ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

วันแต่งงานคือวันที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันและวางแผนเอาไว้ตั้งแต่ยังเป็นเด็กนั่งเล่นชิงช้าบนสนามเด็กเล่น เมื่อถึงเวลาแต่งงานจริงๆ เราต้องเตรียมและจัดการหลายสิ่งหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการเลือกการแต่งหน้าที่สมบูรณ์แบบสำหรับงานแต่ง การทำสิ่งนี้ต้องใช้หลายขั้นตอน เช่น การเตรียมผิวให้ดูเปล่งประกาย หาช่างแต่งหน้าและหาเวลาสำหรับทดลองแต่งหน้าสักครั้ง (หรือ 2 ครั้ง) รวมไปถึงการเรียนวิธีแต่งหน้าให้เหมาะสมกับสีผิว คุณสามารถเริ่มด้วยการเรียนรู้รายละเอียดของการบรรลุเป้าหมายซึ่งก็คือการมีใบหน้าที่เปล่งประกายที่เหมาะสมกับเจ้าสาวผู้เขินอาย

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การแต่งหน้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to แต่งหน้าแบบเจ้าสาว
    ไม่ว่าคุณจะแต่งหน้าด้วยตัวเองหรือไม่แต่ในวันแต่งงานของคุณ คุณต้องล้างหน้าและใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อบางเบา ไม่ว่าคุณเคยบำรุงผิวอย่างไรแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณขัดผิว คุณต้องไม่ขัดรุนแรงเกินไปและใช้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่อ่อนโยน ถ้าหากคุณเป็นสิว คุณต้องแต้มยาทาสิวหรืออย่าไปยุ่งกับมัน เป้าหมายของคุณคือการมีผิวที่สะอาดและอ่อนนุ่มเพื่อแต่งหน้าให้แลดูเป็นธรรมชาติและสวยงาม
  2. ใช้สีผิวและสีอันเดอร์โทนเพื่อเลือกสีของเครื่องสำอาง. ถึงแม้ว่ามีประเภทของผิวที่แตกต่างกัน (ระบุจาก 1-6) สำหรับจุดประสงค์ทางผิวหนัง [1] แต่ผู้ผลิตเครื่องสำอางใช้คำศัพท์ของตัวเองเพื่ออธิบายสีของเครื่องสำอางตามสีผิวและมันมักจะไม่ตรงกัน เช่น บริษัทนี้อาจจะเรียกสีของรองพื้นที่สว่างที่สุดว่า “Ivory” แต่อีกบริษัทหนึ่งอาจจะเรียกว่า “Fair” เพราะฉะนั้นเมื่อพิจารณาสีที่เหมาะสมกับสีผิวของคุณ คุณต้องนึกกว้างๆ ตั้งแต่ “Fair” ไปจนถึง “Medium” ถึง “Deep” [2]
    • สีอันเดอร์โทนเย็นหรืออุ่นของคุณยังเป็นปัจจัยในการเลือกสีที่เหมาะสมและช่วยขับผิว
    • คุณยังสามารถหาสีอันเดอร์โทนได้อย่างรวดเร็ว หาเครื่องประดับที่ทำจากเงินและทองมาวางบนหลังมือ ถ้าหากเครื่องประดับสีทองดูกลืนกับผิวก็แปลว่าคุณมีสีอันเดอร์โทนอุ่น ถ้าหากเครื่องประดับสีเงินดูกลืนกับผิวก็แปลว่าคุณมีสีอันเดอร์โทนเย็น [3]
  3. Watermark wikiHow to แต่งหน้าแบบเจ้าสาว
    จะมีหลายสิ่งเกิดขึ้นระหว่างที่คุณเริ่มลงเครื่องสำอางและบอกลาแขก การใช้ไพรเมอร์ก่อนลงเครื่องสำอางจะช่วยให้เครื่องสำอางติดทนการไม่ว่าคุณจะเต้น ร้องไห้และเฉลิมฉลอง คุณยังจะต้องเติมเครื่องสำอางบ้างแต่คุณสามารถเติมได้น้อยลง ยิ่งไปกว่านั้น ไพรเมอร์จะช่วยซ่อนริ้วรอยบางๆ และรอยเหี่ยวย่นและปกปิดรูขุมขน
    • ใช้ไพรเมอร์ปริมาณน้อยหลังจากที่คุณลงมอยส์เจอไรเซอร์แต่ก่อนลงรองพื้น กระจายให้ทั่วบนใบหน้าและเปลือกตาเพื่อเกลี่ยผิวให้เรียบเนียนก่อนที่จะลงตัวอื่น [4] [5] [6]
  4. Watermark wikiHow to แต่งหน้าแบบเจ้าสาว
    ผู้คนส่วนใหญ่คิดว่าต้องทาคอนซีลเลอร์ก่อนรองพื้นแต่ผู้เชี่ยวชาญเห็นแตกต่าง [7] [8] หลังจากที่คุณลงไพรเมอร์แล้วต้องปล่อยให้แห้งหรือเซ็ตตัว ข้อผิดพลาดอันใหญ่หลวงที่คุณสามารถทำเมื่อลงเครื่องสำอางคือไม่ปล่อยเวลาให้เครื่องสำอางแห้ง ถ้าจำเป็น คุณสามารถใช้ไดร์เป่าผมโดยใช้ลมเย็นและเป่าส่ายไปมาทั่วใบหน้าก่อนที่จะลงขั้นตอนต่อไป [9]
    • ถ้าหากคุณมีสีอันเดอร์โทนเย็น คุณต้องใช้รองพื้นที่มีพื้นสีชมพู แดงหรือฟ้า
    • ถ้าหากคุณมีสีอันเดอร์โทนอุ่น คุณต้องใช้รองพื้นที่มีพื้นสีเหลืองหรือทอง
    • ใช้คัตตอนบัตจุ่มลงในรองพื้นและทาตรงกลางของแนวขากรรไกรล่างเพื่อดูว่าเป็นสีที่เหมาะสมหรือไม่ ถ้าหากสีกลมกลืนก็แปลว่าเหมาะสม [10]
    • ทารองพื้นเป็นชั้นบางๆ โดยเริ่มจากตรงกลางของใบหน้าและเกลี่ยออกโดยใช้แปรงเกลี่ยรองพื้น คุณต้องกลบริ้วรอยให้หมด เพราะฉะนั้นคุณต้องใส่ใจกับการเกลี่ยรองพื้นตามแนวขากรรไกรและลำคอ
    • อย่าทารองพื้นหนาเกินไป รองพื้นจะดูหนาเตอะและเปื้อนหรือแตกระแหง [11]
  5. Watermark wikiHow to แต่งหน้าแบบเจ้าสาว
    รองพื้นทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอ คอนซีลเลอร์ช่วยปกปิดจุดด่างพร้อย เช่น รอยสิวและรอยหมองคล้ำใต้ตา ถ้าหากคุณลงคอนซีลเลอร์ก่อนลงรองพื้น คุณจะถูคอนซีลเลอร์ออกหมดเมื่อคุณเกลี่ยรองพื้น ใช้แปรงคอนซีลเลอร์แต้มคอนซีลเลอร์เนื้อเหลวที่มีสีเดียวกับผิวหรือสว่างกว่าผิวของคุณหนึ่งเฉดบนรอยสิวและรอยหมองคล้ำใต้ตา จากนั้นจึงใช้แปรงกดลงบนผิวเพื่อเกลี่ยคอนซีลเลอร์ ถ้าหากคุณไม่สามารถเกลี่ยคอนซีลเลอร์ได้เนียนพอ ลองใช้ปลายฟองน้ำแต่งหน้าจุ่มน้ำและเกลี่ยคอนซีลเลอร์ [12] [13]
    • ในการปกปิดรอยสิว คุณต้องลงรองพื้นก่อนแล้วจึงลงคอนซีลเลอร์ก่อนที่จะใช้แป้งทาทับให้เซ็ตตัว ถ้าหากคุณยังสามารถมองเห็นรอยสิวก็ต้องเติมคอนซีลเลอร์และแป้งมากขึ้น คุณต้องกดคอนซีลเลอร์บนรอยสิวและห้ามถูไปมา [14]
  6. Watermark wikiHow to แต่งหน้าแบบเจ้าสาว
    ไม่ใช่ทุกคนที่มีไฮไลท์อยู่ในกระเป๋าเครื่องสำอาง จุดประสงค์ของมันคือทำให้บางส่วนของใบหน้าโดดเด่น เช่น ดวงตาดูโตขึ้นและเพื่อเพิ่มความเปล่งประกายและแลดูอ่อนเยาว์ การใช้ไฮไลท์มากเกินไปหรือใช้สูตรที่มีประกายหรือกลิตเตอร์อาจจะเป็นหายนะสำหรับการถ่ายรูป เพราะฉะนั้นคุณต้องใช้อย่างเบาบาง ไฮไลท์มีแบบเหลวและแบบอัดแข็ง
    • ถ้าคุณใช้ไฮไลท์แบบเหลว คุณสามารถแต้มด้วยแปรงหลังจากที่ลงรองพื้นโดยทำเป็นเครื่องหมายถูกต้อง เริ่มใกล้ๆ ด้านในของตา ลงล่างโดยทำมุมเข้าหารูจมูกเล็กน้อยและลากขึ้นไปยังโหนกแก้มโดยเกลี่ยเข้าหาขมับ ทำแบบเดียวกันบริเวณเหนือคิ้ว ตรงกลางจมูก ตรงกลางหน้าผากและคาง
    • ถ้าคุณใช้ไฮไลท์แบบผง คุณต้องใช้หลังจากลงแป้งและปัดไฮไลท์ใต้คิ้ว ทาบางๆ ที่หัวตาและบนโหนกแก้ม อย่าใช้ไฮไลท์แบบผงใต้ดวงตาหรือเหนือปากเพราะคุณจะดูชุ่มเหงื่อในรูปภาพ [15]
  7. Watermark wikiHow to แต่งหน้าแบบเจ้าสาว
    คุณสามารถเลือกทำได้ 2 สิ่งหลังจากนี้ คุณสามารถใช้บลัชออนแบบครีมแทนที่จะใช้แบบผงหรือลงแป้งเพื่อเซ็ตเครื่องสำอางให้อยู่ตัว ถ้าคุณเลือกใช้บลัชออนแบบผง คุณต้องลงแป้งทรานลูเซนท์เพื่อเซ็ตเครื่องสำอางให้อยู่ตัวและควบคุมความมันก่อน พยายามอย่าใช้แป้งมากเกินไป คุณจะต้องเปล่งประกายไม่ใช่ดูหนาเตอะ ใช้แปรงขนาดกลางเพื่อปัดแป้งบนหน้าผาก ด้านข้างจมูกและคาง
    • จากนั้นจึงใช้บรอนเซอร์แบบผงที่มีสีเข้มกว่ารองพื้น 1-2 เฉดและปัดเป็นลักษณะเลข 3 ที่ทั้งสองข้างของใบหน้า
    • คุณต้องเริ่มจากแนวเส้นผม ลากลงมาด้านข้างของใบหน้าและใต้โหนกแก้มแล้วจึงกลับไปยังด้านข้างของใบหน้าและด้านล่างของขากรรไกร [16] [17] [18]
    • พกแป้งอัดแข็งไว้ มีบางบริเวณบนใบหน้าที่มักจะมันและคุณต้องเติมแป้งก่อนถ่ายรูปหรือเมื่อไปเข้าห้องน้ำ [19]
  8. Watermark wikiHow to แต่งหน้าแบบเจ้าสาว
    ไม่ว่าคุณจะใช้บลัชออนแบบครีมก่อนลงแป้งหรือใช้บลัชออนแบบผงทับแป้งก็ควรปัดบลัชออนเพียงบางๆ คุณสามารถเติมได้เสมอ ปัดบลัชออนบริเวณพวงแก้มและเกลี่ยขึ้นและเขาหาแนวเส้นผม อย่าปัดบลัชออนที่จมูกเพื่อไม่ให้จมูกมีสีชมพู ขั้นตอนสุดท้ายคือการปัดเป็นสัญลักษณ์ถูกต้องบนโหนกแก้ม [20] [21] [22]
    • ถ้าหากคุณมีผิวขาวกับสีอันเดอร์โทนเย็น สีของบลัชออนที่เหมาะสมกับคุณคือสีชมพูอ่อนหรือชมพูประกายมอคค่าหรือสีเบจ
    • ถ้าหากคุณมีผิวขาวกับสีอันเดอร์โทนอุ่น สีของบลัชออนที่เหมาะสมกับคุณคือสีส้มแอปริคอตประกายทองหรือสีพีชประกายชมพู
    • ถ้าหากคุณมีผิวสองสีกับสีอันเดอร์โทนเย็น สีของบลัชออนที่เหมาะสมกับคุณคือสีแครนเบอร์รี่ สีราสเบอร์รี่อ่อนหรือสีชมพู
    • ถ้าหากคุณมีผิวสองสีกับสีอันเดอร์โทนฝุ่น สีของบลัชออนที่เหมาะสมกับคุณคือโอรสประกายน้ำตาลหรือสีส้มแอปริคอตประกายทอง
    • ถ้าหากคุณมีผิวเข้มกับสีอันเดอร์โทนเย็น สีของบลัชออนที่เหมาะสมกับคุณคือสีม่วงพลัม สีองุ่นและสีราสเบอร์รี่
    • ถ้าหากคุณมีผิวเข้มกับสีอันเดอร์โทนอุ่น สีของบลัชออนที่เหมาะสมกับคุณคือสีน้ำตาลหรือสีโอรสเข้มประกายทองแดง [23]
  9. Watermark wikiHow to แต่งหน้าแบบเจ้าสาว
    เติมสีสันให้ดวงตาด้วยอายแชโดว์และอายไลเนอร์. ผู้เชี่ยวชาญด้านงานแต่งงานไม่แนะนำการแต่งดวงตาให้ดูดุจนเกินไป คุณควรใช้อายไลเนอร์สีอื่นที่ไม่ใช่สีดำ อายแชโดว์สีอ่อนและไม่จัดจ้านซึ่งทำให้ดวงตาของคุณดูโดดเด่นและไฮไลท์เพื่อทำให้ดูตาโต ลองใช้อายไลเนอร์สีน้ำตาล สีเทาและสีเขียวและเขียนขอบตาทั้งด้านบนและด้านล่างเพื่อดึงดูดความสนใจมาที่ดวงตาของคุณ การใช้อายแชโดว์ชนิดครีมจะติดทนนานกว่าและควรใช้บนเปลือกตาในขณะที่อายแชโดว์แบบผงเหมาะสำหรับการทำเบ้าตา ใช้ไฮไลท์แบบผงบริเวณหัวตาและใต้คิ้ว
    • ว่ากันด้วยเรื่องของสี ถ้าหากคุณมีตาสีเขียวก็ควรใช้เฉดสีทองแดง ถ้าหากคุณมีตาสีน้ำตาลเฮเซลก็ควรใช้สีมอคค่า ถ้าหากคุณมีตาสีฟ้าก็ควรใช้สีกรมท่าและน้ำตาลเข้มและถ้าหากคุณมีตาสีน้ำตาลก็ควรใช้สีม่วงและสีเทา
    • จุ่มแปรงอายไลเนอร์ในน้ำและจิ้มบนอายแชโดว์ถ้าหากคุณต้องการใช้อายแชโดว์เพื่อกรีดตา [24] [25] [26]
  10. Watermark wikiHow to แต่งหน้าแบบเจ้าสาว
    คุณอาจจะร้องไห้มากกว่า 1 ครั้ง เพราะฉะนั้นคุณต้องใช้มาสคาร่าแบบกันน้ำ ถ้าหากคุณไม่เคยติดขนตาปลอมมาก่อนก็ไม่ควรเริ่มใช้ในวันแต่งงาน [27] คุณต้องมีที่ดัดขนตาที่ดี มาสคาร่าที่ช่วยเพิ่มความหนาและมาสคาร่าที่ช่วยเพิ่มความยาวของขนตา ดัดขนตาก่อนปัดมาสคาร่า ใช้มาสคาร่าปัดโดยเริ่มจากโคนขนตาและส่ายไปมาจนถึงปลายขนตา เลือกใช้มาสคาร่าสีดำเพราะมันทำให้ทุกคนดูดี
    • ปิดท้ายด้วยการตีกรอบใบหน้าด้วยที่เขียนคิ้วชนิดผงซึ่งมีสีเข้มกว่าสีธรรมชาติเล็กน้อย ปัดที่เขียนคิ้วตามแนวคิ้วธรรมชาติโดยเริ่มจากหัวไปหาง [28] [29] [30]
  11. Watermark wikiHow to แต่งหน้าแบบเจ้าสาว
    คุณต้องทำริมฝีปากให้ชุ่มชื่นเพื่อจะไม่แห้งแตกระแหงและมีริ้วรอยหลังจากที่ลงสีเช่นเดียวกับที่คุณต้องทำผิวหน้าให้ชุ่มชื่นก่อนการแต่งหน้า ใช้ไฮเดรทเตอร์ลงบนริมฝีปากและปล่อยให้ซึม 2-3 นาทีก่อนที่จะลงสี เลือกสีที่เข้ากับสีบลัชออนของคุณโดยทำตามคำแนะนำเหล่านี้ [31] ถึงแม้ว่าทุกวันนี้มีลิปสติกหลายยี่ห้อที่อ้างสรรพคุณว่าสามารถติดทนนานหลายชั่วโมงแต่คุณควรใช้ลิปแบบน้ำในวันแต่งงาน [32] [33]
    • ถ้าหากคุณมีผิวขาวกับสีอันเดอร์โทนเย็น คุณควรใช้ลิปสติกสีนู้ด สีน้ำตาลอ่อนและสีกะปิอ่อน ถ้าหากคุณมีสีอันเดอร์โทนอุ่น ลองใช้สีแซนด์หรือสีนู้ดพีช หลีกเลี่ยงสีชมพูสว่าง สีทองแดงเข้มและสีน้ำตาลเข้ม
    • ถ้าหากคุณมีผิวสองสีกับสีอันเดอร์โทนเย็น ลองใช้สีชมพู สีทับทิมหรือสีแครนเบอร์รี่ ถ้าหากคุณมีสีอันเดอร์โทนอุ่น ลองใช้สีทองแดงและสีซินนามอน หลีกเลี่ยงสีนู้ด
    • ถ้าหากคุณมีผิวเข้มกับสีอันเดอร์โทนเย็น ลองใช้สีองุ่น สีไวน์หรือสีแดงทับทิม ถ้าหากคุณมีสีอันเดอร์โทนอุ่น ลองใช้สีน้ำผึ้ง สีจิงเจอร์หรือสีทองแดง หลีกเลี่ยงสีส้มทุกเฉด [34]
    • ถ้าหากคุณใช้ดินสอเขียนขอบปาก คุณต้องทาลิปแบบน้ำหรือลิปสติกใกล้กับขอบปาก จากนั้นจึงใช้ดินสอเขียนขอบปากเพื่อเขียนรูปริมฝีปากให้ชัดเจนและปกปิดทั้งหมด เติมสีเพิ่มเล็กน้อยและเกลี่ยให้เข้ากัน [35]
    • ถ้าหากคุณต้องการให้ริมฝีปากมีสีเข้มหรือเด่นชัด คุณต้องทำสีตาให้อ่อนละมุนและเป็นธรรมชาติเพื่อไม่ให้ดูเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ [36]
    • อย่าเม้มปากเพราะจะทำให้รอยยิ้มของคุณดูไม่สมดุล
    • งดใช้ลิปกลอส เหตุผลแรกคือมันไม่ติดทน เหตุผลที่ 2 คือมันจะเปื้อนริมฝีปากของเจ้าบ่าวและสามารถสร้างแสงสะท้อนในรูปภาพได้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การเลือกรูปแบบเจ้าสาวของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จำไว้ว่ามันคืองานแต่งงาน ไม่ใช่การไปเที่ยวนอกบ้านกับเพื่อนสาว. ข้อผิดพลาดอันใหญ่หลวงที่เจ้าสาวมักจะทำคือแต่งหน้าหนาจนเกินไป รองพื้นสีเข้มหลายชั้น แต่งตาแบบสโมกกี้อายเข้มและดุ ลิปสติกที่สีสว่างจนเกินไป คุณคงไม่อยากเสียใจเมื่อคุณย้อนกลับมาดูรูปภาพวันแต่งงานเหมือนที่คุณเป็นจากงานพรอม คิดเผื่อล่วงหน้า เก็บการทดลองไว้ทำวันหลัง คุณต้องดูดีที่สุดในแบบของตัวเอง ไม่ใช่เหมือนคนอื่น [37] [38]
    • ช่างแต่งหน้ามักจะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้กลิตเตอร์หรือกากเพชรเพราะมันสะท้อนแสงเมื่อถ่ายภาพทำให้มีจุดสีขาวบนผิวของคุณ คุณสามารถลบมันออกจากรูปภาพได้แต่ต้องจ่ายเงินราคาแพง [39] [40]
  2. ทำให้มั่นใจว่าการแต่งหน้าของคุณเข้ากับทรงผมและเสื้อผ้า. คุณจะต้องเติมสีสันเพื่อชดเชยเพราะชุดแต่งงานของคุณน่าจะมีสีขาวแต่คุณต้องไม่แต่งหน้าจัดจนเกินไปและต้องไม่แต่งหน้าผิดเพี้ยน เป้าหมายของคุณคือทำให้การแต่งตัวทุกอย่างเข้ากัน ถึงแม้ว่าคุณชอบแต่งหน้าหน้าในแบบที่เฉพาะเจาะจงหรือเคยชินกับการแต่งหน้าหน้าแบบใดแบบหนึ่งแต่ไม่ได้แปลว่ามันจะดูเข้ากับทรงผมและชุด
    • ถ้าหากชุดของคุณเป็นแบบโรแมนติก พริ้วไสวและบางเบา การแต่งตาแบบสโมกกี้อายและลิปสติกสีจัดจ้านจะดูขัดกันมันไม่สวย
    • ถ้าหากคุณรวบผมขึ้นและมีเครื่องประดับติดผมมากมาย คุณต้องแต่งหน้าให้เบาบางแต่ดูสดชื่นและร่าเริง [41] [42]
    • ดูนิตยสารเจ้าสาวและรูปภาพจากงานพรมแดงต่างๆ เพื่อดูวิธีที่สไตล์ลิสจัดชุดทั้งหมดให้ดูสวยตะลึงแทนที่จะน่าสะพรึงกลัว
  3. ข้อผิดพลาดอีกอย่างที่เจ้าสาวมักจะทำคือรอจนถึงนาทีสุดท้ายเพื่อตัดสินใจว่าจะแต่งหน้าอย่างไร เพราะฉะนั้นคุณต้องเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ หยิบนิตยสารเจ้าสาวและเริ่มมองหาการแต่งหน้าของเจ้าสาว เมื่อคุณเจอแบบที่คุณชอบก็สามารถฉีกทั้งหน้าและเก็บรวบรวมในแฟ้ม “การแต่งหน้า” ดูนิตยสารแฟชั่นอื่นๆ หารูปในอินเตอร์เน็ต (และปริ้นออกมา) และหาสิ่งพิมพ์อื่นๆ [43] [44]
    • ระบุว่าคุณชอบอะไรเกี่ยวกับการแต่งหน้าของแต่ละรูปที่คุณเจอ ใช้ปากกาเขียนข้างๆ
    • มองไปรอบๆ และจดโน้ตในช่วงเวลาที่แตกต่างกันของวันและคุณมีอารมณ์ที่แตกต่างกัน
    • หลังจากที่คุณได้เก็บรวบรวมแบบต่างๆ แล้วลองดูว่าคุณสังเกตเห็นธีมอะไรหรือไม่ เช่น คุณเขียนซ้ำไปซ้ำมาว่าคุณชอบลิปสติกสีใดเฉพาะเจาะจงหรือเปล่า? คุณเห็นว่าคุณได้เขียนโน้ตเกี่ยวกับการทำรอบดวงตาให้สว่างขึ้นหรือไม่?
  4. นึกย้อนไปยังงานแต่งงานต่างๆ ที่คุณเคยไปหรือมีส่วนร่วมในอดีตเมื่อคุณคิดกับตัวเองเกี่ยวกับเจ้าสาวว่า “ว้าว เธอดูดีมาก” คุณอาจจะไม่สามารถจำได้ชัดเจนว่าอะไรที่คุณชอบเกี่ยวกับการแต่งหน้าของเธอหรือมันเป็นเพราะการแต่งหน้าที่ทำให้เธอดูโดดเด่นหรือเปล่าแต่คุณรู้อย่างหนึ่งว่าเธอไม่ได้ทำพลาดและเธอดูสวยมาก โทรหาเธอ เธอจะน้อมรับคำชมเชยอย่างแน่นอน ถามเธอว่าเธอแต่งหน้าด้วยตัวเองหรือไม่ ถ้าไม่ใช่แล้วใครแต่งหน้าให้เธอ ถ้าเธอใช้บริการช่างแต่งหน้า คุณก็สามารถขอชื่อและเบอร์โทรติดต่อได้
    • ถ้าหากคุณไม่สามารถตัดสินใจแบบการแต่งหน้าได้ก็ควรนึกถึงการแต่งหน้าที่ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง: ผิวที่เปล่งประกาย แก้มใสระเรื่อและริมฝีปากสีชมพู [45]
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

การเตรียมพร้อมแต่งหน้าก่อนงานแต่งงาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to แต่งหน้าแบบเจ้าสาว
    ถ้าหากคุณไม่ค่อยได้บำรุงผิวหน้าก็ถึงเวลาที่คุณควรเริ่ม บำรุงผิวหน้าเดือนละครั้งเพื่อแก้ไขสีผิวและทำให้ผิวดูกระจ่างใสซึ่งจะเป็นรากฐานที่ดีสำหรับการแต่งหน้า คุณต้องล้างหน้าให้ดีไม่เพียงแต่ในตอนเช้าแต่ในตอนกลางคืนเพื่อกำจัดเครื่องสำอางออกเช่นกัน ขัดผิวเป็นประจำเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและทำให้สีผิวสม่ำเสมอ ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นและดื่มน้ำให้เพียงพอ การแต่งหน้าบนผิวที่แห้งและเป็นขุยจะไม่ทำให้คุณได้การแต่งหน้าแบบที่ต้องการ ไม่ว่าคุณจะพยายามมากเท่าไหร่ก็ตาม
    • ถ้าหากคุณเป็นสิว 1 หรือ 2 วันก่อนงานแต่งงานก็ไม่ควรแกะสิว คุณสามารถปกปิดรอยสิวได้ง่ายกว่าสะเก็ดสิว
    • แว๊กซ์ขนคิ้วหรือส่วนอื่นบนใบหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนงานแต่งงานเพื่อไม่ทิ้งร่องรอย ถ้าหากคุณไม่เคยแว๊กซ์มาก่อนก็อย่าเริ่มแว๊กซ์ก่อนงานแต่งงานเพราะคุณอาจจะมีผื่นขึ้นถ้าคุณไม่เคยแว๊กซ์มาก่อน
    • อย่าลืมฟอกสีฟันด้วยเช่นกัน คุณมีหลายทางเลือกตั้งแต่ไปพบทันตแพทย์หรือทำด้วยตัวเองที่บ้านโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป คุณควรเริ่มทำ 3-4 เดือนก่อนงานแต่งงาน [46] [47] [48]
  2. คุณสามารถเลือกแต่งหน้าโดยตัวเองเช่นเดียวกับที่เคท มิดเดิลตันทำก่อนที่จะแต่งงานกับเจ้าชายวิลเลี่ยมหรือคุณอาจจะตัดสินใจให้เพื่อนหรือช่างแต่งหน้าแต่งให้ ถ้าคุณเลือกจ้างช่างแต่งหน้า คุณอาจจะได้คำแนะนำจากเพื่อน แต่ถ้าไม่ ลองถามผู้จัดงานแต่งงานว่าพวกเขารู้จักช่างแต่งหน้าหรือไม่ คุณยังสามารถถามผู้จัดงานเกี่ยวกับสถานที่ที่จัดงาน หาในอินเตอร์เน็ตหรือพูดกับเจ้าของร้านเสริมสวยที่คุณเคยทำผมด้วยมาก่อนถ้าหากคุณเลือกทำแบบนั้น
    • ไม่ว่าคุณจะเลือกใครก็ควรขอดูพอร์ตฟอลิโอ ถ้าหากทุกอย่างดูดียกเว้นการแต่งหน้าแบบที่คุณต้องการ คุณก็ควรหาคนอื่น
  3. ถ้าหากคุณเลือกจ้างช่างแต่งหน้าก็ควรนัดเวลาอย่างน้อย 1 เดือนก่อนวันงานเพื่อทดลองแต่งหน้า ในเวลานี้คุณจะวางแผนงานแต่งงานได้ลงตัวมากขึ้นและมีแนวคิดที่ดีขึ้นว่าคุณต้องการอะไร นำรูปภาพที่คุณเก็บรวบรวม รูปของชุด รูปของทรงผมที่คุณต้องการและรูปถ่ายของตัวเองเมื่อคุณคิดว่าคุณดูดีที่สุดมายังการทดลองแต่งหน้า วิธีนี้จะช่วยให้ช่างแต่งหน้าเนรมิตรสรรค์สร้างแบบการแต่งหน้าที่คุณต้องการและจะได้ผลกับคุณในทุกๆ ด้าน
    • ถ้าคุณวางแผนที่จะทำผิวสีแทนก่อนวันแต่งงาน คุณต้องทำผิวให้เป็นสีแทนก่อนที่จะนัดทดลองแต่งหน้าเช่นกัน ไม่เช่นนั้นผลลัพธ์จะไม่เหมือนกัน
    • จำไว้ว่าถึงแม้ว่าคุณเจอแบบการแต่งหน้าที่คุณชอบแต่มันอาจจะไม่เข้ากับสีผิวของคุณ ถ้าหากคุณจ้างช่างแต่งหน้าก็ควรปล่อยให้เขาแนะนำเกี่ยวกับเรื่องนี้
    • สวมเสื้อยืดสีขาวไปทดลองแต่งหน้าเพื่อที่คุณจะสามารถเห็นได้ว่าการแต่งหน้าของคุณจะดูเป็นอย่างไรเมื่อสวมชุดสีขาว ถ่ายรูปโดยไม่ต้องใช้แฟลชก่อนที่คุณจะกลับ [49] [50] [51] [52]
  4. ถ้าคุณไม่รู้วิธีการแต่งหน้ามากพอก็ควรอ่านข้อมูลต่อไป คุณยังสามารถหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ดูวีดีโอใน Youtube หรือไปตามห้างสรรพสินค้า มองหาผู้หญิงที่ขายผลิตภัณฑ์ตามเคาน์เตอร์เครื่องสำอางและขอให้เขาแต่งหน้าในแบบที่คุณชอบ บอกให้พนักงานแต่งหน้าให้กับคุณซึ่งพวกเขาจะทำให้ฟรีโดยหวังว่าคุณจะซื้อผลิตภัณฑ์ของพวกเขาซึ่งคุณอาจจะซื้อ ฝึกซ้อมแต่งหน้าในแสงธรรมชาติโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่คุณวางแผนที่จะใช้ สวมเสื้อยืดสีขาวและถ่ายรูปของตัวเองหลังจากแต่งหน้าเสร็จ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าโดยใช้การพ่นสี มันทำให้หน้าของคุณดูแบน ไม่มีมิติและแต่งเติมได้ยาก
  • อย่าใช้สเปรย์ทำให้ผิวสีแทนในวันก่อนแต่งงาน คุณสามารถทำพลาดได้สูง ถ้าหากคุณต้องการใช้สเปรย์ทำให้ผิวสีแทนก็ควรทำ 1 เดือนก่อนงานแต่ง
  • พกทิชชู่เอาไว้ในที่ที่คนมองไม่เห็น
  • แนวคิดที่สนุกคือการไม่แต่งหน้าในวันแต่งงาน การไม่ใช้เครื่องสำอางบนใบหน้าจะทำให้คุณดูเป็นธรรมชาติและน่ารัก
  • ถ้าหากคุณแต่งหน้าได้อย่างถูกต้อง คุณก็ไม่จำเป็นต้องเติมเครื่องสำอางมากนัก อย่างไรก็ตาม เตรียมเครื่องสำอางให้พร้อมและทำให้มั่นใจว่าคุณมีสิ่งเหล่านี้: แป้งทรานลูเซนท์อัดแข็ง สำลีก้อนเพื่อทำความสะอาดรอบดวงตา ลิปแบบน้ำหรือลิปสติก บลัชออนและเครื่องสำอางสำหรับดวงตาเพื่อแต่งตาของคุณเป็นแบบสโมกกี้อายเล็กน้อยสำหรับงานเลี้ยงในตอนเย็นหรือเพิ่มมาสคาร่า [53]
  • อย่าละเลยส่วนอื่นของร่างกาย เช่น แผ่นหลัง แขนและหน้าอก ใช้โลชั่นที่มีชิมเมอร์แบบไม่เลอะเทอะทาบริเวณเหล่านี้เพื่อให้ไม่ดูแบนหรือกระดำกระด่าง [54]
  • อย่าทำผิวให้เป็นสีแทนมากจนเกินไป ความแตกต่างระหว่างสีผิวของคุณและชุดแต่งงานจะมากจนเกินไป [55]
  • อย่าลืมนึกถึงทรงผมและการแต่งหน้าของเพื่อนเจ้าสาวเพื่อที่คุณจะดูเข้ากันเวลาที่ยืนด้วยกัน [56]
โฆษณา
  1. http://www.cosmopolitan.com/style-beauty/beauty/advice/g2414/best-foundation-for-your-skin-tone/
  2. http://www.glamourmagazine.co.uk/news/beauty/2014/05/28/wedding-make-up-artist-expert-advice
  3. http://www.cosmopolitan.com/style-beauty/beauty/how-to/a21296/concealer-map-makeup-tutorial/
  4. http://www.glamourmagazine.co.uk/news/beauty/2014/05/28/wedding-make-up-artist-expert-advice
  5. http://www.glamour.com/weddings/2014/05/a-guide-to-doing-your-own-wedding-makeup/1
  6. http://www.cosmopolitan.com/style-beauty/beauty/how-to/a10384/ways-to-use-a-highlighter/
  7. http://www.glamour.com/weddings/2014/05/a-guide-to-doing-your-own-wedding-makeup/1
  8. http://www.allure.com/makeup-looks/2014/ten-commandments-of-wedding-day-makeup
  9. http://www.glamourmagazine.co.uk/news/beauty/2014/05/28/wedding-make-up-artist-expert-advice
  10. http://www.cosmopolitan.com/style-beauty/beauty/how-to/a5153/common-makeup-mistakes-brides-make/
  11. https://www.birchbox.com/magazine/article/timing-beauty-quick-fix
  12. http://www.cosmopolitan.com/style-beauty/beauty/how-to/a5153/common-makeup-mistakes-brides-make/
  13. http://www.glamour.com/weddings/2014/05/a-guide-to-doing-your-own-wedding-makeup/1
  14. http://www.dailymakeover.com/wedding_beauty_category/bridal-makeup/#ixzz3TV0BGzIl
  15. http://www.bridalguide.com/beauty-fitness/makeup-skincare/makeup-mistakes?page=2#
  16. http://www.glamour.com/weddings/2014/05/a-guide-to-doing-your-own-wedding-makeup/12
  17. http://www.marieclaire.co.uk/blogs/cassie-steer/544615/bridal-makeup-tips-the-10-dos-and-don-ts-you-need-to-pay-attention-to.html
  18. http://www.cosmopolitan.com/style-beauty/beauty/how-to/a5153/common-makeup-mistakes-brides-make/
  19. http://www.glamourmagazine.co.uk/news/beauty/2014/05/28/wedding-make-up-artist-expert-advice
  20. http://www.bridalguide.com/beauty-fitness/makeup-skincare/makeup-mistakes?page=2#
  21. http://www.glamour.com/weddings/2014/05/a-guide-to-doing-your-own-wedding-makeup/12
  22. http://www.glamourmagazine.co.uk/news/beauty/2014/05/28/wedding-make-up-artist-expert-advice
  23. http://www.cosmopolitan.com/style-beauty/beauty/how-to/a5153/common-makeup-mistakes-brides-make/
  24. http://www.bridalguide.com/beauty-fitness/makeup-skincare/makeup-mistakes?page=2#
  25. http://www.womenshealthmag.com/beauty/beauty-product-tips?page=2
  26. http://www.glamour.com/weddings/2014/05/a-guide-to-doing-your-own-wedding-makeup/12
  27. http://www.glamourmagazine.co.uk/news/beauty/2014/05/28/wedding-make-up-artist-expert-advice
  28. http://www.allure.com/makeup-looks/2014/ten-commandments-of-wedding-day-makeup
  29. http://www.cosmopolitan.com/style-beauty/beauty/how-to/a5153/common-makeup-mistakes-brides-make/
  30. http://www.glamourmagazine.co.uk/news/beauty/2014/05/28/wedding-make-up-artist-expert-advice
  31. http://www.bridalguide.com/beauty-fitness/makeup-skincare/makeup-mistakes?page=2#
  32. http://www.glamourmagazine.co.uk/news/beauty/2014/05/28/wedding-make-up-artist-expert-advice
  33. http://www.marieclaire.co.uk/blogs/cassie-steer/544615/bridal-makeup-tips-the-10-dos-and-don-ts-you-need-to-pay-attention-to.html
  34. http://www.marieclaire.co.uk/blogs/cassie-steer/544615/bridal-makeup-tips-the-10-dos-and-don-ts-you-need-to-pay-attention-to.html
  35. http://www.glamour.com/weddings/2014/05/a-guide-to-doing-your-own-wedding-makeup/1
  36. http://www.allure.com/makeup-looks/2014/ten-commandments-of-wedding-day-makeup
  37. http://www.allure.com/makeup-looks/2014/ten-commandments-of-wedding-day-makeup
  38. http://www.bridalguide.com/beauty-fitness/makeup-skincare/makeup-mistakes?page=2#
  39. http://www.dailymakeover.com/trends/skin/why-you-shouldnt-get-a-facial-before-your-big-day-plus-more-pre-wedding-skin-care-tips/
  40. http://www.allure.com/makeup-looks/2014/ten-commandments-of-wedding-day-makeup
  41. http://www.bridalguide.com/beauty-fitness/makeup-skincare/makeup-mistakes?page=2#
  42. http://www.marieclaire.co.uk/blogs/cassie-steer/544615/bridal-makeup-tips-the-10-dos-and-don-ts-you-need-to-pay-attention-to.html
  43. http://www.glamour.com/weddings/2014/05/a-guide-to-doing-your-own-wedding-makeup/1
  44. http://www.glamourmagazine.co.uk/news/beauty/2014/05/28/wedding-make-up-artist-expert-advice
  45. http://www.cosmopolitan.com/style-beauty/beauty/how-to/a5153/common-makeup-mistakes-brides-make/
  46. http://www.huffingtonpost.com/2014/05/05/bridal-beauty-tips_n_5250154.html
  47. http://www.huffingtonpost.com/2014/05/05/bridal-beauty-tips_n_5250154.html
  48. https://www.youtube.com/watch?v=BptgSTSsPv8

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,461 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา