ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถึงคุณจะดูแลผิวหน้าของตัวเองอย่างดีแค่ไหน ก็อาจยังเห็นรูขุมขนชัดจนขัดใจ พวกริ้วรอยก็พลอยขยายใหญ่ไปด้วย ถ้าคุณกำลังประสบปัญหาเรื่องรูขุมขนและริ้วรอยด่างดำ เรามีวิธีดีๆ มาฝากกัน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

กระชับรูขุมขนเองก็ได้ง่ายจัง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ล้างหน้าให้สะอาดทุกวัน แต่อย่าล้างมากเกินไป. ที่รูขุมขนกว้างก็เพราะมีสิ่งสกปรก น้ำมัน หรือแบคทีเรียไปอุดตันจนเกิดการอักเสบ การล้างหน้าให้สะอาดเป็นประจำ แต่ไม่ใช่บ่อยเกินไป แค่เช้า-เย็น จะช่วยกระชับรูขุมขนและทำให้รู้สึกสบายหน้า
  2. เอาน้ำแข็งไปประคบตรงที่รูขุมขนกว้าง ประมาณ 15 - 30 วินาที จะช่วยกระชับผิวหน้าได้
  3. บรรดาเมคอัพอาร์ทิสต์ทั้งหลายน่ะปลื้มเบคกิ้งโซดากันทั้งนั้น เพราะช่วยได้เรื่องกระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลง แถมยังขจัดสิวอีกต่างหาก แต่ถ้าใครผิวแพ้ง่ายก็ต้องระวังหน่อย อาจจะระคายเคืองได้
    1. ผสมเบคกิ้งโซดากับน้ำอุ่นในอัตราส่วนที่เท่ากัน (อย่างละ 2 ช้อนโต๊ะ) จนข้นหนึบ
    2. เอาไปทาวนๆ ที่หน้า นวดกระชับรูขุมขนเบาๆ ประมาณ 30 วินาที
    3. ล้างออกด้วยน้ำเย็น
    4. ใช้สูตรนี้ทุกครั้งเวลาล้างหน้า ทำเป็นประจำประมาณ 5 - 7 วัน พอผ่านไปสัก 1 อาทิตย์ ให้ลดลงเหลือ 3 - 5 ครั้งต่ออาทิตย์ก็พอ
  4. จากนั้นเอามาวางซับที่หน้า 1 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น น้ำมะนาวกับน้ำสับปะรดมีเอนไซม์ตามธรรมชาติที่ช่วยกระชับผิวหน้า แถมยังขจัดสิ่งสกปรกให้ใบหน้าคุณสว่างสดใส แต่ถ้าคุณมีผิวแพ้ง่าย ให้ทาครีมบำรุงก่อนใช้สูตรนี้จะได้ไม่ระคายเคือง น้ำมะนาว (หรือเลม่อน) นั้นมีคุณสมบัติในการชำระล้างและช่วยกระชับรูขุมขนได้เป็นอย่างดี
  5. ถ้าเป็นสครับขัดผิวไม่ใช่โฟมล้างหน้าทั่วไป จะมีเม็ดบีดส์เล็กๆ หรือส่วนผสมบางอย่างที่ใช้ขัดใช้นวดผิว (ประมาณว่าเมล็ดแอพริคอทบดเป็นต้น) ขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขน สครับแบบ อ่อนโยน บางตัวก็ใช้ล้างหน้าก่อนนอนได้เลยเหมือนกัน
    • ถ้าใช้สครับขัดผิวเมื่อไหร่ ห้ามล้างหน้าด้วยโฟมซ้ำอีกเด็ดขาด ให้คุณเลือกเอาว่าจะใช้โฟมหรือใช้สครับ เพราะการขัดล้างผิวหน้ามากเกินไป จะทำให้เกิดการระคายเคืองและผื่นแดง เดี๋ยวจะได้ปัญหาใหม่มาเพิ่มแทนเรื่องรูขุมขน
  6. โยเกิร์ตรสธรรมชาติจะมีกรดแลคติกกับโปรไบโอติกส์ ที่พอใช้ทาผิวแล้วช่วยเรื่องควบคุมแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว ซึ่งจะทำให้รูขุมขนดูเล็กลงได้
    • ใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติทาให้ทั่วใบหน้า แล้วทิ้งไว้ประมาณ 5 - 10 นาที ถ้านานเกิน 10 นาทีอาจเกิดการระคายเคืองได้
    • ทำซ้ำประมาณอาทิตย์ละครั้งก็พอ เพราะการมาสก์หน้าทั่วไปต้องทำนานๆ ครั้งถึงจะดี อย่าเชื่อผิดๆ ว่าต้องหมั่นผลัดผิวเป็นประจำ
  7. โดยเฉพาะพวกเนื้อสัตว์ไร้มัน ธัญพืช ผักผลไม้ และกรดไขมันโอเมกา-3 อย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆ ลด ละ เลิกพวกเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือคาเฟอีน พวกผลิตภัณฑ์นมเยอะไปก็ไม่ดี เพราะมีฮอร์โมนที่จะทำให้สิวของคุณยิ่งลุกลามไปกันใหญ่... [1]
    • ต้องได้รับวิตามิน A, B และ C อย่างเพียงพอ วิตามิน C จะช่วยลดตีนกา แผลเป็น และริ้วรอยต่างๆ [2] ส่วนวิตามิน A ก็มีคุณสมบัติเช่นเดียวกัน [3]
    • ส้มช่วยกระชับผิวและเสริมสร้างคอลลาเจน ที่จะเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวและกระชับรูขุมขน ลองทานดู ส้มพันธุ์ไหนก็ได้ผลไม่แพ้กัน
  8. AHA กับ BHA นั้นเป็นสารสังเคราะห์เพื่อการผลัดผิว ไม่ได้มีอยู่ตามธรรมชาติ โดยทำให้ไขมันไม่จับตัวกัน จะได้ไม่สะสมเซลล์ผิวที่ตายแล้วไว้บนใบหน้าให้เกิดการอุดตันกลายเป็นสิว [4] ส่วน BHA นั้นเด่นเรื่องการทำความสะอาดลึกถึงรูขุมขน เพราะสามารถละลายได้ในไขมัน ทำให้แทรกซึมผ่านไขมันหรือ sebum ในรูขุมขนของคุณได้
    • ผลัดผิวด้วยสารสังเคราะห์อย่าง AHA และ BHA ทุก 4 - 6 อาทิตย์ อย่าใช้บ่อยเกินไปเพราะอาจทำร้ายผิวแทนที่จะดูแล
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ลดสิวและริ้วรอยด่างดำด้วยตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. กรดซิตริกในมะนาวหรือเลม่อนจะตรงเข้าจัดการกับเม็ดสีที่ทำให้ผิวหน้าคุณดูแพ้แดงหรือด่างดำ น้ำมะนาวช่วยลดรอยด่างดำต่างๆ ให้จางลง แต่ก็ทำให้ผิวบางด้วยเช่นกัน จนแดดแรงๆ อาจทำคุณระคายเคืองได้ เพราะฉะนั้นหลังใช้สูตรนี้อย่าลืมทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านล่ะ
    • ผสมน้ำมะเขือเทศกับน้ำมะนาวเข้าด้วยกัน แล้วเอาสำลีชุบให้ชุ่มเพื่อทาลงบนใบหน้าเป็นประจำ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น สูตรนี้จะช่วยลดริ้วรอยด่างดำ แถมถ้าทำเป็นประจำ เส้นขนบนใบหน้ายังบางลงได้อีกต่างหาก
    • ผสมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะเข้ากับน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ แล้วตามด้วยผงขมิ้นชัน 1 หยิบมือ ทาทิ้งไว้บนใบหน้าประมาณ 10 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็น ถ้าทำซ้ำเป็นประจำจะได้ผลดีเป็นพิเศษ
    • ใช้เปลือกมะนาวกับน้ำตาลนิดหน่อยขัดเบาๆ ที่ผิวหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
  2. เอาผงไม้จันทน์มาผสมกับน้ำจนข้นเหนียว แล้วใช้ทาลงบนใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10 - 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น แต่ต้องระวังให้มาก เพราะผงไม้จันทน์นี่ทำเอาคุณหน้าแห้งได้เหมือนกัน
  3. ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น รอยด่างดำบนใบหน้าจะจางลงอย่างเห็นได้ชัด
    • นอกจากกรดต่างๆ แล้ว มะละกอกับกล้วยยังมีเอนไซม์ปาเปนกับโบรมีเลนที่ช่วยลดรอยด่างดำได้ด้วย
  4. ช่วยได้เยอะมากเรื่องลดรอยแดง ให้ทาน้ำมันโรสฮิปบางๆ ที่หน้า แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีทุกวัน จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็น
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ปรึกษาแพทย์เพื่อกระชับรูขุมขนและลดริ้วรอยด่างดำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณหมอโรคผิวหนังหรือคุณหมอทั่วไปสามารถสั่งยาให้คุณได้ ทั้งยาทาและยากิน ที่อาจรักษาสิวและริ้วรอยบนใบหน้าของคุณอย่างเห็นผลภายในไม่กี่อาทิตย์
  2. Dermabrasion คือการที่คุณหมอกรอผิวหน้าชั้นบนหรือก็คือหนังกำพร้าของคุณ ด้วยหัวเจียรเพชรหรือแปรงลวดขัดที่มีความละเอียดสูง เพื่อ "ปรับสภาพผิวหน้า" ของคุณให้เรียบเนียน เหมาะมากสำหรับการลดรอยด่างดำหรือหลุมสิว
    • หรือจะกรอผิวหน้าแบบ microdermabrasion ซึ่งก็คล้ายคลึงกันกับ dermabrasion เพียงแต่จะละเอียดอ่อนกว่า โดยจะใช้หัวเจียรกรอชั้นหนังกำพร้าบนผิวหน้าอย่างเบามือ เพื่อลดรอยด่างดำและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทดแทน
  3. ก็คล้ายกันกับ dermabrasion เพียงแต่หมอผิวหนังนั้นจะ "ขูด" ผิวหน้าชั้นบนสุดออกไป หรือที่เรียกว่า "planing" โดยทำซ้ำแบบกลับไปกลับมา
  4. หมอผิวหนังหรือสถานเสริมความงามจะใช้อุปกรณ์แบบคลื่นความถี่สูงขจัดแบคทีเรียที่อาจก่อให้เกิดรอยด่างดำอันเป็นอันตรายได้ อิเล็กโทรดเล็กๆ จะเข้าปกคลุมรอยด่างดำดังกล่าวแล้วทำให้จางลงได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง
    • หรือจะใช้เครื่อง Zeno ที่ใช้คลื่นความถี่สูงเหมือนกัน แต่จะต่างกันที่เครื่องนี้ใช้ง่ายพกพาสะดวก เพราะเป็นแบบใส่ถ่านนั่นเอง
  5. คุณอาจจะให้หมอผิวหนังของคุณฉีด cortisone ที่สิวและรอยด่างดำ จะได้เรียบเนียนในไม่กี่วัน แต่แนะนำว่าให้สงวนวิธีนี้ไว้ใช้สุดท้าย ในกรณีที่ใช้วิธีไหนก็ไม่ได้ผล
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ระวังน้ำมะนาวกระเด็นเข้าตา ไม่งั้นกรดซิตริกทำคุณแสบตาแย่เลย
  • เช็คให้ดีว่าทุกส่วนผสมที่ใช้ยังไม่เน่าหรือหมดอายุ
  • ก่อนเริ่มขั้นตอนแรก ต้องจัดวางทุกอย่างไว้ใกล้มือ
  • ครีมสำเร็จรูปแบรนด์ต่างๆ ก็ได้ผลเป็นอย่างดี เช่นของ Neutrogena เป็นต้น
  • ก่อนจะเริ่มขั้นตอนไหน อย่าลืมล้างมือให้สะอาดแล้วเช็ดให้แห้ง
  • ห้ามคุ้ยแคะแกะเกาสิวเด็ดขาด ถึงคุณจะบอกว่านิดๆ หน่อยๆ แต่ก็อาจทำผิวคุณระคายเคืองหรือสิวลุกลามไปได้ พยายามอย่าเอามือมาแตะต้องใบหน้าจะดีที่สุด สิวจะได้ไม่อักเสบจนกลายเป็นแผลเป็น เพราะมือของคุณนั้นมีน้ำมันตามธรรมชาติ ที่อาจไปอุดตันรูขุมขนจนเกิดสิวได้
  • อย่าขัดถูหน้าแรงเกินไป เพราะผิวคุณอาจระคายเคือง โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนแพ้ง่าย
  • ดื่มน้ำเยอะๆ กินแต่อาหารที่มีประโยชน์
  • อย่ารอจนหน้าเละค่อยเริ่มรักษา
  • ลองพยายามรักษาด้วยวิธีธรรมชาติดูก่อน ถ้าไม่ได้ผลค่อยหันไปใช้ยาหรือการศัลยกรรม
  • จะผสมอะไรเข้าด้วยกัน ต้องดูให้แน่ใจว่าส่วนผสมนั้นไปด้วยกันได้
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่ารักษาทีเดียวพร้อมกันหลายๆ วิธี ให้ลองดูทีละอย่าง ถ้าไม่ได้ผลก็ค่อยเปลี่ยนวิธี เพราะโหมรักษาจนมั่วไปหมดอาจทำให้หน้าคุณยิ่งอาการหนักกว่าเดิม
  • ถ้าใช้วิธีไหนแล้วเจ็บหรือระคายเคือง ให้หยุดใช้ทันที เพราะแปลว่าคงมีอะไรผิดปกติแล้วล่ะ
  • อย่าอบไอน้ำหน้ามากเกินไป! ไม่งั้นผิวอาจแห้งหรือกระทั่งไหม้ได้
  • อย่าใช้เครื่องทำความสะอาดรูขุมขน เพราะอาจเกิดการระคายเคืองแถมเพิ่มแบคทีเรีย แปลว่าสิวจะถามหายิ่งขึ้นน่ะสิ
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,916 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา