ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ความสัมพันธ์ของคุณกับชายหนุ่มคนพิเศษผ่านเข้ามา และผ่านไป แต่ในตอนนี้คุณต้องการให้เขากลับมาเริ่มต้นใหม่กับคุณอีกครั้ง มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคู่รักที่กลับมาคืนดีกัน หลังจากแยกทางกัน ดังนั้นอย่าพึ่งหมดหวัง แต่ให้คุณใคร่ครวญถึงเหตุผลที่คุณแยกทางกันให้ดี ก่อนที่คุณจะพยายามกลับมาคืนดีกัน เนื่องจากการทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณทำให้ความสัมพันธ์ครั้งที่สองนี้มีความยั่งยืนตลอดไป

ดูหัวข้อ ‘เมื่อไหร่ที่คุณควรลองใช้วิธีต่างๆ เหล่านี้?’ เพื่อเรียนรู้ว่าเมื่อไหร่ที่การขอคืนดีกับแฟนเก่าของคุณอาจเป็นการกระทำที่ดี และถูกต้อง

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

แน่ใจว่าคุณคิดถูก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สิ่งแรกที่คุณจำเป็นต้องทำ คือใช้เวลาในการทบทวนให้ถ้วนถี่ว่าปัจจัยอะไรที่นำไปสู่การแยกทาง พิจารณาดูว่ามูลเหตุเหล่านั้นอาจทำให้ความสัมพันธ์มีปัญหามากขึ้นหรือไม่ หากคุณกลับมาคบกัน หรือว่าคุณอาจสามารถผ่านมันไปได้ [1]
    • มันเป็นเรื่องสำคัญในการคิดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำ และกลายเป็นสาเหตุของการเลิกรา การตำหนิแฟนเก่าของคุณในทุกๆ เรื่อง ไม่ใช่วิธีที่ดีในการขอคืนดี!
  2. คิดทบทวนว่าทำไมคุณถึงอยากให้แฟนเก่าของคุณกลับมา. การแยกทางไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์อาจดูไม่ลงตัว สำหรับเหตุผลนี้ มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการคิดใคร่ครวญถึงแรงจูงใจของคุณที่ต้องการให้แฟนเก่าของคุณกลับมา หากคุณต้องการกลับมาคบกัน เพราะว่าคุณเสียใจ หรือรู้สึกเหงา หรือไม่อยากอยู่เป็นโสด คุณอาจลองทบทวนดูใหม่อีกครั้ง เนื่องจากการที่คุณแค่คิดถึงแฟนเก่าของคุณ ไม่ได้หมายความว่าคุณควรที่จะอยู่กับเขา โดยความรู้สึกเหล่านี้จะเลือนหายไปในท้ายที่สุด ถึงแม้ว่ามันอาจต้องใช้เวลาก็ตาม แต่หากคุณต้องการที่จะกลับมาคบกัน เพราะว่าเป็นห่วงแฟนเก่าของคุณอย่างแท้จริง และคุณมองเห็นอนาคตของคุณกับเขาร่วมกัน ให้คุณเดินหน้าที่จะให้เขากลับคืนมา! [2]
    • หากแฟนเก่าของคุณประทุษร้ายทางร่างกาย อารมณ์ หรือคำพูด อย่างใดอย่างหนึ่ง คุณไม่ควรกลับไปคบกับเขาอีกต่อไป มันเป็นเรื่องปกติที่คุณจะคิดถึงเขา แม้ว่าความสัมพันธ์ที่จบไปแล้วอาจไม่ค่อยลงตัวสักเท่าไหร่ แต่มันเป็นสิ่งสำคัญในการเตือนตัวเองว่าคุณสามารถทำได้ดีกว่านี้
  3. เนื่องจากการสิ้นสุดของความสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความว้าวุ่นใจเป็นอย่างมาก แต่การอยู่ห่างกันสักพักอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุด ก่อนที่คุณจะพยายามผสานรอยร้าวที่เกิดขึ้น คุณทั้งคู่จำเป็นต้องเอาชนะความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากการเลิกรา และคิดทบทวนถึงสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ [3]
    • นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณจำเป็นต้องหลบเลี่ยงเขา หากคุณต้องไปโรงเรียน หรือมีเพื่อนร่วมกันกับเขา แต่ให้คุณแค่หลีกเลี่ยงการโทรไปหา หรือออกไปเที่ยวกับเขาสักระยะหนึ่ง เพื่อที่คุณทั้งสองจะมีโอกาสรักษาแผลใจ และรวบรวมความคิด
    • หากแฟนเก่าของคุณติดต่อคุณบ่อยๆ บอกให้เขารู้ว่าคุณกำลังให้เวลาเข้า เพื่อที่เขาจะได้ไม่คิดว่าคุณไม่ได้คิดอะไรกับเขา นี่เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะหากชายที่คุณรักขี้อาย หรือขาดความมั่นใจ
    • เขาอาจจำเป็นต้องใช้เวลาในการทบทวนว่าเขาคิดถึงคุณมากแค่ไหนด้วยเช่นกัน!
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Lisa Shield

    โค้ชนัดเดท
    ลิซ่า ชีลด์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรักและความสัมพันธ์ในลอสแองเจลิส เธอได้รับปริญญาโทด้านจิตวิญญาณวิทยาและเป็นโค้ชด้านชีวิตและความสัมพันธ์ที่มีใบรับรองมานานกว่า 17 ปี ลิซ่าเคยมีงานตีพิมพ์ใน The Huffington Post, Buzzfeed, LA Times, และ Cosmopolitan
    Lisa Shield
    โค้ชนัดเดท

    ใช้เวลาที่ห่างกันเพื่อทำความเข้าใจความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น โค้ชด้านการเดทอย่างลิซ่า ชีลด์เสริมต่อดังนี้: "พวกเราส่วนใหญ่จะรู้สึกกลัวเมื่อต้องพบปะผู้คนหลังการเลิกรา เพราะเราไม่ได้เข้าใจได้ถ่องแท้ว่าเราทำอะไรผิดในอดีต ใช้เวลา คิดพิเคราะห์การกระทำของคุณ และคู่ของคุณ ถ้าคุณไม่ทำความเข้าใจกับอดีต ก็ยากที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า"

  4. เมื่อคุณพยายามที่จะขอคืนดีกับแฟนเก่าของคุณ คุณจำเป็นต้องระลึกไว้ว่า มันอาจจะเป็นผล หรือไม่เป็นผลก็ได้ หากแม้ว่าคุณเอาชนะใจแฟนเก่าคุณกลับมาได้ ไม่มีใครบอกได้ว่าความสัมพันธ์ของคุณครั้งใหม่นี้จะยืนยาวถาวรไปตลอด เตรียมพร้อมตัวเองไว้ล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดจากการอกหักเป็นครั้งที่สอง
  5. ใช้โอกาสนี้ในการอยู่กับตัวเอง และรักตัวเอง ยิ่งคุณนับถือตนเองมากขึ้นแค่ไหน คุณได้เตรียมตัวที่จะมีความสัมพันธ์ที่แข็งแรง และยืนยาวเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น [4]
    • หากคุณทนทุกข์ทรมานจากภาวะซึมเศร้า หรือความกังวลใจ ให้คุณปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต คุณอาจแปลกใจว่าการรักษาส่งผลต่อการนับถือตนเองของคุณ
    • เตือนตัวเองถึงจุดแข็ง และพรสวรรค์ของคุณในทุกๆ วัน ฉลองในทุกความสำเร็จที่คุณได้รับ ไม่ว่าสิ่งนั้นมันจะเล็กน้อยสักแค่ไหนก็ตาม
    • หากคุณไม่รู้จริงๆ ว่าจุดแข็งของคุณคืออะไร ให้ลองคุยกับเพื่อนๆ หรือคนที่รัก และลองถามพวกเขาว่าคุณสมบัติเชิงบวกของคุณคืออะไร
    • พยายามรู้สึกขอบคุณในทุกๆ สิ่งที่คุณมี
    • การทำสมาธิสามารถช่วยลดความเครียด และทำให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้น
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

การได้รับโอกาสที่สอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณมีเพื่อนที่รู้จักเขา หรือหากเพื่อนของเขาเต็มใจที่จะคุยกับคุณ โดยไม่บอกให้แฟนเก่าของคุณรู้ ให้ถามพวกเขาถึงความเป็นไปได้ที่แฟนเก่าของคุณจะกลับมาคบกับคุณอีกครั้ง พวกเขาจะรู้เรื่องได้ดีกว่าคุณ ว่าแฟนเก่าของคุณมีแฟนใหม่ไปแล้ว หรือเขายังปรารถนาที่จะกลับมาคบกับคุณ [5]
    • นี่ไม่ใช่วิธีที่ดูไร้สติแต่อย่างใด เขาอาจยังต้องการที่จะกลับมาคบกับคุณ แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ ให้เพื่อนของเขารู้ก็ตาม
  2. เมื่อคุณพร้อมที่จะเริ่มต้นการใช้เวลาร่วมกันกับแฟนเก่าของคุณอีกครั้ง ให้ลองถามเขาอย่างทีเล่นทีจริงว่าเขาอยากทำบางสิ่งบางอย่างในแบบเพื่อนกับคุณไหม เช่น กินเหล้า เล่นกีฬา เล่นเกมที่คุณทั้งคู่ชอบ ดูหนัง หรือออกไปเดินเล่นในห้างสรรพสินค้า ให้คุณวางตัวเหมือนเป็นเพื่อน ไม่ใช่แฟน [6]
    • ห้ามใช้โอกาสนี้ในการเริ่มขอร้องให้เขากลับมาคืนดี แต่ให้ลองใช้เวลาดีๆ ร่วมกันกับเขา และแน่ใจว่าเขามีช่วงเวลาดีๆ ร่วมกันกับคุณ
    • ห้ามพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของคุณตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเขา ยกเว้นว่าเขาจะพูดถึงมันก่อน ให้คุณคอยจนได้ใช้เวลาร่วมกันสัก 2 – 3 ครั้ง และได้สร้างโอกาสในการทำให้เขาประทับใจในแบบเพื่อนเสียก่อน
  3. ในขณะที่ใช้เวลาร่วมกันกับแฟนเก่าของคุณในแบบเพื่อน พยายามทำให้เขาจดจำในสิ่งที่เขารักเกี่ยวกับคุณ เน้นย้ำลักษณะของตัวคุณที่เขารัก เช่น อารมณ์ขัน ความเห็นอกเห็นใจ เป็นต้น [7]
    • จงทำตัวให้ดูมีความสุข และมีทัศนคติที่ดีเมื่ออยู่กับเขาเสมอ คุณสามารถพูดประโยคที่บ่งบอกให้เขารู้ว่าคุณยังสนใจในตัวเขาอยู่ เมื่อคุณใช้เวลาร่วมกันกับเขา ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถพูดว่า “มันดีมากๆ ที่ได้ออกมาเที่ยวกับคุณ ฉันคิดถึงการใช้เวลาร่วมกับคุณมากๆ”
    • แม้ว่าคุณไม่ได้พูดถึงความสัมพันธ์ในอดีตโดยตรง คุณสามารถย้ำเตือนเขาถึงช่วงเวลาดีๆ ที่เคยมีร่วมกันอย่างแยบยล หากเขากล่าวชมชุดที่คุณสวมใส่ชุดใดชุดหนึ่งเป็นพิเศษ ให้คุณสวมชุดนั้นอีกในโอกาสต่อๆ ไป คุณสามารถแบ่งปันความทรงจำที่ฝังอยู่ในใจกับเขา หากคุณมีโอกาสที่จะได้พบเขา โดยให้คุณทำในสถานที่ที่คุณเคยร่วมแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ ร่วมกัน
  4. ใช้ประโยชน์จากการใช้เวลาร่วมกันในแบบเพื่อน เพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าคุณได้พยายามปรับปรุงตัวคุณเองอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น หากการมาสายของคุณ มันทำให้เขาโมโหอยู่เสมอ จงแสดงให้เขาเห็นว่าคุณได้ออกมาพบเขาก่อนเวลานัดเล็กน้อย [8]
  5. พูดคุยอย่างตรงไปตรงมา.โชคร้ายที่ไม่มีวิธีที่คุณจะรู้ได้อย่างแน่นอนว่าแฟนเก่าของคุณอยากที่จะกลับมาคบกับคุณอีกครั้งหรือไม่ แต่เมื่อคุณรู้สึกว่าถึงเวลาที่คุณจะแสดงให้เขาเห็นว่าคุณได้ปรับปรุงตัว หรือเป็นคนใหม่ ให้คุณพูดคุยกับเขาอย่างจริงใจ เพื่อบอกให้เขารู้ว่าคุณยังมีความรู้สึกดีๆ กับเขาอยู่
    • แน่ใจว่าคุณถามแฟนเก่าของคุณ ว่าเขายังคงมีความรู้สึกดีๆ ให้คุณหรือไม่ ก่อนที่คุณจะเริ่มพรั่งพรูเรื่องการกลับมาคบกัน หากเขาไม่ได้รู้สึกอะไร คุณไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านี้
    • ห้ามร้องไห้ หรืออ้อนวอน
    • อย่าปล่อยให้บทสนทนานี้กลายเป็นการโต้เถียงว่าทำไมคุณถึงแยกทางกัน มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะแสดงให้เขาเห็นว่าคุณก้าวข้ามมันมาได้
    • พูดคุยกันในสถานที่เงียบๆ ที่ที่คุณจะไม่ถูกขัดจังหวะ
  6. ตั้งมั่นที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกว่าเก่า. หากแฟนเก่าของคุณตกลงที่จะกลับมาคบกับคุณ คุณทั้งสองจำเป็นที่จะต้องหาวิธีเพื่อให้แน่ใจว่าปัญหาเดิมๆ ที่เป็นเหตุให้ต้องเลิกราในครั้งก่อนจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง พูดคุยกันว่าอะไรคือความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในอดีต และหาวิธีที่จะจัดการกับมันอย่างเหมาะสมเพื่อการเดินต่อไปข้างหน้าด้วยกัน [9]
    • ขึ้นอยู่ที่ว่าคุณ และแฟนของคุณจริงจังกับความสัมพันธ์ครั้งใหม่นี้แค่ไหน คุณอาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องคู่เพื่อปรับปรุงทักษะทางความสัมพันธ์ของคุณให้ดีขึ้น
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

หาประเด็นที่เป็นเหตุของการเลิกรา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ในตอนนี้เป็นเวลาในการพินิจพิเคราะห์พฤติกรรมของคุณที่เป็นเหตุของการเลิกรา และพยายามปรับปรุงแก้ไข ยกตัวอย่างเช่น หากคุณรู้สึกว่าคุณ และแฟนเก่าของคุณเลิกกัน เพราะคุณขี้หึง หรือชอบชวนทะเลาะมากเกินไป ให้คุณพยายามใช้สติ และระงับอารมณ์ดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้น [10]
    • ขึ้นอยู่ว่าอะไรเป็นนิสัยแย่ๆ ที่คุณอยากขจัดทิ้ง คุณอาจได้ประโยชน์จากความช่วยเหลือของผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพจิต
    • จำไว้ว่านี่ไม่ได้หมายความว่าคุณควรเปลี่ยนแปลงตัวตนของคุณ หากทัศนคติของคุณทั้งสองไปด้วยกันไม่ได้ การมองหาแฟนคนใหม่ที่รับในสิ่งที่คุณเป็นได้ อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม หากคุณมีนิสัยแย่ๆ ที่คุณสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ให้ลองแก้ไขดูหากเป็นไปได้
    • คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่น! การเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่คุณจะทำควรเป็นเพราะว่าสิ่งนั้นจะให้ประโยชน์แก่คุณสูงสุด
  2. หากคุณได้ทำอะไรก็ตามที่ทำให้แฟนเก่าของคุณเจ็บปวด ไม่ว่าคุณได้พูดบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เขาไม่พอใจ หรือว่าคุณหายตัวไปในเวลาที่เขาต้องการคุณที่สุด มันถึงเวลาที่คุณจะกล่าวคำขอโทษ มันอาจต้องใช้ความเข้มแข็งเป็นอย่างมากในการกล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจ แต่มันจะส่งผลช่วยผสานความสัมพันธ์ที่แตกร้าวของคุณได้เป็นอย่างดี [11]
    • เจาะจงในสิ่งที่คุณรู้สึกเสียใจ แทนที่จะพูดว่า “ฉันเสียใจที่ทำให้คุณเจ็บปวด” หรือพูดว่า “ฉันเสียใจที่ฉันไม่ได้โทรกลับ” นี่จะช่วยกระตุ้นเขาให้รู้ว่าคุณได้คิดทบทวน และรู้สึกเสียใจในสิ่งผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น
    • บอกแฟนเก่าของคุณว่าคุณทำอะไร ด้วยเหตุผลอะไร และบอกให้เขารู้ว่าคุณได้เรียนรู้มันจากประสบการณ์นั้นแล้ว
  3. หากคุณ และแฟนเก่าของคุณแยกทางกัน เพราะว่าคุณไม่ซื่อสัตย์ คุณจะพบกับงานยากขึ้น ในการทำให้เขาเห็นว่าคุณจะไม่แอบคบใครลับหลังเขาอีกต่อไป แต่วิธีเผชิญหน้ากับประเด็นนี้ควรขึ้นอยู่ที่ว่าทำไมคุณถึงแอบคบคนอื่นตั้งแต่แรก แต่ไม่ว่าเหตุผลอะไรก็ตาม มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเปิดเผย และมีความซื่อสัตย์กับเขา [12]
    • หากคุณคบชายอื่น เพราะว่าคุณไม่มีความสุขในความสัมพันธ์ หรือรู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างได้ขาดหายไป ให้คุณมีความซื่อสัตย์กับตัวเองว่าที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น และคุณจะทำอะไรเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง
    • หากคุณคบชายอื่น เพราะว่าคุณคิดว่าคุณมีความรู้สึกที่แท้จริงกับคนอื่น แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ บอกให้แฟนเก่าของคุณรู้ว่าคุณได้ทำผิดอย่างไร และบอกว่าคุณได้เรียนรู้อะไรบ้างจากสิ่งผิดพลาดนั้น
    • หากการที่คุณคบชายอื่นเกิดมาจากแรงผลักดันภายใน และไม่แน่ใจว่าแรงจูงใจของคุณนั้นคืออะไร ให้คุณตั้งมั่นโดยการขอคำแนะนำจากนักจิตเวช
    • หากคุณคบชายอื่นเพื่อแก้แค้น หรือให้บทเรียนแก่แฟนเก่าของคุณ ให้คุณบอกเขาว่าคุณได้ตระหนักแล้วถึงความไม่เป็นผู้ใหญ่พอของคุณ และคุณได้เรียนรู้ว่ามันสำคัญแค่ไหนในการเผชิญหน้ากับความขัดแย้งในแบบผู้ใหญ่
  4. หากคุณ และแฟนหนุ่มของคุณแยกทางกัน เพราะว่าคุณไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์ที่มีระยะทางเป็นอุปสรรคได้ อย่ายอมแพ้ และสิ้นหวัง! ความสัมพันธ์ที่มีระยะทางเป็นอุปสรรคเป็นเรื่องยาก แต่มันก็เป็นไปได้ หากคุณเข้มแข็ง และให้ความเอาใจใส่ในสิ่งที่คู่ของคุณต้องการ
    • มีบทสนทนาที่เป็นปกติ และแน่ใจว่าคุณเปิดเผย และซื่อสัตย์ต่อคู่ของคุณตลอดเวลา หากคุณไม่สามารถอยู่ใกล้ๆ เขาได้ มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าที่ต้องใช้การสื่อสารกันแทน [13]
    • บอกให้คู่ของคุณรู้ทุกเรื่องในชีวิตประจำวันของคุณ และวิงวอนให้เขาทำเหมือนกัน วิธีนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งในโลกของเขา และเขาก็เป็นส่วนหนึ่งในโลกของคุณด้วยเช่นกัน [14]
    • พยายามให้ถึงที่สุดที่จะไม่ปล่อยให้ระยะห่าง ทำให้ความสัมพันธ์ของคุณสั่นคลอน เนื่องจากข้อข้องใจเหล่านี้สามารถทำให้ความสัมพันธ์พังทลายลงได้ [15]
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

เมื่อไหร่ที่คุณควรลองใช้วิธีต่างๆ เหล่านี้?

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แน่ใจว่าคุณต้องการให้แฟนเก่าของคุณกลับมาด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง. คุณยังคงรักเขาอยู่ใช่ไหม? หากเป็นเช่นนั้น มันอาจคุ้มที่จะพยายามให้เขากลับคืนมา โดยแสดงให้เขาเห็นว่า คุณยังเป็นห่วง และคุณเชื่อว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้จะดีขึ้นกว่าเก่า บางครั้งการเลิกราเป็นการให้เวลาแก่คนทั้งคู่ได้ตระหนักว่า พวกเขาต้องการที่อยู่ด้วยกันมากกว่าสิ่งใดทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม หากคุณมีเหตุผลอื่นที่ต้องการให้แฟนเก่าของคุณกลับมา ให้ลองทบทวนอีกครั้งว่ามันเป็นความคิดที่ดีที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ใหม่อีกครั้ง หรือไม่
    • ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการให้เขากลับมา เพราะว่าคุณรู้สึกโดดเดี่ยวเมื่อไม่มีเขา นั่นไม่ใช่เหตุผลที่ดีเพียงพอที่จะกลับมาคบกัน ความรู้สึกเหงาจะเลือนหายไปตามกาลเวลา
    • หรือหากคุณต้องการให้เขากลับมา เพราะว่าคุณรู้สึกหึงเมื่อเห็นเขาเป็นของคนอื่น ให้คุณคิดทบทวนดูใหม่ ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำให้เขากลับมาหาคุณ การหึงหวงหลังจากการเลิกราเป็นเรื่องปกติ และมันจะผ่านไปในไม่ช้าเช่นกัน
  2. คิดทบทวนดูให้ดีหากเขามีความสัมพันธ์ใหม่แล้ว. หากแฟนเก่าของคุณได้ออกเดทกับคนอื่นแล้ว ให้พิจารณาว่าเขาไกลเกินที่คุณจะเอื้อมถึงแล้ว อย่าเป็นคนที่ไม่ยอมปล่อยวาง เมื่อแฟนเก่าได้เดินต่อไปแล้วกับคนอื่น โดยหากเขามีความสุขกับคนอื่น คุณสามารถที่จะทำร้ายเขา แฟนใหม่ของเขา และตัวคุณเอง โดยการไม่ยอมหยุดที่จะเข้าไปแทรกแซงในชีวิตเขา
  3. หยุดความพยายามที่จะให้แฟนเก่ากลับมา หากความสัมพันธ์ที่ผ่านมาโหดร้าย และเต็มไปด้วยความรุนแรง. มันอาจทำให้คุณรู้สึกเหงา หรือเบื่อที่จะต้องอยู่คนเดียวแค่เพียงชั่วคราว หลังจากจุดจบของความสัมพันธ์ที่ปวดร้าว แต่คุณควรพยายามขจัดความรู้สึกเหล่านั้นออกไป แทนที่จะกลับไปหาแฟนเก่าอีกครั้ง ความลังเลว่าจะรัก หรือจะเลิกเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถขจัดออกไปจากความคิดคุณได้ง่ายๆ แต่คุณควรต่อต้านความรู้สึกที่อยากจะย้อนกลับไปหาเขาในทันที เมื่อคุณได้รู้ว่าการปราศจากเขาเป็นสิ่งที่ดีกว่าสำหรับคุณ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หากคุณตั้งใจที่จะใช้เวลากับเพื่อนๆ ของคุณ หรือจดจ่ออยู่กับงานอดิเรกใหม่ๆ คุณจะมีเวลาไม่มากในการคิดถึงแฟนเก่าของคุณ ซึ่งสามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงหลุมพรางการกลับไปคืนดีกับแฟนเก่า เพียงเพราะว่าคุณรู้สึกเหงา [16]
  • อย่าเกาะติดเขา อย่าโทรหา หรือส่งข้อความถึงเขาตลอดเวลา นี่อาจทำให้ดูเหมือนว่าคุณโหยหา จงให้พื้นที่แก่เขา เพื่อที่เขาจะสามารถค้นหาสิ่งที่เขาต้องการทำ
  • ยิ้มให้เขาทุกครั้งเมื่อพบกันโดยบังเอิญ เพื่อบอกให้เขารู้ว่าคุณยังคงชอบเขา และมีความสุขที่จะได้เห็นเขา
  • หากคุณมีบางอย่างที่อยากจะพูด ให้พูดมันออกมาจากใจ เพราะว่ามันจะมีความหมายมากกว่ากับเขา แต่อย่าจุกจิก หรือดูเหมือนเป็นการเรียกร้อง
  • อย่าพยายามมากจนเกินไป หากคุณรู้ว่าเขาไม่ได้สนใจคุณ คุณเพียงแต่จะเสียเวลา และแย่ยิ่งกว่านั้น คุณอาจดูเหมือนเป็นตัวตลก
  • อย่าพยายามทำให้เขาหึง นี่จะส่งผลในทางตรงกันข้ามกับที่คุณคิดไว้ มันเหมือนเป็นการแสดงให้เขารู้ว่าคุณได้เดินต่อแล้ว และหากคุณเป็นคนที่เขาบอกเลิกก่อน เขาจะรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้รู้ว่าคุณเดินได้เริ่มต้นใหม่กับคนอื่น
  • อย่าทำสิ่งใดที่คุณรู้ว่าเขาจะไม่ชอบเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเขา การทำแบบนี้จะทำให้เขายิ่งห่างออกไปจากคุณ
  • เมื่อคุณพูดคุยกัน ให้พูดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาชอบ รวมไปถึงสิ่งที่คุณชอบ มันแสดงให้เห็นว่าคุณสนใจในตัวเขาเพียงพอ ที่จะรู้ว่าอะไรที่เขาชอบ หรือไม่ชอบ และคุณเชื่อใจเขาเพียงพอที่บอกความลับของคุณกับเขา
  • หากการเลิกรา และการกลับมาคืนดีกันเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ อาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข ทั้งนี้คู่รักทั่วไปทะเลาะกันบ้างเป็นบางครั้งบางคราว แต่ ณ จุดใดจุดหนึ่ง คุณควรต้องคิดทบทวนว่าทำไมมันจึงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
  • หากเขาพยายามที่จะแทงข้างหลังแฟนคนปัจจุบันของเขา ด้วยการแอบคบกับคุณ ให้คุณปฏิเสธเขาอย่างจริงจัง นี่จะแสดงให้เขาเห็นว่าคุณเคารพในตัวคุณเอง และเขาอาจมีความเคารพในตัวคุณมากกว่าที่เขาเคยทำอีกด้วย
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เริ่มความสัมพันธ์แบบ Friends with Benefits
ทำให้แฟนเก่ากลับมารักคุณอีกครั้ง
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายไม่อยากคุยกับคุณแล้ว
รู้ว่าแฟนสาวของคุณแอบไปนอนกับคนอื่นหรือเปล่า
ทำให้ใครบางคนรู้สึกผิด
พิชิตหัวใจแฟนเก่ากลับมา หลังจากการเลิกรา
ทำให้แฟนเก่าคิดถึงคุณ
หาเสี่ยเลี้ยง
ดูว่าเพื่อนอิจฉาคุณหรือไม่
ปลอบโยนแฟนสาวของคุณเมื่อเธอรู้สึกแย่
ฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาดีเหมือนเดิม
จบความสัมพันธ์
เรียกความเชื่อใจจากเขาหรือเธอกลับมา
ดูว่าผู้ชายกำลังหลอกใช้คุณเพื่อเซ็กส์หรือไม่
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 104,803 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา