ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เมืองร้อนอย่างบ้านเรา ถึงไม่ต้องไปทะเล ก็มีหลายโอกาสให้ต้องใส่รองเท้าสาน รองเท้าแตะ หรือรองเท้าอื่นๆ ที่โชว์นิ้ว เพราะงั้นต้องหมั่นดูแลบำรุงเล็บเท้าให้สวยสะอาดอยู่เสมอ เล็บเท้าคุณเหลืองได้เพราะหลายสาเหตุด้วยกัน แต่ก็ทำความสะอาดและป้องกันได้ไม่ยากเลย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ล้างเล็บเหลือง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เชื้อราเติบโตได้ดีในที่ชื้นแฉะและค่า pH สูง เพราะงั้นถุงเท้าชื้นเหงื่อนี่แหละเชื้อราชอบนัก ถ้าเล็บเท้าเป็นเชื้อรา ปกติจะมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เล็บหนาหรือแห้งแตก บางทีก็ร่วงเป็นเศษผงเลย สาเหตุอื่นๆ ที่ไม่ค่อยพบ แต่ก็ทำให้เล็บเท้าเหลืองได้ก็เช่น
    • ทาเล็บบ่อยเกินไป จนเหลือสีทาเล็บตกค้าง
    • เป็นเบาหวาน
    • Yellow Toenail Syndrome อันเป็นโรคจากพันธุกรรม
    • Lymphedema หรือภาวะบวมน้ำเหลือง (ขาบวมเรื้อรัง) [1]
  2. ถ้าเล็บไม่ถึงขั้นเปราะแตกหรือลอก ก็ให้รักษาอาการติดเชื้อโดยซื้อครีมยามาทาเอง 2 ตัวที่คนนิยมใช้กันคือ Mycocide NS กับ Nonyx Nail Gel วิธีใช้คือทา 2 ครั้งต่อวัน ติดต่อกันหลายอาทิตย์
  3. หาหมอประจำตัวหรือหมอโรคเท้าโดยเฉพาะเพื่อรับยา. อย่างที่บอกว่ามีครีมต้านเชื้อราขายทั่วไป แต่บางเคสก็ต้องหาหมอเพื่อรับการตรวจและรับยาที่แรงขึ้น ถึงจะต้านเชื้อราที่เล็บเท้าได้ ยาที่คุณหมอนิยมสั่งคือ
    • Cicloprox (ชื่อสามัญ), Zetaclear, Sporanox และ Lamisil [2]
  4. ต้องกำจัดทั้งโคโลนีให้สิ้นซาก ถึงจะหายจากเชื้อรา ไม่งั้นย้อนกลับมาแน่นอน เพราะงั้นต้องรักษาต่อเนื่องจนแน่ใจว่าหายขาดจากเชื้อรา ถึงนานก็ต้องใจเย็นๆ บางทีก็นานหลายเดือนเลย
    • ถ้าเล็บเท้ายังเหลืองหรือลอกเป็นผง ทั้งๆ ที่ผ่านไปแล้วหลายอาทิตย์ แนะนำให้กลับไปหาหมอซ้ำเพื่อติดตามอาการ
  5. ถือเป็นมาตรการสุดท้าย เพราะอาจต้องใช้เวลานานเป็นปีกว่าเล็บจะงอกกลับมาเต็ม แต่ถ้าเล็บเหลืองและเจ็บปวดจนกระทบต่อชีวิตประจำวัน การถอดเล็บก็น่าจะดีต่อสุขภาพที่สุด [3]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ป้องกันเล็บเหลือง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สูบบุหรี่แล้วทำให้ผิว เล็บ และผมเปลี่ยนสีได้ ถ้าเลิกบุหรี่ก็แน่นอนว่าช่วยคืนสภาพเล็บให้กลับมาขาวสะอาดได้เร็วที่สุด
  2. ยาทาเล็บจะไปเคลือบเล็บจนบางทีก็ขาดออกซิเจน ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ในภายหลัง พยายามเว้นจากการทาเล็บให้ได้ 2 - 3 วันต่ออาทิตย์ จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพเล็บได้
  3. เพราะเป็นแหล่งเพาะเชื้อราดีๆ นี่เอง ถ้าเหงื่อออกจนเท้าสกปรกหมักหมมแล้วยังนั่งแช่ ก็เท่ากับรอให้ติดเชื้อในเร็ววัน ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมโดยหาถุงเท้าที่แห้งสะอาดมาใส่แทนเมื่อทำได้
  4. รองเท้าผ้าใบ รองเท้าหัวเปิดโชว์นิ้ว และรองเท้าออกกำลังกายต่างๆ มักทำจากผ้าตาข่ายหรือวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี อากาศจะไหลเวียนถ่ายเทในรองเท้า ทำให้ไม่หมักหมม เล็บเท้าสุขภาพดี [4]
  5. ต้องขัดเท้าและนิ้วเท้าทุกครั้งที่อาบน้ำ เพื่อกำจัดแบคทีเรีย เชื้อรา และสิ่งสกปรกทั้งหลาย เรียกว่าเป็นขั้นตอนที่ห้ามลืมเด็ดขาดเวลาอาบน้ำ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

แก้เล็บเหลืองด้วยวิธีธรรมชาติ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ให้เทเบคกิ้งโซดา 2 ½ ช้อนโต๊ะลงในถ้วย แล้วผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ลงไป 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นผสมให้เข้ากัน แล้วเอาสำลีก้อนมาชุบ เอาไปทาเล็บเท้า ทิ้งไว้ให้เซ็ตตัว 5 นาที จากนั้นล้างออกให้สะอาด ทำซ้ำทุกวันเป็นประจำ
    • หรือใช้เบคกิ้งโซดา ไม่ก็ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ถ้ามีแค่อย่างเดียว โดยผสมกับน้ำอุ่นในถ้วยจนเข้ากันแล้วใช้ทา [5]
  2. ผสมน้ำ 3 ส่วนกับน้ำส้มสายชู 1 ส่วนในกะละมัง จากนั้นใช้แช่เท้า 4 - 5 นาที วันละ 1 ครั้ง เพื่อลดค่า pH ของเท้าต้านเชื้อรา
  3. แช่เล็บในน้ำมะนาวช่วยขจัดคราบเหลืองที่เล็บได้ โดยแช่เล็บ 10 - 15 นาที วันละ 1 ครั้ง จนหายขาด
  4. ถ้าอยากขจัดคราบติดเล็บเท้าแบบทันทีทันใด เช่น คราบสีชมพูจากยาทาเล็บสีแดง ให้ลองใช้แปรงขัดเล็บด้วยยาสีฟันแบบ whitening ดู แต่ถ้าเป็นคราบเก่านานแล้ว ก็ใช้ไม่ได้ผลเท่าไหร่
  5. ปกติคราบเหลืองจะอยู่แค่ผิวเล็บด้านบน ถ้าใช้กระดาษทรายไม่หยาบมากขัดออกเบาๆ ก็น่าจะกำจัดคราบติดหน้าเล็บด้านบนออกไปได้ แต่ไม่แนะนำเท่าไหร่ เพราะเสี่ยงทำเล็บบาง อ่อนแอ แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ขัดเล็บแล้วอย่าลืมทาน้ำยาเคลือบเล็บใสๆ ด้วย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าทำตามขั้นตอนในบทความนี้แล้วยังไม่ดีขึ้น หาหมอจะดีกว่า
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,201 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา