ความรู้สึกง่วงเหงาหาวนอนเป็นโรคที่เกิดแก่ผู้คนจำนวนมากโดยไม่ขึ้นกับสถานการณ์ อาการง่วงเรื้อรังจนไม่สามารถเพ่งสมาธิทำงานจะทำให้เสียเวลามากในการทำกิจวัตรประจำวันและไม่รู้สึกสนุกที่จะทำด้วย แทนที่จะทนทุกข์กับความรู้สึกหาวหวอดๆ ตลอดทั้งวัน มาเปลี่ยนตัวเองเพื่อพัฒนาสมาธิและจิตใจให้แจ่มใสขึ้นดีกว่า
ขั้นตอน
-
ดื่มน้ำมากขึ้น. เป็นการรักษาสารพัดโรคที่อมตะที่สุด การดื่มน้ำเป็นประจำตลอดทั้งวันจะทำให้คุณรู้สึกมีชีวิตชีวาในทันที ส่วนใหญ่แล้วไอ้เจ้าอาการอ่อนเพลียกับง่วงซึมนั้นเป็นผลมาจากการที่ร่างกายขาดน้ำเท่านั้นไม่ใช่อะไรอื่น ดื่มน้ำทันทีที่คุณลืมตาตื่นในตอนเช้าเพื่อเริ่มระบบการเผาผลาญอาหาร และยังคงดื่มน้ำอยู่เรื่อยๆ อีกหลายๆ แก้วตลอดทั้งวัน
-
รับประทานอาหารเช้า. การกลิ้งตัวลุกจากเตียงอย่างเซื่องซึมในตอนเช้าหลังจากสลึมสลือเผลอหลับไปเป็นครั้งที่ห้าแสดงว่าคุณน่าจะเริ่มต้นวันด้วยการขาดอาหารเช้า การทำเช่นนั้นจะทำให้ระบบเผาผลาญอาหารในร่างกายปรับตัวอยู่ในโหมดสล็อธ คืออืดช้ายืดยาด ทำให้คุณพลอยเริ่มต้นทุกสิ่งทุกอย่างช้าไปด้วยตลอดทั้งวัน ถ้าจำเป็นก็ต้องฝืนบังคับตัวเองให้ตื่นก่อนเวลาสักหน่อย และใช้เวลาไปกับการรับประทานอาหารเช้าให้เต็มที่ สารอาหารที่ได้จะเป็นพลังงานขับเคลื่อนตัวคุณไปตลอดทั้งวัน มันคุ้มกับการเสียสละปุ่มกดงีบหลับไปเลยละ
-
รับประทานบ่อยๆ. เช่นเดียวกับการที่ร่างกายขาดน้ำ อาการเหนื่อยล้านั้นอาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายเตือนคุณว่ามันหิวและต้องการพลังงานในรูปแบบของอาหาร ดังนั้นแทนที่จะทำตามสังคมที่บังคับให้ทานมื้อใหญ่วันละสามมื้อ ก็ให้ลองทานมื้อย่อย 5-7 มื้อตลอดวัน มันจะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้ดิ่งลง และช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินกับสารอาหารมากขึ้นซึ่งร่างกายจำเป็นต้องใช้เพื่อจะได้จดจ่อกับสิ่งที่ต้องทำ
-
ออกกำลังกายให้บ่อยขึ้น. การลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวดูกลายเป็นเรื่องยากในทันใดเมื่ออาการง่วงเหงาหาวนอนมาเกาะติดกับตัวคุณแน่นทุกยามบ่าย แต่การเพิ่มกิจกรรมทางร่างกายเข้าไปในชีวิตประจำวันจะลดอาการเหน็ดเหนื่อยของคุณลง ออกกำลังกายอย่างน้อยสักสิบนาทีต่อวัน แม้ว่าไอ้ที่คุณทำนั้นหมายถึงการออกไปรีบเดินนอกออฟฟิศ แต่การให้เลือดได้ไหลเวียนและสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดบ้างจะช่วยให้คุณมีพลังพร้อมทำงานได้ในทันที [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ตากแดดซะบ้าง. มันมีเหตุผลอยู่ว่าทำไมคุณถึงชอบนอนอืดเฉื่อยในหน้าหนาว การออกมารับแดดบ้างเป็นการเพิ่มระดับวิตามินดี ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มพลังงาน ถ้าหากคุณโชคดีที่ได้เจอวันอากาศสดใส ให้หาโอกาสออกไปเปลี่ยนบรรยากาศกลางแจ้งแทนการจับเจ่าทำงานอยู่ในออฟฟิศ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยด้วยการใช้โอกาสนั้นออกกำลังกายกลางแจ้งไปด้วย!
-
ปรับปริมาณคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกาย. พอเจอระลอกคลื่นแห่งความง่วงเล่นงานปุ๊บ สัญชาตญาณแรกบอกคุณปั๊บให้มองหากาแฟอีกสักแก้ว แต่ช้าก่อน! มันกลับกลายเป็นว่าการดื่มกาแฟวันละมากกว่า 2-3 แก้วนั้นไม่ได้ช่วยเพิ่มพลังงานเลยแม้แต่น้อย และการดื่มช่วงหลังเที่ยงหรือบ่ายก็จะยิ่งกระทบการนอนตอนกลางคืนของคุณให้แย่ลงกว่าเดิมอีก ดังนั้น จำกัดปริมาณการนำคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายไว้ที่วันละสามแก้วหรือน้อยกว่านั้น เพื่อที่คุณจะได้มีพลังงานโดยไม่ต้องเจอผลข้างเคียงให้กระวนกระวายใจ พยายามดื่มกาแฟก่อนมื้อเที่ยง แล้วคุณจะได้กล่าวขอบคุณตัวเองในวันรุ่งขึ้น
-
ปรับวงจรการนอนของคุณ. เมื่อคืนคุณไปดูคอนเสิร์ต แหกตาตื่นจนโต้รุ่งแล้วมาหลับผล็อยไปถึงเที่ยง จากนั้นคุณจำต้องเข้านอนแต่หัวค่ำในคืนถัดมาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมงานเวลา 7 โมงเช้า ก็ด้วยตารางการนอนที่มันขึ้นๆ ลงๆ แบบนี้ เลยไม่แปลกใจถ้าคุณจะเหนื่อยหมดแรง! พยายามเข้านอนเป็นเวลาทุกคืน และตื่นให้เป็นเวลาทุกเช้า มันจะช่วยให้ร่างกายได้รับรู้ขอบเขตชัดเจนว่าเมื่อไหร่สมควรนอน และจะช่วยลดความรู้สึกง่วงนอนในระหว่างวันได้ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
ฟังเพลง. ดนตรีมีผลอย่างยิ่งต่ออารมณ์และสภาพจิตใจ นอกเหนือจากความสามารถที่จะเปลี่ยนสภาวะอารมณ์ของคุณแล้ว ดนตรียังช่วยเพิ่มระดับพลังงานในตัวได้ด้วย การศึกษาสำคัญครั้งหนึ่งแสดงให้เห็นว่าคนที่ฟังเพลง ไม่ว่าจะเสียงดังหรือจังหวะเร็วช้าขนาดไหน จะกระตือรือล้นกว่าคนที่ไม่ได้ฟัง ฉะนั้น คว้าไอพ็อดหรือเปิดวิทยุหาคลื่นโปรดแล้วฟังเพลงกันเถอะ! [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลองฝึกบริหารการหายใจ. รูปแบบการหายใจของเรานั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปตามอารมณ์และสภาวะจิตใจ ถึงแม้เราจะไม่ล่วงรู้ก็ตาม หากคุณเครียดและเหนื่อยล้า ก็เป็นไปได้ว่าคุณกำลังหายใจ “ทางอก” ซึ่งไม่ได้เติมออกซิเจนให้กับสมองได้เพียงพอ
- ลองหายใจเข้าช้าๆ คิดไปว่าคุณกำลังเติมลมใส่ท้องเหมือนกับลูกโป่ง จากนั้นค่อยหายใจออกช้าๆ ทำอย่างนี้สักหนึ่งนาทีหรือนานกว่านั้นจะช่วยปลุกสมองให้ตื่นและทำให้ความคิดอ่านแจ่มใสขึ้น
-
รับประทานโอเมก้า-3. สารอาหารที่ถูกพูดถึงเป็นประจำตัวนี้มีประโยชน์ข้อหนึ่งในหลายๆ ข้อของมันคือการช่วยให้ร่างกายตื่นตัว ถ้าคุณกำลังขบคิดว่ามื้อเที่ยงหรือค่ำจะทานอะไรดี เลือกสั่งเนื้อปลาซาลมอนแล้วจัดการทานกรดไขมันโอเมก้า-3 อันสุดยอดนี้ซะ ถ้าคุณไม่ได้มีโอกาสทานปลาบ่อยนัก ก็แทนที่ด้วยน้ำยาตับปลาเป็นประจำทุกวัน
-
ลองวารีบำบัด. การสาดน้ำเย็นใส่เพื่อนที่กำลังหลับอยู่สักถังหนึ่งไม่ได้เป็นแค่การเล่นตลก มันช่วยให้พวกเขาตื่นได้จริงๆ ถ้าคุณดูเหมือนไม่สามารถทำอะไรให้หายง่วงได้ ให้สาดน้ำเย็นใส่หน้าหรือกระโจนไปอาบน้ำเย็น อุณหภูมิที่เย็นและความรู้สึกของการอาบน้ำจะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานดีขึ้นและทำให้คุณมีสมาธิดีขึ้นกว่าตอนแรก
-
รับประทานเส้นใยอาหาร. เส้นใยอาหารนั้นแตกต่างไปจากอาหารหลายอย่างที่เรารับประทาน เพราะมันใช้เวลานานกว่าจะย่อยหมด ดังนั้น การรับประทานอาหารที่มีเส้นใยอาหารแล้วปล่อยให้มันค่อยๆ ปล่อยพลังงานสู่ร่างกายตลอดทั้งวัน ลองทานแอปเปิลไม่ปอกเปลือก ถั่วดำหรือธัญพืชรำข้าวแล้วลืมอาการเหนื่อยหน่ายไปซะ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
งีบหลับสั้นๆ. การงีบหลับยาวในตอนกลางวันสามารถส่งผลกระทบต่อการนอนในตอนกลางคืนได้ แต่การงีบหลับเพียงช่วงสั้นๆ ในตอนบ่ายอาจเป็นสิ่งที่ร่างกายต้องการเพื่อจะเรียกความแจ่มใสให้ตัวมันเองก็ได้ การงีบเติมพลังอย่างแท้จริงสามารถทำได้โดยงีบสัก 20 นาที แค่นี้ก็เพียงพอต่อร่างกายในการสลัดความเครียดทั้งหลายที่เป็นตัวก่ออาการเหนื่อยล้าขึ้นในใจ
-
รับประทานอาหารเสริมพวกแมกนีเซียม. อาการง่วงของคุณอาจมีสาเหตุมาจากการขาดวิตามินกับเกลือแร่ที่จำเป็นก็เป็นได้ ถ้าคุณรับประทานแมกนีเซียมน้อยเกินไป ให้ลองใช้อาหารเสริมแมกนีเซียม ซึ่งมีจำหน่ายตามร้านขายอาหารเสริมสุขภาพทั่วไปและสามารถทานได้ทุกวัน
-
รับมือกับความเครียด. ถ้าโต๊ะทำงานรก หรือคุณเพิ่งผ่านการโต้เถียงกับเพื่อนร่วมงานมา หรือยังมีงานกองเป็นพะเนินรอให้ทำอยู่ ทั้งหมดนี้สามารถเพิ่มความเครียดและทำให้คุณเหนื่อยล้ามากกว่าปกติ รับมือกับความเครียดที่คุณรู้ในทุกเวลาที่สามารถทำได้ จัดการกับสิ่งที่ก่อให้เกิดความกังวลใจทันทีที่มันปรากฏขึ้นมาจะช่วยปรับปรุงสภาวะจิตใจของคุณโดยรวมให้ดีขึ้น และยังทำให้คุณมีสมาธิตลอดทั้งวัน
-
เปลี่ยนสภาพแวดล้อม. การนอนอ่านหนังสือหรือทำงานบนเตียงหรือบนโซฟานุ่มๆ เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้คุณเองรู้สึกเหนื่อยเลย แทนที่จะเผยความอ่อนล้าให้ตัวเองโดยการจับเจ่าอยู่ในที่ซึ่งแสนสะดวกสบายจนเกินไป ให้ย้ายไปยังสถานที่ซึ่งคุณยากจะข่มตาหลับลงได้แทน การนั่งทำงานตามร้านกาแฟหรือบนโต๊ะแข็งๆ จะทำให้ยากแก่การอยากนอนกว่าการซุกตัวอยู่ในกองหมอนและผ้าห่ม [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
เคล็ดลับ
- คิดถึงสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุข ตื่นเต้นหรือแม้กระทั่งรู้สึกหวาดกลัว รู้สึกโกรธก็ช่วยได้เหมือนกัน ทำแบบนี้จะช่วยให้คุณไม่ง่วง
- ลองวิธีการที่จะทำให้นอนหลับได้สนิทขึ้น ผลคือคุณจะรู้สึกตื่นตัวมากขึ้นในตอนกลางวัน
- เข้านอนแต่หัวค่ำ ถ้าคุณหลับยากให้ฟังเพลงในแอพที่ชื่อ Relax Melodies.
- ปรีกษาแพทย์ดูว่าไอ้เจ้าอาการง่วงเป็นประจำนั้นเป็นผลมาจากการใช้ยาอะไรหรือเปล่า
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.besthealthmag.ca/embrace-life/sleep/10-ways-to-not-be-tired?slide=1
- ↑ http://tinybuddha.com/blog/how-to-deal-with-exhaustion-10-tips-to-function-better-when-youre-tired/
- ↑ http://www.webmd.com/balance/features/your-guide-to-never-feeling-tired-again?page=2
- ↑ http://www.webmd.com/balance/features/your-guide-to-never-feeling-tired-again
- ↑ http://lifehacker.com/why-am-i-so-tired-all-the-time-even-when-i-get-enough-s-513134992
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,841 ครั้ง
โฆษณา