนุก หรือคุณอาจตรวจหาตามออนไลน์ก็ได้
    • รถไฟเหาะแบบรางไม้เป็นรถไฟเหาะแบบเก่าแก่และคลาสสิกที่สุด มักจะทำงานโดยใช้ระบบลิฟต์ลูกโซ่ พวกมันจะวิ่งได้เร็วมาก แต่ไม่สามารถตีลังกาหรือควงสว่านได้ รถไฟเหาะแบบรางโลหะนั้นซับซ้อนมากกว่า มีการหมุนควงและเข้าโค้งหักศอกหรือมักจะตีลังกาด้วย รถไฟเหาะรางโลหะบางที่ก็สร้างชื่อโดยการมีโค้งมากมายมากกว่าจะเป็นการทิ้งดิ่ง พวกมันยังง่อนแง่นน้อยกว่าและนั่งได้ราบรื่นมากกว่าแบบรางไม้ด้วย
    • ถ้าคุณกลัวการทิ้งดิ่งแบบสูงมากๆ ให้มองหารถไฟเหาะที่มีการทิ้งดิ่งทางโค้งแทนที่จะเป็นการทิ้งดิ่งทางตรง คุณจะได้นั่งขึ้นลงเป็นช่วงๆ และไม่รู้สึกเหมือนพรวดพราดตกลงมา คุณยังสามารถเลือกรถไฟแบบจรวด ที่จะเร่งความเร็วสูงทันทีในตอนปล่อยแทนที่จะต้องไปทิ้งดิ่งจากเนินรางสูงๆ แต่บางกรณีก็อาจมีระดับความเข้มข้นไม่ต่างกัน มันเลยอาจดูงี่เง่าไปนิด แต่รถไฟเหาะของเด็กบางเครื่องก็ไม่จำกัดอายุ และจะเป็นตัวให้เริ่มหัดนั่งได้ดี
    • พยายามอย่าไปหาข้อมูลจำเพาะประเภทรถไฟเหาะคันนี้ขึ้นสูงเท่าใด แล่นเร็วขนาดไหน หรือตัวเลขที่ “ชวนสยอง” อื่นๆ แม้มันจะเป็นความคิดที่ดีถ้าจะเรียนรู้การโค้งและหมุนของรางเพื่อจะได้เตรียมร่างกาย และรู้ว่าต่อไปจะเจอกับอะไรแถมยังหลีกเลี่ยงรถไฟเหาะที่มีลูกเล่นแบบที่คุณไม่ชอบได้ หาข้อมูลเหล่านี้หลังจากคุณได้ไปนั่งมาแล้วเพื่อจะได้ไปคุยโวกับคนอื่นและภูมิใจในตนเอง
  2. พูดคุยกับคนอื่นๆ ถึงประสบการณ์การนั่งรถไฟเหาะของพวกเขา. ทุกปีมีคนนั่งรถไฟเหาะกันเป็นล้านและสนุกสมใจไปกับมัน รถไฟเหาะไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวเลยแถมยังมีแต่ความสนุก การพูดคุยในเรื่องนี้กับคนที่ชอบนั่งรถไฟเหาะเป็นเรื่องดีที่จะซึมซับความสนใจและความตื่นเต้นในรถไฟเหาะสำหรับตัวคุณเอง พูดคุยกับคนที่เมื่อก่อนเคยกลัวแต่ตอนนี้กลับติดใจเพื่อจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าคุณต้องนั่งรถไฟเหาะแบบไหน
    • คุยกับญาติสนิทมิตรสหาย เช่นเดียวกับพนักงานประจำสวนสนุกที่ชอบรถไฟเหาะ ถามพวกเขาว่ารถไฟเหาะตัวไหนที่หวาดเสียวน้อยที่สุดและตัวไหนที่พึงหลีกเลี่ยง อีกความคิดที่ดีคือการถามว่าพวกเขานั่งรถไฟเหาะครั้งแรกแล้วเป็นไง คุณจะได้มีความคิดดีๆ ว่าต้องเลี่ยงอะไรบ้างในการนั่งครั้งแรกของคุณ
    • หาอ่านตามอินเตอร์เน็ตถึงรถไฟเหาะในสวนสนุกที่คุณกำลังไปเยือน ลองดูวิดีโอในยูทูปเพื่อจะได้รู้ว่ามันไม่ชวนหวาดเสียวเกินไปสำหรับคุณ
  3. ทำความเข้าใจว่ารถไฟเหาะนั้นมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความเสียว. ถ้าคุณจะรู้สึกหวาดกลัวการโดนทิ้งดิ่งสูงระดับตึก 12 ชั้นด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. นั้น มันหมายความว่าสวนสนุกเขาได้บรรลุวัตถุประสงค์แล้ว! รถไฟเหาะนั้นต้องชวนหวาดเสียวเพื่อให้คนนั่งได้ตื่นเต้น แต่มันไม่ได้อันตรายอย่างที่เห็นตราบเท่าที่คุณทำตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยและฟังคำแนะนำ รถไฟเหาะนั้นถูกทดสอบจนถี่ถ้วนแล้วถึงค่อยเปิดใช้ต่อสาธารณชน และมันยังได้รับการดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานสูงสุด คุณไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวไปกับการทำงานผิดพลาดในสวนสนุกระดับมืออาชีพเลย
    • ในแต่ละปีมีรายงานการบาดเจ็บจากการเล่นรถไฟเหาะ แต่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นผลมาจากความเข้าใจผิดของผู้เล่นหรือการแหกกฎ ถ้าคุณฟังคำแนะนำและนั่งอยู่กับที่ คุณจะไม่เป็นอะไร พูดกันในเชิงสถิติแล้ว คุณเสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากการขับรถไปสวนสนุกมากกว่าการนั่งรถไฟเหาะเสียด้วยซ้ำ [2] โอกาสของการได้รับบาดเจ็บอย่างหนักของการนั่งรถไฟเหาะอยู่ที่ 1 ใน 1,500 ล้าน [3]
  4. การนั่งรถไฟเหาะควรจะสนุก และจะง่ายขึ้นเยอะถ้ามีเพื่อนคอยยุคอยเชียร์อยู่ข้างๆ ไปกรีดร้องด้วยกัน ให้กำลังใจกันและกัน บางคนอาจรู้สึกสบายใจมากกว่าถ้าไปกับคนที่กลัวขึ้นสมองเหมือนกัน จะได้กรีดร้องกันได้เต็มเสียงและไม่รู้สึกเดียวดาย บางคนก็อาจชอบไปกับคนที่เคยนั่งมาแล้ว เพื่อจะได้คอยปลอบว่ามันไม่เป็นไร
    • อย่าไปกับคนที่จะดันคุณให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ เวลาที่คุณมาถึงขีดสุด อย่าไปนั่งอะไรที่สาหัสกว่านั้นอีกเว้นแต่ว่าคุณพร้อมจะก้าวข้ามขีดจำกัดนั้น ใครจะว่าอย่างไรก็ไม่สำคัญหรอกถ้าคุณพบพื้นที่สุขสบายและต้องการจะอยู่แค่ตรงนั้น อย่าปล่อยให้ใครมาเร่งรัดหรือกดดันให้คุณต้องขึ้นเล่นรถไฟเหาะที่คุณไม่รู้สึกอยากจะเล่น
  5. รถไฟเหาะโดยเฉลี่ยใช้เวลาแล่นสั้นกว่าโฆษณาทางทีวีเสียอีก ในบางเครื่องคุณอาจต้องใช้เวลารอคิวนานกว่าเวลาที่ได้เล่นถึง 2,000% การทิ้งดิ่งถึงจะสูงก็เถอะ แค่ชั่วหายใจปื๊ดเดียวก็จบแล้ว พยายามคิดซะว่าทั้งหมดนี้จะดีจะแย่อย่างไรก็จบลงแบบไวมากๆ ตอนรอต่างหากที่เป็นแหล่งเพาะความหวาดกลัวและไม่อยากจะขึ้น ส่วนตอนขึ้นไปนั่งจริงๆ นั้นมันสนุกจะตาย
  6. ก่อนจะไปยืนรอตามคิว ให้แน่ใจว่าคุณสูงกว่าส่วนสูงขั้นต่ำที่บังคับไว้และคุณไม่ได้มีสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมขึ้นเล่น โดยปกติแล้ว คนที่เป็นโรคหัวใจ คนที่กำลังตั้งครรภ์ และคนที่มีสภาพร่างกายพิการจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเล่นรถไฟเหาะ
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

นั่งรถไฟเหาะครั้งแรก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มันคงไม่ใช่ความคิดที่เข้าท่าแน่ถ้าจะกระโดดพรวดไปเล่นเครื่องเล่นอย่าง Death Drop 2000 หรือเจ้า Vortex รถไฟเหาะรางไม้นั้นจะมีความสูงตอนทิ้งดิ่งไม่มากและไม่มีการตีลังกา จึงน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับมือใหม่หัดเล่นและคนที่อยากลองรถไฟเหาะโดยไม่ตื่นกลัว ใช้เวลาสักนิดดูให้ทั่วสวนสนุก หารถไฟเหาะอันที่ดูหวาดเสียวน้อยที่สุด [4]
    • หาเครื่องเล่นผาดโผนมานั่งกระตุ้นต่อมอะดรีนาลีนและพอให้ชินกับความรู้สึกเสียก่อน ในขณะที่รถไฟเหาะอาจดูเป็นเรื่องใหญ่ พวกมันมักไม่ได้ชวนหวาดเสียวไปกว่าเครื่องเล่นประเภทอื่นหรอก ถ้าหากคุณรับมือกับเครื่องเล่นประเภทวิหคสายฟ้าได้ ขั้นต่อไปอย่างรถไฟเหาะก็รับได้อย่างสบายมือ
  2. ในระหว่างที่เดินไปรอบสวนสนุก ในระหว่างรออยู่ในแถว ในระหว่างที่กำลังเตรียมตัวขึ้นเล่น พยายามสะกดใจไม่เงยหน้ามองตอนที่รถไฟเหาะทิ้งดิ่งหรือส่วนที่หวาดเสียงที่สุดของการเล่น ให้เน้นไปที่การคุยกับเพื่อนหรือเบี่ยงเบนความสนใจไปที่เรื่องอื่น มันไร้สาระที่จะมองดูการทิ้งดิ่งโดยที่ตัวคุณเองยังอยู่บนพื้น ให้ไปคิดเรื่องอื่นและหยุดสนใจมัน
    • ตอนกำลังรออยู่ในแถว ให้หันไปดูคนที่ลงจากเครื่องเล่นในตอนท้าย ไม่ใช่ไปดูช่วงทิ้งดิ่งหรือตีลังกา พวกเขาจะดูเหมือนเพิ่งผ่านความสนุกตื่นเต้นและผ่านมันมาได้ด้วยดี คุณเองก็เช่นกัน
  3. ถ้านี่เป็นครั้งแรกที่คุณขึ้นเล่นตัวที่โหดๆ ตำแหน่งที่ดีที่สุดคือนั่งตรงกลางขบวน เพื่อที่คุณจะได้จดจ่ออยู่กับแผ่นหลังของคนที่นั่งข้างหน้าคุณ และไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นมากเกินไป แต่ถ้าอยากดูก็ยังเงยหน้าดูได้ ที่นั่งตรงกลางขบวนเป็นที่ที่กระชากน้อยที่สุดด้วย
    • อีกทางเลือกคือคุณอาจต้องการจะนั่งแถวหน้าเลยเพื่อจะได้มองเห็นทาง ถ้านั่นทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น คนบางคนจะกลัวการไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นยิ่งกว่า
    • อย่านั่งตรงเก้าอี้แถวหลังสุด ซึ่งจะเพิ่มแรงโน้มถ่วงมากขึ้นในระหว่างการเข้าโค้งหรือการทิ้งตัวลงมา มันเลยรู้สึกกระชากแรงขึ้นเมื่อนั่งอยู่ทางด้านหลัง
  4. เมื่อคุณเข้าไปนั่งประจำที่ ให้ฟังคำแนะนำของพนักงานและปฏิบัติตามอย่างใกล้ชิด รถไฟเหาะต่างแบบก็มีชนิดของการดูแลความปลอดภัยต่างกัน คุณจึงต้องตั้งใจฟังเพื่อจะได้ทำตามอย่างถูกต้อง
    • เวลานั่งอยู่ประจำที่นั่ง ให้แน่ใจว่าคุณรู้สึกไม่อึดอัดและสายรัดเพื่อความปลอดภัยสามารถคาดรัดช่วงลำตัวได้พอดี ถ้าคุณไม่สามารถเอื้อมหยิบมันได้ หรือว่าสายรัดป้องกันนั้นดูซับซ้อนเกินไป ให้รอความช่วยเหลือจากพนักงาน ถ้าคุณล็อกมันเองได้ พวกเขาก็ยังจะเดินมาตรวจตราเพื่อดูว่าทุกอย่างเข้าที่หรือไม่
    • เมื่อคุณคาดสายรัดเพื่อความปลอดภัยแล้ว ที่เหลือก็แค่นั่งผ่อนคลาย เก็บแว่นตาหรือเครื่องประดับใดๆ ที่อาจร่วงหล่นใส่ไว้ในกระเป๋าเสีย แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ คุณไม่เป็นอะไรหรอก!
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ระหว่างการเล่น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. รักษาศีรษะให้ปลอดภัยและหลังพิงผนังเก้าอี้ พยายามเพ่งสมาธิไปที่รางตรงหน้า หรือแผ่นหลังของคนที่นั่งอยู่หน้าคุณ อย่าก้มหน้าหรือเหลียวมองด้านข้างเนื่องจากมันจะเน้นให้เห็นถึงความเร็วที่คุณกำลังแล่นอยู่ และอาจก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้ตาลายและอาเจียนได้ พูดสั้นๆ ก็คือ อย่ามองพื้น
    • นี่จะช่วยได้อย่างมากถ้าคุณกำลังจะเล่นรถไฟเหาะตีลังกา มองตรงไปข้างหน้าและจ้องที่ตัวราง แล้วคุณจะแค่รู้สึกเบาตัวไร้น้ำหนักซึ่งเอาเข้าจริงมันก็สนุกดีด้วยซ้ำและมันจะผ่านไปแค่ชั่ววูบเดียวเอง
    • พยายามอดกลั้นอย่าหลับตา นักเล่นที่ไร้ประสบการณ์มักคิดว่าการหลับตาจะช่วยให้มันลดความน่ากลัวลงและจะรู้สึกดีขึ้น ทว่าการหลับตากลับจะทำให้รู้สึกเวียนศีรษะและอาจทำให้อาเจียนได้ ให้จ้องไปยังของอะไรที่อยู่นิ่งกับที่และอย่าหลับตา
  2. อย่ากลั้นหายใจบนรถไฟเหาะไม่งั้นคุณอาจรู้สึกหัวหมุนและทุกอย่างจะแย่ลงไปกว่าเดิม ในระหว่างที่รถไฟขึ้นไปใกล้จุดทิ้งดิ่ง ให้สูดลมหายใจลึกๆ และพยายามตั้งสมาธิอยู่กับลมหายใจแทนเรื่องอื่นๆ มันจะช่วยให้คุณมีหลักยึดและสงบสติอารมณ์ลง เน้นไปที่เรื่องเล็กๆ แค่หายใจเข้า หายใจออก แค่นี้ก็สนุกแล้ว
    • เพื่อช่วยให้คุณมีสมาธิ ให้นับลมหายใจขณะสูดเข้าออก สูดลมหายใจลึกๆ ในจังหวะนับถึงสี่ แล้วเกร็งกล้ามเนื้อในจังหวะครบสาม จากนั้นปล่อยลมหายใจออกในจังหวะนับถึงสี่ ทำวนไปเรื่อยๆ แบบนี้เพื่อสงบสติอารมณ์
  3. เมื่อถึงจุดหนึ่งของการเล่น คุณอาจเริ่มรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วน บางทีอาจจะเป็นช่วงต้นๆ มากกว่าช่วงหลังๆ นั่นเป็นส่วนหนึ่งของความสนุกในการเล่นรถไฟเหาะล่ะ แต่มันอาจเกินไปสำหรับบางคน เพื่อจะบรรเทาอาการนี้ลงบ้าง คุณอาจเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องกับแขนโดยการจับราวที่ติดอยู่ตรงสายรัดหรือเก้าอี้ให้แน่นๆ จะพอช่วยให้ทุเลาได้บ้าง
    • บนรถไฟเหาะนั้น ร่างกายจะหลั่งอะดรีนาลีนออกมาเป็นจำนวนมาก กระตุ้นปฏิกิริยาตอบสนองจะสู้หรือหนี ระดับความดันโลหิตจะพุ่งสูงขึ้น เหงื่อจะออก และจังหวะหายใจจะถี่ขึ้น สายตาจะเห็นภาพคมชัดขึ้นและร่างกายจะเตรียมให้พร้อมลุย คุณสามารถบรรเทาอาการเหล่านี้ลงเล็กน้อยโดยการเกร็งกล้ามเนื้อ สื่อสารกับร่างกายว่าไม่มีอะไร ให้ทำตัวชิลล์ลงบ้างก็ได้
  4. รถไฟเหาะหลายที่จะพยายามปลุกเร้าความน่ากลัวโดยการใช้ลูกเล่นทุกรูปแบบทั้งการทาสีและใช้แสงแบบสลัวๆ มีหุ่นสัตว์หรือภูติที่บังคับให้เคลื่อนไหวได้มาโผล่อยู่ตามข้างรางให้คุณตระหนกเล่น ถ้าคุณเป็นพวกหวาดกลัวของพวกนี้อยู่แล้ว มันจะทำหน้าที่ได้ดีเลยในการทำให้คุณยอมแพ้และทำให้ทุกอย่างดูแย่ลง ดังนั้นคุณจึงควรเมินเฉยมันเท่าที่จะทำได้ ถ้าของพวกนั้นเริ่มเคลื่อนไหวหรือปล่อยอะไรออกมา ก็แค่จ้องเขม็งไปข้างหน้าโดยไม่สนใจอะไร สูดหายใจไปเรื่อยๆ
    • ในอีกทางหนึ่ง รถไฟเหาะบางที่ก็มีเรื่องราวประกอบที่ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจคุณได้ ถ้าคุณติดอยู่ตรงนั้น ให้ติดตามความสนุกของเนื้อเรื่องไปเลย ไม่ต้องนึกห่วงว่ามันน่ากลัวขนาดไหน
  5. รับประกันว่าไม่ได้มีแต่คุณคนเดียว รถไฟเหาะทั้งขบวนย่อมเอ็ดอึงไปด้วยเสียงคนหยอกเย้าและตะโกนโหวกเหวกไปมาอยู่แล้ว แทนที่จะนั่งนิ่งด้วยความกลัว การตะโกนออกมามันทำให้การนั่งรถไฟเหาะสนุกขึ้นได้จริงๆ คุณยังสามารถผสมเสียงตะโกนเข้ากับเสียงสะใจแบบ “วู้ฮู้” การตะโกนจะลดทอนความกลัวลงและทำให้คุณอยากหัวเราะ
  6. ถ้าคุณยังรวบรวมสติสตังไม่ได้ ให้พยายามใช้ใจคิดไปที่อื่น จินตนาการว่าคุณกำลังอยู่ในยานอวกาศ หรือกำลังนั่งรถเข้าสู่ถ้ำของมนุษย์ค้างคาว หรือไม่คุณก็เป็นคนขับรถคันนั้นเองเลยล่ะ คิดอะไรก็ได้ที่จะทำให้ใจหยุดนึกถึงสิ่งที่เกิดตรงหน้าและจะทำให้ทุกอย่างเหมือนผ่านไปเร็วขึ้น
    • เพิ่มพลังแล้วกลายร่างเป็นปีศาจ แสร้งทำว่าคุณเป็นสัตว์ประหลาดยักษ์ที่หลุดออกมาจากพันธนาการหรือเป็นมังกรที่กำลังเหินฟ้า ถ้าคุณมีความรู้สึกถึงพลังอำนาจ คุณจะรู้สึกเครียดน้อยลงและใจจะกระหวัดไปคิดถึงเรื่องอื่น
    • ผู้เล่นบางคนอาจจะมีบทสวด หรือเพลงสักท่อนหนึ่งที่เขามักจะร้องเวลานั่งรถไฟเหาะ ให้ลองนึกถึงเพลงดังๆ อย่างของเลดี้ กาก้าหรือใครที่คุณชอบไว้ในใจ แล้วเพ่งสมาธิไปที่เพลงนี้แทนที่จะเป็นความรู้สึกในขณะนั้น หรือไม่ก็ท่องไปซ้ำๆ ว่า “ฉันไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร”
  7. ถ้ารถไฟเหาะดูไม่ปลอดภัยในสายตาคุณ หรือหากพนักงานดูเพิกเฉยต่อความปลอดภัย หรือคุณเกิดไปได้ยินเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเจ้ารถไฟเหาะคันนี้มาก่อน ก็ไม่ต้องขึ้นไปเล่น โดยเฉพาะถ้ามันกลับจะเพิ่มความกังวลใจให้คุณ แต่รถไฟเหาะส่วนใหญ่ในสวนสนุกขนาดใหญ่เป็นเครื่องจักรที่มีราคาแพง และได้รับการบำรุงดูแลกับทดสอบอยู่เป็นประจำ
    • รางรถไฟเหาะนั้นได้รับการตรวจสอบทุกวันก่อนเปิดให้บริการและจะปิดทันทีถ้ามีการตรวจพบปัญหา [5] ถ้ารถไฟเหาะปิดไม่ให้บริการบ่อยๆ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางที่ดีก็ควรเลี่ยงมันซะ โอกาสของปัญหาที่ถูกมองข้ามไปนั้นมีน้อย แต่มันอาจทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น ส่วนใหญ่แล้วรถไฟเหาะจะปลอดภัยดีถ้ามันกลับมาเปิดใหม่
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ผ่อนคลายเวลาที่คุณได้ยินเสียงรถไฟเหาะออกตัว กล้ามเนื้อมักจะเกร็งเครียด ทำให้เริ่มรู้สึกกระวนกระวาย แต่สิ่งที่ร่างกายไม่ได้บอกแก่คุณก็คือ มันจะกินเวลาไม่กี่วินาทีเอง คุณมีเวลาตั้ง 24 ชั่วโมงต่อวัน รถไฟเหาะนั้นใช้เวลาสั้นมาก มิสู้สนุกไปกับมันดีกว่า ร้องเพลงในใจก็ได้ถ้ามันทำให้คุณสบายใจขึ้น
  • พูดถึงความสบายใจ ในระหว่างนั่งอยู่ในรถไฟเหาะ หลังจากรถทิ้งตัว โดยเฉพาะจากเนินสูงๆ ให้หัวเราะออกมาดังๆ เลยถ้าทนไม่ไหว ไม่ต้องเกรงใจคนอื่นเพราะเดี๋ยวก็ไม่ได้เจอกันอีกแล้ว การหัวเราะนั้นช่วยระบายความเครียด! มันเหมือนการแทนที่ความกลัวของร่างกายด้วยความสุข ยิ้มก็ใช้ได้เหมือนกัน
  • ถ้าปัญหาใหญ่ของคุณคือการกลัวความสูง ให้มองหารถไฟเหาะแบบหัวกระสุน มันจะสนุกตื่นเต้นไม่แพ้ไอ้พวกรางสูง แต่จะใช้กลไกการปล่อยตัวให้รถไฟพุ่งออกไป ไอ้การค่อยๆ ไต่รางขึ้นไปบนยอดเนินนั้นไม่มีให้หวาดเสียวอีกแล้ว แต่ความสนุกจะอยู่ที่ความเร็ว โดยการเข้าโค้งต่างๆ ยังมีอยู่ครบ!
  • ถ้าคุณต้องการอะไรมาช่วยคลายความเครียดระหว่างรออยู่ในแถว ก็ทำเลย พกรูปหวานใจไว้ในกระเป๋าหรือเจ้าตุ๊กตาตัวน้อย การเอาลูกบอลคลายเครียดติดไปด้วยก็ช่วยได้
  • เลือกรถไฟเหาะที่ไม่หน่อมแน้มเกินไปแต่ก็ไม่ผาดโผนเกินไป คุณต้องการความรู้สึกของการเป็นผู้พิชิต เลือกเอาอะไรที่มันกลางๆ หน่อย
  • ระหว่างช่วงทิ้งดิ่ง สูดหายใจลึกๆ จับราวให้แน่น แล้วเกร็งหน้าท้องไว้ มันจะช่วยให้รู้สึกเสียววูบน้อยลง
  • ถ้าคุณเป็นประเภทท้องไส้เสียววูบได้ง่าย อย่าเลือกนั่ง “รถไฟเหาะแบบทิ้งดิ่งจากรางสูง”
  • นั่งตรงไหนก็ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากผลักดันตัวเองไปให้สุดทางขนาดไหน แถวหน้าสุดนั้นคุณจะเห็นทุกอย่างว่าจะเกิดอะไรต่อไป แต่มันเป็นแถวที่มีความเร็วต่ำสุด แถวหลังนั้นเร็วที่สุดและคุณจะเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างตรงหน้า แถวกลางก็กลางสมชื่อ เร็วแต่ไม่น่ากลัว
  • ถ้าคุณกลัวจัด งั้นก็เริ่มจากรถไฟเหาะขนาดเล็กที่ไม่มีการทิ้งดิ่งหรือตีลังกา เช่น ล่องแก่งหรือหนูจรวด แล้วค่อยไต่ระดับขึ้นไป
  • ถ้าคุณรออยู่ในแถวกับเพื่อน ให้พูดคุยเหมือนเป็นปกติ บางครั้งไอ้การรอนี่แหละที่มันน่ากลัวที่สุด!


โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าคุณมีคนที่เด็กกว่าหรือตัวเล็กกว่านั่งไปกับคุณ ให้แน่ใจว่าพวกเขามีความสูงตามที่กำหนดถึงแม้ว่าเขาจะเดินผ่านการตรวจมาได้แล้วก็ตาม
  • ให้แน่ใจว่าคุณได้อ่านข้อห้ามและคำเตือนทั้งหมดก่อนจะลองเล่นแล้ว


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 16,205 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา