ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การตอบรับคำ “ขอบคุณ” อาจเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลายคน โดยปกติแล้ว คนส่วนใหญ่มักจะตอบกลับไปว่า “ด้วยความยินดี” หรือ “ไม่มีปัญหา” อย่างไรก็ตาม การคิดไว้ว่าจะตอบรับคำขอบคุณในแต่ละสถานการณ์อย่างไรก็เป็นเรื่องที่สมควรทำเพื่อที่คุณจะได้มีวิธีตอบรับที่หลากหลายขึ้นสำหรับแต่ละสถานการณ์ ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณอยู่ในการประชุมทางธุรกิจ คุณอาจจะมีวิธีการตอบคำถามต่างออกไป เช่นเดียวกัน คุณอาจจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีการตอบรับคำขอบคุณไปตามความสัมพันธ์ระหว่างคุณและคนๆ นั้น คนบางคนอาจจะตอบรับคำขอบคุณต่างออกไปเมื่อพูดกับเพื่อนสนิท การเลือกใช้คำตอบที่เหมาะสมจะช่วยทำให้คุณมีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาคนที่คุณพูดด้วยนะ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ตอบรับคำขอบคุณในโลกการทำงาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตอบรับอย่างจริงใจเมื่ออยู่ในการพูดคุยทางธุรกิจ. ในการประชุมและในความสัมพันธ์ทางธุรกิจ คุณควรหลีกเลี่ยงการตอบรับอย่างสบายๆ และแสดงให้เห็นความจริงใจเมื่อตอบรับคำ “ขอบคุณ” จากคนอื่น
    • หลีกเลี่ยงไม่ใช่คำตอบรับที่ฟังดูสบายๆ เมื่ออยู่ในการพูดคุยทางธุรกิจ คุณควรหลีกเลี่ยงคำพูดเช่น "ไม่มีปัญหา" "ยินดีเสมอ" และ "ไม่เป็นไร" เมื่อตอบรับคำขอบคุณจากผู้รับบริการหรือลูกค้า [1]
    • ใช้น้ำเสียงอบอุ่นฟังดูจริงใจเมื่อตอบรับคำ "ขอบคุณ" [2]
    • หลังจากประชุม คุณอาจจะส่งอีเมล์หรือโน้ตเพื่อแสดงความซาบซึ้งต่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจ การทำแบบนี้จะทำให้อีกฝ่ายจดจำได้ว่าคุณได้ช่วยอีกฝ่ายมากแค่ไหน!
  2. เมื่อตอบรับคำ “ขอบคุณ” การตอบรับที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณและอีกฝ่ายเป็นเรื่องพิเศษและแตกต่างนั้นเป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว [3]
    • ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะพูดว่า "นั่นเป็นบริการที่เรามอบให้ด้วยความเต็มใจและเป็นสิ่งที่คุณสมควรได้รับเมื่อทำธุรกิจร่วมกับเราครับ"
    • ลองพูดไปว่า "นั่นเป็นสิ่งที่คู่ค้าทางธุรกิจย่อมทำให้กันอยู่แล้ว ขอบคุณที่ร่วมลงทุนธุรกิจกับเรานะครับ"
    • หากคุณรู้อะไรเกี่ยวลูกค้ามา คุณอาจจะปรับเปลี่ยนคำพูดให้เหมาะสมได้ เช่น คุณอาจพูดว่า "เรามีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำงานร่วมกับคุณ ดิฉันหวังว่าการนำเสนอผลงานครั้งใหญ่ของคุณในอาทิตย์หน้าจะผ่านไปด้วยดีนะคะ"
  3. คำพูดนี้เป็นคำพูดคลาสสิคที่มักใช้กันเมื่อตอบรับคำขอบคุณและคงความเรียบง่ายขอบสถานการณ์ไว้ [4]
    • ตัวอย่างเช่น หากคู่ค้าพูดว่า "ขอบคุณที่อุตส่าห์ร่างสัญญามาให้" คุณอาจตอบกลับไปว่า "ด้วยความยินดีค่ะ"
  4. เมื่อต้องพูดคุยกับลูกค้าหรือผู้รับบริการ คุณควรจะแสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสำคัญกับธุรกิจของอีกฝ่าย
    • บอกลูกค้าหรือผู้รับบริการไปว่า “เราให้ความสำคัญกับธุรกิจของคุณอยู่แล้วครับ” ด้วยน้ำเสียงจริงใจและอบอุ่น คำพูดเช่นนี้จะแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าคุณรู้สึกซาบซึ้งที่อีกฝ่ายเข้ามาทำธุรกิจด้วย [5]
    • ตอบไปว่า "ผมยินดีที่ได้ช่วยเหลือครับ" คำพูดเช่นนี้จะแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าคุณมีความสุขกับงานที่ทำและมีความกระตือรือร้นที่จะช่วยเหลืออีกฝ่าย หากคุณบริการลูกค้าที่ร้านขายปลีกและลูกค้าเอ่ย "ขอบคุณ" ที่คุณช่วยหาตัวเลือกต่างๆ ของสินค้าสักชิ้น คุณอาจจะตอบกลับไปได้ว่า "ผมยินดีช่วยเหลือครับ"
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ตอบรับคำขอบคุณผ่านอีเมล์หรือข้อความ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตอบรับคำขอบคุณผ่านอีเมล์โดยใช้ภาษาให้เหมาะกับบุคลิกของคุณและผู้ฟัง. การตอบรับคำ “ขอบคุณ” ผ่านอีเมล์นั้นไม่ได้มีแบบแผนตายตัวอะไร เพียงแต่คำตอบของคุณควรจะเหมาะสมกับความคาดหวังของลูกค้าและบุคลิกภาพของคุณเอง
    • ใช้ถ้อยคำในอีเมล์ให้เหมาะกับบุคลิกของคุณ. หากปกติแล้วคุณเป็นคนคุยเก่งและเข้าสังคมเก่ง ก็พิมพ์ตอบกลับไปเลยว่า “ด้วยความยินดี”หรือ ”ด้วยความเต็มใจ” เมื่อจะตอบรับคำ “ขอบคุณ” ผ่านอีเมล์หรือข้อความทางโทรศัพท์ [6]
    • คิดถึงผู้รับเมื่อต้องตอบรับคำขอบคุณผ่านอีเมล์หรือข้อความ. ผู้รับที่อายุน้อยๆ อาจจะไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องได้รับคำตอบรับเมื่อส่งอีเมล์หรือข้อความมา “ขอบคุณ” อย่างไรก็ดี คนที่อายุมากหน่อยมักจะมีความคาดหวังเกี่ยวกับมารยาทที่ต่างออกไปและอาจจะรู้สึกยินดีเมื่อได้รับคำตอบกลับมาว่า “ด้วยความยินดี” [7]
    • คุณควรหลีกเลี่ยงไม่ใช่อิโมจิ ภาพหน้ายิ้ม หรือรูปอื่นๆ เมื่อตอบกลับอีเมล์ของคนอื่น สิ่งเหล่านี้อาจจะดูไม่เป็นทางการมากเกินไปสำหรับสถานการณ์นี้
  2. การตอบกลับอีเมล์ที่ส่งมา “ขอบคุณ” นั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละคน. พิจารณาบุคลิกของคุณและผู้รับดูก่อน หากปกติแล้วคุณเป็นคนคุยเก่งเมื่อคุยกันต่อหน้า คุณอาจจะตอบอีเมล์ที่อีกฝ่ายเขียนมา “ขอบคุณ” ได้ แต่หากปกติแล้วคุณไม่ได้เป็นคนเข้าสังคมเก่งอะไร คุณอาจจะไม่ต้องตอบอะไรกลับไปก็ได้ [8]
  3. ตอบกลับอีเมล์ที่ส่งมา "ขอบคุณ" เมื่อคุณอยากจะพูดคุยกับอีกฝ่ายต่อ. คุณอาจจะตอบกลับไปว่า “ด้วยความยินดี” จากนั้นก็ขยับไปคุยเรื่องอื่นๆ ต่อก็ได้ [9]
    • คุณควรจะตอบกลับอีเมล์ที่ส่งมา “ขอบคุณ” หากอีกฝ่ายมีคำถามอะไรในอีเมล์ด้วย ในกรณีนี้ คุณอาจจะตอบกลับไปว่า “ด้วยความยินดี”แล้วค่อยตอบคำถามของอีกฝ่าย [10]
    • คุณควรจะตอบกลับอีเมล์ที่ส่งมา "ขอบคุณ" หากมีข้อความใดในอีเมล์ที่คุณอยากจะตอบกลับเป็นพิเศษ ในกรณีนี้ คุณอาจตอบกลับไปว่า "ด้วยความยินดี" จากนั้นจึงตอบกลับข้อความที่คุณอยากจะตอบเพื่อดำเนินบทสนทนาต่อไป [11]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ตอบรับคำขอบคุณในสถานการณ์ที่ไม่เป็นทางการ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คำพูดนี้เป็นหนึ่งในคำตอบรับที่นิยมแพร่หลายกันมากที่สุดเมื่อมีคนเอ่ย “ขอบคุณ” โดยการตอบรับเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าคุณรับความซาบซึ้งของอีกฝ่ายไว้ [12]
    • หลีกเลี่ยงไม่พูดคำว่า "ด้วยความยินดี" ด้วยน้ำเสียงเสียดสีประชดประชัน. หลีกเลี่ยงการใช้น้ำเสียงประชดประชันไว้ดีกว่า เว้นเสียแต่ว่าคุณอยากจะบอกให้คนๆ นั้นรู้ว่าคุณไม่ได้เต็มใจช่วยงานหรือไม่ชอบคนๆ นั้นอยู่แล้ว [13]
  2. กลับไปเพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณซาบซึ้งใจกับความทุ่มเทของอีกฝ่ายเช่นกัน. การตอบกลับคำขอบคุณด้วยการ “ขอบคุณ” เป็นการแสดงความซาบซึ้งใจตอบกลับไป อย่างไรก็ตาม อย่าพูดคำๆ นี้ซ้ำๆ ในบทสนทนาเดียวกัน ขอบคุณคนแต่ละคนที่คุยกันอยู่แค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว [14]
  3. คำพูดเช่นนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกยินดีที่ได้ทำอะไรเพื่อคนอื่น ปกติแล้วเรามักได้ยินคำตอบรับเช่นนี้ตามโรงแรมห้าดาว แต่ก็สามารถนำมาใช้กับสถานการณ์อื่นๆ ได้เช่นกัน [15]
    • ตัวอย่างเช่น หากเพื่อนของคุณพูดว่า "ขอบคุณมากนะที่ทำอาหารอร่อยๆ ให้ทาน!” คุณอาจจะตอบกลับไปว่า “ด้วยความเต็มใจจ้ะ” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคุณมีความสุขที่ได้ทำอาหารให้คนอื่นรับประทาน
  4. บอกอีกฝ่ายว่า “ถ้าเป็นเธอ เธอก็คงช่วยฉันเหมือนกัน”. การตอบเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าคุณกับอีกฝ่ายมีความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกันและพร้อมช่วยเหลือกันด้วยความปรารถนาดี นอกจากนี้ การตอบรับเช่นนี้ยังแสดงให้เห็นว่าคุณมีความมั่นใจว่าตัวเองสามารถช่วยเหลืออีกฝ่ายได้และมั่นใจว่าอีกฝ่ายจะช่วยเหลือคุณกลับเช่นกัน [16]
    • ตัวอย่างเช่น หากเพื่อนของคุณพูดว่า "ขอบคุณมากนะที่มาช่วยฉันย้ายของเข้าอพาร์ทเม้นต์ช่วงสุดสัปดาห์ ถ้าไม่มีเธอก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันนะเนี่ย!” คุณอาจตอบกลับไปว่า “เธอก็คงช่วยฉันแบบเดียวกันแหละน่า” การตอบกลับเช่นนี้แสดงให้เห็นความเข้าใจร่วมกันว่าคุณทั้งคู่มีมิตรภาพที่แน่นแฟ้นซึ่งเกิดจากการพึ่งพาอาศัยกันนั่นเอง
  5. การตอบรับเช่นนี้เป็นสิ่งที่พูดกันโดยปกติแต่ควรเลือกพูดเฉพาะบางโอกาส โดยเฉพาะหากอยู่ในช่วงพูดคุยเรื่องธุรกิจ [17] เพราะการตอบรับเช่นนี้สื่อว่าสิ่งที่คุณทำไปไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ซึ่งเหมาะสมกับบางสถานการณ์แต่การตอบรับแบบนี้ก็อาจจะทำลายโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ผ่านการพูดคุยกันได้เช่นกัน [18]
    • พูดคำว่า “ไม่มีปัญหา” เฉพาะเวลาที่ไม่มีปัญหาจริงๆ. หากสิ่งที่คุณทำใช้ความพยายามหรือเวลา อย่ากลัวที่จะตอบรับความรู้สึกซาบซึ้งจากอีกฝ่าย
    • ตัวอย่างเช่น หากเพื่อนของคุณบอก "ขอบคุณ" เมื่อคุณช่วยทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ เช่นช่วยถือของบางอย่างออกจากท้ายรถ คุณอาจจะตอบกลับไปว่า "ไม่มีปัญหา" ได้
    • หลีกเลี่ยงไม่พูดคำว่า “ไม่มีปัญหา” โดยใช้น้ำเสียงเหมือนไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญ. การตอบรับด้วยน้ำเสียงแบบนี้จะทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าคุณไม่ได้ตั้งใจทำสิ่งที่อีกฝ่ายแสดงความขอบคุณ เพื่อนหรือคู่ค้าทางธุรกิจจะรู้สึกได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับพวกเขานั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรสำหรับคุณ [19]
  6. หากคุณจะตอบรับคำขอบคุณในสถานการณ์ที่เป็นอันเองหรือกับคนสนิท มีคำพูดหลายคำที่คุณสามารถเลือกใช้ได้ หากคุณจะตอบรับคำขอบคุณสำหรับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ และคุณต้องการคำตอบรับแบบเร็วๆ คำตอบรับเหล่านี้อาจใช่สำหรับคุณ
    • พูดว่า "ไม่เป็นไร" คำพูดนี้เป็นคำพูดที่ควรใช้แต่พอดี โดยอาจพูดไปในสถานการณ์ที่อีกฝ่าย “ขอบคุณ” เพราะคุณได้ช่วยอะไรเล็กๆ น้อยๆ คำๆ นี้ก็คล้ายกับคำว่า “ไม่มีปัญหา” ตรงที่ไม่ควรพูดไปด้วยน้ำเสียงเสียดสีหรือท่าทีไม่ใส่ใจ
    • พูดว่า "ได้เสมอ!” คำพูดนี้ใช้เพื่อยืนยันให้อีกฝ่ายทราบว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ คุณยินดีจะช่วยอีกฝ่ายเสมอ คำพูดนี้แสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่าคุณยินดีช่วยเหลืออีกฝ่ายในทุกเวลา
    • พูดว่า "เต็มใจช่วย" คำพูดนี้แสดงให้เห็นว่าคุณยินดีที่ได้ช่วยเพื่อนหรือคนรู้จักทำงานหรือทำอะไรบางอย่าง ตัวอย่างเช่น หากเพื่อนของคุณพูดว่า "ขอบคุณที่ช่วยต่อชั้นหนังสือใหม่นะ" คุณอาจจะตอบไปว่า "เต็มใจช่วยน่า!”
  7. สีหน้าและภาษากายอาจจะช่วยทำให้คุณมีท่าทีจริงใจ เข้าถึงง่ายและยินดีให้ช่วยเหลือ อย่าลืมยิ้มเสมอเมื่อตอบรับคำขอบคุณ มองตาคนที่คุณพูดด้วย พยักหน้ารับเพื่ออีกฝ่ายพูด ระวังไม่กอดอกหรือมองไปทางอื่นล่ะ
    โฆษณา


เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 75,363 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา